ตอนที่ 1227 จุดประสงค์ร้าย
บนเส้นทางเดินแห่งชีวิตและความตายของเรือสุสาน
มีหกร่างยืนกระจายออกไปในทิศทางแตกต่างกัน พวกเขากำลังสังเกตเกมจักรพรรดิแรด
“มีการเคลื่อนไหว” หลัวเฟิงขมวดคิ้วและมองออกไปด้านนอก
เขารู้สึกถึงคลื่นที่ส่งออกมาจากอีกด้านหนึ่งของทางเดิน มันเป็นทิศทางจากห้องที่ต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาดควลโล อีกสามคนก็ให้ความสนใจกับมันเช่นกัน
“เป็นไปได้ไหมที่สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่อื่นกำลังมา การที่สายน้ำวูดูวงปล่อยเผ่าโครงกระดูกไป เขาต้องกระจายข่าวออกไป มันได้ถึงดึงดูดความสนใจกับสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่อื่นๆ”
ยิ่งมีสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่มากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสค้นหาผู้รับการสืบทอดที่ดีที่สุด
หลัวเฟิงได้เข้าใจการตัดสินใจนี้ของสายน้ำวูดูวง แต่มันก็สร้างแรงกดดันให้กับหลัวเฟิง
“เกมจักรพรรดิแรดนั้นยากจริงๆ แม้ว่าจะอยู่ที่นี่เพียงแค่ปีเดียว แต่ในจักรวาลขวานยักษ์มันเท่ากับหลายพันปี”
“ผ่านมาเพียงไม่กี่ยุคข้ายังผ่านได้เพียง 119 ด่าน”
เกมจักรพรรดิแรดนี้ต้องการความเข้าใจจนไม่น่าเชื่อ
หลัวเฟิงได้ทำความเข้าใจตั้งแต่ด่านแรกจนถึงหนึ่งร้อยอย่างสมบูรณ์
กระบวนการทำความเข้าใจนี้ทำให้หลัวเฟิงสามารถสร้างแผนภาพโครงสร้างได้หลายมิติมากขึ้น
ไม่นานระลอกคลื่นที่แข็งแกร่งได้ถูกส่งมา
มีร่างจำนวนมากได้บินออกมา มันได้ทำการดึงดูดความสนใจกับผู้ที่มาก่อน ให้หันไปมองมัน เมื่อพวกเขาเห็นก็มีการเปลี่ยนแปลงในท่าทางที่แตกต่างกัน
“มากจริงๆ”
“นี่มันเยอะมาก”
“จำนวนมากอย่างงี้ได้อย่างไร”
ทุกคนรวมถึงหลัวเฟิงนั้นตกใจ จำนวนของผู้คนหลายร้อยคนได้เข้ามา ร่างกายของพวกเขาถูกล้อมด้วยใบไม้สีเขียว พวกเขามาจากเผ่าพันธุ์เดียวกัน และมีบางคนเท่านั้นที่แตกต่างออกไปซึ่งน่าจะมาจากเผ่าพันธุ์อื่น
เจ้าแห่งจักรวาลธุลีเงามีการแสดงออกที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย “เกือบทั้งหมดมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพา มีเพียงสามที่มาจากเผ่าพันธุ์อื่น ดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพาได้ส่งคนออกมามากมายขนาดนี้”
“ดูดีๆ พวกเขาทั้งหมดไม่ใช่เจ้าแห่งจักรวาล มีแม้แต่อัศวินและอมตะ” เจ้าแห่งจักรวาลเทพดำกล่าวเสริม
“สัตว์ประหลาดควลโลนั้นน่ากลัวมาก แต่ตอนนี้อัศวินและอมตะก็สามารถผ่านได้…ข้าคิดว่าสัตว์ประหลาดควลโลนั้นจะคำนึงถึงความสามารถของผู้บุกรุกก่อนที่จะแสดงพลังของมัน”
“นี่ถือเป็นข่าวที่สำคัญมาก ก่อนหน้านี้เผ่าพันธุ์เรานำมาแต่เจ้าแห่งจักรวาล แต่กลับไม่นำอมตะคนใดมาเลย นี่ถือเป็นข่าวที่สำคัญกับเผ่าพันธุ์เรา”
“ถ้าหากพูดถึงระดับอมตะ เผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ของเรานั้นมีจำนวนมากมาย”
ร่างของเทพดำที่เหลือไว้ในเผ่าของตัวเองได้ทำการรายงานข่าวนี้ในทันที
แต่เจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงที่สองและเจ็ดได้เดินทางออกไปแล้ว
“จำนวนค่อนข้างมากในครั้งนี้” เสียงเย็นชาดังขึ้น
หลัวเฟิงหันไปมอง…ที่นั่นมีร่างที่สร้างขึ้นจากลำแสงคือสายน้ำวูดูวง หลัวเฟิงมองไปแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ก็ไม่ได้สนใจอีกต่อไป ทุกครั้งที่มีผู้มาใหม่สายน้ำวูดูวงก็ทำการอธิบายซ้ำๆ เหมือนเดิม ก่อนหน้านี้สองเจ้าแห่งจักรวาลจากเผ่านาฬิกาสวรรค์ก็ได้ถูกอธิบายในแบบเดียวกัน
เป็นครั้งคราวที่หลัวเฟิงให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อมของเขา ที่เขาทำแบบนั้นเพราะว่าเขารู้สึกว่าไม่มีอิทธิพลต่อความเร็วในการถอดรหัสของเขา
เวลาได้ผ่านเลยไป ในพริบตาก็ผ่านไปหนึ่งเดือน
