ตอนที่ 1222 หลังประตู
เจ้าแห่งจักรวาลทั้งห้าภายในนั้นล้วนทรงพลัง
หลัวเฟิงที่ต้องการสอบถามสายน้ำวูดูวงแต่ก็ยกเลิกความคิดนั้นไปเพราะมันคงไร้ประโยชน์
“อีกหนึ่งถูกทำลาย เหลืออีกสาม” สายน้ำวูดูวงพูดโพล่งขึ้นมา
ใจของหลัวเฟิงหล่นวูบ นี่คืออันตรายถึงชีวิต เจ้าแห่งจักรวาลที่เข้าไปด้านในนั้นน่าประทับใจ แม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดก็ไม่สามารถทำลายพวกเขาเร็วขนาดนี้ มันช่วงเวลาพริบตาเท่านั้นพวกเขาก็ถูกทำลายไปแล้วสอง
หากเปรียบเทียบกับพวกเขา หลัวเฟิงนั้นยังถือว่าอ่อนแอที่สุด หลัวเฟิงจึงคิดว่าตัวเองเข้าไปข้างในแล้วจะเป็นอย่างไร
หลัวเฟิงเริ่มเต็มไปด้วยความกังวล
———-
ภายในดินแดนไฟน้ำแข็ง บริเวณประตูทางเข้าเรือสุสาน
เจ้าแห่งจักรวาลทะเลวุ่นวาย เจ้าแห่งจักรวาลเรดล้าก เจ้าแห่งจักรวาลหินยักษ์ ทั้งสามกำลังยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าห้องควบคุม พวกเขาได้เตรียมการเพื่อจะส่งรายงานกับไปยังกลุ่มของพวกเขา แต่ในขณะที่พวกเขาส่งรายงาน
“ไม่มมม…”
ร่างหินยักษ์สั่นอย่างรุนแรง
“หลิวจิว” เจ้าแห่งจักรวาลหินยักษ์ได้ตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวด มันทั้งเศร้าและโหยหวน
เจ้าแห่งจักรวาลหินยักษ์ลงไปคุกเข่ากับพื้นอย่างแรง สองมือของเขาตอนนี้วางอยู่บนพื้น เขาปล่อยอารมณ์อ่อนไหวออกมา เสียงร้องของเขานั้นแปลกประหลาด ร่างกายของเขาก็สั่นมากจนบิดเบี้ยว
สองเจ้าแห่งจักรวาลจากเผ่าโครงกระดูกที่อยู่ข้างๆ มองหน้ากันจากที่เห็นอาการของเจ้าแห่งจักรวาลหินยักษ์
“เจ้าแห่งจักรวาลหลิวจิวตายแล้ว”
“ข้าคิดว่าแล้วว่าเธอต้องถูกทำลาย เธอมักจะมีหินยักษ์ข้างกายเสมอ ดูเหมือนว่าหินยักษ์จะมีความรู้สึกลึกซึ้งกับเธอ การที่เธอถูกทำลาย ทำให้เขากำลังคลั่ง”
ทั้งสองมองดูความโชคร้ายของเจ้าแห่งจักรวาลหลิวจิว แต่ก็คิดไปว่าตัวเองยอมรับมรดกแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
“อา อ้า อ๊า”
เจ้าแห่งจักรวาลหินยักษ์ยังคงปล่อยเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้เขาใช้แขนทั้งแปดของตัวเองฟาดใส่พื้นด้วยความบ้าคลั่งแรงกระแทกอันรุนแรงได้สร้างการสั่นสะเทือนเล็กๆ พื้นของเรือสุสานมีความทนทานที่แม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดก็สร้างความเสียหายให้ไม่ได้ สำหรับหมัดของเจ้าแห่งจักรวาลหินยักษ์นั้นถือเป็นเรื่องที่เล็กน้อยสำหรับเรือสุสาน หมัดหนักๆ ที่ทุบเริ่มมีรอยแตกร้าว
