ตอนที่ 1223 มันคือความบ้าคลั่ง
สัตว์ประหลาดควลโลนั้นไม่มีเทคนิคใดๆ มันมีเพียงความเร็วและความแข็งแกร่ง
ความแข็งแกร่งของมันเพียงพอที่จะทำลายกฎ กำปั้นของมันสามารถบิดเบือนกาลอวกาศและเวลาได้ง่ายๆ มันสร้างความเร็วที่เปลี่ยนเป็นแสง แสงที่จะทำลายระบบสุริยะทั้งหมด กรงเล็บสีทองได้พุ่งเข้าหากำปั้น
“มันแข็งแกร่งกว่า”
หลัวเฟิงถูกดันเข้าหากำแพง คลื่นกระแทกจากกำแพงได้ถูกส่งมาสู่ร่างกายของเขา เท้าถูกเหยียบลงบนหน้าอก มันได้กดตัวหลัวเฟิงเข้ากับกำแพง การกระทืบลงมาครั้งนี้ได้สร้างแรงสะเทือนจนสร้างคลื่นรุนแรง
หลัวเฟิงกัดฟันเพื่อ พยายามหลบหนี ช่วงที่หลบหนีหลัวเฟิงเปลี่ยนพลังงานจากร่างอสูรเขาทองมาสู่ร่างมนุษย์โลก เขาทำมันเพื่อให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเสมอ
“พลังและความเร็วของมันใกล้ขึ้นไปถึงระดับที่ 6”
หลัวเฟิงรู้สึกหมดหนทาง เขาพึ่งจะมาถึงระดับที่ 4 เกราะของเขาแทบจะต่อสู้กับเจ้าแห่งจักรวาลระดับห้าไม่ได้
“ข้าเสียพลังงานอมตะไป 8% แล้วมันเพียงเวลาสั้นๆ ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว”
หลัวเฟิงหันหัวและคำรามออกมา สัตว์ประหลาดควลโลคำรามและพุ่งตรงมาหาเขา ปีกสีขาวได้ปรากฏขึ้นมา ภายใต้พลังงานอมตะอันแข็งแกร่ง แสงสีทองก็ได้ปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่ พลังในการผูกมัดทำให้สัตว์ประหลาดช้าลง หลัวเฟิงถอยหนี
“สายน้ำวูดูวงไม่ให้ใช้เพียงสมบัติประเภทวัง ไม่ได้สู้พร้อมกับปีกซื่อหวู๋มานานมาก” หลัวเฟิงใช้ปีกสีเงินด้วยความตื่นเต้น
สัตว์ประหลาดโกรธจนคำรามออกมา การคำรามสร้างการบิดเบี้ยวของกาลอวกาศขึ้นมา คลื่นกระแทกได้ตรงเข้าหาหลัวเฟิง แต่เขาไม่ได้หลบมัน
สัตว์ประหลาดพุ่งทะยานมาที่หลัวเฟิงอีกครั้ง
หลัวเฟิงใช้ปีกสีเงินเพื่อเข้าต่อสู้ระยะประชิดกับสัตว์ประหลาด ด้วยความช่วยเหลือจากอาณาจักรสีทองและเกราะเทพทำลาย เขาจึงมีพลังที่จะเข้าถึงระดับห้าได้ ทำให้พลังของเขาเทียบเท่ากัน การต่อสู้อันไร้ปราณีของสัตว์ประหลาดที่พุ่งเข้ามา แต่หลัวเฟิงได้สร้างร่างเงาเป็นจำนวนมาก
หลัวเฟิงกระเด้งออกโดยมีปีกปกคลุมร่างกาย
“พลังของเขายังคงเพิ่มขึ้นอีก ระดับหกหรือระดับเจ้าแห่งจักรวาล” หลัวเฟิงรู้ดีว่าอาณาจักรสีทองนั้นมีผลกระทบกับสัตว์ประหลาด แต่พลังต่อสู้ของมันก็ทำให้หลัวเฟิงตกตะลึง
แม้ว่าสัตว์ประหลาดควลโลจะถูกกดดันจากอาณาจักรสีทองแต่ก็ยังคงแข็งแกร่งกว่าหลัวเฟิง
หลัวเฟิงถูกโจมตีมาที่หน้าอกแต่เขาสามารถที่จะหลบได้ พลังของมันแข็งแกร่งมากจนเขาจำเป็นต้องใช้ปีกเพียงเพื่อป้องกัน เขาไม่สามารถต้านมัน แต่ก็หนีไม่ได้ หลัวเฟิงเป็นเพียงแค่กระสอบทรายที่ถูกเตะต่อยโดยสัตว์ประหลาดควลโล อาณาจักรสีทองนั้นเป็นเพียงแค่อากาศบางๆ เท่านั้น
