ตอนที่ 1080 ทำไมมันมืด
บนดวงดาวต้นกำเนิดหมายเลข 02881
สิ่งมีชีวิตที่ปกคลุมด้วยหมอกสีดำ เห็นการไล่ล่าอัศวินเทียนหยางของอสูรเขาทองที่ตามเข้าไปยังวังวนกาลอวกาศ
“มันน่าจะเป็นวังวนนี้ ข้าเห็นอัศวินเทียนหยางบินเข้าไปในนั้น”
สิ่งมีชีวิตที่มีหมอกสีดำปกคลุมพยักหน้า
ความเร็วการบินของอัศวินเทียนหยางกับอสูรเขาทองทำให้เป็นที่สะดุดตา อัศวินจากจักรวาลอื่นให้ความสนใจกับเหตุการณ์ เขาส่งข้อมูลไปยังเจ้านายแห่งป้อมฟานนู่ ด้วยร่างกายที่อยู่ภายนอกในทันที
เจ้านายแห่งป้อมฟานนู่เป็นสิ่งมีชีวิตสูงสุดในพันธมิตรวงแหวนหนาม เขาเป็นหนึ่งในอัศวินชั้นยอด
เจ้านายแห่งป้อมฟานนู่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเทียบเท่ากับต้นไม้โลก ชื่อที่ถูกเรียกของเขามาจากสมบัติแท้จริงประเภทวังบิน มันสามารถป้องกันเขาจากเจ้าแห่งจักรวาลได้
“สมบัติแท้จริงชั้นกลางงั้นหรือ เจ้านายแห่งป้อมฟานนู่ช่างเป็นคนใจกว้างจริงๆ น่าเหลือเชื่อที่เขาจะให้ของมีค่ากับข้าเพื่อตามรอยใครบางคน”
สิ่งมีชีวิตหมอกสีดำ ได้เข้าไปยังวังวนกาลอวกาศ เมื่อผ่านวังวนมาเขาก็พบเข้ากับแสงสีดำในจุดที่อยู่ห่างออกไปทันที
แม้เขาจะอยู่ห่างออกไปจากจุดนั้นนับสิบล้านกิโลเมตรก็ยังเห็นมันได้ชัดเจน สิ่งนี้ได้ทำให้เขาตื่นตกใจ
“มันเป็นสมบัติแท้จริงประเภทพื้นที่ที่ทรงพลังจริงๆ”
สิ่งมีชีวิตหมอกสีดำ ที่อยู่ระยะไกลก็เห็นคลื่นสีทองโผล่ขึ้นมาปะทะกับแสงสีดำ เกิดการต้านกันจากการปะทะของสองสิ่งนี้ แสงสีดำเริ่มถอยลงมาจากพลังที่มากพอๆ กับมัน
“อีกสมบัติแท้จริงประเภทพื้นที่งั้นรึ” สิ่งมีชีวิตหมอกสีดำเกิดความตกใจขึ้นมา
“มีเพียงอัศวินไม่กี่คนเท่านั้นที่มีสมบัติแท้จริงประเภทพื้นที่ เห็นมันทั้งสองเท่ากับเห็นการต่อสู้ของสองอัศวิน หนึ่งในนั้นจะต้องเป็นอัศวินเทียนหยางแน่นอน”
———-
อสูรเขาทองและอัศวินเทียนหยางจ้องมองกันเหนือพื้นป่ากว้างใหญ่ที่ห่างจากวังวลกาลอวกาศ 60 ล้านกิโลเมตร
ป่าถูกสั่นสะเทือนจากแสงสีดำและคลื่นสีทองที่ปกคลุมไปทั่ว
“เจ้าอสูรเขาทอง ต้องการต่อสู้กับข้างั้นรึ” อัศวินเทียนหยางตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“อัศวินเทียนหยาง เจ้าน่าจะรู้ว่าหลีกเลี่ยงการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้” อสูรเขาทองจ้องมองมาจากระยะไกล
“อะไรทำให้เจ้าคิดว่าข้ากำลังหนี เจ้าคิดว่าเจ้ามีพลังพอจะสู้กับข้าได้รึยังไง ที่ข้าไม่สู้ในทีแรกไม่ใช่เพราะความกลัว ข้าใช้สมบัติประเภทพื้นที่ก็แค่ต้องการขู่ แต่ข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะมีสมบัติประเภทพื้นที่เหมือนกัน”
“ดูเหมือนเจ้าจะมีโชคในช่วง 2 หมื่นปีที่ผ่านมา”
“ข้าจะสู้กับเจ้าเอง”
“ตกลง” อสูรเขาทองพูดออกมาเบาๆ
“จะเป็นการต่อสู้ที่ได้บทสรุปที่รวดเร็ว” อัศวินเทียนหยางกำลังโกรธ เขาไม่คิดว่าอสูรเขาทองจะมาสู้อะไรกับเขาได้ เขาเคยสู้กับอัศวินชั้นยอดมาก่อน เขาจึงไม่จำเป็นต้องกลัว
“มา…” อสูรเขาทองคำราม
มีกระสวยสีดำออกมาจากมือของอัศวินเทียนหยางขณะที่เขาจ้องมองยังอสูรเขาทอง
สมบัติประเภทพื้นที่ของทั้งคู่เข้าปะทะกัน ก้อนหินกลิ้งมาทางด้านหน้าแสงสีดำ อสูรอวกาศปรากฎขึ้นตรงด้านหน้าแม่น้ำสีทอง
ทั้งสองกำลังพยายามกดดันอีกฝ่าย
“เจ้าอสูรเขาทอง ยังไม่รู้อีกหรือไงว่าเอาชนะข้าไม่ได้” อัศวินเทียนหยางกล่าว
8 กระสวยสีดำได้ส่องแสงงดงามถูกแม่น้ำสีทองกระจายไปทั่ว
เขาที่ยาวที่สุดของอสูรเขาทองเข้าโจมตีอัศวินเทียนหยาง
อัศวินเทียนหยางตกตะลึงกับการโจมตีนี้ มันรุนแรงที่สุดเท่าที่เขาได้รับมา แม้แต่การโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเพื่อนเขา ยังไม่ทรงพลังเท่านี้
อัศวินเทียนหยางแทบไม่รู้เลยว่าร่างอสูรเขาทองมีพลังเกือบเทียบเท่ากับร่างมนุษย์โลก ร่างอสูรเขาทองมีระดับยีนชีวิตที่ 10,081 เท่า ส่วนร่างมนุษย์โลกที่ 9,800 เท่า พลังงานอมตะของพวกเขามีความละเอียดพอๆ กัน เทคนิคต่อสู้ที่หลัวเฟิงใช้เป็นเทคนิคสูงสุดของเจ้าแห่งจักรวาล การต่อสู้ของร่างมนุษย์โลกแตกต่างจากอสูรเขาทองตรงที่เขาใช้ดาบ
อสูรเขาทองใช้เกราะชุดสมบัติแท้จริงชั้นสูง มันมีค่าเทียบได้กับเกราะสมบัติแท้จริงชั้นยอดในด้านความแข็งแกร่ง
อัศวินเทียนหยางกระเด็นถอยหลัง เขาตกใจเมื่อพบว่า 22% ของร่างกายอมตะตัวเองได้หายไป
“มันเป็นไปได้ยังไง” อัศวินเทียนหยางได้พบกับสิ่งที่ยากจะเชื่อ
หลัวเฟิงประหลาดใจที่เขามีเกราะสมบัติแท้จริงชั้นสูง
อัศวินเทียนหยางที่มีรูปร่างขนาดเล็กเพียง 24 เมตร ถ้าเขาใส่ชุดเกราะสมบัติแท้ชั้นกลางก็จะเป็นเรื่องง่ายที่จะฆ่าเขา
“เจ้าได้เตรียมตัวมาเพื่อสำรวจบนดวงดาวต้นกำเนิดงั้นเรอะ” อสูรเขาทองกล่าว
อัศวินเทียนหยางทั้งโกรธและตกใจ เขาจ้องมองไปยังอสูรเขาทองที่อยู่เบื้องหน้า ข้อมูลของเขาเกี่ยวกับเกราะสมบัติแท้จริงชั้นกลางเป็นสิ่งที่ล้าสมัยไปแล้ว เขาได้แลกมันด้วยบางสิ่งก่อนการเปิดของดวงดาวต้นกำเนิด
อสูรเขาทองไม่รู้ถึงความแตกต่างของชุดเกราะในตอนที่เขายังคงอ่อนแอ แล้วในตอนนี้อสูรเขาทองสามารถที่จะรับรู้มันได้ชัดเจน
“เป็นไปได้ยังไง ก่อนหน้านี้เจ้ามันยังคงอ่อนแอกว่านี้มาก” อัศวินเทียนหยางกล่าว
“ไม่จำเป็นต้องถาม ตายซะ” อสูรเขาทองพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง
“ต้องการที่จะฆ่าข้างั้นรึ อย่าฝันว่าจะทำได้”
อัศวินเทียนหยางทำการต่อต้านอสูรเขาทองเพื่อทำการหลบหนี ปีกสีดำของเขาขยับแล้วทำการบินหนี อสูรเขาทองได้บินตามเขาไป
