ตอนที่ 122 ชีวิตในค่ายฝึก 1
ภายในตึกมหานพ เจียงฟางแนะนำหลัวเฟิง “ห้องที่สำคัญที่สุดในตึกมหานพแน่นอนมันคือ ห้องประลอง ห้องฝึก และห้องแรงโน้มถ่วง บนชั้นที่ 9 ทั้ง 3 ห้องนี้ถูกสร้างจากสิ่งล้ำค่าที่ได้จากซากโบราณคดี และยังมีห้องฝึกแบบนี้อยู่อีกหลายห้องบนชั้นที่ 7 และชั้นที่ 8 กล่าวคือ ยังมี ห้องแรงโน้มถ่วง และห้องอื่นๆ ที่ถูกสร้างเลียนแบบไว้อีกหลายห้อง โดยนักวิทยาศาสตร์ของเรา ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับห้องจากซากโบราณคดี แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย”
ติ๊ง!
ประตูลิฟต์เปิดออก
พวกเขาเดินผ่านล็อบบี้ชั้นที่ 9 แล้วมุ่งหน้าตรงไปยังห้องฝึก
“นักเรียนจะฝึกอยู่ในห้องฝึกและห้องแรงโน้มถ่วงกันตั้งแต่วันที่ 1 จนถึงวันที่ 30 ของทุกเดือน ช่วงเวลาพักคือช่วงเที่ยงจนถึงบ่ายโมง เมื่อนักเรียนได้รับบททดสอบ พวกเขาจะต้องทำให้เสร็จในชั่วโมงเรียน” เจียงฟางอธิบาย
“และเดือนนี้คือเดือนมีนาคม ซึ่งมี 31 วัน ในวันที่ 31 ในห้องฝึกและห้องแรงโน้มถ่วงจะว่างเปล่า” เจียงฟางกล่าวขณะพาหลัวเฟิงเดินมาถึงประตูห้อง
ในบรรดาห้องทั้ง 3 ห้องบนชั้นที่ 9 นี้ หลัวเฟิงเห็นห้องฝึกและห้องประลองไปแล้ว
แสงวาบส่องผ่านหลัวเฟิงและเจียงฟางไป
ปิ๊บ!
ประตูเปิดออกแล้วหลัวเพิงกับเจียงฟางก็เข้าไปข้างใน
“นี่คือห้องแรงโน้มถ่วง ห้องแรงโน้มถ่วงถูกค้นพบในซากโบราณคดี” เจียงฟางกล่าว หลัวเฟิงพิจารณาห้องอย่างละเอียด พื้นกับผนังของห้องแรงโน้มถ่วงนี้ถูกสร้างจากโลหะสีเหลืองและสีดำผสมกัน…เป็นเพราะโลหะแปลกๆ นี้ ในห้องจึงให้ความรู้สึกค่อนข้างพิเศษ”
“แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ของเราก็ยังไม่รู้จักโลหะนี้ว่าคืออะไร” เจียงฟางพูดขณะที่ชี้มือไปยังโลหะที่อยู่บนผนังห้อง “ขนาดสิ่งมีชีวิตที่เหนือระดับเทพสงครามยังไม่อาจขีดผนังนี้ให้เป็นรอยได้เลย”
หลัวเฟิงแข็งค้าง เขามองดูผนังห้องที่อยู่ใกล้ๆ แล้วก็เห็นรอยกำปั้นรอยหนึ่งซึ่งลึกลงไปราวๆ 5 มิลลิเมตรได้
เจียงฟางตาเป็นประกายขณะที่เธอกล่าวด้วยความชื่นชม “รอยกำปั้นนี้เป็นของนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกของเรา อาจารย์หง ด้วยระดับที่เหนือเทพสงครามของท่าน มีแต่หัวหน้าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถสร้างรอยเช่นนี้ได้ ไม่มีใครสามารถทำได้อีกแล้ว! หัวหน้าคือนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกจริงๆ”
