Skip to content

Swallowed Star 115

ตอนที่ 115 อนาคตใหม่

หลัวเฟิงยังคงยืนนิ่งขณะที่ฝูงกระทิงอำมหิตถาโถมเข้ามาใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง  ด้วยโล่หกเหลี่ยมในมือข้างหนึ่งและดาบปีศาจในมืออีกข้าง เขายังคงสงบนิ่งอยู่ ณ ตำแหน่งเดิม

“ครืนนน…” เสียงพ่นลมหายใจของฝูงกระทิงบ้าเลือดดังสั่นประสาทไปทั่วบริเวณ ในที่สุดกระทิงตัวที่อยู่หน้าสุดก็พุ่งเข้าถึงตัวหลัวเฟิง…หลัวเฟิงที่เคยเผชิญหน้ากับฝูงสัตว์ประหลาดมาแล้วมากมาย เขาผ่านประสบการณ์มาแล้วอย่างโชกโชน…จังหวะเท้าออกข้างอันสวยงาม ความเร็วดาบอันว่องไวราวสายฟ้าแลบ!

วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้น ขั้นที่ 3 ระเบิดพลัง 21 เท่าออกมาแล้ว!

เลือดสาดทะลักออกมาจากลำคอของกระทิงอำมหิตตัวแรกตัวนั้น

“1 ตัว!” แววตาของหลัวเฟิงเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งและเขาก็สงบนิ่งที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา

เขายืนเผชิญหน้ากับฝูงสัตว์ประหลาดที่พุ่งเข้ามา และเขาก็ไม่หวั่นไหวกับพวกที่พยายามวิ่งล้อมกรอบเขาเลย!

“พวกกระทิงอำมหิตพวกนี้มันตัวโตจริงๆ โตยิ่งกว่าพวกหมูป่าขนเหล็กเสียอีก พวกมันอย่างกับรถถัง! แต่ก็เพราะพวกมันใหญ่โตถึงเข้าโจมตีเราได้แค่ครั้งละสองสามตัวเท่านั้น” หลัวเฟิงเข้าใจแล้ว…เขาใช้ร่างกายอันใหญ่โตของพวกมันเองเป็นสิ่งช่วยต้านพรรคพวกของมัน เขาใช้การเคลื่อนที่ไปรอบๆ ตรงพื้นที่ที่ว่างพอให้ขยับไป!

เวลาผ่านไปวินาทีแล้ววินาทีเล่า

เทคนิคระดับกลางของหลัวเฟิงเกือบจะสมบูรณ์แบบแล้ว เขาสามารถหลบหลีกไปรอบๆ ท่ามกลางฝูงของกระทิงอำมหิตได้อย่างคล่องแคล่ว โชคดีที่หลัวเฟิงมีประสบการณ์มากมายในการเผชิญหน้ากับฝูงสัตว์ประหลาดมาก่อน ถ้าเขาไม่มีประสบการณ์มันจะเป็นปัญหาใหญ่แน่ที่ต้องเผชิญหน้ากับฝูงกระทิงอำมหิต 100 ตัวแบบนี้

ยิ่งกว่านั้น การสำเร็จขั้นที่ 3 ของวิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้นของหลัวเฟิงยังช่วยให้เขาฆ่าพวกกระทิงอำมหิตได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวอีกด้วย!

31, 32, 33…เขานับขึ้นเรื่อยๆ…กระทิงอำมหิตทั้งเผ่นกระโจน และพุ่งเข้าใส่ ดูราวกับใบไม้ร่วง…หลัวเฟิงหลบหลีกแทบไม่ทัน

“บ้าจริง!”

เขาแหลมๆ ของตัวหนึ่งเฉี่ยวผ่านหน้าเขาไป ในขณะเดียวกันศพของกระทิงตัวหนึ่งด้านหลังเขาก็กระแทกเข้ามาจากด้านหลังอย่างแรงจากการพุ่งเข้าชนของตัวที่อยู่ด้านหลัง ทันใดนั้น พื้นที่ล่าถอยของหลัวเฟิงก็ถูกปิดกั้นไว้ในทันที ด้วยเหตุผิดพลาดเช่นนี้พวกกระทิงทั้งด้านหน้า ด้านหลังและด้านบนต่างก็พุ่งเข้าล้อมกรอบเขาอย่างรวดเร็ว! เขาเข้าใกล้สถานการณ์ที่ต้องสิ้นหวังเสียแล้ว!

