ตอนที่ 1099 : สัญญา

ดวงตาสีทองของสัตว์อสูรเขาทองแสดงความดุดันออกมา “ข้ารับ!”

ฆ่า?

เส้นทางของ ผู้ยิ่งใหญ่?

การเดินทางครั้งใหม่?

มันฟังดูน่าสนใจทั้งหมด!

“เจ้าโหยหาการฆ่า” ท่านผู้ยิ่งใหญ่ มองไปที่สัตว์อสูรเขาทองและพยักหน้าอย่างพอใจ “เจ้าเหมาะสำหรับ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต”

เขาได้โยน ไข่มุกเลือด ออกมา “ประทับผนึกชีวิตเจ้าลงไปและทำการควบคุมไข่มุก”

สัตว์อสูรเขาทองแผ่พลังเข้าไปใน ไข่มุกเลือด ทันทีด้วยพลังอมตะของเขาและไข่มุกก็รู้ว่า หลัวเฟิง เป็นเจ้าของมันทันที ไข่มุกเลือด สมบัติที่แท้จริงพิเศษที่ ท่านผู้ยิ่งใหญ่ มอบมาให้นั้นไม่มีข้อมูลอยู่ภายในและการทำงานของมันก็มีลักษณะเฉพาะ

จริงๆ แล้วสมบัติที่แท้จริงหลายชิ้นที่ ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ให้มานั้นก็มีคุณสมบัติเฉพาะเหมือนกับจิตวิญญาณ และเกราะพลัง พวกมันต่างก็มีข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้และพวกที่ไม่ตรงตามเงื่อนไขนั้นก็ไม่อาจจะใช้มันได้ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ในการมอบสมบัติที่แท้จริง

ฮู่!

สัตว์อสูรเขาทองอ้าปากและไข่มุกก็ลอยเข้าไปด้านใน

ทันใดนั้นร่างอมตะของสัตว์อสูรเขาทองก็เริ่มเปลี่ยนไป ขาหลังเริ่มยาวและแข็งแกร่งขึ้น อกและท้องเริ่มแข็งแกร่งขึ้นไปด้วย สิ่งมีชีวิตที่หมอบคลานตะกี้ได้กลับขึ้นมายืน!

มันมีหน้ากากเงินบนใบหน้าและมีเขาสองเขาที่บนหน้าผาก ปีกเกล็ดที่หลังนั้นหายไปและแม้แต่สีของเกราะเทพอสูร ก็เริ่มที่จะเปลี่ยนไปช้าๆ มันได้กลายเป็นผ้าคลุมไฟและหางก็ได้ยื่นออกมา พลังอาฆาตแผ่ออกมาจากตัวมัน!

ชั่วร้าย!

บ้าคลั่ง!

เขาได้กลายเป็น เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต

“ฮ่า ฮ่า! นี่คือ ไข่มุกเลือด ของข้า ไม่ใช่ว่ามันพิเศษรึไง?” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ที่ยืนอยู่ข้างๆ มองร่างที่เปลี่ยนไปนี้ราวกับผลงานศิลปะ

“สุดยอด!” หลัวเฟิง อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “ทั้งพลังและออร่าของข้านั้นแผ่ออกมาโดยไข่มุก! มันถึงกับเปลี่ยนโครงสร้างร่างอมตะของข้าด้วย แต่พลังของข้าไม่ได้รับผลกระทบหลังจากที่เปลี่ยนร่างจากสัตว์อสูรเขาทอง และมันยังสามารถเปลี่ยนสีเกราะของข้าได้ด้วย วิเศษจริงๆ!”

“ข้าต้องฆ่า เจ้าแห่งจักรวาล ไปหนึ่งคนเพื่อสร้าง ไข่มุกเลือด” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ พูดต่อ “และข้าต้องฆ่าเขาทางจิตวิญญาณเพื่อเก็บร่างอมตะของเขาเอาไว้! จากนั้นข้าได้ใช้วัตถุดิบจำนวนมากกับร่างอมตะของเขาเพื่อเปลี่ยนมันเป็น ไข่มุกเลือด เพื่อที่มันจะได้ให้พลังและออร่าที่วิเศษออกมา! มันถึงกับสามารถเปลี่ยนร่างอมตะของเจ้าให้กลายเป็นโครงสร้างที่ข้าวางไว้ได้…”

