ตอนที่ 123 ชีวิตในค่ายฝึก 2
ในชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงวันที่ 1 เมษายน วันแห่งการฝึกฝนของหลัวเฟิงอย่างเป็นทางการเริ่มขึ้นแล้ว
วันที่ 1 เมษายน หลัวเฟิงตามนักเรียนอีก 91 คนมุ่งหน้าไปยังเมืองๆ หนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากค่ายออกไปราวๆ 300 กิโลเมตร…เมืองหมายเลข 1001 ชื่อนี้ถูกตั้งขึ้นโดยผู้ก่อตั้งนครหงหนิง อาจารย์หง นั่นเอง นักเรียนทุกคนจะต้องมาล่าสัตว์ประหลาดที่เมืองแห่งนี้
ที่สำคัญคือ ที่นี่ยังมีดาวเทียบที่คอยโคจรสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
ซึ่งภายในค่ายมีกฎเหล็กดังนี้…
1.ผู้ใดทำการลักลอบขายชิ้นส่วนสัตว์ประหลาดให้กับนักเรียนคนอื่นเพื่อช่วยในการยกระดับคะแนน หากพบเห็น จะถูกไล่ออกทันที
2.ผู้ใดฆ่านักเรียนคนอื่น หากพบเห็นจะถูกประหารชีวิต!
…………
“ฉัวะ!”
หลังจากที่ดาบปีศาจฟันฉับเข้าไปที่หัวของกวางภูเขาดำตัวหนี่ง หัวซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆ กับภูเขาย่อมๆ ของมันก็หลุดขาดกระเด็นออกไป
“สัตว์ประหลาดในฝั่งตะวันตกดูจะแตกต่างจากพวกที่อยู่ในจีนทีเดียวแฮะ” หลัวเฟิงที่เข้ามาในแดนเถื่อนดูไม่ผิดกับปลากระดี่ที่ได้น้ำ เขาเคยฝึกเทคนิคดาบของเขากับฝูงสัตว์ประหลาดมาก่อน นักเรียนคนอื่นๆ ต่างก็กลัวที่ต้องตกอยู่ในวงล้อมของสัตว์ประหลาด แต่หลัวเฟิงไม่ได้สะทกสะท้านกับสิ่งนั้นเลย
ดังนั้น หลัวเฟิงจึงล่าสัตว์ประหลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเขาก็ทำคะแนนได้ค่อนข้างดี
……..
“สถานะของเทคนิคถูกแบ่งออกเป็น ขั้นพื้นฐาน ขั้นเชี่ยวชาญ ขั้นสมบูรณ์แบบ ขั้นสุดยอด มี 4 ระดับเท่านี้ ในตอนนี้ นายจะต้องฝึกเทคนิคขั้นพื้นฐานให้ดีขึ้น! ไปฝึกในห้องแรงโน้มถ่วงจำลองซัก 2 ชั่วโมงแล้วก็มาฝึกที่นี่ต่อ! ในห้องฝึก ก็ให้นายฝึกดาบในนั้น 2 ชั่วโมงเหมือนกัน! หลังจากนั้นก็ให้นายมาฝึกต่ออีก! ถ้าเทคนิคดาบไม่แน่น อย่าได้คิดทำอย่างอื่นอีก เมื่อนายฝึก จงใช้สมองคิด! ทำยังไงนายถึงจะโจมตีได้อย่างพลิ้วไหวเหมือนสายน้ำและต่อเนื่องไม่จบสิ้น!” เจียงฟางกล่าวสอน
“ครับครู!”
………….
ไม่ว่าจะเป็นในห้องแรงโน้มถ่วง ห้องฝึกดาบ หรือห้องฝึกชั้นใต้ดินในหอเจียงหนาน…
ในทุกๆ วัน หลัวเฟิงจะฝึกเทคนิคดาบของเขาและใช้กระทั่งพลังจิตของเขาเพื่อช่วยสังเกตวิถีของดาบ หลัวเฟิงพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และฝึกหนักขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
“อัตราการพัฒนาของเด็กคนนี้น่ากลัวทีเดียว แต่ยังไงซะ นี่มันก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วในค่ายนี้” ถึงแม้ว่าเจียงฟางจะรู้สึกประหลาดใจ แต่เธอก็คาดหวังกับหลัวเฟิงมากกว่านี้
วิธีการฝึกฝนทุกรูปแบบถูกนำมาใช้กับหลัวเฟิง
…….
