Skip to content

Swallowed Star 1210

ตอนที่ 1210 เสาหินลายดำ

เทพปีศาจอาละวาดคือเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดจากยุคจักรวาลที่สอง หลัวเฟิงมีข้อมูลจำนวนมากของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดจากสามยุคจักรวาล และสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดแยกออกเป็นกลุ่มต่างๆ บางคนมีทักษะในการโจมตีวิญญาณ บางคนมีทักษะทำลายทางวัตถุ บางคนมีสมบัติแท้จริงสูงสุด หรือกลุ่มที่ไม่มีส่วนร่วมกับกลุ่มต่างๆ

ในบรรดาเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดทั้งหมดในมหาสมุทรจักรวาล เทพปีศาจอาละวาดนั้นเป็นผู้น่ากลัวอย่างยิ่ง การที่เขากล้าตั้งชื่อตัวเองว่า อาละวาด นั่นคือความน่ากลัวของเขา เกี่ยวกับความสามารถของเขาถือว่าเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดตามมาตรฐานเท่านั้น เขาน่ากลัวเพียงเพราะมีสมบัติแท้จริงสูงสุด เขาเป็นรูปแบบชีวิตพิเศษ ชอบหิน โลหะ และวัสดุแข็ง เขาเกิดมาพร้อมกับเปลือกนอกที่แข็งมาก มีการกล่าวไว้ว่าสสารหินและโลหะจำนวนมากอยู่ที่เปลือกนอกบนร่างเทพของเขา ทำให้มีระดับความแข็งอันเหลือเชื่อ การเพิ่มชุดเกราะสมบัติแท้จริงสูงสุดเข้าไป ทำให้เขาอาละวาดไปทั่วมหาสมุทรจักรวาล

ชุดเกราะนั้นมีความพิเศษอย่างมาก แล้วมันมีชื่อว่า เกราะปีศาจทะเลเลือด นอกจากความสามารถในการป้องกันแล้วยังสามารถที่จะสร้างผลกระทบทางจิตโดยรอบ ทำให้ผู้ที่ตกอยู่ในนั้นเหมือนอยู่ใน นรกทะเลเลือด

“เมื่อเทพปีศาจอาละวาดต่อสู้กับเจ้าแห่งจักรวาลอื่น ไม่มีอะไรโดดเด่นเกี่ยวกับเขาเลย แต่เมื่อเราที่เป็นเจ้าแห่งจักรวาลจะต้องได้เปรียบอย่างแน่นอน ตอนที่เขาคลั่ง…เกราะสบัติของเขาจะระเบิดอำนาจจิตออกมา ผลกระทบนั้นแข็งแกร่งมากจนสร้างผลกระทบให้กับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดได้เล็กน้อย”

“สำหรับพวกเราที่เป็นเจ้าแห่งจักรวาล ข้าเกรงว่าเราจะถูกครอบงำทันที เราไม่สามารถต้านทานอะไรจากมันได้เลย”

หลัวเฟิงพยักหน้าด้วยท่าทางจริงจัง

“เขาเป็นคนที่เจ้าอารมณ์มาก ไม่มีทางที่จะทายอารมณ์ของเขาได้เลย”

เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบที่บินอยู่ข้างหลัวเฟิงถอนหายใจออกมา

“ด้วยเหตุนี้เขาจึงโดดเดี่ยว เขาไม่ได้สร้างปัญหา แต่ก็มีเหตุผลที่ทำให้ทุกคนที่พบเขาต้องอ้อมหรือหลีกเลี่ยงไปเส้นทางตรงกันข้ามกับเขา”

“ถ้าหาไม่มีเจ้าแห่งจักรวาลดาวเป่ยจิ เจ้าแห่งจักรวาลจำนวนมากรวมทั้งข้าคงออกจากสถานที่นี้ไปแล้ว ตัวตนของเขาเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก เขาใช้เวลาจำนวนมากในการทำความเข้าใจเสาหินลายดำ ทำให้เขามีความรู้ในที่นี้จำนวนมาก และมีแนวโน้มที่เขาจะแบ่งปันความเข้าใจเพื่อเป็นรางวัลสำหรับเราอยู่เสมอ”

“เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดที่เต็มใจจะแบ่งปันและแนะนำ นั้นมีน้อยมาก ดังนั้นทุกคนจึงลังเลที่จะออกไปเพราะเจ้าแห่งจักรวาลดาวเป่ยจิ ส่วนเทพปีศาจอาละวาดมีพฤติกรรมที่ตรงกันข้าม”

“สิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับเทพปีศาจอาละวาดคือ เขาชอบที่จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเขา โดยเฉพาะเมื่อเขาพบผู้มาใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วรู้เกี่ยวกับออร่าชีวิตของเขาน้อยมาก”

“การที่ได้พบกับเทพปีศาจอาละวาดที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้มาใหม่เหล่านั้นไม่มีทางรู้เกี่ยวกับเขาได้แน่ หากพวกเขาไม่ระมัดระวังอะไรเพียงเล็กน้อยจนทำให้เทพปีศาจอาละวาดโกรธ แม้ว่ามันจะเพียงเรื่องอันเล็กน้อย ข้าว่ามีเพียงชะตากรรมที่จะถูกทำลายเพียงอย่างเดียวสำหรับพวกเขา”

———-

สองแสงสีรุ้งตัดผ่านพื้นที่ว่างเปล่า

ขณะที่หลัวเฟิงบินก็ค่อยๆ ทำความเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น

พื้นที่ทั้งหมดของเสาหินลายดำ มีทั้งหมด 16 เสาหิน (มันเปลี่ยนจาก 13 เป็น 16) บรรพบุรุษกล้วยไม้เลือดได้ประจำที่เสาหินหมายเลข 9 เป็นเวลานาน เจ้าแห่งจักรวาลดาวเป่ยจินประจำอยู่ที่เสาหินหมายเลข 2 สำหรับเทพปีศาจอาละวาด จะปลอมตัวและเดินไปรอบๆ แบบสุ่มๆ หากใครจดจำออกร่าของเขาได้ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น การที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเขาได้หมายความว่าอันตรายได้ใกล้เข้ามา

“ด้านหน้าคือเสาหินหมายเลข 2 มันเป็นสถานที่ที่สิ่งมีชีวิตส่วนมากมารวมตัวกัน” เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบขยับปีกและบินตรงไปยังเสาหินหมายเลขสองอย่างรวดเร็ว

หลัวเฟิงมองไปยังเสาหินอันไม่เห็นขอบเขตของมัน มันเจาะผ่านบรรยากาศที่เต็มไปด้วยหมอก

หินขนาดใหญ่จำนวนมากโคจรรอบเสาหินลายดำ เหมือนกับโลกหมุนรอบดวงอาทิย์ที่ไม่รู้จักเหนื่อย ท่ามกลางหินจำนวนมากที่หนาแน่น ท่ามกลางลายสีดำ มีบางจุดที่มีการแกะสลักอันงดงามจับสายตา มันคือพื้นที่ว่างพิเศษ

“ได้เหรียญสีดำ จากเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส แต่ก็ไม่รู้ว่าพื้นที่จุดไหนสอดคล้องกับเหรียญนี้” หลัวเฟิงคิด

“เสาหินมีทั้งหมด 16 เสา ทุกเสามีพื้นที่ว่างส่วนตัวอยู่ทั่ว ปัญหาเดียวต้องตรวจจับความรู้สึกถ้าเข้าใกล้กับพื้นที่ว่างที่ตรงกับเหรียญที่มี” หลัวเฟิงคิด

“ดูเหมือนว่าต้องลองเสี่ยงดวงกับเสาหินทั้ง 16 เสาทีละอัน”

ในระหว่างบิน เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบได้เฝ้าดูหลัวเฟิงเมื่อพวกเขาได้เข้าใกล้เสาหินหมายเลข 2 ผลกระทบอำนาจจิตได้แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเข้าไปใกล้

มันราวกับกองทัพนับล้านและพันล้านได้คำรามพร้อมจะต่อสู้ สิ่งมีชีวิตที่เพิ่งเป็นเจ้าแห่งจักรวาลจำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อใช้ต่อต้านผลกระทบอำนาจจิตอันแข็งแกร่งนี้

เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบได้เห็นว่าหลัวเฟิงนั้นไม่ไหวติง ใบหน้าของเขาบ่งบอกว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับเขา

“เวลาฝึกของหลัวเฟิงคนนี้สั้นมาก แต่อำนาจจิตของเขานั้นทรงพลังมาก” เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบตกใจ

“ข้าต้องใช้เวลานานในการฝึกฝน และต้องใช้เวลานานมากเพื่อยกระดับอำนาจจิต จนข้าสามารถที่จะเอาชนะมันได้ แต่เขากลับต้านผลกระทบได้ง่ายๆ ได้ยังไง”

“เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบ” หลัวเฟิงชี้ไปยังจุดหนึ่งในระยะไกล ดูเหมือนจะมีสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่มากมายอยู่บนหินขนาดใหญ่ที่หมุนรอบเสาหินบางส่วน

“ข้าสามารถที่จะเห็นสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จำนวนหนึ่งอยู่รอบเสาหินหมายเลข 2 มีพวกเขาแค่ไหนที่นั่น”

“เกือบหนึ่งร้อย” เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบตอบในทันที

“อย่างที่เจ้าเห็น พวกเขาอยู่ห่างจากเสาหินระยะแตกต่างกัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับระดับอำนาจจิตของแต่ละคน ถ้าอำนาจจิตของเจ้าแข็งแกร่งสามารถเลือกจุดที่ใกล้กับเสาหินเพื่อพักผ่อน ในส่วนที่ลึกที่สุดเจ้าจะพบ เจ้าแห่งจักรวาลดาวเป่ยจิ”

สองแสงได้พุ่งเข้าหาเสาหินลายดำอย่างรวดเร็ว

เสาหินลายดำนั้นสูงถึงพันปีแสง ระบบสุริยะนั้นเทียบได้เพียงแค่จุดเล็กๆ ยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไรก็ยิ่งมีกลิ่นอายอันแข็งแกร่ง นี่เป็นสิ่งที่รู้กันว่าคือสมบัติอันพิเศษมากกว่าสมบัติแท้จริงสูงสุด จนถึงวันนี้ยังไม่มีเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดคนใดกล้าเข้าไปชิดมัน มัน ไม่มีผู้ใดสัมผัสมันเลยแม้แต่น้อย

เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบต้องถามออกไปอย่างช่วยไม่ได้ “ผู้นำทางช้างเผือก ยิ่งเราเข้าใกล้เสาหินเท่าไร ผลกระทบอำนาจจิตยิ่งมากขึ้น พื้นที่ตามปกติของข้านั้นอยู่ลึกกว่าพื้นที่นี้ ที่นั่นคือขีดจำกัดของข้า ข้าสามารถใช้มันเพื่อฝึกฝนอำนาจจิตให้มากขึ้น ถ้าหากมันจะทำให้เจ้าไม่พอใจข้าจึงต้องแจ้งให้ทราบก่อน”

“แบบนั้นก็ดี จะได้ใช้ทดสอบขีดจำกัดของข้าได้” หลัวเฟิงหัวเราะ

ทั้งสองบินไปยังพื้นที่ที่อยู่ด้านใน เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบยังคงติดตามหลัวเฟิงมาใกล้ๆ จากมุมมองของเขา หลัวเฟิงนั้นฝึกฝนมาได้เพียงแค่สิบยุคนิดหน่อย แม้ว่าเขาจะขัดเกลาอำนาจจิตของเขาตั้งแต่เกิด แต่เขานั้นแข็งแกร่งแค่ไหนกัน ท่าทางของหลัวเฟิงนั้นดูเป็นธรรมชาติ สามารถเห็นได้ว่าผลกระทบไม่ได้ส่งผลต่อความเหนื่อยล้าและถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว

“เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบ เมื่อเราเข้าใกล้เสาหินเรื่อยๆ ความเร็วของเวลาก็เปลี่ยนแปลงไปต่อเนื่อง ความเร็วของเวลาที่นี่เร็วขึ้น 200 เท่า”

“สถานที่ที่เจ้าใช้เสริมสร้างอำนาจจิตอยู่ที่ไหน แล้วความเร็วเวลานั้นกี่เท่า”

“ความเร็วเวลาในที่ข้าฝึกฝนอยู่ที่ประมาณ 1,100 เท่า แต่สำหรับผู้ที่ยอดเยี่ยมอย่างเจ้าแห่งจักรวาลเป่ยจินั้นมีความเร็ว 130,000 เท่า”

หลัวเฟิงตกตะลึง มันไม่น่าแปลกใจเลยที่เทพปีศาจอาละวาดต้องยอมให้กับเจ้าแห่งจักรวาลเป่ยจิ อำนาจจิตของเขาเพียงอย่างเดียวก็น่ากลัว การดำรงอยู่ที่ยิ่งใหญ่ทำให้มีมุมมองพิเศษต่อสิ่งมีชีวิต แม้ว่าจะใกล้วันแห่งการทำลายล้าง เขาก็ยังสามารถที่จะฝึกได้เงียบๆ บางครั้งเขาก็แบ่งปันความเข้าใจของเขา บางครั้งก็อยู่อย่างเงียบสงบ

———-

“เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบงั้นรึ”

“ข้างๆ เขา…มันมนุษย์เกราะสีเงิน ผมสีดำ…นั่นจะต้องเป็นผู้นำปีกเงิน หลัวเฟิง”

ในบริเวณรอบๆ เสาหินมีเจ้าแห่งจักรวาลหลายคนสังเกตเห็นว่า เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบและหลัวเฟิง กำลังเดินทางเข้าไปยังเขตที่ลึกขึ้น เจ้าแห่งจักรวาลเหล่านี้นั้นแอบตกตะลึงอยู่กับการที่จะสามารถเข้าร่วมในพื้นที่ลึกมากขึ้น ทำให้เห็นว่าหลัวเฟิงนั้นมีอำนาจจิตที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขา พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าใครบางคนจะใช้ช่วงเวลาสั้นๆ ในการฝึกฝนอำนาจจิตจนแข็งแกร่ง ในหมู่พวกเขามีบางคนที่ทรงพลังและมีความสามารถต่อสู้แข็งแกร่ง แต่นั้นไม่ได้หมายถึงว่าพวกเขาจะมีอำนาจจิตที่แข็งแกร่ง เจ้าแห่งจักรวาลมากกว่าร้อยได้ทำการฝึกฝนอำนาจจิตกันเป็นเวลานาน ส่วนใหญ่ของพวกเขาจะอยู่ที่นั่นเพียงช่วงสั้นๆ ในจุดพักที่ปลอดภัย

“นั่นคือที่ฝึกฝนของข้า” เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบได้บินมาด้วยความเร็วสูงและค่อยๆ ช้าลงเพื่อลงมาบนหินขนาดใหญ่ หลัวเฟิงก็มาลงที่เดียวกัน

“ผู้นำทางช้างเผือก เจ้าสามารถที่จะทนผลกระทบอำนาจจิตตรงจุดนี้ได้ ข้าขอชื่นชมเจ้าจากใจ” เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบรู้สึกประทับใจ

หลัวเฟิงหัวเราะ เขาโชคดีที่ผ่านการฝึกฝนมาจากต้นกำเนิดปีก หากเขาไม่ได้ผ่านการฝึกฝนในพื้นที่ของต้นกำเนิดปีก เขาคงอยู่ในพื้นที่นี้ด้วยร่างกายที่สั่นเทา แต่ตอนนี้เขาเพียงแค่รู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อยไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย

“โอ้ ดูเหมือนจะมีเจ้าแห่งจักรวาลจำนวนมากอยู่ด้านหน้า”

หลัวเฟิงรู้สึกประหลาดใจที่เห็นพวกเขาอยู่ใกล้กับเสาหิน ที่นั่นมีสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จำนวนหนึ่งอยู่บนหิน

“ใช่ แม้ว่าจะมีเจ้าแห่งจักรวาลเกือบร้อยได้รวมตัวกันที่นี่ มากกว่าครึ่งมาที่นี่เพื่อหยุดพักชั่วคราว และไม่ได้ตั้งใจฝึกฝนอำนาจจิต นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่มีอำนาจจิตถึงขีดจำกัดของเจ้าแห่งจักรวาล หากเขาผ่านคอขวดไปได้เขามีโอกาสที่จะพัฒนา พวกเขาเปรียบได้กับอำนาจจิตของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด”

“ดูทั้ง 19 เหล่านั้น เจ้าแห่งจักรวาลทั้งสิบเก้านั้นมีอำนาจจิตบรรลุถึงขีดจำกัดของเจ้าแห่งจักรวาล ถ้าเขาก้าวหน้าต่อไปได้มันจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาจะบรรลุอำนาจจิตเทียบเคียงได้กับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด”

“ดูลึกเข้าไปที่นั่น ข้าสามารถเห็นเพียงสองสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ แต่ที่จริงมีสาม ทั้งสามนั้นคือเจ้าแห่งจักรวาล พวกเขาทั้งหมดมีอำนาจจิตเท่ากับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดแล้ว สองในสามของเขามาจากสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และหนึ่งมาจากยุคจักรวาลที่หนึ่ง”

หลัวเฟิงรู้สึกเสียใจที่ตัวเองนั้นน่าจะอยู่ในมาตรฐานเดียวกับเจ้าแห่งจักรวาลทั้ง 19 เขาไม่คาดคิดว่าจะพบกับเจ้าแห่งจักรวาลที่มีอำนาจจิตเทียบได้กับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ทั่วทั้งมหาสมุทรจักรวาลสามารถพบได้แค่ไหนกัน

“สามเจ้าแห่งจักรวาลนั้นมีหนึ่งมาจากเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ก่อนหน้านี้เจ้าได้ทำลายเจ้าแห่งจักรวาลศรสุดท้ายและเจ้าแห่งจักรวาลฟาคาออส ทำให้เจ้าสร้างความไม่พอใจกับเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเจ้าควรฝึกฝนอย่างระมัดระวัง”

“เขามีนามว่าอะไร” หลัวเฟิงถาม

“เจ้าแห่งจักรวาลดวงตากระจ่าง” เจ้าแห่งจักรวาลเหยี่ยวเขมือบพูดอย่างเคร่งขรึม

หลัวเฟิงมีการเปลี่ยนแปลงการแสดงออกเล็กน้อย “นั่นคงเป็นเขา”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!