หลัวเฟิง สับสน

ไข่มุกเลือด นั้นเป็นสมบัติที่แท้จริงในการปลอมแปลงมันไม่ได้ให้พลังต่อสู้แต่อย่างใดแต่มันเป็นที่ต้องการของผู้ยิ่งใหญ่มากมายแต่ หลัวเฟิง ไม่คิดว่ามันต้องฆ่า เจ้าแห่งจักรวาล ไปคนหนึ่งด้วยการฆ่าทางจิตวิญญาณ ก่อนที่มันจะถูกสร้างขึ้นมา บางทีคงมีแค่ เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด เท่านั้นที่สามารถทำแบบนั้นได้

“จำไว้!” ท่านผู้ยิ่งใหญ่ พูดขึ้น “ระวังไว้ตอนที่เจ้าใช้หอคอยดวงดาว หากเจ้าใช้หอคอยดวงดาวในการโจมตี คนอื่นอาจจะบอกไม่ได้ แต่เมื่อเจ้าใช้มันในตอนที่หนี แน่นอนว่ามันต้องถูกเปิดเผยแน่”

“ข้าเข้าใจ” หลัวเฟิง พยักหน้า

หอคอยดวงดาวหดขนาดลงมาเท่ากับฝ่ามือและอยู่ในรูปร่างโคน มันสามารถใช้เป็นอาวุธได้แต่ หลัวเฟิง ต้องขยายขนาดของมันหากเขาจะใช้มันหนีและจากนั้นมันก็จะถูกคนอื่นจำได้

“แน่นอนว่าเจ้าจะเปิดเผยตัวหากเจ้าใช้มันในการช่วยชีวิตเจ้าเอง” ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ยิ้ม “ไม่ว่าเจ้าจะใช้หอคอยดวงดาวในฐานะ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต หรือ หลัวเฟิง มันก็ขึ้นอยู่กับเจ้า”

หลัวเฟิง พยักหน้า ถ้า หลัวเฟิง ที่ใช้หอคอยดวงดาวถูกเปิดเผยและ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ใช้หอคอยดวงดาวถูกเปิดเผยออกมา โดยพื้นฐานแล้วก็เหมือนกับเขาบอกจักรวาลว่า หลัวเฟิง คือ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต!

“มีสมบัติอีกชิ้นไว้ช่วยตัวเจ้าเอง พระราชวังเมฆโลหิต ข้าเพิ่งเอาตราประทับชีวิตข้าคืนกลับมา” ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ยิ้ม “และจากนี้มันเป็นของเจ้า”

“พระราชวังเมฆโลหิต?”

หลัวเฟิง หันกลับไปมองวังนั้น เขาได้ส่งพลังอมตะของเขาไปที่พื้นและประทับตราชีวิตลงไปในวัง พระราชวังเมฆโลหิต ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเขาและทุกอย่างข้างในนั้นก็อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เขาถึงกับเห็นคลังสมบัติข้างในด้วย

“พระราชวังเมฆโลหิต เป็นสมบัติที่แท้จริงประเภทวังบิน” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ พูดขึ้น “มันมีค่าอย่างมาก จำไว้ว่าเจ้าใช้มันได้ก็ต่อเมื่อเจ้าปลอมตัวเป็น เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ไม่งั้นแล้วตัวตนของเจ้าก็จะถูกเปิดเผย”

หลัวเฟิง พยักหน้า

“ข้าหวังว่าข้าคงไม่ได้เอามันกลับมา” ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ยิ้ม

“ข้าไม่ใช่ศิษย์พี่รอง” หลัวเฟิง ตอบกลับ

“ข้าจะทำสัญญากับเจ้าเหมือนที่ข้าทำกับศิษย์พี่รองของเจ้า”

“สัญญา?” หลัวเฟิง ตั้งใจฟัง

ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ยิ้ม “หากเจ้าฆ่าเจ้าแห่งจักรวาล ได้สิบคน หรือ เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงได้ 1 คนตอนที่เจ้าเป็นอัศวินอวกาศ ข้าจะมอบสมบัติที่แท้จริงขั้นสูง ให้เจ้าด้วยวัตถุดิบที่เจ้าให้ข้ามา วัตถุดิบเหล่านั้นมีค่า 1 ส่วน 10 ของตัวสมบัติเอง”

ตาของ หลัวเฟิง เป็นประกาย สมบัติที่แท้จริงขั้นสูง นั้นเป็นที่ต้องการ แม้แต่ตัว เจ้าเมืองปฐมนครแห่งความโกลาหล และผู้ก่อตั้งขวานยักษ์เอง และ ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ก็ได้พนันกับสมบัติพวกนี้เอาไว้ด้วย

“แต่หากเจ้ากลายเป็น เจ้าแห่งจักรวาล เงื่อนไขนั้นก็จะมากกว่าเดิม เจ้าต้องฆ่า เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง อย่างน้อย 100 คนหรือ เจ้าแห่งจักรวาล ระดับสูงสุด 10 คนก่อนที่ข้าจะสร้างสมบัติที่แท้จริงขั้นสูง ให้เจ้า” ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ยิ้มออกมาแปลกๆ “เมื่อข้าบอกว่าสมบัติที่แท้จริงขั้นสูง นี่บ่งบอกถึงสมบัติที่แท้จริงประเภทพื้นที่ และวังบิน”

ตาของ หลัวเฟิง เป็นประกายขึ้นมา บัดซบ!

