ตอนที่ 1033 ความทะเยอทะยานของจักรพรรดิเพลิง
ภายในวัง
หลัวเฟิงกำลังไม่พอใจจักรพรรดิเพลิง
“เกราะพลังเป็นของข้า ไม่ว่าข้าจะใช่มันได้หรือไม่ได้ หรือข้าจะเสียมันไป มันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า ข้ามาที่นี่เพื่อใช้เกราะสมบัติตามคำสั่งของอาจารย์ สิ่งเดียวที่เจ้าต้องทำคือมอบเกราะมาให้ แล้วทำไมถึงไปเดินเล่นอยู่ที่อื่น” หลัวเฟิงคิด
หลัวเฟิงโกรธ แต่สิ่งเดียวที่เขาทำได้เพียงแค่หยุดมัน
จักรพรรดิเพลิงมองที่หลัวเฟิงด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์น้องต้องฝึกฝนตัวเองให้ดี กลายเป็นอัศวินอวกาศแล้วจากนั้นข้าจะมอบเกราะพลังให้”
หลัวเฟิงยิ้ม “พี่รอง ข้าสามารถรอดการตามล่าจากสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ของจักรวาลได้ด้วยเกราะพลัง ถ้าข้าใช้เกราะพลังจะมีอำนาจมากขึ้นแล้วจะมีโอกาสตายเพียงเล็กน้อย เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล เพียงแค่ให้เกราะข้ามา”
“ไม่จำเป็น” เสียงจักรพรรดิเพลิงสะเทือนไปถึงวิญญาณของหลัวเฟิง
“เกราะพลังเป็นสมบัติที่แท้จริงสูงสุด มันเป็นที่ต้องการแม้กับเจ้าแห่งจักรวาล เจ้ากล้าที่จะเอามันไปเสี่ยงโชคได้ยังไง”
จักรพรรดเพลิงจ้องมองไปที่หลัวเฟิง พลังของเขาไหลออกมาทำให้หลัวเฟิงรู้สึกถูกภูเขากดทับ
“เกราะพลังเป็นของเจ้ามาตลอด ต้องมีอะไรยืนยันว่าเจ้าจะไม่เสียมัน ข้าทำมันเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของเจ้า ฝึกฝนให้เป็นอัศวินแล้วข้าจะมอบมันให้”
เสียงที่สั่นสะเทือนเข้าไปในวิญญาณของหลัวเฟิงไม่มีผลกับหลัวเฟิงที่มีอำนาจจิตที่แข็งแกร่งเทียบได้กับผู้ยิ่งใหญ่ แล้วเขายังมีหอคอยมุกคอยป้องกัน
จักรพรรดิเพลิงเป็นเจ้าแห่งจักรวาลที่ถนัดการต่อสู้ระยะประชิดทำให้มันไม่มีผลกับเขา ถ้ามันเป็นแค่เสียงอย่างเดียว
“ศิษย์พี่รอง เจ้าไม่เต็มใจที่จะให้เกราะกับข้าใช่หรือไม่” หลัวเฟิงจ้องไปที่จักรพรรดิเพลิง
จักรพรรดิเพลิงโกรธจนทำให้ทั้งวังเกิดการสั่นสะเทือน พลังของเขาได้ขัดขวางการเคลื่อนไหวของหลัวเฟิง
“น้องสาม ข้ารักษาเกราะนี้ให้เจ้ามาร้อยล้านปี ตามคำสั่งของอาจารย์ และข้าจะมอบให้เจ้าเมื่อแข็งแกร่งพอ แม้เจ้าจะใช้มันได้ก็ยังคงอ่อนแอเกินไป ข้าทำสิ่งนี้ก็เพื่อตัวของเจ้า ถ้าเจ้าเสียเกราะพลังไปจะเป็นการทำให้อาจารย์ต้องผิดหวัง”
“ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องนั้น ข้าจะบอกกับอาจารย์เองว่าทำมันหาย” หลัวเฟิงยังคงยืนยัน
“บอกเขางั้นเรอะ แล้วจะบอกเขาว่ายังไง”
“นั่นไม่ใช่เรื่องของเจ้า” หลัวเฟิงตอบ
“แค่เพียงสำเร็จนิดหน่อยก็ทำตัวเป็นหยิ่งงั้นรึ” จักรพรรดิเพลิงส่ายหัว