“ตอนนี้เขามีพลังเทียบเท่ากับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เขามีร่างกายเปลือยเปล่าแต่กลับมีพลังเหมือนเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดที่มีสมบัติ”
“ข้าอาจถูกฆ่า”
หลัวเฟิงคิดว่าจะหลบเข้าไปในหอคอยดวงดาวดีหรือไม่ แต่การเข้าไปจะทำให้เขาถูกกำจัดทิ้ง
“ต้องยืนหยัด ทนมันไว้” หลัวเฟิงติดสินใจ
หลัวเฟิงทำได้เพียงแค่อดทนจากการโจมตีของสัตว์ประหลาดควลโล และแล้วมันก็หยุดกะทันหัน
หลัวเฟิงมองไปที่มันด้วยความสับสน “ทำไมเขาถึงหยุด”
สัตว์ประหลาดนั่งลงและหลับตา
“เจ้าผ่านรอบนี้ไปต่อได้” เสียงของสายน้ำวูดูวง
หลัวเฟิงรู้สึกโล่งใจ ในที่สุดเขาก็ผ่านรอบนี้ เขามองที่สัตว์ประหลาดโดยที่มันไม่ยอมขยับ
หลังจากประตูเปิดหลัวเฟิงก็บินเข้าไปยังประตูทันที หลัวเฟิงพบกับสามเงา
“เจ้ารอดมาได้งั้นรึ” เจ้าแห่งจักรวาลเทพดำพูดออกมาอย่างประหลาดใจ
“ผู้นำทางช้างเผือก เจ้ารอดจากสัตว์ประหลาดนั้นด้วยตัวเองใช่ไหม” เจ้าแห่งจักรวาลธุลีเงาเย้ย
“ข้าขอชื่นชมกับสิ่งนั้นจริงๆ” เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสยิ้ม
ดูเหมือนว่าเจ้าแห่งจักรวาลจัตุรัสทองและเจ้าแห่งจักรวาลหลิวจิว จะเป็นผู้ที่ตาย เขาไม่คิดว่ารูปแบบชีวิตพืชอย่างเจ้าแห่งจักรวาลหลิวจิวนั้นจะตาย
“ทำไมทั้งสองถึงได้ตาย สัตว์ประหลาดนั้นไม่ทรงพลังเลย” หลัวเฟิงตกใจ
“สิ่งที่เจ้าพบนั้นไม่ทรงพลัง แต่สิ่งที่พวกเราพบนั้น เจ้าก็ต้องตาย”
“แล้วเจ้าพบอะไร” หลัวเฟิงถาม
เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสกล่าว “สัตว์ประหลาดควลโลที่พบในตอนแรกนั้นไม่ได้ทรงพลังอะไรเลย แต่ยิ่งนานขึ้นมันก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ พลังของมันได้มาถึงระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดในเวลาไม่นาน มันเพิ่มขึ้นจนเหนือกว่าเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดคนใดที่ข้าพบมา”
“เพียงแค่หนึ่งหมัดนั้นก็สร้างความเสียหายรุนแรงให้กับร่างกายของเรา”
“เจ้าแห่งจักรวาลหลิวจิวไม่สามารถหลบได้ จึงถูกฆ่าในทันที ไม่มีแม้แต่โอกาสจะหลบเข้าไปในวังสมบัติเพื่อรักษาชีวิต”
“สำหรับเจ้าแห่งจักรวาลจัตุรัสทองไม่ยอมทำงานร่วมกับอีกสองคน ทำให้ตายเช่นกัน แต่นับเป็นโชคดีที่มันหยุดลงหลังจากนั้นไม่นาน ไม่เช่นนั้นธุลีเงาและเทพดำก็คงตายเช่นกัน”
หลัวเฟิงรู้สึกตกใจ มันมีบางอย่างผิดปกติ สัตว์ประหลาดควลโลแข็งแกร่งกว่าสัตว์ประหลาดตัวใดที่เขาพบ สัตว์ประหลาดมีพลังในระดับอัศวินตอนเขาพบทีแรก แต่มันก็หยุดลงเมื่อมันมาถึงเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด
“มีเพียงพวกเจ้าสี่คนที่เหลืออยู่” ร่างของสายน้ำวูดูวงปรากฏขึ้นมาและเริ่มพูดทันที
ทั้งสี่จ้องมองไปยันสายน้ำวูดูวง
“นั่นเพียงแค่การทดสอบเล็กๆ แต่ในพวกเจ้าสองคนก็ตาย นั่นเป็นเพียงเส้นทางที่จะเข้าสู่ห้องรับมรดก”
สายน้ำวูดูวงชี้ไปข้างหน้า มันปรากฏทางที่ยาวตรงไป
พวกเขารู้สึกกลัวมาก เพราะมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของมันเท่านั้น แต่ทางเลือกของพวกเขามีแต่ต้องเดินหน้าต่อไป พวกเขาบินด้วยความระมัดระวังซ้ำๆ
หลัวเฟิงขมวดคิ้ว
———-
ด้านหน้าวังเทพขวานยักษ์ในจักรวาลเสมือน หลัวเฟิงได้ปรากฏตัวขึ้น ที่นั่นมีเจ้าแห่งจักรวาลกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะหิน
ขวานยักษ์มองมาที่เขา “หลัวเฟิง”
ผู้นำเมืองกล่าว “หลัวเฟิง เราเพิ่งได้ข่าวจากเผ่าพันธุ์โครงกระดูก เกี่ยวกับสายน้ำวูดูวง เราได้ยินว่าเจ้าคือหนึ่งในหกของผู้ที่เข้ารับมรดกของสายน้ำวูดูวง”
“อะไรเกี่ยวข้องกับสายน้ำวูดูวงงั้นรึ” ผู้สร้างขวานยักษ์กล่าว
สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ทั้งหมดกำลังมองมาที่หลัวเฟิง แม้ว่าพวกเขาจะได้ข่าวมาจากเผ่าโครงกระดูก แต่ก็ไม่ได้รู้อะไรมาก
“ข้าจะแสดงให้ดูทั้งหมด” หลัวเฟิงชี้ขึ้นไปบน ฟ้า เขานำภาพความทรงจำของเขาออกมาตั้งแต่ตอนที่เริ่มเข้าไปในเรือสุสาน ตอนเข้าไปยังห้องควบคุม ตอนเขารับมรดก รวมไปถึงตอนที่สู้กับสัตว์ประหลาดควลโล เขาตัดส่วนที่ใช้ปีกออกไป
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดนั้นเงียบไป
หลัวเฟิงพยักหน้า “ในกรณีนี้ มรดกของสายน้ำวูดูวงเป็นของอารยธรรมโบราณ มันคือโอกาสที่ดีแต่มันก็มีผู้สืบทอดได้เพียงคนเดียว แม้นี้จะเป็นเพียงการเริ่มต้น แต่ก็มีเพียงสี่คนเท่านั้นที่รอด นี่เป็นโอกาสนี้สำหรับมนุษย์เรา ข้าจึงต้องรับมันไว้”
หลัวเฟิงมองที่ขวานยักษ์และผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล
ทั้งสองพยักหน้า ทั้งคู่รู้ดีว่าหลัวเฟิงนั้นเหมาะสมกับสิ่งนี้ที่สุด หลัวเฟิงนั้นเป็นเพียงอัศวิน หากเขาตายก็สามารถที่จะฟื้นขึ้นมาได้ แม้ว่าจะเสียสมบัติไปบ้าง แต่ความสามารถในการเข้าใจ เทคนิค รวมถึงอำนาจจิตนั้นยังอยู่ พลังของเขาจึงสามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
“หลัวเฟิงพยายามที่รับมรดก เราอย่าไปรบกวนเขา เมื่อมีการเตรียมการอื่นๆ ของเราจะแจ้งให้เจ้าทราบ”
“ครับ” หลัวเฟิงพยักหน้าแล้วหายไป
———-
ช่วงเวลานั้นข่าวถูกแพร่กระจายไปถึงสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และกลุ่มอำนาจอื่นๆ ทั่วทั้งมหาสมุทรจักรวาล สิ่งนี้ทำให้เกิดความบ้าคลั่งขึ้นไปทั่วทั้งหมด