สมบัติที่แท้จริงที่ดีที่สุดตอนนี้ที่เผ่าพันธุ์มนุษย์มีคือสมบัติที่แท้จริงขั้นสูง ประเภทพื้นที่

“ข้าจะให้รายชื่อวัตถุดิบที่ต้องใช้สำหรับสมบัติที่แท้จริงที่เจ้าต้องการ” ท่านผู้ยิ่งใหญ่ พูดขึ้น “อย่าคาดหวังมากเกินไป วัตถุดิบที่ต้องใช้สำหรับสมบัติที่แท้จริงขั้นสูง ประเภทพื้นที่ นั้นมาก แม้แต่ที่เผ่าพันธุ์ของเจ้าไม่อาจจะรวบรวมได้หมด”

“แน่ล่ะ” หลัวเฟิง พูดขึ้นพร้อมกับเกิดแรงกระตุ้น

“จำไว้ว่าเจ้าต้องฆ่าเจ้าแห่งจักรวาล ได้ 10 คน หรือ เจ้าแห่งจักรวาลขั้นสูง 1 คนและถ้าเจ้ากลายเป็น เจ้าแห่งจักรวาล จำนวนก็จะมากกว่านั้น 10 เท่า” ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ถอนหายใจ “ข้าได้ให้สัญญากับศิษย์พี่ของเจ้าเอาไว้ เขาเป็น เจ้าแห่งจักรวาล ตอนที่ข้าส่งต่อตัวตน เจ้าแห่งเรือนจำแดนเหนือ แต่เขาไม่อาจทำตามเงื่อนไขข้าได้”

หลัวเฟิง พูดอะไรไม่ออก ฆ่า เจ้าแห่งจักรวาล 10 คน?

ช่างเป็นความต้องการที่มากจริงๆ!

พลังนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เจ้าแห่งจักรวาล นั้นเชี่ยวชาญในการเอาตัวรอด แม้ว่าจะมาเจอกับ เจ้าแห่งจักรวาล พวกเขาก็สามารถยื้อและขอความช่วยเหลือจากเพื่อน หรือแม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด จะมาถึงได้!

ยังไงซะทุกคนก็มีพลังที่จะสนับสนุนพวกนั้น และพวกนั้นก็จะของความช่วยเหลือในตอนที่เสี่ยงจริงๆ

แม้แต่ เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด ก็ยากที่จะฆ่าเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง 10 คนได้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจักรพรรดิเพลิง ถึงได้ล้มเหลว!

“ข้าต้องฆ่า เจ้าแห่งจักรวาล 10 คน หรือ เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง 1 คนงั้นรึ?” หลัวเฟิง อุทาน “ไม่มี เจ้าแห่งจักรวาล เลยสักคนที่จัดการได้ง่ายๆ และพวกเขาอาจจะเรียก เจ้าแห่งจักรวาล มาช่วยพวกเขา สำหรับ เจ้าแห่งจักรวาล แล้ว ที่ดีที่สุดที่ข้าทำได้คือสู้กับพวกเขาแต่การฆ่านั้นน่ะรึ?”

เงื่อนไขที่ ท่านผู้ยิ่งใหญ่ บอกออกมานั้นยากที่จะทำได้แต่ของรางวัลนั้นทำให้ หลัวเฟิง สนใจ

“อาจารย์เพียงอยากให้ข้าฆ่า” หลัวเฟิง มองไปที่ ท่านผู้ยิ่งใหญ่

“นี่คือเหรียญเมฆโลหิต” ท่านผู้ยิ่งใหญ่ โยนเหรียญสีแดงออกมา

หลัวเฟิง รับมัน มันดูคล้ายกับเหรียญที่อาจารย์มอบให้เขาเพื่อทำการติดต่อ

“หลังจากที่รู้ว่าเจ้าเป็นเจ้าของมัน เจ้าสามารถสั่งการบริวาร 18 คนโดยใช้เหรียญนี้ได้” ท่านผู้ยิ่งใหญ่ อธิบาย “ทาสทั้ง 18 นั้นเป็นอัศวินอวกาศและพวกเขาก็รับหน้าที่สำหรับร่างชีวิตอื่นๆ”