“ปิ๊บ!” หลังจากกล่าวเช่นนั้น เจียงฟางก็กดปุ่มที่อยู่ข้างๆ เธอ
“ระดับสมรรถภาพร่างกายของนายคือระดับแม่ทัพขั้นต้น ดังนั้น แรงโน้ม 9 เท่าน่าจะเหมาะกับขีดจำกัดของนาย” เจียงฟางกล่าวพลางกดปุ่มเพิ่มแรงโน้มถ่วงอย่างรวดเร็ว ตัวเลขบนหน้าจอแสดงผลเปลี่ยนไปเรื่อยๆ…
2…3…4…5…
ซูมมม…
พลังงานไร้รูปแบบพลันเข้าครอบงำทุกๆ ส่วนในร่างกายของเขา ไม่มีเวลาแม้แต่จะหายใจ แรงโน้มถ่วงเพิ่มกระโดดจาก 8 เป็น 9 เท่า หลัวเฟิงรู้สึกเหมือนทุกอย่างกลายเป็นสีดำขณะที่เขาล้มตัวลงสู่พื้น เสียงหัวใจของเขาดังระทึกราวกับกลองรบและเสียงเลือดที่วิ่งในกายเขาดังราวเครื่องจักรไอน้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างมันชัดเจนเหลือเกิน
“นายรู้สึกยังไง?” เจียงฟางมองดูหลัวเฟิง
หลัวเฟิงแทบจะลุกไม่ขึ้น ใบหน้าของเขาซีดเผือดและร่างกายของเขาก็เหมือนจะแตกสลายได้ทุกขณะ “ผมรู้สึกหนักมากและหัวใจของผมก็เจ็บทุกครั้งที่หายใจ หายใจลำบากมากด้วย ทุกส่วนในร่างกายของผมมันเจ็บปวดเหลือเกิน” หลัวเฟิงยังคงถือดาบปีศาจอยู่ ซึ่งตอนนี้มันเหมือนจะหนักราว 1,000 กิโลกรัมภายใต้แรงโน้มถ่วง 9 เท่านี้
ถึงแม้ว่าเขาจะกำลังถือวัตถุที่หนักเช่นนี้ แต่ก็เทียบกับความเจ็บปวดจากหลอดเลือดและอวัยวะต่างๆ ของเขาที่กำลังต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงถึง 9 เท่าเช่นนี้ไม่ได้
“หลัวเฟิง นายรู้จักความสำคัญของห้องแรงโน้มถ่วงนี้ที่มีต่อนักสู้ไหม?”
ภายใต้แรงโน้มถ่วง 9 เท่า เจียงฟางยังคงยืนยิ้มและคุยกับหลัวเฟิงด้วยท่าทีสบายๆ
หลัวเฟิงมองดูเจียงฟาง
“นักสู้ดูดซับพลังงานและเปลี่ยนเป็นพลังพันธุกรรม และเมื่อร่างกายดูดซับพลังพันธุกรรมนั้นแล้วก็จะเกิดการพัฒนายีนส์และสร้างความแข็งแกร่งขึ้น!” เจียงฟางถอนหายใจ “แต่อย่างไรก็ตาม…เมื่อทุกๆ เซลล์ในร่างกายดูดซับพลังเข้าไปจำนวนมากแล้ว พวกมันก็จะอิ่มตัว! และพวกมันก็จะไม่สามารถดูดซับสิ่งใดได้อีก! คนยิ่งออกกำลังกายมากเท่าใด พวกเขาก็จะยิ่งกินอาหารได้มากขึ้น ความจริงก็คือเมื่อเซลล์ของเราเข้าไปเกี่ยวพันกับการออกกำลังของเรา พวกมันก็จะสามารถดูดซับพลังพันธุกรรมได้มากขึ้นนั่นเอง”
เจียงฟางถอนหายใจ “ถึงแม้ว่าพวกเราจะดูเหมือนเหนื่อยตอนฝึกทั่วๆ ไป แต่ก็เป็นสิ่งที่ยากสุดๆ หากเราจะออกกำลังในทุกๆ เซลล์ในร่างกายของเรา”
หลัวเฟิงพยักหน้า เขาเข้าใจเรื่องนี้แล้ว นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมระดับสมรรถภาพร่างกายถึงได้พัฒนาในอัตราที่สูงขึ้นเมื่อบรรลุวิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้นในขั้นที่สูงขึ้น
“แต่ห้องแรงโน้มถ่วงนี้มันต่างออกไป! การขยายตัวของแรงโน้มถ่วงในห้องแรงโน้มถ่วงนี้จะส่งผลกับทุกส่วนของร่างกายนาย กล้ามเนื้อ กระดูก หลอดเลือด เซลล์ต่างๆ หรือแม้แต่อะตอม!” เจียงฟางบรรยาย “แรงโน้มถ่วงจะส่งผลกับทุกสิ่ง โดยธรรมชาติแล้ว มันจะทำงานกระทั่งกับส่วนที่เล็กที่สุดในร่างกายเลยล่ะ”
หลัวเฟิงตาเป็นประกาย
ความจริงคือ แรงโน้มถ่วงส่งผลกับทุกส่วนของร่างกาย
“ฉะนั้น ในห้องแรงโน้มถ่วงนี้ โดยเฉพาะภายใต้แรงที่คูณเข้าไปสูงที่สุดตามสมรรถภาพร่างกาย!” เจียงฟางยิ้ม “ถึงแม้ว่านายจะยืนอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร แต่ทุกๆ เซลล์ในร่างกายของนายก็จะได้รับผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงนั่น และต้องต่อสู้กับมันอย่างหนัก! วิธีนี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่นายจะทำได้”
“ครับ” หลัวเฟิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
เจียงฟางยิ้ม “แน่นอน ถ้านายฝึกฝนในห้องนี้สภาพวะแบบนี้ ผลลัพธ์ก็จะออกมาดียิ่งกว่า! นายสามารถพูดได้เลยว่า…2 ชั่วโมงต่อวันในห้องแรงโน้มถ่วงนี้จะทำให้นายเพิ่มอัตราการฝึกได้เร็วขึ้นเป็น 10 เท่า!”
“10 เท่า?” หลัวเฟิงตาเป็นประกาย
บ้าไปแล้ว!
ถ้าเขาฝึกกับห้องแรงโน้มถ่วง เขาอาจจะต้องการเวลาแค่ 3-4 เดือนแทนที่จะเป็น 3 ปีเพื่อจะกลายเป็น ‘นักอ่านจิตระดับเทพสงครามขั้นสูง’ ก็เป็นได้!
“แต่อย่างไรก็ตาม ห้องแรงโน้มถ่วงมีอยู่แค่ห้องเดียว” เจียงฟางกล่าวต่อ “ขนาดค่ายฝึกหัวกะทิของทางสำนักสายฟ้ายังไม่มีซักห้องเลย นักเรียน 183 คนจะต้องหมุนเวียนกันใช้ แล้วคิดดูว่านายจะได้ใช้ซักกี่ครั้งกัน?”
หลัวเฟิงอึ้งไป
“ฉะนั้น ยิ่งนายอันดับสูงเท่าไหร่ นายยิ่งมีสิทธิ์ใช้ห้องนี้ได้นานขึ้นเท่านั้น” เจียงฟางกล่าวต่อไป “ห้องแรงโน้มถ่วงที่นักวิทยาศาสตร์ของเราสร้างขึ้นนั้นสามารถคูณแรงได้แค่ระดับ 3 เท่านั้น กล่าวคือสามาถเพิ่มแรงโน้มถ่วงได้แค่ 3 เท่าเท่านั้น แต่การฝึกในห้องแรงโน้มถ่วงนั้น นายจะต้องใช้แรงโน้มถ่วงที่ถึงขีดจำกัดร่างกายเท่านั้นถึงจะได้ผลดีที่สุด และห้องแรงโน้มถ่วงที่เราขุดได้จากซากโบราณคดีนี้มันมีพิสัยตั้งแต่ 1 จนถึง 1,000 เท่า!”
