Skip to content

Swallowed Star 1036

ตอนที่ 1036 : การได้พบของมีค่า

หลังจากที่สู้เสร็จ สิ่งมีชีวิตจากเผ่าปีศาจ และพันธมิตร 9 ดินแดน ก็ได้จากไป ผู้ชมจากทั้งเจ็ดกลุ่มซึ่งมีสิ่งมีชีวิตจากเผ่าอื่นๆ นั้นต่างก็มองดูการต่อสู้โดยอยู่ห่างออกไป หลังจากนั้นผู้ชมก็พากันแยกตัวออกไปเงียบๆ

“ทุกอย่างเกิดขึ้นตามคำอธิบายที่ อัศวินจวงโจว ให้กับข้า อย่างแม่นยำ“ หลัวเฟิง พูดขึ้นในตอนที่บินไปตามเส้นขอบฟ้าของทะเลทรายพร้อมกับมีอสูรเขาทองนั่งอยู่ที่ไหล่ของเขา “สิ่งมีชีวิตภายในดวงดาวต้นกำเนิดนั้นระวังตัวกันอย่างมาก ถ้ามีของมีค่าน้อยเกินไปรึถ้าไม่มั่นใจพอ พวกนั้นก็จะไม่ลงมือ ระหว่างการต่อสู้ของเผ่าปีศาจ และพันธมิตร 9 ดินแดน มันไม่ได้มีออร่าของสมบัติที่แท้จริงเลยสักนิด ข้าคิดว่ามันคงมีสมบัติเพียงแค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น”

ถ้าออร่านั้นถูกปิดผนึกเอาไว้ งั้นสมบัติที่แท้จริงคงไม่ได้แยกแยะจากสมบัติทั่วไปได้ง่ายๆ นัก หากต้องดูจากลักษณะภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่เรื่องนี้มันต่างออกไปบนดวงดาวต้นกำเนิด

ดวงดาวต้นกำเนิดนั้นเต็มไปด้วยของมีค่า ในตอนที่ของมีค่าต่างๆ ปรากฏขึ้นมา มันจะไม่ได้มีการตอบสนองมากเท่าไหร่ แต่ในตอนที่สมบัติชั้นสูงปรากฏขึ้น บางทีมันอาจจะมีการตอบสนองอยู่บ้าง แต่ระหว่างช่วงการปรากฏสมบัติที่แท้จริง แน่นอนว่ามันต้องมีการตอบสนองที่รุนแรง!

ยิ่งมีการตอบสนองมากเท่าไหร่ ระดับของสมบัติที่แท้จริงยิ่งสูงมากเท่านั้น มันมีแม้แต่วังจากโลกใต้ดิน วังแห่งนี้คือที่ที่สมบัติที่แท้จริงหลบซ่อนอยู่ มันอาจจะเป็นการสื่อบางอย่าง ดังนั้นยิ่งการตอบสนองมากเท่าไหร่ ระดับของสมบัติที่แท้จริงก็ยิ่งสูงเท่านั้น

“หือ?” หลัวเฟิง พูดขึ้นในตอนที่มองน้ำวนที่อยู่ไกลออกไป มันลอยอยู่กลางอากาศ

“ประตูน้ำวนอีกแห่งซึ่งไม่รู้ว่ามันจะพาไปยังเส้นทางใด”

ตามคำอธิบายที่เขาได้มา มีดวงดาวต้นกำเนิดกว่า 10,081 ดวงและมีน้ำวน 10,081 แห่งที่จะนำไปสู่ดวงดาวแต่ละดวง ในบรรดาประตูพวกนี้ มีแค่ประตูเดียวที่ใช้ไว้ออกจากดวงดาวซึ่งเป็นเส้นทางที่นำไปสู่ประตูน้ำวนที่ หลัวเฟิง เพิ่งเข้ามา เส้นทางอื่นอีก 10,080 เส้นทางนั้นจะนำไปสู่ดวงดาวอีก 10,080 ดวง

“สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในดวงดาวต้นกำเนิดต่างก็พากันหาสมบัติ” หลัวเฟิงพูดขึ้น “พวกนั้นจะไม่คอยสุ่มเดินทาง ส่วนมากแล้วจะยืนอยู่ประจำตามจุดต่างๆ และรอคอย เมื่อพวกเขารู้สึกได้ถึงร่องรอยของออร่าหรือสัญญาณ พวกเขาก็จะรีบไปทันที”

หลัวเฟิง ตัดสินใจเรียนรู้ประสบการณ์ที่ได้มาจากผู้ที่อยู่ที่นี่ เขาเชื่อในการฝึกของคนพวกนี้

ซู่!