ปัง!

ทันใดนั้น กระทิงอำมหิตตัวหนึ่งก็พุ่งเข้ามาปะทะกับหลัวเฟิงอย่างรุนแรงทางด้านซ้ายมือ

ครืนน…

คลื่นพลังมหาศาลพุ่งเข้าปะทะกับแขนข้างซ้ายของหลัวเฟิงจนเขาต้องถอยหลังมาหลายก้าว เลือดสดๆ เริ่มทะลักออกมาจากปากเขา ขณะที่เขาก้าวถอยหลัง เขาก็ก้าวเบี่ยงตัวกะทันหัน ในทันทีนั้นเองแสงสะท้อนวูบจากคมดาบก็ปรากฏขึ้นในชั่วเสี้ยวพริบตา

ชิ้ง!

ราวกับสายฟ้าแลบ ดาบอันคมกริบตัดผ่านกีบขาหน้าของกระทิงอำมหิตตัวหนึ่งที่พุ่งมาจากทางด้านบน หลังจากถูกตัดขาดกีบเท้านั้นก็ร่วงลงสู่พื้น หลัวเฟิงพุ่งเข้าไปราวกับสายฟ้าแล้วใช้สันดาปฟาดเข้ากับกีบเท้าที่กำลังร่วงหล่นอยู่นั้น ราวกับกระสุนปืนใหญ่ กีบเท้าที่โดนฟาดพุ่งทะยานเข้าหากระทิงอำมหิตตัวหนึ่งที่พุ่งเข้ามาจากทางด้านหลัง!

เหตุการณ์ชุลมุนสุดขีด!

ต้องไม่ลืมว่ากระทิงอำมหิตที่กำลังพุ่งเข้ามานั้นพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว 100 เมตรต่อวินาที ในพื้นที่ไม่ถึง 10 ตารางเมตรนี้ภายใน 0.8 วินาที หลัวเฟิงซัดกระทิงบาดเจ็บสาหัสไป 3 ตัวและฆ่าตายไปแล้ว 5 ตัว แต่เพราะเขาได้รับบาดเจ็บหนัก จึงทำให้เขายิ่งลำบากหนักมากกับสถานการณ์คับขันนี้

“ถึงการโจมตีแต่ละครั้งของเราจะมีประสิทธิภาพ แต่เราจะรับมือกับทั้งฝูงไปตลอดไม่ได้!” ก่อนหน้านี้ หลัวเฟิงทุ่มพลังกับการโจมตีแต่ละครั้งให้ได้แรงมากที่สุด แต่ทว่า ยิ่งทุ่มแรงใส่การโจมตีมากเท่าใด ความลึกของดาบก็ยิ่งทำให้เขาต้องใช้แรงถอนออกมาเท่านั้นเช่นกัน

ถ้าหลัวเฟิงสามารถโจมตี 10 ครั้งในพริบตาเดียวและฆ่ากระทิงอำมหิตที่รายล้อมอยู่ได้ทั้งหมด เขาก็คงจะไม่ต้องพึ่งพาเทคนิคระดับสมบูรณ์แบบขั้นกลางเพื่อหลบไปรอบๆ เช่นนี้ ใช่…เขาอาจสามารถฆ่ากระทิงอำมหิตทั้งหมดได้โดยง่าย! แต่อย่างไรก็ตามจะต้องใช้ความแม่นยำมากๆ ที่จะโจมตีกระทิงอำมหิตถึง 10 ตัวที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว 100 เมตรต่อวินาทีภายในพริบตาเดียวเช่นนั้น

หลัวเฟิงไม่กล้าแม้แต่จะผ่อนคลาย ความจริงคือ เมื่อครั้งที่เขาดิ้นรนเอาตัวรอดจากคาร์ฟูร์ที่เมืองหมายเลข 003 เขาได้พบกับประสบการณ์เทคนิค ระดับสมบูรณ์แบบ มาแล้วในห้วงเวลา 1.2 วินาที

ใช้สิ่งแวดล้อมเป็นส่วนช่วย!

มนุษย์กับสิ่งแวดล้อมรวมกันเป็นหนึ่ง!

