ตอนที่ 1024 ดวงดาวต้นกำเนิด

บัลลังก์ขนาดใหญ่ที่ล้อมวงแบ่งออกเป็น 5 ชั้น มีบัลลังก์เริ่มที่ความกว้าง 6 เมตร 30 เมตร 160 เมตร 650 เมตร 3,200 เมตร ทั้งหมดมีความพอดีกับร่างกายอมตะของพวกเขา เจ้าแห่งจักรวาลจะนั่งอยู่ในบัลลังก์ 650 เมตร

ที่ระดับสูงสุดเป็นของเจ้าแห่งจักรวาล พวกเขากำลังมองลงมายังสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด พวกเขาคือ 5 อำนาจแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์

“ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล” ร่างสีดำเหมือนกับคนเถื่อนขนาดใหญ่พูดขณะมองที่บัลลังก์สังทองทางด้านซ้าย

“เจ้ามีความลำเอียงต่อหลัวเฟิงมาก แล้วมันทำให้อัศวินจำนวนมากไม่พอใจ ที่น่าแปลกใจ คือศิษย์คนอื่นของเจ้า ที่อยู่เคียงข้างเจ้า ยังไม่ได้สมบัติที่แท้จริงประเภทจิตวิญญาณแม้เขาจะมีพลังเทียบเท่ากับเจ้าแห่งจักรวาล”

“ทว่าหลัวเฟิงเพียงแค่ระดับห้วงมิติกลับได้สมบัติประเภทจิตวิญญาณไป ข้าว่ามันจะไม่ยุติธรรมกับอัศวินกุยยี่”

“ข้าก็ไม่พอใจ” มีเสียงหนึ่งดังขึ้น และยังมีอีกหลายเสียงดังขึ้นมาจากบัลลังก์ที่เต็มไปด้วยหมอก ความเยือกเย็นที่เจาะเข้าจิตวิญญาณได้ดังขึ้นมาในอากาศ “การให้ของมีค่านั้นแสดงถึงความมีน้ำใจ การไม่ให้ก็ถือเป็นอีกเส้นทางหนึ่ง ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลสามารถตัดสินใจเลือกสมบัติที่แท้จริงให้ใครก็ตามที่เขาเลือก ไม่มีใครที่มีสิทธิ์พูดอะไรอีก”

“ถ้าเป็นข้า ข้าจะเลือกลงโทษให้พวกเขาไปพักอยู่ในคุกจักรวาลปฐมกาล นั่นเป็นสิ่งที่น่ายินดี”

“นั่นถือว่ามากเกินไป พวกเขาไม่ได้ปล้นฆ่า ยังไม่ได้ทำสิ่งที่สมควรกับการส่งไปยังคุก”

“ทุกท่าน ข้าอาจชื่อชอบศิษย์คนนี้ แต่วิธีการทำงานของข้าอาจจะไม่เป็นที่ชัดเจนกับทุกคน ข้าไม่ได้มอบสมบัติที่แท้จริงประเภทจิตวิญญาณให้กับหลัวเฟิง”

เจ้าแห่งจักรวาลคนอื่นๆ ได้จ้องมองมาที่บัลลังก์สีทอง มันจะต้องเป็นความจริง ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลเป็นที่รู้จักกันอย่างดีว่าเขาเป็นผู้นำที่เป็นกลางที่สุด

การดำรงอยู่ของเจ้าแห่งจักรวาลที่ยิ่งใหญ่จะต้องมีความอดทนสูงในการจัดการเรื่องต่างๆ และต้องวางแผนในเหตุการณ์ไม่คาดคิดของเผ่าพันธุ์

มีเจ้าแห่งจักรวาลจำนวนมากที่ไม่ใส่ใจในเรื่องเหล่านี้ ผู้นำเมืองนั้นมีความอดทน และเป็นที่เคารพนับถือมาโดยตลอด

“เมื่อหลัวเฟิงเป็นระดับห้วงมิติ เขามีสมบัติที่แท้จริงสามชิ้น แล้วมีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นที่ข้ามอบให้คือปีก อีกสองเป็นสิ่งที่เขาเผชิญหน้ากับสิ่งอัศจรรย์ด้วยตัวของเขาเอง”

“เขามีสมบัติที่แท้จริงด้วยตัวของเขาเองงั้นเรอะ”

“สมบัติที่แท้จริงมันไม่เหมือนทั่วไป มันไม่ได้หาง่ายๆ แม้จะพบสักอันก็นับว่าเป็นปฎิหาริย์ ส่วนมากจะถูกทิ้งไว้โดยสิ่งมีชีวิตสูงสุด ไม่ก็ถูกมอบให้”