ตอนนั้นเอง หลัวเฟิง ก็ได้ดำดิ่งลงไปและพบว่าตัวเองนั้นอยู่ในป่าโบราณแห่งหนึ่ง มันมีภูเขาที่สูงประมาณ 600 เมตร แม้ว่ามันจะสูงกว่าภูเขาอื่นๆ บนโลกแต่เมื่อเทียบกับที่มีในดวงดาวต้นกำเนิดแล้ว มันถือว่าธรรมดาเท่านั้น ต้นไม้โบราณ, ดอกไม้และใบไม้บนดวงดาวนี้ต่างก็สวยงาม

หลัวเฟิง ทำการเดินไปเรื่อยๆ

“แรงโน้มถ่วงที่นี่นั้นแข็งแกร่งจริงๆ!” เขาพูดขึ้น “จิตวิญญาณของระดับอมตะที่อ่อนแน่นอนว่าต้องถูกกำจัด แต่ต้นไม้ที่นี่กลับสามารถเติบโตและเบ่งบานบนภูเขาและหินได้”

หลัวเฟิง มองไปรอบๆ และเห็นตอไม้ที่หนากว่า 100 ไมล์ “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้นไม้ในที่นี่สามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบเพื่อทำอาวุธของเหล่าระดับอมตะ แน่นอนว่าพวกมันคือวัตถุดิบหายากที่มีค่าสูง”

หลัวเฟิง รู้เรื่องนี้แต่เขาไม่คิดจะเอาอะไรกลับไป มันมีนักสำรวจที่คอยทำแบบนี้อยู่แล้ว!

เปร๊ง!

หลัวเฟิง เตะไปที่ท่อนไม้ ตัดสินจากแรงกระแทกที่ร่างอมตะของเขาชนกับต้นไม้แล้ว หลัวเฟิง รู้สึกได้ว่าต้นไม้ใหญ่นี้ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับที่ดินอันกว้างใหญ่ จากการเตะเพียงครั้งเดียว ร่างกายของเขาต้องลอยขึ้นไปบนอากาศและเขาก็ต้องถอยห่างออกไป ไถลไปตามพื้นดินก่อนที่จะลุกขึ้นยืนได้

“จริงๆ ด้วย…” เขาอึ้ง “ต้นไม้ที่นี่ได้หลอมรวมไปกับดวงดาวต้นกำเนิด บันทึกได้บอกว่าต้นไม้ในที่แห่งนี้ไม่อาจที่จะได้รับความเสียหายได้ง่ายๆ แม้ว่าสิ่งมีชีวิตชั้นสูงสุดจะตั้งใจสร้างความเสียหายแต่พวกมันก็จะมารวมตัวกันแล้วฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็ว”

หลัวเฟิง ได้ใช้พลังอมตะของเขา ในการแยกตัวเองออกจากภายนอก จากนั้นเขาก็ได้ใช้พลังอมตะกับขาขวาของเขา พลังของเขาได้เพิ่มขึ้นมามหาศาล เขากระทืบไปที่พื้นจนเกิดเสียงดังสนั่นและทำให้ฝุ่นตลบขึ้นมา แรงกระแทกนี้สามารถสร้างรูที่พื้นดินได้

หลัวเฟิง ยืนอยู่ข้างๆ และมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น สักพักดินที่หายไปก็กลับมารวมตัวกันและรูนั้นก็ได้ถูกเติมเต็มขึ้นมาดังเดิม มันไม่มีวี่แววว่าเคยมีรูอยู่ที่พื้นดินมาก่อน ทุกอย่างกลับไปเป็นแบบเดิมของมัน

“จริงๆ ด้วย” หลัวเฟิง อึ้ง “ดวงดาวต้นกำเนิดนี้ช่างมหัศจรรย์จริงๆ”

บนดวงดาวต้นกำเนิด สิ่งของที่ดูเหมือนจะหลอมรวมเป็นหนึ่งกับดินแดนต้นกำเนิดอย่างดิน, ต้นไม้และอื่นๆ สามารถที่จะเอาออกไปได้ แต่ก็แค่เพียงไม่นาน มันจะกลับมายังจุดเดิมของมันอย่างรวดเร็ว การพยายามเอาของพวกนี้ไปนั้นไร้ค่า สิ่งเดียวที่ไม่ได้หลอมรวมเข้ากับดวงดาวต้นกำเนิดอย่างของมีค่าที่เพิ่งจะเกิดขึ้นมานั้นสามารถที่จะเอาออกไปได้

เขาจมอยู่กับความน่าทึ่งของที่แห่งนี้ หลัวเฟิง เดินไปในป่าเรื่อยๆ และสังเกตทุกอย่างรอบตัว

ชี๊!

ขาของเขารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่หนักและแข็ง ดูจากพลังอมตะของเขาแล้ว หินธรรมดาคงต้องกระเด็นออกไป พื้นดินคงต้องแบนราบ

“หือ?” หลัวเฟิง มองลงไป

ปลายแหลมสีเงินนั้นโผล่ออกมาจากพื้น ยอดของมันนั้นมีคราบโคลน หลัวเฟิง รู้สึกได้ถึงความพิถีพิถันของมัน มันมีบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวมันเอง

เขากะพริบตา

“ข้าคงไม่ได้โชคดีขนาดนั้นหรอกนะ?” เขาพึมพำกับตัวเอง

มีของมีค่ามากมายบนดวงดาวต้นกำเนิด สมบัติบางชิ้นอาจจะปรากฏขึ้นมาโดยไม่ได้มีสัญญาณ พวกมันสามารถปราฏขึ้นมาอย่างในแม่น้ำ และใต้ผิวดิน แม้ว่าจะเดินอยู่ก็อาจมีโอกาสที่จะเจอสมบัติได้…การเกิดเรื่องแบบนี้นั้นไม่อาจที่จะคาดเดาได้

“การได้พบของมีค่าในตอนที่เดินอยู่งั้นรึ?” หลัวเฟิง นั่งลงไปแล้วใช้มือขวาของเขาจับที่ขอบแหลมของมัน นิ้วของเขาจับมันไว้อย่างมั่นคงและพลังอมตะของเขาก็ได้เข้าครอบคลุมปลายแหลมของวัตถุเอาไว้ก่อนที่เขาจะออกแรงดึง

พลืด!

มันราวกับการดึงแครอท เขาดึงมันขึ้นมา ดินนั้นเริ่มรุ่ยและวัตถุสีเงินก็ได้เผยรูปร่างของมันออกมาซึ่งยาวประมาณ 1.5 ไมล์ หลัวเฟิง มองไปที่ของชิ้นนั้นด้วยพลังอมตะของเขาและคราบดินก็ถูกชะล้างออก ตัววัตถุสี่เหลี่ยมสีเงินซึ่งถูกปกคลุมด้วยพลังกฎโบราณบางอย่างได้ถูกเปิดเผยออกมา ออร่าของมันดูเลือนรางแต่ไม่ต้องเดาเลยว่านี่คือสมบัติ

“ฮ่า ฮ่า! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม เก้าดาบ ถึงได้ยอมใช้สมบัตินับสิบมาแลก เพื่อยืมสมบัติที่แท้จริงของข้าชิ้นหนึ่ง!” หลัวเฟิง พูดขึ้นพร้อมกับยิ้ม “บนดวงดาวต้นกำเนิดนี้ มันมีสมบัติมากมายที่ข้ามีโอกาสที่จะพบได้แม้ในตอนที่เดินอยู่”

โอกาสในการพบสมบัติในตอนที่เดิน…ช่างโชคดีจริงๆ!

แต่มันก็จริงที่ว่ามีสมบัติมากมายบนดวงดาวต้นกำเนิด หากอยู่ที่นี่นานพอ มันคงไม่ใช่เรื่องยากในการได้สมบัตินับสิบชิ้นหรือบางทีอาจจะเป็นร้อยชิ้น พวกมันสามารถนำไปแลกกับสมบัติชิ้นอื่นๆ ในเผ่าได้!

ยิ่งกว่านั้นพวกมันสามารถนำไปแยกชิ้นส่วนเป็นวัตถุดิบที่มีค่าซึ่งปกติแล้วมันยากที่จะหามาได้

เมื่อแยกชิ้นส่วนสมบัติเป็นจำนวนมากแล้ว วัตถุดิบนับไม่ถ้วนนั้นสามารถเอามาประกอบกันเป็นสมบัติที่แท้จริงได้ การสร้างสมบัติที่แท้จริงขึ้นมานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันอาจจจะมีสิ่งมีชีวิตเดียวในจักรวาลที่สามารถสร้างสุดยอดสมบัติที่แท้จริงได้อย่าง เกราะพลัง, จิตวิญญาณต้นกำเนิด และ หอกหยันชิง นั่นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอาจารย์ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่

หลัวเฟิง ได้ประทับจิตวิญญาณลงไปในวัตถุนี้ ทันใดนั้นมันก็กลายเป็นของเขา ข้อมูลได้ส่งต่อมายังเขา และตัวสี่เหลี่ยมสีเงินนั้นก็สั่นไหวอย่างรวดเร็วราวกับว่ามันเป็นลูกบาศก์เวทย์มนต์ ไม่นานมันมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่าลูกพีช

“ฮ่ะ! สมบัติแบบผนึกที่สามารถบรรจุการผนึกมิติภายในตัวมันเองได้ นี่เทียบเท่าได้กับดวงดาวผนึก” หลัวเฟิง พยักหน้าด้วยความพอใจ “สมบัติชิ้นแรกตั้งแต่ที่ข้าเข้ามายังดวงดาวต้นกำเนิดและในวันแรกด้วย…ถ้าข้าได้มันทุกวัน หลังจากผ่านไปสักแสนปี ข้าจะได้สมบัติทั้งหมดกี่ชิ้นกัน? ฮ่า ฮ่า…!”

เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ มันสนุกในการคิดแบบนั้นที่จะได้สมบัติทุกวันในตอนที่เดินเล่น

หลัวเฟิง เดินอยู่ในป่าได้ครึ่งวันแต่สุดท้ายเขาก็หาสมบัติไม่พบอีก เขาได้เดินไปมาอย่างไร้จุดหมายและพบที่ว่างที่เขาได้ไปนั่งขัดสมาธิ ท่ามกลางใบไม้ที่ร่วงโรยแล้วรอคอยอย่างอดทน

******

เวลาได้ผ่านพ้นไป ดวงดาวต้นกำเนิดที่เขาอยู่นี้เปิดกว่าหนึ่งแสนปี ตามความจริงที่ว่าสมบัติที่แท้จริงก่อนหน้านี้ได้ปรากฏขึ้นมานั้นแน่นอนว่าต้องต่ำ โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นน้อยอย่างมาก สมบัติและสมบัติที่แท้จริงระดับธรรมดาหรือสิ่งของธรรมดาทั่วไปนั้นกลายเป็นสิ่งที่โดนตามหากันมากที่สุด

การพบสมบัตินั้นต้องใช้โชค มันสองปีมาแล้วตั้งแต่ที่ หลัวเฟิง ได้เข้ามายังที่แห่งนี้ แม้ว่าเขาจะรู้สึกได้ถึงออร่าในสามครั้ง แต่ออร่านั้นมันค่อนข้างเบาบางสำหรับการรับรู้ของเขา นี่แสดงให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ นั้นเฉียบคมเพียงใด

คนที่อยู่ใกล้ของมีค่าที่สุดตอนที่พวกเขาผ่านไปนั้นคือพวกที่โชคดีที่สุด ระหว่างสามครั้งตอนที่สมบัติปรากฏขึ้นมา หลัวเฟิง นั้นอยู่ไกลเกินไป ตอนที่เขารีบเข้าไป การต่อสู้เพื่อแย่งชิงสมบัตินั้นก็ได้จบลงแล้ว

“โชค! ข้ายังไม่ได้สมบัติเลย มันสองปีแล้วและข้าได้สมบัติแค่เพียงสองชิ้น น่าอายจริงๆ!”

หลัวเฟิง เดินอยู่ในป่าแล้วมองออกไป สองปี กับสมบัติสองชิ้นนี้ยังถือว่ามีประสิทธิภาพ ยังไงซะชีวิตในดวงดาวต้นกำเนิดนี้ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยง

ตอนนี้ หลัวเฟิง ได้ปลอมตัวเป็นสมาชิกของ พันธมิตรอสูรอวกาศ ตราบใดที่ พันธมิตรอสูรอวกาศ รักษาความลึกลับของตัวเองไว้ซึ่งคือออร่า สิ่งมีชีวิตจากเผ่าอื่นๆ คงคิดว่านี่คือสิ่งมีชีวิตจากพันธมิตรนี้ นี่ก็ผ่านมาสองปีแล้วและ หลัวเฟิง กับอสูรเขาทองก็ได้ชื่อเสียงมาบ้าง อย่างน้อยสิ่งมีชีวิตมากมายก็รู้จักและจดจำพวกเขาได้