“ต้องอย่างนี้!” เนื่องจากกระทิงอำมหิตทุกตัวเป็นระดับบัญชาการขั้นต่ำ ความกดดันนี้จึงทำให้หลัวเฟิงตระหนักรู้ถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างลึกซึ้งหลังจากฆ่าพวกกระทิงไปแล้ว 70 ตัว หลัวเฟิงรับรู้ถึงซากของกระทิงอำมหิตที่นอนกองรายล้อมอยู่และสภาพทุ่งหญ้ารอบๆ ตัวเขา

ไม่จำเป็นต้องใช้สมองอะไรให้มากมายนัก ทำตามสัญชาตญาณโดยใช้ซากกระทิงที่ตายแล้วเป็นสิ่งช่วยป้องกันตัวอย่างแยบยล

แทบไม่มีจังหวะให้ได้หายใจ!

ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

หัวของกระทิงอำมหิตกระเด็นหลุดลอยตัวแล้วตัวเล่า เลือดสดสาดกระเซ็นไปทั่วทั้งบริเวณ

“ใช้เวลา 21 นาที 18 วินาที ฆ่ากระทิงอำมหิตครบ 100 ตัว…บททดสอบระดับ B ผ่าน! ยินดีด้วย นักเรียนหลัวเฟิง” เสียงอิเล็คโทรนิคดังก้องไปทั่วทุ่งหญ้านั้นราวกับเสียงยักษ์ร้องป่าว

เสียงนั้นทำให้หลัวเฟิงตื่นจากภวังค์ขึ้นมาแล้วอดหัวเราะขื่นๆ ออกมาไม่ได้ “ทำไมไม่ส่งพวกมันมาอีกเล่า ตอนที่กำลังมันส์มือเนี่ย”

วิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้น รวมกับเทคนิค หลิวกวง ของหลัวเฟิง เขาได้เข้าใจมันแล้ว…

ตอนนี้ที่ยากก็คือการจะขยับจากขั้นประณีตขึ้นไปหาขั้นสมบูรณ์แบบ!

ในครั้นนั้น…หลัวเฟิงใช้พลังจิตของเขาเพื่อช่วยให้รับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัว ด้วยความโชคดี เขาได้เข้าถึงขั้นสมบูรณ์แบบโดยบังเอิญ แต่อย่างไรก็ตาม ในโลกจำลองนี้ไม่มีพลังจิตให้ใช้แม้แต่น้อยและฝูงสัตว์ประหลาดก็ไม่เหมือนในโลกความเป็นจริง เป็นฝูงของพวกระดับบัญชาการแบบล้วนๆ และแต่ละตัวก็ตรงดิ่งเข้าใส่เขาคนเดียวอย่างบ้าคลั่ง ดังนั้น สิ่งนี้จึงทำให้เขาผลักดันขีดจำกัดสุดขั้วของตัวเองออกมา!

เขาไม่รู้ขั้นตอนการเข้าไปสู่สถานะ ขั้นสมบูรณ์แบบ และการคงสถานะเอาไว้ให้นานๆ เลย ต้องขอบคุณการทดสอบนี้ มันจะทำให้เขาสามารถเข้าถึงขั้นสมบูรณ์แบบได้ง่ายขึ้นในอนาคต แต่น่าเสียดายที่หลัวเฟิงได้ใช้มันอยู่แค่ช่วงอึดใจเดียวเท่านั้น เพราะเขาใช้เวลาไปน้อยกว่า 5 นาทีในการฆ่ากระทิงอำมหิต 30 ตัวสุดท้าย เมื่อบททดสอบจบลง หลัวเฟิงก็ออกจากสถานะนั้นทันที

“นักเรียนหลัวเฟิง คุณจะออกจากระบบโดยอัตโนมัติ ภายใน 5 วินาที 5…4…3…2…1…”

………………

ณ ค่ายฝึกหัวกะทิ บนชั้นที่ 9 แห่งตึกมหานที

ขณะที่หยางฮุยและหลัวเฟิงกำลังเดินคุยเพลินกันออกมาจากห้องทดสอบ บรรดานักสู้อัจฉริยะจากทั่วโลกที่อยู่ในล็อบบี้ก็พากันหันมองมายังพวกเขาด้วยสายตาประหลาดใจ เด็กหนุ่มผิวเหลืองคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยถามขึ้นอย่างสนใจ “อาจารย์ เขาผ่านไหมครับ?”