แน่นอน ไม่สามารถหยุดการฝึกฝนพลังพันธุกรรมได้เลยแม้แต่วันเดียว
มีแค่เฉพาะตอนที่เขามีโอกาสคุยกับพ่อแม่หรือไม่ก็สวีซินผ่านโน๊ตบุ๊คเท่านั้นที่เขาจะผ่อนคลายได้
“หลัวเฟิง ดูนายเหนื่อยๆ นะ?”
“ไม่หรอก แค่ได้เห็นหน้าเธอฉันก็หายเหนื่อยแล้ว” หลัวเฟิงหัวเราะขณะที่วีดีโอคุยกับสวีซิน
“ไม่นึกว่าหลัวเฟิงจะพูดอย่างนี้เป็นกับเขาด้วย”
……….
ภายในค่ายฝึกหลัวเฟิงถูกกลบรัศมีหมดเลย เหล่าอัจฉริยะมากมายมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ และอัจฉริยะเหล่านั้นล้วนเหนือกว่าเขาทั้งหมด! สำหรับนักอ่านจิต ในค่ายนี้ก็มีเป็นสิบๆ คนเห็นจะได้ ในเรื่องของพลังจิตก็ดูเหมือนพวกเขาจะเหนือกว่าหลัวเฟิงด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคนิคดาบ เทคนิควิชา หรือการปลดปล่อยพลังในนี้ก็ล้วนมีคนที่เหนือกว่าหลัวเฟิงทั้งนั้น
ทุกคนที่นี่ล้วนมีพลังคูณ 4 เท่าขึ้นไปทั้งนั้น
สำหรับเรื่องเทคนิค ก็มีคนจำนวนมากเลยที่เข้าถึงระดับสุดยอดไปแล้ว
ส่วนเรื่องสถานะดาบ หลัวเฟิงก็ยังถือว่าอยู่อันดับบ๊วยของค่ายนี้
“เทคนิคและการปลดปล่อยพลังของหลัวเฟิงคนนี้ถือว่าสุดยอดทีเดียวในขั้นต้น ถึงแม้ว่าอัตราการพัฒนาของเขาจะยังไม่ดีที่สุด แต่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ฉันมั่นใจว่าเขาจะก้าวเข้าสู่สถานะดาบขั้นที่ 2 ในไม่ช้านี้” เจียงฟางรู้สึกพอใจกับนักเรียนของเธอ “หลังจากนี้อีกสองสามปีหลัวเฟิงน่าจะสามารถเบียดขึ้นไปอยู่ในอันดับท็อป 10 ได้แน่ๆ”
…………..
หลัวเฟิงเป็นเหมือนกับฟองน้ำที่ดูดสารอาหารต่างๆ ภายในค่ายด้วยทุกอย่างที่เขามี ไม่ว่าจะเป็นระดับสมรรถภาพร่างกาย เทคนิคดาบ และทุกๆ สิ่ง หลัวเฟิงแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างชัดเจน อัตราการพัฒนานี้เร็วยิ่งกว่าตอนที่เขาฝึกฝนคนเดียว! และที่นี่ก็ยังมีเทพสงครามจำนวนมากที่คอยเข้ามาสอนสิ่งต่างๆ ให้อยู่เรื่อยๆ!
แม้แต่ระดับผู้ตรวจการก็ยังเข้ามาสอนอยู่หลายครั้ง!
………..
เช้าวันที่ 26 เมษายน
หอเจียงหนาน…ห้องของหลัวเฟิง
“ดูเหมือนเบียดขึ้นไปอันดับบนๆ ของอันดับมังกรดำจะยากจัง” สวีซินพูดในวีดีโอ
“ก็จริง” หลัวเฟิงพยักหน้า
สำหรับเดือนนี้ทั้งเดือน นอกจากเวลานอนกับตอนที่คุยกับครอบครัวหรือสวีซินแล้ว เวลาทั้งหมดเขาใช้ไปกับการฝึกฝนเพียงอย่างเดียว!
การพัฒนาในเดือนนี้ของเขาค่อนข้างน่าอัศจรรย์ทีเดียว!
“มีเหล่าอัจฉริยะมากมายภายในค่ายนี้ คนที่แพ้ฉัน วิลเลียมนั่นก็อยู่ในอันดับราวๆ 150 มีนักเรียนอีกหลายคนที่อยู่ต่ำกว่า 150 ในปีแรกที่พวกเขามาถึง การเบียดขึ้นไปอยู่ที่ท็อป 120 มันดูยากอย่างกับบินขึ้นฟ้าเลยล่ะ อย่าให้ฉันติดอันดับท็อป 100 ได้ก็แล้วกันคอยดู” หลัวเฟิงกล่าว
“ก็อาจจะใช่ แต่ก็นะ ไม่รู้ว่าฉันจะเบียดขึ้นไปท็อป 120 ได้รึเปล่า” หลัวเฟิงส่ายหัว
จำนวนของสัตว์ประหลาดที่หลัวเฟิงฆ่าไปตลอด 26 วันมานี้ดูจะพอๆ กับนักเรียนคนอื่นที่อยู่ที่นี่มาแล้ว 2 ถึง 3 ปีทีเดียว ถึงแม้ว่าจะทำให้คะแนนความสามารถในการต่อสู้ของเขากลายเป็น 4.48 (2.8X1.6) แต่ก็ยังไม่พอที่จะทำให้เขาเบียดขึ้นไปอยู่ในอันดับท็อป 120 ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาก็ขึ้นมาอยู่อันดับเหนือวิลเลียมแล้ว!
“หลัวเฟิง ไม่ต้องกดดันตัวเองมากเกินไปนะ นายแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว ไหนนายบอกว่านายอยู่อันดับ 2 ของพวกนักเรียนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ในปีนี้ไง?” สวีซินกล่าวเสริมกำลังใจ “และตามที่นายบอก…คะแนนความสามารถในการต่อสู้ของนายก็เกิน 4.48 เท่าแล้วนี่ เดี๋ยวนายทดสอบที่หอคอยแห่งการทดสอบเสร็จ คะแนนความสามารถในการต่อสู้ของนายจะเพิ่มขึ้นอีก ถึงตอนนั้นนายอาจจะเบียดขึ้นไปติดอันดับท็อป 100 ก็ได้นะ จากที่เคยได้ยินมา ใครก็ตามที่สามารถติดอันดับท็อป 100 ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าร่วมค่าย คนๆ นั้นจะค่อนข้างเป็นที่ฮือฮาเลยไม่ใช่เหรอ” สวีซินทอดถอนใจ
เนื่องจากภูมิหลังของสวีซิน จึงทำให้เธอรู้ข้อมูลเกี่ยวกับค่ายฝึกพอสมควร
“วันนี้เป็นวันที่นายจะต้องเข้าไปทดสอบในหอคอย ทำให้เต็มที่นะ” สวีซินยกนิ้วให้ในวีดีโอ
“ฮ่าๆๆ” หลัวเฟิงยิ้มร่า
“ฉันจะทำเต็มที่ คอยดูละกัน”
ยิ่งระดับในหอคอยแห่งการทดสอบสูงเท่าใด ระดับก็จะสูงเท่านั้น
ตอนที่เขาผ่านบททดสอบระดับ B ระดับในหอคอยของเขาก็เลื่อนขึ้นไปที่ 1.6 ทันที และด้วยการพัฒนาเทคนิคและความเร็วอันรวดเร็วของเขา ระดับในหอคอยของเขาจึงยังคงพัฒนาเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว
……..
11.50 น. หลัวเฟิงคุยกับพ่อแม่ของเขาอยู่ครู่หนึ่ง
หลังจากนั้น หลัวเฟิงก็สวมเสื้อเชิ้ตแล้วเดินทอดน่องออกไปข้างนอกหอ บังเอิญเจอกับจ้าวรั่วที่เพิ่งกลับมาพอดี เธอเอ่ยยิ้มๆ “หลัวเฟิง ออกไปทานมื้อเที่ยงกันไหม?”
“ผมทานแล้วครับ” หลัวเฟิงยิ้ม
“ฉันเพิ่งจะไปดูอันดับมังกรดำมา ตอนนี้นายอยู่ที่อันดับ 126 แล้วนะ นายนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ฉันเองยังติดแค่อันดับท็อป 100 อยู่เลย” จ้าวรั่วแซว หลัวเฟิงยิ้มร่า “รุ่นพี่ ระวังให้ดีนะ เดี๋ยวอีกไม่นานผมก็จะเบียดขึ้นท็อป 100 แล้ว!”
“อีกไม่นาน? แค่ไหนล่ะ? 2 เดือน 3 เดือน?” จ้าวรั่วเดา
“เดี๋ยวค่อยคุยกันนะครับ ตอนนี้ผมมีธุระ” หลัวเฟิงไม่ได้พูดคำใดอีก เขาตั้งใจว่าจะเข้าไปทดสอบที่หอคอยแห่งการทดสอบในตอนเที่ยงของวันที่ 26 เมษายนนี้ นอกจากสวีซินแล้วไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย
หลังจากการสนทนานั้น หลัวเฟิงก็มุ่งหน้าไปที่ตึกมหานพ
ขณะที่กำลังเดินไป มีนักเรียนอีกสองสามคนกล่าวทักทายเขา…นักเรียนจะให้ความเคารพกับผู้ที่แข็งแกร่ง และหลัวเฟิงก็สามารถขึ้นมาอยู่อันดับที่ 126 ได้ภายในแค่เดือนแรกเท่านั้น ถึงแม้ว่าอันดับจะถูกจัดอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 ก็ตาม แต่ความแข็งแกร่งของหลัวเฟิงก็เป็นที่ประจักษ์ชัดกับทุกคนแล้ว
อายุ 19 ปี และเขาก็ทรงพลังมากๆ
แล้วอนาคตล่ะ?