การแกะสลักซับซ้อนเริ่มไหลไปตามร่างอสูรเขาทอง เขาใช้ร่างของตัวเองเป็นอาวุธ แสงสีทองส่องประกายขึ้นมาที่ตัวของอสูรเขาทอง ความเร็วของอสูรเขาทองที่พุ่งเข้าหาอัศวินเทียนหยางสูงขึ้น
อัศวินเทียนหยางได้เปลี่ยนทิศทางจากความคล่องตัวของเขาที่ทำได้ดีที่สุด
“ข้าก็ทำได้ดีเหมือนกัน” อสูรเขาทองพูดขณะที่พุ่งเข้าหาอัศวินเทียนหยาง
พวกเขาเปลี่ยนเส้นทางและทิศทางหลายสิบครั้งในหนึ่งวิ
อสูรเขาทองพบว่าความสามารถในการเปลี่ยนทิศทางของเขาด้อยกว่าอัศวินเทียนหยาง
“ทั้งเขาและข้ามีปีกสมบัติเหมือนกัน การฝึกฝน 180 ล้านปี ทำให้เข้าใจพลังของแม่น้ำเก้าเสือได้ทันที แต่ยังหาวิธีแสดงพลังของปีกไม่ได้ มันมีความซับซ้อนกว่ามาก” หลัวเฟิงคิด
หลัวเฟิงเข้าใจว่าปีกสีดำถูกใช้เป็นรูปแบบที่สาม ทำให้เขาคิดว่าไม่แปลกใจที่ตัวเองตามอีกฝ่ายไม่ทัน
“เจ้าไม่มีทางจับข้าได้ ยอมแพ้ซะ” อัศวินเทียนหยางส่งเสียงออกไป
อัศวินเทียนหยางยังคงกังวล อสูรเขาทองนี้เร่งความเร็วขึ้นมาจนเขาไม่อยากเชื่อ เขาได้ทำการขอความช่วยเหลือไปยังเผ่าพันธุ์ของเขาแล้ว แต่มันยังคงต้องใช้เวลาก่อนที่เผ่าหุ่นยนต์ของเขาจะมา ด้วยการต่อสู้ก่อนหน้านี้กับอสูรเขาทอง ทำให้เขารู้ว่าจะต้องมีพลังเช่นเดียงกับอัศวินชั้นยอด ถึงจะเป็นเจ้าแห่งจักรวาลก็ไม่อาจที่จะจัดการกับสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่แบบนี้ได้…เจ้าแห่งจักรวาลทำได้เพียงแค่สู้กับอสูรเขาทอง
“จะยอมแพ้ไหม” อัศวินเทียนหยางกล่าว
อสูรเขาทองคำราม “ข้าไม่ต้องการใช้ท่าที่ดีที่สุดตั้งแต่แรก แต่เจ้าก็หนีเก่งจริงๆ”
“ยังมีท่าที่ดีที่สุดอีก!!”
อัศวินเทียนหยางกำลังหวาดกลัว แสงสีทองที่เขาเห็นนั้นก็ทรงพลังเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังมีท่าที่ดียิ่งกว่า เขาไม่อาจจินตนาการถึงอสูรเขาทองที่อ่อนแอกว่าเขาก่อนหน้านี้ ว่ามันจะทรงพลังได้ถึงขนาดนี้
ในตอนนี้ อสูรเขาทองที่ดวงตาสงบนิ่งได้ระเบิดพลังงานอมตะจากการเผาผลาญออกมา ด้วยร่างกายขนาดใหญ่ 5 หมื่นกิโลเมตร การต่อสู้ที่ผ่านมาทำให้เขาใช้พลังไปแค่ 1 ส่วน 60 ล้าน แต่ด้วยการใช้ท่า ข้าคือจักรวาล ทำให้พลังของเขาไหลออกมาจำนวนมาก
ทุกสิ่งทุกอย่างถูกห่อหุ้ม!!
———-
สิ่งมีชีวิตหมอกสีดำได้เฝ้าดูอยู่ในระยะ 60 ล้านกิโลเมตร เขาที่คอยติดตามการต่อสู้ ได้พบกับสิ่งที่เปลี่ยนไปกะทันหัน
ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเปลี่ยนเป็นความมืดจนเห็นได้แค่ความมืด กระแสอากาศที่สับสนกำลังพัดรุนแรง
สิ่งมีชีวิตหมอกสีดำได้มองรอบๆ อย่างสับสน “มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมืด”