เจียงฟางถอนหายใจยาว “มันดีกว่าห้องที่เราสร้างเลียนแบบเยอะเลย”
“1,000 เท่า?” หลัวเฟิงตาเบิกกว้าง “ใครกันจะสามารถรับมือได้ แรงโน้มถ่วง 1,000 เท่า?”
“แน่นอน ตัวเลข 1-1,000 เนี่ยพวกเรามาปรับแต่งให้มันแสดงผลแบบนี้เอง” เจียงฟางชี้ไปที่หน้าจอแสดงผล “นายคิดเหรอว่าเครื่องที่ได้จากซากโบราณคดีมันจะตั้งค่าเป็นตัวเลขอารบิก? หน้าจอแสดงผลและปุ่มเปิดปิดพวกเรามาติดตั้งกันทีหลังเอาเอง แน่นอน พวกเราไม่สามารถปรับแต่งส่วนประกอบหลักของมันได้เลย”
……….
มีห้องแรงโน้มถ่วงเพียงแค่ห้องเดียวเท่านั้น หลัวเฟิงซึ่งเป็นน้องใหม่จะได้ใช้มันนานซักเท่าไหร่กัน?
แต่ก็มีห้องแรงโน้มถ่วงที่สร้างเลียนแบบขึ้นมาโดยนักวิทยาศาสตร์อยู่หลายห้อง ถึงแม้ว่าจะสามารถเพิ่มแรงโน้มถ่วงได้แค่ 3 เท่า แต่ในค่ายก็มีถึง 10 ห้องทีเดียว
……….
“หลัวเฟิง นายยังคงใหม่อยู่และอันดับก็ยังอยู่ที่ 183 สำหรับ 28 วันแรกของเดือนเมษานี้ ในช่วงวันคี่ ให้ตามเพื่อนนักเรียนไปล่าสัตว์ประหลาดในแดนเถื่อนเพื่อสะสมคะแนน! สำหรับวันคู่ นายจะอยู่ที่ค่ายและก็เรียนรู้ ในตอนนั้นฉันจะคอยชี้แนะนายเอง” เจียงฟางสั่งการ
“ครับครู” หลัวเฟิงพยักหน้า
ในค่ายฝึก จะต้องหาโอกาสดูดซับเอาทุกอย่างเพื่อความแข็งแกร่งให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้!
………..
เวลา 5 ทุ่ม
หลัวเฟิงในชุดสบายๆ นั่งอยู่ในห้องและกำลังจ้องดูโน๊ตบุ๊ค
“อันดันที่ 1 เดือนเมษา มีสิทธิ์ใช้ห้องแรงโน้มถ่วงจากซากโบราณคดีได้ 90 ชั่วโมง ใช้ห้องฝึกได้ 90 ชั่วโมง”
“อันดับที่ 2 เดือนเมษา มีสิทธิ์ใช้ห้องแรงโน้มถ่วงจากซากโบราณคดีได้ 60 ชั่วโมง ใช้ห้องฝึกได้ 60 ชั่วโมง”
……….