“ยังไงก็เป็นเรื่องที่ดีที่สมบัติที่แท้จริงเหล่านี้อยู่ในมือมนุษย์เรา”

“ฮ่า ฮ่า ไม่ว่าใครจะเป็นคนทิ้งมันไว้ แต่พวกมันเป็นของหลัวเฟิง ไม่ว่ายังไงก็ควรให้ความสำคัญกับมนุษย์เป็นอันดับแรก หลังจากนี้เราสามารถตรวจสอบสมบัติเหล่านี้ได้”

“ข้าไม่ค่อยมั่นใจกับสิ่งที่ได้ยินมา การที่ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลได้มอบสมบัติที่แท้จริงสามอย่างกับหลัวเฟิง ผู้นำเมืองไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้น ข้าคิดว่าสถานการณ์นี้ไม่สมเหตุสมผล”

เสียงต่างๆ ดังออกมาจากบัลลังก์ในทีเดียว

“อัศวินกำลังรอการประชุมอยู่ งั้นก็มาเริ่มกันเลย” สิ่งมีชีวิตสีดำ ที่รูปร่างเหมือนคนเถื่อนส่งเสียง ด้านบนบัลลังก์มีคำที่สลักว่า ขวาน

“ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล เจ้าเป็นประธานการประชุม”

ผู้นำเมืองพยักหน้า

———-

หลัวเฟิงได้พูดคุยกับอัศวินอื่นข้างๆ เขาได้พบข้อมูลพื้นฐานบางอย่าง

บัลลังก์ในวิหารแพ็นธิอ็อนได้ถูกแบ่งเป็น 5 ชั้น สำหรับการพูดคุยจะทำได้กับบางคนในชั้นเดียวกัน หรือชั้นล่างลงไป หลัวเฟิงได้พูดคุยกับสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ระดับ 4 ดาว หรือ 5 ดาว

“ทุกท่าน” เสียงทรงพลังดังออกมา

ทั้งที่ประชุมได้เข้าสู่ความเงียบทันที พอหลัวเฟิงได้ยินเขาก็รู้ว่าเสียงนั้นคืออาจารย์ผู้นำเมือง

“การประชุมสภาสูงสุดจัดขึ้นทุกครั้งเมื่อมีเรื่องที่เป็นผลกระทบกับทั้งเผ่าพันธุ์ การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะ…ดาวต้นกำเนิดกำลังจะเปิด”

ในหมู่ผู้มีพลังเหมือนอัศวินได้แสดงความตกใจ

“ดาวต้นกำเนิดกำลังจะเปิดงั้นเหรอ” มีบางคนพึมพำ

“ดาวต้นกำเนิดเป็นศูนย์กลางของจักรวาลอันกว้างใหญ่ของเรา มันคือดินแดนที่เผ่าพันธุ์นับล้านๆ ต่อสู้กัน”

“เมื่อมันเปิดขึ้นจะไม่มีข้อกำหนด ถ้าเจ้าต้องการได้รับสมบัติที่แท้จริง เจ้าสามารถมีส่วนร่วมกับเผ่าพันธุ์ หรือสร้างโอกาสด้วยตัวเองในที่นี้ นี่คือข้อมูลและรายละเอียด เชิญดูก่อน”

ตรงหน้าบัลลังก์ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในที่ประชุมปรากฎหน้าจอขึ้นมา

หลัวเฟิงให้ความสนใจกับหน้าจอตรงหน้า ศูนย์กลางของจักรวาลมีดินแดนต้นกำเนิดที่อยู่มายาวนาน อาจมีจิตสำนึกที่ถูกส่งมาจากดินแดนต้นกำเนิดในบางครั้ง แต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดไปที่ดินแดนต้นกำเนิดได้ด้วยตัวเอง มันราวกับเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาที่มีอยู่จริง

ดวงดาวต้นกำเนิดทั้งหมดจะโครจรอยู่รอบดินแดนต้นกำเนิด ตำแหน่งของมันอยู่ใกล้กับดินแดนต้นกำเนิดที่สุด

ดวงดาวต้นกำเนิดทั้งหมดนี้ล้วนเต็มไปด้วยของมีค่า และอันตราย มีเส้นทางทั้ง 10,081เส้นทางที่นำไปยังดวงดาวต้นกำเนิด เมื่อเวลาผ่านไปเส้นทางก็จะเปิดขึ้น แล้วหลังจากเปิดเป็นเวลา 1 พันยุคก็จะปิดตัว

สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่เข้าไปจะต้องออกมาก่อนที่จะปิดตัว ไม่งั้นพวกเขาจะถูกฆ่า ไม่ว่าจะมีเทคนิคเอาตัวรอดแบบไหนก็ไร้ค่า หรือต่อให้มีหลายร่างก็เลี่ยงความตายไม่ได้

ดวงดาวต้นกำเนิดเหล่านี้เป็นสถานที่ลึกลับที่สุดในจักรวาล ไม่เพียงแค่สมบัติทั่วไปจะถูกพบที่นั่น ยังรวมถึงสมบติที่แท้จริงด้วย

สิ่งมีชีวิตในเผ่าพันธุ์นับล้านได้ต่อสู้กันเพื่อขุมทรัพย์นี้ ทุกครั้งที่มีการเปิด จะมีการตายของเจ้าแห่งจักรวาลภายในนั้น

“การมีส่วนร่วม?” หลัวเฟิงมองด้านร่างที่มีคำอธิบายอีกชุด

ถ้าเก็บของมีค่าในดวงดาวต้นกำเนิดด้วยตัวเองเพียงลำพังก็เก็บมันไว้เองได้ หากของมีค่าที่ได้รับไม่เป็นที่ต้องการ เจ้าสามารถให้กับเผ่าพันธุ์เพื่อแลกกับการมีส่วนร่วมกับเผ่าพันธุ์ เผ่าพันธุ์จะเติบโตยิ่งขึ้น มันขึ้นอยู่กับการมีส่วนรวมของสิ่งมีชีวิตในเผ่าพันธุ์ การบริจาคสามารถใช้เพื่อแลกของมีค่าอื่นๆ

หลัวเฟิงมองผ่านข้อมูลที่ได้รับ หนึ่งคือข้อมูลเกี่ยวกับดวงดาวต้นกำเนิด อีกหนึ่งเป็นการมีส่วนร่วมกับเผ่าพันธุ์ ข้อมูลชุดที่สองถูกมอบให้กับผู้มาใหม่อย่างหลัวเฟิงหรือทรูหยัน

เผ่าพันธุ์มนุษย์ต้องการความช่วยเหลือจากสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่เช่นเจ้า การมีส่วนร่วมของเจ้าจะทำให้มีทรัพยากรช่วยเหลือเหล่าอัจฉริยะ ทุกคนเสี่ยงชีวิตเสมอเพื่อทรัพยากรที่มีค่า การมีส่วนร่วมของเจ้าจะถูกบันทึก แล้วแลกผลประโยชน์กับทรัพยากรที่มีค่าต่อเจ้า

จักรพรรดิดาบสายน้ำ หลัวเฟิง เมื่อเจ้าเข้าร่วมสภาสูงสุด เจ้าได้ทิ้งสถานะเดิมและได้รับสิทธิ์ใช้ทรัพยากรจำนวนมาก นับจากนี้ไปเจ้าคือสิ่งมีชีวิตสูงสุดของมนุษย์ เจ้ามีความสามารถมากพอที่จะมีส่วนร่วมต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ และสามารถใช้ประโยชน์จากการมีส่วนร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากรที่มีค่าตามต้องการ

หลัวเฟิงคิดว่ามันเป็นที่แน่นอน ทุกคนในเผ่าพันธุ์ต้องการผลประโยชน์ ถ้าเผ่าพันธุ์ไม่มอบทรัพยากรให้กับพวกเขา แล้วใครจะเข้ามามีส่วนร่วม

มันเทียบได้กับการทำงานโดยที่ผู้ชายออกไปล่าและผู้หญิงเก็บเกี่ยว เด็กๆ ก็เพลิดเพลินกับผลจากแรงงานของพวกผู้ใหญ่ เหมือนกับเผ่าพันธุ์ที่ให้สิ่งมีชีวิตสูงสุดที่มีความสามารถช่วยเหลือ ส่วนผู้อ่อนแอก็เพลิดเพลินไปกับทรัพยากรที่ได้มา

“มันค่อนข้างดี ถ้าไม่ได้ผลประโยชน์ก็ไม่มีความหมาย” หลัวเฟิงคิด

“ดวงดาวต้นกำเนิดนี้ไม่เคยรู้เกี่ยวกับมันมากก่อนเลย จักรวาลช่างลึกลับ แล้วยังเป็นสถานที่ใกล้กับดินแดนต้นกำเนิด” ผู้นำเมืองทำการเริ่มต้นพูดอีกครั้ง

“ดวงดาวต้นกำเนิดจะทำการเปิดในอีก 10 ปี ทุกคนควรเริ่มจัดเตรียมตัวเอง เช่นการสร้างทีมเล็กๆ ทักษะของพวกเจ้าจะได้รับการเติมเต็มซึ่งกันและกัน หรือการยืมของมีค่าจากสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ที่ไม่ต้องการเข้าไปยังดวงดาวต้นกำเนิด หลังจากสิบปี มนุษย์เราจะเข้าไปยังดวงดาวต้นกำเนิด”