“พันธมิตรมนุษย์, เผ่าพันธุ์ปีศาจ, เผ่าพันธุ์หุ่นยนต์ และเผ่าพันธุ์แมลง นั้นต่อสู้กันอย่างโหดร้ายมาโดยตลอด” หลัวเฟิง พึมพำ กับตัวเอง “ตราบใดที่มีข้ออ้างเพื่อความรุนแรง งั้นการต่อสู้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ”

สี่เผ่าพันธุ์ชั้นสูงต่างก็อยู่เคียงข้างกัน ความเกลียดชังเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ และการต่อสู้บนดวงดาวต้นกำเนิดนั้นก็มักจะเกินกว่าความรุนแรงทั่วไป

บางที หลัวเฟิง อาจจะยังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจมัน แม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์ในการถูกโจมตีโดยสายลับของเผ่าแมลงซึ่งได้นำไปสู่การทำลายดาวเคราะห์ อีกทั้งการลอบสังหารโดย อัศวินโคลนกลืนกิน ความเกลียดชังที่เขามีต่อเผ่าทั้งสามนั้นก็ยังไม่ขึ้นไปถึงขีดสุด

หลัวเฟิง ไม่ได้ฝังความเกลียดชังนั้นไว้ในใจของเขา แต่สิ่งมีชีวิตชั้นสูงของเผ่ามนุษย์ที่ซึ่งมีชีวิตอยู่มานานนั้นต่างออกไป พวกเขามีชีวิตอยู่มานาน และผลก็คือความบาดหมางที่พวกเขาเจอและความเกลีดชังที่มีต่ออีกสามเผ่านั้นเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ…การสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า มันได้สร้างความเกลียดชังขึ้นมาทีละนิดๆ ดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้วทุกคนก็จะมีความเกลียดชังนั้นอยู่ในใจ

“ข้าได้อยู่ที่นี่มาสองปีแล้วแต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่ต้องเข้าไปสู้” หลัวเฟิงถอนหายใจกับตัวเอง

ในตอนที่เขารู้สึกสังเวชอยู่นั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงออร่าที่แผ่ออกมายังที่ที่เขาอยู่ เมื่อเขามีประสบการณ์มาแล้ว เขาก็ต้องอึ้ง เขารีบตอบรับทันที

“มันคือสมบัติชุด” เขาตระหนักได้ “หรือไม่ก็สมบัติที่แท้จริงระดับธรรมดา! และออร่านี้ดูเหมือนจะอยู่ใกล้ด้วย!”

หลัวเฟิง ตื่นเต้นขึ้นมา เขาไม่ได้อยู่ที่ห่างไกลเหมือนตอนที่รู้สึกได้ถึงพลังในสามครั้งก่อนหน้า ครั้งนี้มันอยู่ใกล้เขาอย่างมาก

ซู่!

ร่างโมชาน ของหลัวเฟิง นั้นได้ใช้พลังอมตะออกมาในเสี้ยววินาที ด้วยความเร็วเต็มที่ของเขา เขาก็ได้ทะยานตัวออกไป!

ซูม!

เขาได้บินตรงไปยังต้นกำเนิดของออร่านั้น

******

สิ่งมีชีวิตตัวขนาดใหญ่จาก เผ่าพันธุ์คุก…มันสูงกว่า 30 ไมล์และร่างที่ส่องประกายออกมาด้วยเปลวไฟสีทอง มันอยู่กับอัศวินอวกาศอีกสองคน แต่ละคนนั้นสูงอย่างน้อย 300 ไมล์ พวกเขามีปีก 20 คู่สีดำ บนหลังและร่างกายที่เต็มไปด้วยเกล็ดดำ

“ออร่านี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง! มันอาจจะเป็นสมบัติชุดหรืออาจจะเป็นสมบัติที่แท้จริง!”

ทั้งสามได้บินไปยังที่ที่ได้แผ่ออร่าออกมา

******

“นี่คือออร่าสมบัติ!”

“มันคือสมบัติ!”

กองทัพทั้ง 6 ที่ซึ่งได้ไปรวมกันในเขตต่างๆ ก็รีบมุ่งหน้าไปยังต้นตอของพลังด้วยความเร็วเต็มที่ จากออร่าที่แผ่ออกมานั้นกองทัพและอัศวินอวกาศสองสามคนรีบมุ่งหน้าไปที่นั่นด้วยความเร็วให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!