ตอนที่1178 การก้าวผ่านไปสู่การจุติ
ในระยะไม่ไกลก็มีเสาหินอีกเสา หากมองผ่านๆ มันก็เหมือนกับเสาหินอื่นๆ หากมองเข้าไปใกล้ๆ จะพบกับรอยเล็บจางๆ อยู่ ขนาดของมันเท่ากับฝ่ามือมนุษย์โลก แต่มันมีสี่รอย มันได้ถูกสลักไว้บนเสาหิน
“รอยกรงเล็บนี้หมายถึงอะไร ใครเป็นคนที่ทิ้งรอยเล็บในพื้นที่เต็มไปด้วยไฟ ถ้าเป็นเจ้าแห่งจักรวาลที่มีเกราะป้องกันคงจะพบความตายเมื่อมายังที่นี่”
หลัวเฟิงมีความสับสนอยู่ลึกๆ ช่องทางเข้าหลักของพื้นที่ยอดเอียงอยู่ตามรอยแตกของหน้าตัดภูเขา หลัวเฟิงเข้ามาภายในภูเขาตามเส้นทางจากเขตน้ำ หากตามที่เขาคำนวณเขาควรอยู่ในพื้นที่ด้านล่างของพื้นที่หลักภูเขายอดเอียง
จากบนสู่ล่าง ภายในส่วนลึกของยอดเอียงจะต้องเป็นพื้นที่ไม่ธรรมดา ไม่เคยมีการบันทึกในส่วนภูเขาหินนี้ในเผ่าพันธุ์มนุษย์ มันจึงเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าไม่ใช่พื้นที่ธรรมดาทั่วไป
“อาจมีเพียงสิ่งมีชีวิตชั้นยอดที่พิเศษหรือสิ่งมีชีวิตสูงสุดเท่านั้นที่จะมายังที่นี่” หลัวเฟิงสันนิษฐาน
หอคอยดวงดาวบินไปตามเสาหิน หอคอยดวงดาวที่เล็กเหมือนกับเมล็ดพืชได้สังเกตรอยกรงเล็บอย่างดี
“มีเม็ดทรายอยู่ตรงกลางรอยกรงเล็บ”
ดวงตาของหลัวเฟิงส่องประกาย รอยกรงเล็บประกอบไปด้วยกรวดทรายจำนวนมาก การจัดเรียงของเม็ดทรายดูไม่สวยงาม แต่ตรงกลางมีออร่าที่แปลกกว่าส่วนอื่นๆ
“เข้าไปข้างในดู”
ส่วนยอดของหอคอยดวงดาวแตะเข้าไปยังเม็ดทราย
หอคอยดวงดาวทั้งหมดถูกดูดเข้าไปในเม็ดทรายในทันที
———-
ภายในช่องวางกาลอวกาศในเม็ดทราย อุณหภูมิโดยรอบมันต่ำกว่าภายนอก เทียบได้กับอุณหภูมิแกนกลางดวงดาว อุณหภูมิภายนอกสามารถเผาผลาญพลังงานอมตะของเจ้าแห่งจักรวาลทั้งหมดได้ ส่วนในนี้เป็นสิ่งที่ทนได้
ร่างเผ่าโมชานได้โผล่ออกมาจากหอคอยดวงดาว หอคอยดวงดาวได้ลงมาอยู่บนไหล่ของเผ่าโมชาน
ร่างเผ่าโมชานมองไปยังพื้นที่รอบๆ มันเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ที่เงียบจนไร้เสียง นอกจากมีภูเขาหินมากมายและพื้นที่กว้างใหญ่ก็ไม่มีอะไรที่พิเศษ
ก่อนหน้านี้หลัวเฟิงได้เข้าไปในช่องว่างภายในหนึ่งเม็ดทราย มันก็สงบเงียบไม่มีอะไรเลยแบบนี้เช่นเดียวกัน
“หนึ่งในเม็ดทรายที่เห็นถึงความแตกต่างจนเห็นได้ชัด ข้าไม่เชื่อว่ามันจะไม่มีอะไรพิเศษที่นี่”
“อาณาจักรสีทอง”
แสงสีทองแผ่ขยายออกไปทั่วพื้นที่ มันเป็นเพียงภูเขาหินที่ไม่มีอะไรพิเศษ
ภูเขาในพื้นที่ยอดเอียงนั้นพิเศษ มันแข็งแรงทนทานจนต้องใช้กำลังทั้งหมดเพื่อที่จะทำลายมัน ส่วนที่ได้รับความเสียหายจะจับตัวรวมกันเพื่อฟื้นฟูกลับสภาพเดิม พลังงานอมตะทั้งหมดจะถูกต่อต้านเกือบทุกๆ ส่วน