ดังนั้น พวกนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นจากอเมริกาใต้ อเมริกาเหนือ ยุโรป แอฟริกาหรือที่อื่นๆ ทุกคนต่างดีกับหลัวเฟิงทั้งนั้น
……….
บนชั้นที่ 9 ตึกมหานพ นักเรียผิวดำ 6 คนซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นการฝึกในห้องฝึกและห้องแรงโน้มถ่วงต่างกล่าวทักทายอย่างเป็นมิตร
“อ้าว หลัวเฟิง นายมาที่นี่ทำไมตอนเที่ยงแบบนี้?” นักเรียนผิวสีคนหนึ่งที่พอรู้ภาษาจีนเอ่ยถามขึ้น ส่วนที่เหลืออีก 5 คนไม่รู้ภาษาจีน มีนักเรียนน้อยมากจากแอฟริกาที่รู้ภาษาจีน ถึงแม้ว่าจะมีการใช้ภายในค่ายอยู่บ่อยๆ ก็ตามที
“ฉันมีธุระน่ะ” หลัวเฟิงยิ้มพลางตรงเข้าไปยังห้องฝึก ห้องฝึกนั้นสแกนตัวหลัวเฟิงแล้วก็ยืนยันตัวตนของเขา
แอ๊ด!
ประตูห้องฝึกเปิดออกโดยอัตโนมัติโดยการผลักเพียงเล็กน้อยจากหลัวเฟิง แล้วเขาก็เข้าไปข้างใน
“ห้องฝึก? เขาเข้าไปในห้องฝึกได้ยังไงหลังจากเที่ยงวัน?”
“ไม่มีทางที่เขาจะเข้าไปในห้องนั้นได้” นักเรียนผิวสีคนหนึ่งกล่าวด้วยภาษาพื้นถิ่นอย่างคล่องแคล่ว
“อ๋า หลัวเฟิงนั่นเป็นนักเรียนใหม่ เดือนเมษานี้เป็นเดือนแรกของเขา นักเรียนใหม่ทุกคนมีสิทธิพิเศษที่จะเข้าไปในหอคอยแห่งการทดสอบได้ในระหว่างเดือนแรก”
“อย่าบอกนะว่าเขายังไม่ได้เข้าหอคอยแห่งการทดสอบ? นี่มันวันที่ 26 แล้วนะ!W
“เป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้วล่ะ นักเรียนไม่สามารถเข้าห้องฝึกได้ในช่วงเที่ยงถึงบ่ายโมง”
“พระเจ้า ขนาดเขายังไม่ได้เข้าทดสอบในหอคอยเขายังอันดับอยู่เกือบ 120 แล้วเหรอ หลังจากทดสอบแล้ว เขาจะอันดับเท่าไหร่นะ? อาจจะถึงท็อป 100 ก็ได้นะ”
“เด็กใหม่กำลังจะเบียดขึ้นอันดับท็อป 100 ในเดือนแรกเลยหรือนี่?”
“เร็วเข้า รีบไปที่อันดับมังกรดำกันเถอะ เดี๋ยวมันก็อัปเดตอันดับแล้ว”
“เร็วเถอะ รีบไปเร็ว!”
“ไปที่รูปปั้นมังกรดำกัน”
นักเรียนผิวสีทั้ง 6 คนต่างก็เอะอะโวยวายตามกันไป พวกเขารีบลงไปชั้นล่างแล้วมุ่งตรงไปยังรูปปั้นมังกรดำตรงหน้าประตูค่าย ต้องรู้ไว้ว่าเด็กใหม่ในค่ายนี้ที่จะเบียดอันดับขึ้นไปอยู่ท็อป 100 ในเดือนแรกนั่นเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย คนที่สามารถทำเช่นนั้นได้ย่อมกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคตข้างหน้าแน่
หรือว่า…
จะมีคนที่เข้าค่ายฝึกมาก็เบียดขึ้นไปอยู่ที่อันดับท็อป 100 ได้ปรากฏตัวอีกแล้ว?