หลัวเฟิงมุ่งความสนใจเสาที่ 123 เพื่อทำให้ด่านที่ 123 ถูกเข้าใจอย่างสมบูรณ์
เนื่องจากกฎนั้นถูกรู้แล้วจึงทำให้ไม่ได้ยากเลย หากเอาไปเทียบกับการทำความเข้าใจในครั้งแรก
ตอนนี้มันได้แตกต่างจากตอนแรกที่เขาทำความเข้าใจกฎของเกม
หลัวเฟิงได้สร้างโครงร่างขึ้นมาจากองค์ประกอบพื้นฐานที่เขารู็สึกว่ามันไม่สมบูรณ์ เขาสร้างมันจากพื้นฐานความรู้สึกของตัวเอง
เมื่อเวลาผ่านไป…หลัวเฟิงได้วาดแผนภาพนับหมื่นและรวมพวกมันเข้าด้วยกันจากองค์ประกอบพื้นฐาน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพยายามถอดรหัสแบบนี้ ทำให้เขาได้รู้สึกว่าได้ความรู้ใหม่ๆ เข้ามาอยู่ในใจของเขา
เวลาผ่านไปครึ่งปี
เงาทรงกรวยก่อขึ้นมาภายในเสาคริสตัล ภายนอกนั้นไม่สามารถที่จะมองเห็นภาพเสมือนได้ถูกวางไว้กลางอากาศ มันไม่ใช่พลังงานอมตะ มันจึงสลายหายไปได้
คลื่นบางอย่างได้ถูกส่งมายังจิตสำนึกของหลัวเฟิง “ด่านที่ 124 ถอดรหัสเสร็จสมบูรณ์”
หลัวเฟิงแอบมีความรู้สึกของความสุขอยู่ภายใน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพยายามถอดรหัสเอง…
“ต่อไปด่านที่ 125”
เวลาได้ผ่านไป
หลังจากกลุ่มสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพาได้มาถึง หลัวเฟิงรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังงานของสิ่งมีชีวิตสูงสุดที่มาจากด้านนอก มันคือคลื่นพลังที่เกิดจากการต่อสู้ของสิ่งมีชีวิตสูงสุด
มันเป็นห้าเดือนหลังจากสิ่งมีชีวิตจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพามา
คลื่นอันน่ากลัวได้ผ่านเข้ามายังในเรือสุสาน พลังของมันถูกลดลงเมื่อมาถึงภายใน มันได้ผ่านเข้ามาถึงจุดที่ทำการเล่นเกมจักรพรรดิแรด แม้แต่อมตะที่ทำการทดสอบก็ตรวจจับคลื่นนี้ได้
“เจ้าจักรพรรดิบูรพาน่ารังเกียจ” เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสมีประกายตาของความโกรธขึ้นมา ขณะที่เขามองไปยังสิ่งมีชีวิตจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพา
“เจ้าแห่งจักรวาลดาวหนือที่แท้จริงนั้นได้ปิดกั้นประตูของเรือไว้ เขาอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบจากการมีของมีค่ามากมาย เขาถึงได้กล้าแสดงความเย่อหยิ่งแบบนี้”
สำหรับผู้ที่มีอายุมานานนั้นรู้ว่าเจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงนั้นเป็นใคร
เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสนั้นรู้จักเขาเป็นอย่างดี
เจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงสูงสุดเป็นหนึ่งในเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพา เขาได้รับมรดกโบราณไว้มากมาย แม้ว่าเขาจะไม่มีจักรวาลขนาดเล็ก เพียงแค่พึ่งพามรดกโบราณอย่างเดียว ความสามารถเขาก็ทรงพลังในหมู่สิ่งมีชีวิตสูงสุด
การมายังเรือสุสานครั้งนี้ เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงได้ยืมสมบัติอื่นๆ มาจากสิ่งมีชีวิตสูงสุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพา ทำให้เขามีสมบัติแท้จริงสูงสุดถึง 4 อย่าง
การที่เขามาขวางประตูไว้ทำให้สิ่งมีชีวิตจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงที่มาถึงนั้นไม่สามารถเข้ามาด้านในได้
เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสก่นด่าอย่างไม่พอใจ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ไม่สนใจเรื่องนี้อีกและทำการศึกษาเกมจักรพรรดิแรดต่อ
———-
กำลังเกิดการต่อสู้ภายนอกเรือสุสาน มันเป็นการเผชิญหน้าของสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงได้มาถึงก่อนและปิดกั้นทางเข้าเรือเอาไว้
การที่เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงนั้นได้มาอย่างรวดเร็วเพราะรายละเอียดแผนที่ของเรือจักรวาล และยังสมบัติแท้จริงสูงสุด ทำให้เขาเดินทางมาด้วยเวลาอันรวดเร็ว
เวลาการมาถึงของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงมาหลังดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพาเพียงแค่สามวัน
การสู้ในวันที่สามของสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์
“ดาวเหนือแท้จริงสารเลว”
“ดาวเหนือ คิดว่าจะหยุดเราสามคนได้งั้นรึ”
“หลบไป”
“เทพแท้จริงนิรันดร์ไปเอาเขาออกไป”
บริเวณประตูดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงกับเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ได้ร่วมมือกัน
สามเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดทำการบุกโจมตีเจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงอย่างเต็มกำลัง
เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดทุกคนในเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์นั้นมีจักรวาลขนาดเล็ก พลังของพวกเขาจึงไม่ธรรมดา
เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือแท้จริงนั้นไม่มีความกลัวแต่อย่างใด เขาอาจยึดครองที่นี่ในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะได้รับความเสียหาย
———-
ทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ของเกมจักรพรรดิแรดได้ทำการถอดรหัสอย่างเต็มที่ พวกเขาพยายามทำความเข้าใจกับมันอย่างถึงที่สุด
ความเร็วการเข้าใจของเหล่าอัศวินและอมตะนั้นช้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเหล่าอมตะที่ได้รับการบรรยายจากเหล่าเจ้าแห่งจักรวาลถึงกฎและการทำความเข้าใจเกมจักรพรรดิแรด
มีคลื่นพลังงานได้มาจากทิศทางของสัตว์ประหลาดควลโล หลัวเฟิงเข้าใจมันทันทีว่ากำลังมีผู้มาใหม่จำนวนมาก
“มีคนจำนวนมากมาย แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะได้รับมรดก” หลัวเฟิงถอนหายใจกับความบ้าคลั่งของเผ่าพันธุ์ต่างๆ
หลังจากนั้นไม่นานก็มีกลุ่มสิ่งมีชีวิตจากอำนาจอื่นกว่าสองร้อยเข้ามา ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยอมตะจำนวนมาก และอัศวินกับอมตะผสมกัน พวกเขามาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงเป็นส่วนใหญ่ และตามด้วยเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์
หากรวมเข้ากับเจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสแล้ว ผู้ที่กำลังได้เปรียบอยู่ควรจะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วง
“นี่คือกฎพื้นฐาน” เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสได้เล่าให้กับผู้มาใหม่
แสงเริ่มรวมตัวกันก่อเป็นรูปร่างของชายผมสีฟ้าอมเขียว เขาจ้องมองมายังผู้เข้ารับสมัครมรดกทั้งพันคน เขาทำการแนะนำ ตัวเองและเริ่มอธิบายถึงการทดสอบ แต่เขาก็เริ่มพูดต่อ “เริ่มกันได้เลย เวลานั้นมีจำกัด ผู้ที่บรรลุข้อจำกัดต่ำสุดของข้าจะได้เข้าสู่ห้องถัดไป”
สายน้ำวูดูวงได้มอบตรวจสอบไปรอบๆ ห้องด้วยสายตาเย็นชา
“อย่าประมาทเกมจักรพรรดิแรด ผู้มาก่อนสี่คนจนถึงตอนนี้มีเพียงแค่มนุษย์เท่านั้นที่ทำการถอดรหัสด่านที่ 124 ได้สมบูรณ์ ส่วนอีกสามนั้นยังช้าเกินไป”
สายน้ำวูดูวงส่ายหัวก่อนที่จะหัวเราะด้วยเสียงเย็นชา หลังจากนั้นเขาก็หายไป
คำพูดของเขาได้ทำให้คนอื่นๆ ทั้งหมดทั้งมาใหม่และเก่าได้หันมามองหลัวเฟิง
หลัวเฟิงมีท่าทีเปลี่ยนไป “สายน้ำวูดูวงนั้นน่ารังเกียจจริงๆ เขาพูดแบบนั้นเพื่อให้เกิดความไม่พอใจต่อข้าได้ยังไงกัน”
“โจมตีมนุษย์ อย่าให้เขามีสมาธิ”
“โจมตีเขา”
“โจมตีมนุษย์นั้น”
การอธิบายของสายน้ำวูดูวงนั้นบอกเพียงแค่ว่าให้ทำความเข้าใจเกมจักรพรรดิแรดนี้ แต่ไม่ได้บอกว่าห้ามมีการฆ่ากันในระหว่างการทำความเข้าใจ สิ่งนี้ได้ถูกอธิบายมาตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้ แล้วเจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาส เจ้าแห่งจักรวาลเทพดำก็ได้บอกพวกเขาว่าเหมือนกัน