“มรดก มรดกที่น่ารังเกียจนี้คือสิ่งที่ฆ่าเจ้า ข้าจะต้องแก้แค้น ข้าจะทำลายมรดกนี้ ข้าจะฆ่าผู้สืบทอดของผู้ที่ได้รับมัน สายน้ำวูดูวงทุกอย่างนั้นเป็นเพราะเจ้า มันเป็นความผิดของเจ้าที่ตัดข้าออกจากการรับมรดก ข้าจะแก้แค้นให้หลิวจิว”
หลังจากนั้นหินยักษ์ก็หันพุ่งเข้าสู่ห้องควบคุมเรือสุสาน
“บ้าไปแล้ว”
“รูปแบบชีวิตหินนั้นคงเป็นหินจริงๆ ไปแล้ว จิตใจของเขาคงตายและบ้าไปแล้ว”
ไม่นานร่างของเจ้าแห่งจักรวาลหินยักษ์ก็กลับมาอีกครั้ง
“ไม่สามารถที่จะเข้าไปได้อีก เข้าไม่ได้อีกต่อไป” เจ้าแห่งจักรวาลหินยักษ์ส่ายหัว เขาเต็มไปด้วยความเศร้าและเจ็บปวด
“ข้าบอกแล้วว่าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ วันแห่งการทำลายเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว แต่เจ้าก็จากข้าไปก่อน…หลิวจิว…”
เจ้าแห่งจักรวาลหินยักษ์ทรุดตัวลงที่มุมหนึ่งข้างประตู เขานั่งลงมาเสียงดัง พิงอยู่ข้างกำแพงใกล้ประตู
เจ้าแห่งจักรวาลทะเลวุ่นวายและเจ้าแห่งจักรวาลเรดล้ากเกิดความกลัวเล็กน้อยจึงออกห่างจากเขาโดยไม่ที่กล้าเข้าไปใกล้อีกต่อไป
———-
หลัวเฟิงที่ยืนอยู่หน้าประตูสามารถที่จะสัมผัสกับคลื่นพลังงานได้อยู่ตลอด ต่อมาพลังงานก็หยุดลงกะทันหัน
หลัวเฟิงรู้สึกใจสั่นเล็กน้อย
สายน้ำวูดูวงเปิดตาขึ้นและพูด “ไม่เป็นไร แค่ตายสองคน”
หลังจากนั้นเขาหันมามองหลัวเฟิง
“เจ้าเข้าไปข้างใน”
ประตูกว้างใหญ่ดูแข็งแรงได้เปิดขึ้น เสียงของประตูที่เปิดดังสนั่นหวั่นไหว มันเปิดเผยให้เห็นข้างในที่ว่างเปล่าไร้สิ้นสุด ในที่นั้นไม่มีร่างซักร่างอยู่ในนั้น สิ่งที่เขาเห็นทำให้เขากลัวมากยิ่งขึ้น แม้ว่าทั้งห้าจะเคลื่อนไหวด้วยกัน แต่มีสองคนได้ตายไปแล้ว การที่หลัวเฟิงนั้นต้องทำมันคนเดียวมันอาจจะกลายเป็นคำสาปแช่งหรือพรกันแน่
“เจ้าจะยอมแพ้ หรือจะไปข้างหน้า” สายน้ำวูดูวงมองหลัวเฟิง
หลัวเฟิงไม่สนใจสายน้ำวูดูวงและเดินต่อไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล
ประตูขนาดใหญ่ได้บินลงมาจนส่งเสียงดัง ห้องได้ถูกปิดกั้นไว้อีกครั้ง
“ไม่มีโอกาสให้ถอย” หลัวเฟิงมองไปยังประตูที่อยู่ด้านหลังก่อนที่จะเดินลึกเข้ามาด้านใน
“ข้าอยากเห็นว่าเส้นทางแห่งความตายนี้จะมีอะไรถึงได้ทำให้สองในห้าคนตาย”
เขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง
หลัวเฟิงบินอยู่ครู่หนึ่งก็รู้สึกว่าทางเดินยิ่งมืดกว่าเดิม เขาไม่สามารถมองเห็นสภาพรอบๆ ได้ชัดนัก