หลัวเฟิงมองที่จักรพรรดิเพลิงอย่างใจเย็น “ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากแล้วพี่รอง การที่ข้ามาเพื่อมารับเกราะพลัง เจ้าจะให้ข้าหรือว่าไม่ให้”
“เจ้ายังไม่แข็งแกร่งพอ…” จักรพรรดิเพลิงกล่าว
หลัวเฟิงตัดบทพูด “ข้าไม่มีอำนาจที่จะเอามันไปจากเจ้าถ้าเจ้าไม่เต็มใจ ความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียวของข้าคือบอกอาจารย์ ถ้าอาจารย์คิดว่าเจ้าควรเก็บเกราะไว้ข้าก็จะไม่มารบกวนอีก”
หลัวเฟิงโค้งเล็กน้อย
หลัวเฟิงหันหลังกลับและเริ่มต้นเดินออกไป จักรพรรดิเพลิงตกใจกลัว เขาไม่เคยพูดว่าไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้เรื่องเกราะพลัง เขาได้พูดต่อต้านการให้มันกับหลัวเฟิง เขาต้องการให้หลัวเฟิงยอมแพ้มันด้วยตัวของเขาเอง
จักรพรรดิเพลิงเชื่อว่าหากหลัวเฟิงยอมแพ้ อาจารย์ก็จะไม่เข้ามายุ่ง แล้วมันก็จำเป็นต้องให้หลัวเฟิงยอมรับมันก่อน จักรพรรดิเพลิงไม่สามารถบอกมันตรงๆ ได้ เพราะเขาขัดคำสั่งของอาจารย์
“น้องสาม” จักรพรรดิเพลิงตะโกน
หลัวเฟิงไม่ยอมหยุดเมื่อได้ยินเสียง
“หยุด” เขาตะโกนอีกครั้ง
เสียงของเขาสร้างคลื่นสั่นสะเทือนกฎอวกาศและเวลาที่อยู่รอบๆ
ฉากรอบๆ ตัวของหลัวเฟิงเริ่มเปลี่ยนไป เขาหันกลับไปมองจักรพรรดิเพลิง “ทำไมต้องหยุดข้า ข้าแค่จะไปพบกับอาจารย์”
“เมื่อไรที่ข้าบอกปฎิเสธที่จะมอบให้ ข้าเพียงแค่บอกว่าเจ้ายังคงอ่อนแอเกินไป ถ้าเจ้าต้องการโดยไม่สนคำเตือนจากข้า เจ้าก็อย่าเสียใจที่ทำมันหายในอนาคต”
จักรพรรดิเพลิงหงายมือ เกราะที่เหมือนกับเพชรมีลวดลายปราณีตปรากฎบนฝ่ามือ เกราะที่อยู่บนฝ่ามือของจักรพรรดิเพลิงราวกับมาจากสวรรค์
หลัวเฟิงมองดูมันพร้อมกับกลั้นหายใจ
เมื่อหลัวเฟิงมองดูเกราะพลังก็ตื่นเต้น มันเป็นเกราะสมบัติที่แท้จริงสูงสุด มันถูกทำให้กับศิษย์คนที่สาม แม้แต่จักรพรรดิเพลิงก็ยังไม่เต็มใจที่จะให้มันหลุดลอยไป
“แล้วจะยังรออะไรอีก” จักรพรรดิเพลิงกล่าว
หลัวเฟิงยื่นมือออกไปและพลังงานวิญญาณของเขาล้อมรอบเกราะ พลังงานอมตะของเขาได้ผ่านเข้าไปที่เกราะ เมื่อเขาผนึกวิญญาณลงไปก็มีข้อมูลจำนวนมากไหลเข้าสู่จิตใจ
หลัวเฟิงเก็บเกราะพลังไว้ในแหวนโลก
“พี่รอง ข้าขอตัวลา ข้าจะกลับมาเยี่ยมอีกครั้งเมื่อมีโอกาส”
“เจ้าสามารถมาที่นี่ได้ทุกเมื่อตามต้องการ” จักรพรรดิเพลิงกล่าว
หลัวเฟิงเดินออกจากประตูเคลื่อยย้ายไปยังอวกาศ มันถูกแยกออกจากคลื่นอวกาศรอบๆ แล้วผู้เดียวที่สามารถทำได้เป็นจักรพรรดิเพลิงเจ้าของวัง
หลัวเฟิงที่เคลื่อนย้ายออกจากวัง แล้วออกไปจากดินแดนเทพเพลิง เขาใช้จักรวรรดิเทพของหนึ่งในทาสเดินทางออกมา
———-
จักรพรรรดิเพลิงได้มองไปยังหลัวเฟิงที่ทำการเคลื่นย้ายผ่านจักรวรรดิเทพ
“ผู้รับเลือกทั้งสองตายในช่วงเวลารับเลือกสืบทอดเป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่เจ้ากลับรอด”
หลัวเฟิงอ้างว่ามันคือโชค เขารู้ว่าอาจารย์มีตัวเลือกมากมายสำหรับศิษย์ของเขา มีสิ่งมีชีวิตนับพันล้านในแต่ละรุ่นของดาวเคราะห์โลก หลัวเฟิงเป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จนับพันล้านปี แม้ว่าเขาจะไม่ถูกอาจารย์ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ฝึกเป็นพิเศษ
การสืบทอดแห่งความตายนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด
“ในที่สุดเขาก็เอาเกราะไป” จักรพรรดิเพลิงค่อยๆ สงบสติอารมณ์ เขารู้ว่าหลัวเฟิงจะกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาลด้วยหอคอยดวงดาว เขาอาจกลายเจ้าแห่งจักรวาลพิเศษที่มาปราบเขา ถึงการเป็นเจ้าแห่งจักรวาลจะไม่เพียงพอที่จะฆ่าเขา นอกจากการเป็นเจ้าแห่งจักรวาลสูงสุด
จักรพรรดิเพลิงมีดวงตาเป็นประกาย เขาไม่เต็มใจที่จะเป็นที่สองจากใครก็ตาม ทำให้เขาตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเอง แล้วมันก็เพียงอีกก้าวเดียวเท่านั้นที่เขาจะได้เป็นเจ้าแห่งจักรวาลสูงสุด
เจ้าแห่งจักรวาลสูงสุดเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกบอกว่าทรงพลังที่สุด พวกเขาสามารถครอบครองดินแดนทั้งจักรวาล เขาสามารถเดินทางเพียงลำพังในจักรวาลใดๆ โดยไม่ถูกรบกวน เขาสามารถปล้นเผ่าพันธุ์ใดก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องหยุด
“ข้าจะไปอยู่ในระดับเดียวกับเจ้า อาจารย์” จักรพรรดิเพลิงหันหลังกลับ
———-
จักรวรรดิจักรวาลแกนวูในดินแดนมนุษย์
หลัวเฟิงเผ่าโมชานเดินออกมาจาหลุมของดาวเคราะห์แห้งแล้ง เขาใช้เวลาในการเดินทางไม่นานสู่ระยะพันปีแสง
ร่างกายเผ่าโมชานมีการเทเลพอตได้ไกลกว่าอัศวิน เขาสามารถเทเลพอตได้ 100 ปีแสงในทีเดียว เขาทำการเทเลพอตเมื่อเข้าไปยังชั้นด้านในของอวกาศ จนกระทั่งมาถึงจักรวรรดิเทพของตัวเอง
จักรวรรดิเทพกว้างใหญ่มีมหาสมุทรกว้างไกลที่ขยายตัวอย่างช้าๆ
หลัวเฟิงได้ออกมาจากแสงสีทองแล้วยืนอยู่บนคลื่น
หลัวเฟิงได้ถูกคลุมจากเกราะโปร่งใส เกราะพลังได้รวมเข้ากับกล้ามเนื้อและอวัยวะของหลัวเฟิง พลังจำนวนมากถูกเติมเต็มเข้าร่างกายเขา
หลัวเฟิงปิดตาอย่างมีความสุขกับพลังอำนาจที่เขาได้รับ
“ไม่น่าแปลกใจที่เป็นสมบัติที่ถูกเตรียมโดยอาจารย์”
เกราะพลังเป็นเกราะที่พิเศษ มันแตกต่างจากสมบัติที่ต้องการความเข้าใจกฎ มันต้องการความแข็งแกร่งจากร่างอมตะ ความแข็งแกร่งของร่างกายก็คือพลังของเกราะ
เงาของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ได้ปรากฎตัวออกมา มันคืออสูรเขาทอง
หลัวเฟิงพูดพร้อมกับรอยยิ้ม “ลองเกราะนี้”
เกราะโปร่งใสได้บินเข้าหาอสูรเขาทอง มันรวมเข้ากับร่างอมตะของอสูรเขาทอง