“ผ่าน” หยางฮุยยิ้ม “ฉันต้องไปจัดการขั้นตอนทุกอย่างให้เสร็จก่อน น่าจะเสร็จราวๆ บ่ายโมง พวกนายไปฝึกกันได้แล้ว”

หลังจากที่ทุกคนตรงนั้นเข้ามาคุยกับหลัวเฟิงแล้วก็หันไปคุยกันเองอย่างสนอกสนใจ ดูแล้วพวกเขาจะตื่นเต้นกันมากๆ

หลัวเฟิงและหยางฮุยออกจากตึกมหานพด้วยร่มที่อยู่ในมือกันทั้งสองคน เพราะท้องฟ้าตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำทะมึนก้อนยักษ์และเริ่มโปรยเม็ดฝนลงมาแล้ว

“ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีนักเรียนแค่ราวๆ 180 คนเท่านั้น แต่ก็ล้วนอยู่ในสายตาของประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ทั้ง 5 และจากครอบครัวที่ทรงอิทธิพลของพันธมิตรใต้ดินและยักษ์ใหญ่อื่นๆ ทั้งนั้น “หยางฮุยกล่าว “หลัวเฟิง…ถ้านายสามารถผ่านที่นี่ได้ล่ะก็ อนาคตของนายสดใสแน่! ขณะที่อยู่ในค่ายฝึก พวกองค์กรพิเศษ รัฐบาลและตระกูลใหญ่ๆ ของพันธมิตรใต้ดินจะพยายามโน้มน้าวนายให้เข้าร่วมงานกับพวกเขา…ทั้งเงิน ผู้หญิง และสิ่งดึงดูดต่างๆ จะถูกงัดออกมาล่อนาย แต่อย่างไรก็ตาม นายจะต้องมุ่งมั่นกับสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนนั่นคือการเพิ่มความแข็งแกร่งของนาย! พยายามปฏิเสธสิ่งล่อใจพวกนั้น นายจะต้องมีเป้าหมายเดียวเท่านั้นคือ…ยกระดับตัวเองให้ได้! รวมทั้งนายแล้วนักเรียนที่นี่จะมี 183 คน นักเรียนแต่ละคนก็ล้วนเป็นอัจฉริยะด้วยกันทั้งนั้น นายจะต้องก้าวข้ามพวกเขาและผลักดันตัวเองขึ้นไปให้ได้!” หยางฮุยกล่าวอย่างจริงจัง

หลัวเฟิงพยักหน้า

“นายเลือกเลขที่จะตั้งเป็นรหัสประจำตัวหรือยังล่ะ?” หยางฮุยถาม “วันที่เป็นวันที่ 29 มีนาคม ดังนั้นนายได้เข้าร่วมกับค่ายฝึกนี้อย่างเป็นทางการก็วันที่ 1 เมษา…งั้น เลข 4 ตัวแรกของรหัสประจำตัวนายจะต้องเป็น 5704 และสำหรับเลข 2 ตัวสุดท้ายนายก็เพิ่มเข้าไปเองได้เลยเพราะนายเป็นเพียงคนเดียวที่เข้าร่วมกับค่ายฝึกในเดือนเมษานี้”

หลัวเฟิงตระหนักรู้ได้ทันทีว่าตัวเลขที่ถูกแสดงอยู่บนเกล็ดของมังกรสีดำตัวนั้นคืออะไรกันแน่

รายชื่อแรกในลำดับนั้นที่เขาได้เห็นก็คือ…อันดับ 1 เรนาตัส บริดจ์ (530321) ดูเหมือนว่าคนๆ นั้นจะเข้าร่วมกับค่ายฝึกตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2053 นับจนถึงปัจจุบันเขาอยู่ที่ค่ายมาถึง 4 ปีแล้ว

“ตัวเลข 2 ตัวท้ายนายเลือกอะไร?” หยางฮุยถาม

“อืม…03 แล้วกันครับ!” หลัวเฟิงตอบ

มาจากไข่มังกรของเมืองหมายเลข 003 และราคา 3 หมื่นล้านของราคายาอายุวัฒนะ สองอย่างนี้ทำให้หลัวเฟิงคิดว่าตัวเลข 3 น่าจะเหมาะใช้เป็นรหัสที่สุด

“โอเค” หยางฮุยพยักหน้า “รหัสนักเรียนของนายคือ 570403 นะ แล้วเดี๋ยวกระบวนขั้นตอนข้อมูลทุกอย่างก็คงจะเสร็จในอีกเร็วๆ นี้แหละ”

รายชื่อที่ 183 …อันดับที่ 183 หลัวเฟิง (570403) ปรากฏขึ้นบนเกล็ดของรูปปั้นมังกรสีดำขนาดมหึมาในค่ายฝึกหัวกะทิแล้ว