“อันดับที่ 11-30 มีสิทธิ์ใช้ห้องแรงโน้มถ่วงจากซากโบราณคดีได้ 6 ชั่วโมง ใช้ห้องฝึกได้ 6 ชั่วโมง”
“อันดับที่ 31-50 มีสิทธิ์ใช้ห้องแรงโน้มถ่วงจากซากโบราณคดีได้ 4 ชั่วโมง ใช้ห้องฝึกได้ 4 ชั่วโมง”
“อันอับที่ 51-100 มีสิทธิ์ใช้ห้องแรงโน้มถ่วงจากซากโบราณคดีได้ 2 ชั่วโมง ใช้ห้องฝึกได้ 2 ชั่วโมง”
“อันดับที่ 100-สุดท้าย มีสิทธิ์ใช้ห้องแรงโน้มถ่วงจากซากโบราณคดีได้ 1 ชั่วโมง ใช้ห้องฝึกได้ 1 ชั่วโมง”
หลัวเฟิงมองดูแถวสุดท้ายแล้วหัวเราะอย่างขื่นๆ
เขาเพิ่งจะเข้ามาร่วมค่าย ดังนั้นเขาจึงอยู่อันดับที่ 183 สำหรับเดือนเมษายนทั้งเดิน เขาสามารถเข้าใช้ห้องแรงโน้มถ่วงจากซากโบราณคดีได้แค่ 1 ชั่วโมง? และใช้ห้องฝึกได้อีก 1 ชั่วโมง?
“แค่ 1 ชั่วโมง คนที่อยู่อันดับหนึ่งคงต้องรู้สึกเยี่ยมแน่ๆ ตั้ง 90 ชั่วโมงเชียว เขาจะต้องออกล่าสัตว์ประหลาดในวันคี่ ดังนั้น เขาจะมีเวลา 15 วันในการฝึกอยู่ในค่าย เขาสามารถอยู่ในห้องแรงโน้มถ่วงได้ถึง 6 ชั่วโมงและห้องฝึกอีก 6 ชั่วโมงในทุกๆ วัน ถ้ายังพัฒนาช้าก็บ้าแล้วล่ะ” หลัวเฟิงรู้สึกอิจฉาบอกไม่ถูก
ถ้าอยู่ในห้องแรงโน้มถ่วงจากซากโบราณคดี 2 ชั่วโมงต่อวัน แค่ 1 วันก็จะเท่ากับวันฝึกธรรมดา 10 วัน
ไม่ต้องพูดถึงคนที่อยู่ในนั้นถึงวันละ 6 ชั่วโมงเลย
“โชคดีที่เราเข้ามาร่วมค่ายเดือนเมษาเป็นเดือนแรก ผลก็คือเรามีสิทธิพิเศษที่จะเข้าไปฝึกในหอคอยแห่งการทดสอบได้ 1 ครั้ง” หลัวเฟิงคิดกับตัวเอง
การเข้าไปทดสอบในหอคอยแห่งการทดสอบคือสิทธิพิเศษสำหรับนักเรียนที่เข้ามาร่วมค่ายทีหลังคนอื่น จำนวนครั้งที่พวกเขาใช้ในการทดสอบนั้นจะไม่ถูกนับรวมเข้ากับเวลาอื่นๆ ที่พวกเขาจะพึงได้รับ ยกตัวอย่างเช่น หลัวเฟิงได้รับเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงในการใช้ห้องฝึกระหว่างเดือนเมษายนนี้ แต่เขาอาจจะใช้เวลา 40 นาทีในหอคอยแห่งการทดสอบ ซึ่งเวลาทั้งหมดที่เขาใช้ก็จะเป็น 1 ชั่วโมง 40 นาทีนั่นเอง
บางคนใช้เวลาไปมากกับการทดสอบนี้ ขณะที่บางคนใช้เวลากับมันน้อยมากๆ
“เทคนิคดาบของเรายังแย่อยู่ เราจะต้องฝึกให้หนักภายในเดือนนี้และก็จะลองไปทดสอบดูในวันที่ 26” หลัวเฟิงคิดในใจ เพราะเขาถูกนับเป็นนักเรียนใหม่ เขาจึงสามารถใช้ช่วงเวลาตอนเที่ยงถึงบ่ายโมงของวันใดก็ได้เข้าไปทำการทดสอบ