“มันเพียงภูเขาหินธรรมดา พื้นที่ในเม็ดทรายนี้ไม่เหมือนกับอันอื่นๆ งั้นหรือ”
ร่างเผ่าโมชานได้แสดงออกถึงความสุข
ด้วยหนึ่งก้าวทำให้เขาเคลื่อนที่ไปหลายพันกิโลเมตรจนมาอยู่บนยอดภูเขาหินหนึ่ง บนภูเขาหินมีกำแพงหินที่ปล่อยคลื่นประหลาดออกมา บนพื้นผิวของกำแพงหินพบสองสิ่ง หนึ่งเป็นจี้สีเขียวที่มีการแกะสลักสัตว์แปลกๆ อยู่บนผิว ส่วนอีกหนึ่งเป็นผ้าที่สวยงามหาใดเปรียบ ผ้ามีลวดลายซับซ้อนที่ผสมกับสีดำและทอง ออร่าที่ออกมาจากผ้าทำให้ร่างเผ่าโมชานแสดงความตกตะลึง
“สองอย่างนี้…”
ร่างเผ่าโมชานแสดงความยินดี คลังข้อมูลจำนวนมากของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เขาให้เพื่อระบุสิ่งของทั้งสองอย่าง
“มันเป็นของจากดินแดนอันตรายที่สุดทั้งสามของมหาสมุทรจักรวาล”
หลัวเฟิงมองที่จี้สีเขียว
“มีคำพูดที่กล่าวไว้ว่า เป็นสิ่งของที่ถูกครอบครองโดยผู้มีอำนาจที่พิเศษในเรือจักรวาล ความเสี่ยงอันตรายต่ำ มีพื้นที่สำหรับฝึกฝนหากใครก็ตามที่มีจี้นี้”
เรือจักรวาลที่เสียหายถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในสามดินแดนอันตราย มันมีขนาดที่ใหญ่มาก มันมีขนาดหลายร้อยปีแสง สามารถดูดกลืนพลังงานแห่งความโกลาหล ทำให้โดยรอบมันถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศที่อันตราย และรุนแรง ภายในเรือจักรวาลนั้นเต็มไปด้วยอันตราย
เรือจักรวาลปรากฎขึ้นมาในอดีตเมื่อนานมาก มันก่อนที่จะเกิดดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง และไม่มีใครที่ไม่รู้ที่มาของมัน นอกจากนี้ เรือจักรวาลได้ดูดกลืนจักรวาลขาดเล็ก สร้างความเสียหายให้กับจักรวาลที่ดึงดูดมาที่มัน มันเพียงแค่ดูดกลืนเข้ามาเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ชื่อเรือจักรวาลของมันจึงเหมาะสมที่สุด มันจึงเป็นยานที่ได้รับความเสียหายแต่เต็มไปด้วยพลัง มันเต็มไปด้วยอันตรายและสมบัติที่ซ่อนอยู่
อันตรายที่อยู่ภายในเรือจักรวาลนั้นสามารถทำลายเจ้าแห่งจักรวาลสูงสุด สมบัติที่ยังคงซ่อนอยู่สามารถทำให้เหล่าสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่นั้นคลั่งได้
เหรียญประหลาดที่อยู่ในเรือจักรวาลที่ใครได้ครอบครอง ดินแดนอันตรายบางแห่งอาจไม่เป็นอันตรายกับเขาอีกต่อไป ถึงมันจะไม่สามารถใช้กับดินแดนอันตรายทั้งหมด เหรียญแต่ละอันจะมีห้องลับขนาดมหึมาที่ส่งผลต่อเหรียญ ทุกห้องลับจะเป็นพื้นที่แยกของตัวมันเอง
“แผนที่ระบุตำแหน่ง” หลัวเฟิงมองไปยังของอีกชิ้น
ของชิ้นแรกคือเหรียญจากเรือจักรวาล ส่วนอีกอันคือแผนที่ระบุตำแหน่ง
เจ้าแห่งจักรวาลยันอาได้ใช้แผนที่เพื่อให้แต่ละฝ่ายต่อสู้กันเพื่อมัน แผนที่เป็นวัสดุที่สำคัญในการสร้างสมบัติแท้จริงประเภทภาพลวงตา
ชิ้นส่วนแผนที่ที่หลัวเฟิงได้ก่อนหน้านี้มันเพียงแค่เศษเล็กน้อยเท่านั้น หากเทียบกับแผนที่ที่เจ้าแห่งจักรวาลยันอาเอาออกมาในตอนแรก ของที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นใหญ่กว่าเล็กน้อย
“มันสิ้นเปลืองแค่ไหนในการสร้างแผนที่ที่มีขนาดใหญ่แบบนี้ อาจมีเพียงแค่เจ้าแห่งจักรวาลสูงสุดเท่านั้นที่สามารถทำสิ่งนี้ได้”
ร่างเผ่าโมชานยืดพลังงานอมตะออก
เส้นแสงพลังงานอมตะได้ใหลเข้าไปในผ้า จิตสำนึกได้ถูกดึงเข้าสู่พื้นที่เสมือนของแผนที่
ภายในพื้นที่เสมือนจริงเป็นเรือจักรวาลขนาดใหญ่ เส้นแสงสีแดงรวมกันบางพื้นที่ภายในเรือจักรวาล พื้นที่เสมือนได้จำลองแต่ละพื้นที่ขึ้นราวของจริง คำอธิบายถึงการสำรวจพื้นที่อันตรายและวิธีหลีกเลี่ยงอันตราย
“นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนที่เรือจักรวาล?”
ร่างเผ่าโมชานดึงพลังงานอมตะกลับ เขาที่ได้เข้าใจกำลังมีความสุข สามดินแดนที่อันตรายที่สุด พื้นที่ยอดเอียง เรือจักรวาล ทิวเขาไร้สิ้นสุด(Flowing Countless Mountains) เหล่านี้เป็นที่เกิดของสมบัติแท้จริงสูงสุดจำนวนมาก และเป็นสถานที่พบเห็นสมบัติแท้จริงชั้นยอดได้ทั่วไป สมบัติล้ำค่ามักอยู่ในสภาพแวดล้อมอันน่ากลัว แผนที่ละเอียดมากเท่าไรก็ยิ่งมีค่ามากเท่านั้น
แผนที่นี้ดีพอๆกับเจ้าแห่งจักรวาลยันอานำออกมาในตอนแรก ด้านมูลค่าของมันไม่ด้อยไปกว่าไม้สีดำประหลาด และตอนนี้มันเป็นของหลัวเฟิงคนเดียว
มีคลื่นยักษ์ปะทุออกมาจากกำแพงหินตรงหน้าหลัวเฟิง เขาเพิ่งหยิบเหรียญสีเขียวขึ้นมาจึงทำให้เขามองขึ้นไปดู
มีสองร่างปรากฎขึ้น หนึ่งในนั้นสวยงามและปกคลุมด้วยใบไม้สีเขียว เธอดูคล้ายกับการมีอยู่ของจักรวาล หลัวเฟิงรู้สึกถึงความอ่อนโยน อีกร่างสวมเสื้อคลุมยาวสีเทา ดูผ่านๆ คล้ายกับไม้ที่ตายแล้ว หัวเขาเหมือนคริสตัล ไม่มีหูหรือจมูกมีเพียงสามตากับปาก
“ข้าคือเจีย ฟานฉี” ร่างสีเทากล่าว
“ข้า เจิ้นหลิน” หญิงสาวสวยงามที่ปกคลุมด้วยใบไม้กล่าว
“เพราะเจ้าหยิบของสองอย่างที่เราทิ้งเอาไว้ เจ้าจึงสามารถเห็นภาพที่เหลือไว้ สิ่งที่เจ้าเห็นเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคจุติ” ชุดคลุมเทากล่าว
ช่วงที่ปากของร่างชุดคลุมสีเทาขยับได้สร้างคลื่นแปลกๆ ขึ้นมา มันเป็นภาษาที่หลัวเฟิงไม่รู้จัก แต่คลื่นที่ถูกส่งมาโดยตรงทำให้เขาเข้าใจทุกอย่าง เขาไม่ได้เข้าใจในระดับภาษา แต่ด้วยคลื่นอำนาจจิตทำให้พวกเขาเข้าใจตรงกันได้
“ยุคจุติครั้งไหน…” หลัวเฟิงตกใจอยู่ลึกๆ
ฐานข้อมูลมนุษย์ที่หลัวเฟิงได้รับข้อมูลจากสามยุคหลัก และจากสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เกี่ยวกับสองคนตรงหน้าเขาไม่เคยได้ข้อมูลมาก่อนเลย ทำให้เห็นว่าไม่ใช่สิ่งมีชีวิตจากสามยุคจุติ
“ข้าเป็นเจ้าแห่งจักรวาลสูงสุดสันโดษ ก่อนการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ข้าได้ทิ้งมรดกที่มาจากความพยายามของข้าเอาไว้ ข้าไม่ต้องการให้มันเสียเปล่า ข้าทำการลองก้าวข้ามการจุติ”
“ข้าได้ทิ้งเหรียญและแผนที่เรือจักรวาลไว้ที่นี่ นอกจากสมบัติแท้จริงสูงสุดที่ข้านำติดตัวไปด้วย ส่วนที่เหลือข้าได้ทิ้งมันไว้ที่นั่น ข้าหวังว่าผู้สืบทอดมรดกจะนำความรุ่งเรืองมาสู่มรดกของข้า และข้าได้นำเทคนิค และความรู้ต่างๆ ส่งต่อรุ่นต่อๆ ไป มันจึงมีความหมายกับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่”
“มันไม่ใช่ข้อเรียกร้อง ข้าไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะขอสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จากยุคจุติในอนาคต”
หลัวเฟิงหัวใจเต้นเร็วขึ้น แผนที่ระบุตำแหน่งและเหรียญตราสีเขียวจากเรือจักรวาลเป็นเพียงกุญแจ ที่จะไปพบกับสิ่งที่เจ้าแห่งจักรวาลสูงสุดเหลือทิ้งไว้ สำหรับเจ้าแห่งจักรวาลสูงสุด สมบัติอย่างสมบัติแท้จริงชั้นยอดอาจเป็นสิ่งไร้ค่าสำหรับเขา
คลื่นเสียงอีกหนึ่งได้ส่งตรงมาสู่หลัวเฟิง “เด็กน้อย ข้าคือเจิ้นหลิน ข้าได้ทิ้งมรดกของข้าไว้เช่นกัน เหรีญและแผนที่จะถูกเก็บไว้ห่างจากที่นี่ 300 ปีแสง ถ้าหากเจ้ามีความสามารถเพียงพอก็คงไม่มีอันตรายใดๆ การค้นหามันเจอหรือไม่ขึ้นอยู่กับโชคของเจ้า” หญิงสาวสวยงามกล่าว
“อย่าไปฟังเธอ” ร่างชุดคลุมสีเทากล่าว
“นี่เป็นแกนหลักพื้นที่ส่วนยอดเอียง ทุกที่อันตรายแม้กับเจ้าแห่งจักรวาลสูงสุด มันถูกพูดถึงกันว่า เจ้าแห่งจักรวาลสูงสุดที่ฝ่าฝันการจุติสำเร็จ ได้ทิ้งเหรียญตราของเขาไว้รอบๆ ที่นี่ ผู้ที่ต้องการได้รับมันไปต้องมีโชค เรามีชีวิตอยู่เกือบสามยุคจุติ ขีดจำกัดของเราได้ใกล้เข้ามาแล้ว เรามีเพียงการเดิมพันครั้งสุดท้ายที่จะพัฒนาสู่การจุติ หากประสบความสำเร็จ เราจะกลายเป็นนิรันดร์ หรือแม้แต่การสร้างจักรวาลศักดิ์สิทธิ์”
“มหาสมุทรจักรวาลจนถึงวันนี้มีเพียงหนึ่งจักรวาลศักดิ์สิทธิ์ ข้าอยากเห็นมหาสมุทรจักรวาลมีจักรวาลศักดิ์สิทธิ์สองแห่ง” หญิงสาวที่ปกคลุมด้วยใบไม้กล่าว
“ฮ่า ฮ่า เจิ้นหลิน ไปกันเถอะ”
“อืม”
ร่างชุดคลุมสีเทาและสาวใบไม้ได้หายไป ตามมาด้วยจอแสดงภาพหายไป มันค่อยๆ เลือนหายไปจากสายตา
หลัวเฟิงยืนอยู่หน้ากำแพงหินโดยไม่ขยับเลยสักระยะหนึ่ง