ข่าวนี้แพร่สะพัดไปทั่วโลกและหัวเมืองใหญ่ๆ อย่างรวดเร็ว กองทัพของรัฐบาล เก้าตระกูลใหญ่แห่งพันธมิตรใต้ดิน และตระกูลทรงอิทธิพลอีกนับสิบต่างก็ได้รับข่าวนี้เช่นกัน ในวันนั้นเององค์กรสำคัญมากมายล้วนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับหลัวเฟิงไปแล้ว! ข้อมูลทุกๆ อย่าง…ตั้งแต่ที่ที่เขาเกิด เขาเคยอยู่ในอพาร์ทเมนต์ถูกๆ และ…

เรื่องครอบครัวของเขา…ทุกสิ่งที่ถูกบันทึกเอาไว้

…………..

ณ อาคารใต้ดิน หัวเมืองเกียวโต ประเทศจีน…

ชั้น B3

ในห้องทำงานที่ถูกตกแต่งไว้อย่างหรูหรา ชายร่างผอมในชุดฝึกหลวมๆ ยืนเอามือข้างหนึ่งท้าวโต๊ะและมืออีกข้างกำลังพลิกเปิดดูเอกสารที่บรรจุข้อมูลของหลัวเฟิงพร้อมกับอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ

“ติดต่อสาขาที่เจียงหนานและส่งคนให้เข้าไปตามดูครอบครัวของหลัวเฟิงตลอดเวลา อย่างแรก ดูให้แน่ใจว่าครอบครัวของเขาจะไม่ออกจากเจียงหนาน และอย่างที่สองต้องทำให้แน่ใจว่าครอบครัวของเขาจะปลอดภัย ฉันจะไม่ยอมให้เหตุการณ์เหมือนครั้งที่แล้วเกิดขึ้นอีก!”

ชายร่างผอมเคราเป็นพุ่มดำเหมือนมีตัวตุ่นเกาะอยู่ที่คางมีแววตาเศร้าขุ่นมัว

“ครัว”

บรรดาองค์กรยักษ์ใหญ่ ตระกูลที่ทรงอิทธิพล กองทัพรัฐบาล ล้วนได้รับข้อมูลของหลัวเฟิงที่เพิ่งจะเข้าร่วมกับค่ายฝึกหัวกะทิไปแล้วทั้งนั้น! ในขณะเดียวกัน ในฐานะของผู้อำนวยการพันธมิตรใต้ดินแห่งประเทศจีน…เวนีน่า พอลลินัน เธอก็ได้รับข้อมูลของหลัวเฟิงแล้วเช่นกัน

………..

ณ คฤหาสน์หรูบนยอดเขาอันสวยงาม เขตซานสุ่ยแห่งเจียงหนาน

“เวนีน่า หลัวเฟิงนี่เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยของเราไม่ใช่เหรอ?” ขณะที่เขาเปิดดูเอกสาร อีแร้งหลี่เย่าก็นึกตงิดๆ เกี่ยวกับชื่อหลัวเฟิงที่เคยผ่านตาในรายชื่อผู้ต้องสงสัย

“ใช่ ตอนที่เสี่ยวเวยตาย หลัวเฟิงอยู่ค่อนข้างใกล้จุดที่เขาอยู่ทีเดียว” เวนีน่าส่ายศีรษะ “แต่เขาอายุแค่ 19 ปีเองและเขาก็เพิ่งจะเป็นแม่ทัพขั้นต้นเท่านั้น อีกทั้งตอนนี้ตระกูลของเรากำลังพยายามหาทางโน้มน้าวเขาให้มาร่วมงานกับเราด้วยล่ะ”

“แล้วเขาเข้าร่วมกับทางค่ายฝึกหัวกะทิได้ยังไง หรือว่าเขาจะเป็นนักอ่านจิต?” หลี่เย่าตาเป็นประกาย

“ไม่หรอก…คุณก็ลองอ่านเอกสารดูก่อนสิ” เวนีน่าส่ายศีรษะ “เย่า ฉันคิดว่าคุณกลายเป็นคนคิดมากไปแล้วหลังจากที่มัวหมกมุ่นอยู่กับการหาผู้ต้องสงสัย ตอนนี้ใครๆ ก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัยสำหรับคุณไปหมดแล้ว”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!