“บริวาร?” หลัวเฟิง เริ่มสงสัย

“ตอนที่ข้าสร้าง เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ข้าได้ช่วยร่างชีวิตพิเศษระหว่างการผจญภัยในจักรวาล พวกเขาต่างก็ขอร้องให้ข้าเป็นเจ้านายพวกเขา ข้าในฐานะร่างชีวิตพิเศษจึงเป็นที่ต้องการในการปกป้องพวกนั้น ยิ่งข้าใช้เวลาไปมากเท่าไหร่ ข้าก็ยิ่งช่วยพวกนั้นได้มากขึ้น 18 คน พวกนี้ได้กลายเป็นอัศวินอวกาศภายใต้การแนะนำของข้าและสามคนนั้นเป็น เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง เจ้าสามารถใช้เหรียญนี้เรียนรู้ข้อมูลพื้นฐานของทั้ง 18 คนได้ ข้าปกป้องพวกเขามานานและตอนนี้มันเป็นตาของเจ้าแล้ว ดูแลพวกเขาเมื่อเจ้าทำได้” ท่านผู้ยิ่งใหญ่ หยุดไปชั่วครู่ “หอคอยดวงดาว, เกราะพลัง และพระราชวังเมฆโลหิต…เจ้าได้ทุกอย่างแล้วและข้าก็ทำทุกอย่างที่ข้าทำได้แล้ว ตอนนี้เจ้าคือคนที่จะกำหนดอนาคตของเจ้าเอง”

ท่านผู้ยิ่งใหญ่ มองไปที่ หลัวเฟิง และจากนั้นเขาก็หายไป

หลัวเฟิง ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เขารู้สึกได้ถึงความคาดหวังจากสายตาที่อาจารย์มองเขา ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ได้สั่งสอนจักรพรรดิเพลิง และเขาได้สั่งสอน หลัวเฟิง อีกอย่างแล้วเขาต้องการคือให้ศิษย์เป็นเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงสุด

บางทีมันอาจจะมีความลับเบื้องหลังเรื่องนี้ หลัวเฟิง คิด

หลัวเฟิง หยิบเหรียญขึ้นมา อาจารย์ได้บอกให้เขาดูแลพวกร่างชีวิตพิเศษเท่าที่เขาจะทำได้ แน่นอนว่าเขาควรทำสุดความสามารถ

******

หลัวเฟิง ได้สั่งการบริวารทั้ง 18 ผ่านทางเหรียญ เขาบอกให้พวกนั้นนำร่างชีวิตพิเศษที่ตัวเองปกครองมาพบเขาที่พระราชวังเมฆโลหิต

“นายท่านต้องการพบเรา”

“เร็วเข้า”

“เจ้าโชคดี เจ้าตัวน้อย นายท่านต้องการพบเจ้า”

“อ่ะ! เราเป็นเพียงระดับห้วงมิติ เราจะได้พบนายท่านจริงๆ รึ?”

ทีมร่างชีวิตพิเศษใน เขตรกร้างลับ เริ่มแห่กันไปยัง พระราชวังเมฆโลหิต มันเหมือนกับการเดินทางไกลสำหรับพวกนี้ ยังไงซะ เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต ก็เป็นเพียงคนเดียวที่ติดต่อกับอัศวินทั้ง 18 ส่วนคนอื่นๆ นั้นไม่มีทางติดต่อกับนายท่านของพวกเขาได้เลย

พวกเขาได้ไปรวมตัวกันหลังจากผ่านมา 1 วัน อัศวินอวกาศทั้ง 18 ได้พาร่างชีวิตพิเศษที่ตัวเองปกครองมุ่งหน้ามายัง พระราชวังเมฆโลหิต

ด้านในวังหลักของ พระราชวังเมฆโลหิต นั้น ผู้นำท้องฟ้าทมิฬ, อัศวินมังกรเงิน , และ เจ้าแห่งปีศาจหนาม ยืนอยู่ตรงหน้าโดยมี เจ้าแห่งจักรวาล และอัศวินอวกาศ 15 คนด้านหลัง พวกเขามีสิ่งมีชีวิตพิเศษระดับอมตะ นับร้อยตามมาโดยมีพวกระดับห้วงมิติตามมาด้านหลัง

“นายท่าน” เจ้าแห่งจักรวาลระดับสูง ทั้งสามพูดขึ้นมา

“นายท่าน” คนอื่นๆ เองก็พูดตามมาด้วย

เจ้าแห่งพระราชวังเมฆโลหิต นั่งอยู่บนบัลลังก์สีเลือดของตนและมองลงมายังพวกนั้น