หลัวเฟิงได้หยุดอยู่กลางอากาศ
มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาจากพื้น ร่างของเขานั้นคล้ายกับมนุษย์ มีขนจำนวนมากอยู่บนหัวและมีลำคอเหมือนสิงโต คอที่หนาและดูแข็งแกร่ง ผิวของเขา
ถูกปกป้องด้วยเกราะสีดำ ร่างนั้นกำลังนั่งปิดตาอยู่หลังจากที่หลัวเฟิงมาเขาก็ลุกขึ้นพร้อมกับเปิดตา
ดวงตาเปล่งแสงสีแดงได้จ้องมาที่หลัวเฟิง
“สิ่งที่เจ้าต้องทำ คือการเอาตัวรอดจากการโจมตีของ ควลโล” เสียงที่เย็นชาเข้ามาถึงหูหลัวเฟิง
หลัวเฟิจำเสียงนั้นได้ทันที นั่นคือเสียงของสายน้ำวูดูวง
“เจ้าไม่สามารถที่จะซ่อนตัวอยู่ในวังสมบัติของเจ้าได้ ถ้าทำแบบนั้นข้ามีเพียงแต่ต้องกำจัดเจ้า ต้องต่อสู้มันด้วยตัวเอง อาวุธทั้งหมดสามารถนำมาใช้ได้ สองในห้าพวกเขาถูกทำลายด้วยมือของ ควลโล ข้าหวังว่าเจ้าจะรอดชีวิต”
ร่างที่ได้นั่งอยู่ได้ยืนขึ้นมา เขามีความสูง 100 กิโลเมตร ดวงตานั้นเย็นชาเป็นน้ำแข็ง ทางเดินมีความกว้างกว่า 6 พันกิโลเมตร มันเพียงพอสำหรับการต่อสู้
“ข้าต้องสู้ตัวคนเดียว ทำไมสายน้ำวูดูวงถึงเรียกมันว่า ควลโล ถ้าผ่านช่วงเวลามายาวนานจนถึงขณะนี้ มันมีโอกาสที่จะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตระดับสูง”
“ตาย” เสียงคำรามดังขึ้น
สัตว์ประหลาดควลโลได้เปล่งเสียงคำรามพร้อมกับพุ่งเข้าหาหลัวเฟิง
หลัวเฟิงรับรู้ว่าอีกฝ่ายได้เข้ามาถึงหน้าเขาแล้ว
สัตว์ประหลาดนี้ถูกทิ้งเอาไว้โดยสายน้ำวูดูวง และมันสามารถฆ่าสองเจ้าแห่งจักรวาลได้ หลัวเฟิงจึงไม่คิดจะประมาท เขาใช้ทุกสิ่งที่มีเพื่อต่อกรกับสัตว์ประหลาดนี้
หลัวเฟิงได้เข้าสู่สถานะหัวใจสัตว์เทพในทันที แขนขวาของเขาเปลี่ยนเป็นใบมีดสีทอง เขาเหวี่ยงมันออกไปพร้อมกับเสียงร้อง
ทั้งห้าใบมีดได้ปะทะในเวลาเดียวกัน สัตว์ประหลาดถูกเขาฟัน เหมือนมันเป็นเพียงแค่กระสอบทรายที่พุ่งเข้าหา ตัวของมันถูก เหวี่ยงไปด้านหลังและกระแทกพื้นอย่างแรง
หลัวเฟิงนั้นตกใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สัตว์ประหลาดจะทำการโจมตีต่อ
“นี่มันอะไร…นี่คือสิ่งที่ฆ่าสองเจ้าแห่งจักรวาลจริงงั้นเหรอ” หลัวเฟิงส่ายหัว
นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน การที่จะฆ่าสองเจ้าแห่งจักรวาลได้ต้องมีพลังอย่างน้อยเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด
หลัวเฟิงได้ใช้สิ่งที่ดีที่สุดในการโจมตีของเขา เพื่อจะวางแผนรายละเอียดจากการโจมตีของเขา แต่ในความจริงเขากลับพบว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้นั้นไม่สามารถที่จะสู้กับเขาได้แถมพ่ายแพ้ในทันที โดยที่มันไร้พลังในการต่อต้าน
หลัวเฟิงที่ตั้งใจจะยืมกำลังของศัตรูเพื่อทำการหลบหนีก็ต้องมายืนงงอยู่กลางอากาศ
“ทำไมถึงอ่อนแอแบบนี้ มันอ่อนแอมาจนแม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลทั่วไปก็จะกดขี่มันได้ง่ายๆ”
หลัวเฟิงที่กำลังเต็มไปด้วยความสงสัยก็เลิกที่จะลังเลอีก สัตว์ประหลาดได้คำรามพร้อมกับคำว่า ตาย เข้ามาอีกครั้ง
หลัวเฟิงที่พุ่งเข้าไปโจนตีใส่ที่คอของสัตว์ประหลาด มันกระเด็น หน้าฟาดลงที่พื้นเสียงดังสนั่น
“มันอะไร”
หลัวเฟิงยืนอย่างมั่นคงและใช้เทคนิคที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเอง เขาทำให้หน้าของสัตว์ประหลาดจูบพื้นเป็นครั้งที่สอง
สัตว์ประหลาดส่งเสียงคำรามและใช้มือยันตัวขึ้นจากพื้นเพื่อยืนขึ้นมา
“ร่างของมันแข็งแกร่ง ไม่ทิ้งบาดแผลให้กับผิวของมันได้เลยแม้แต่น้อย แต่ความสามารถของมันก็อ่อนแอเกินไป”
หลัวเฟิงไม่เข้าใจสิ่งนี้ได้ คู่ต่อสู้ของเขานั้นอ่อนแอจนเขาไม่รู้สึกถึงความยากลำบากอะไร
หลัวเฟิงยังคงโจมตีใส่มันเพื่อจนกระแทกใส่พื้นอย่างต่อเนื่อง บางครั้งมันกระแทกกับพื้น หรือบางทีก็กำแพง
ทุกครั้งที่หลัวเฟิงทำการโจมตีก็ได้ตอบสนองกับการโจมตีของคู่ต่อสู้ไปด้วย
“พลังของมันเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”
หลัวเฟิงรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ดีกำลังเกิดขึ้น
เขารู้สึกได้ว่าพลังของสัตว์ประหลาดนั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากอัศวินชั้นสูงได้มาอยู่ที่ระดับเจ้าแห่งจักรวาลขั้นสอง พลังของมันสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่ตอนแรกหลัวเฟิงคิดว่ามันง่าย ตอนนี้มันกลับกำลังยากขึ้นเรื่อยๆ
จนมาถึงตอนนี้สัตว์ประหลาดได้ใกล้มาถึงระดับเจ้าแห่งจักรวาลขั้น 5 พลังของมันได้เทียบเคียงได้กับหลัวเฟิง แล้วมาตอนนี้มันกำลังจะสูงกว่าเขา
หลัวเฟิงได้กลิ้งชนเข้ากับกำแพง หลังจากนั้นเขาก็หายตัวไป
สัตว์ประหลาดได้เตะเข้าใส่กำแพง
“ตอนนี้มันอยู่ในระดับที่ห้าแล้ว หากพลังของมันยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ มันจะพัฒนาไปสู่ระดับที่หก หรือในระดับเดียวกับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด”