Skip to content

Swallowed Star 1231

ตอนที่ 1231 อาจารย์ต้นกำเนิดและสายน้ำวูดูวง

“โจมตีเข้ามาตามต้องการได้เลย” หลัวเฟิงนั่งสบายๆ อยู่ภายในห้องควบคุม เขากำลังมองเจ้าแห่งจักรวาลด้านนอกที่กำลังโจมตีอย่างบ้าคลั่ง แต่ด้วยหอคอยดวงดาวเป็นสมบัติแท้จริงสูงสุดอันทรงพลัง มันลดผลกระทบจากการโจมตีลงจนน้อยมาก หลัวเฟิงนั้นไม่ได้รู้สึงถึงพลังงานอมตะเลย แต่ด้วยพลังของหลัวเฟิงจึงไม่สามารถหลุดจากความวุ่นวายนี้ได้

“ไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกเลย ข้าสามารถใช้พลังงานส่งไปยังเสาคริสตัลเพื่อทำความเข้าใจเกมจักรพรรดิแรดต่อ” หลัวเฟิงยิ้ม

———-

ในพื้นที่ปกคลุมไปด้วยหมอกในจักรวาลเสมือนจริง และสภาพแวดล้อมได้มีเงาเสาหินภาพสามมิติจำนวนมาก ด้านซ้ายเป็นเสาหิน 123 เสา และด้านขวาเป็นเสาหิน 10,080 เสา

ร่างของหลัวเฟิงปรากฏอยู่ในอากาศหน้าเสาหิน

“ข้าต้องจำลองเกมจักรพรรดินี้ทั้งหมดใจจักรวาลเสมือนจริง ข้าสามารถที่จะทำความเข้าใจโดยไม่ต้องสนใจสามกลุ่มอำนาจจะทำอะไร ไม่จำเป็นต้องสนใจพวกเขา”

ก่อนที่หลัวเฟิงจะถูกปิดล้อมโดยสามกลุ่มอำนาจ ผู้นำเมืองและผู้สร้างขวานยักษ์ได้รู้เกี่ยวกับเกมจักรพรรดิแรด ทั้งสองก็ขอให้หลัวเฟิงจำลองเกมจักรพรรดิแรดขึ้นมา สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จากเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็สงสัยเกี่ยวกับเกมนี้มาก

เกมจักรพรรดิแรดเป็นที่นิยมมากในสมัยอารยธรรมโบราณ มันยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาอีกด้วย พวกเขาจะไม่สนใจมันได้อย่างไร

หลัวเฟิงจึงจำลองเกมในจักรวาลเสมือนจริง แต่เขาสามารถจำลองได้เพียงส่วนหนึ่ง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพลังงานจักรวาลเสมือนในการคัดลอกเพื่อให้เจ้าแห่งจักรวาลทุกคนในจักรวาลเสมือนทำการศึกษาเกมนี้

“เกมจักรพรรดิแรดนี้ลึกลับมาก ข้าจำเป็นต้องศึกษามันต่อไป” หลัวเฟิงกล่าว

จิตสำนึกของหลัวเฟิงอยู่ภายในจักรวาลเสมือนจริง แต่การศึกษาจริงของเกมอยู่ในจักรวาลขนาดเล็กขวานยักษ์

———-

บริเวณประตูเรือสุสานที่อยู่ในเรือสุสาน เวลาได้ไหลผ่านไป

“สองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับวันแห่งความพินาศที่ใกล้เข้ามา ทำไมยังต้องการมรดกอีก แค่เจ้าสองคนคิดว่าจะหยุดเราได้งั้นเรอะ”

“ตาแก่สารเลว”

“หลบไปซะ”

“เจ้ากล้าที่จะตัดความหวังเผ่าพันธุ์เรา ข้าไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเจ้ามาจากที่ใด ทุกคนเข้ามารวมพลังโจมตี”

สถานการณ์ที่ประตูเรือสุสานเริ่มต้นเป็นสถานการณ์ฆ่า ยุคจักรวาลที่หนึ่งเข้าใกล้วันแห่งความพินาศ จึงคิดว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นศัตรูแม้ว่าจะอยู่ฝ่ายใดก็ตาม

เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดจากสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ร่วมกันขวางทางเข้าของเรือสุสาน

สองเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดกับหลายสิบเจ้าแห่งจักรวาลได้ทำการโจมตีกันอย่างบ้าคลั่ง สองเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเท่านั้นที่มีสมบัติแท้จริงสูงสุด แต่ดูเหมือนพวกเขาไม่ใช้มันโจมตีในทีเดียว

“เจ้าสามารถขวางเราไว้ได้ในเวลานี้ แต่มันจะได้อีกนานแค่ไหนกัน”

“เมื่อกลุ่มอำนาจอื่นเริ่มมาถึง เจ้าไม่มีทางต้านเอาไว้ได้อีกต่อไป”

“น่ารังเกียจจริงๆ”

“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์งี่เง่า”

“เจ้าสมควรตาย”

สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จากกลุ่มอำนาจอื่นล้วนกำลังโกรธที่ถูกขวางทาง เผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์เป็นเพียงหนึ่งในกลุ่มอำนาจจำนวนมากมายที่ได้เข้าไปยังเรือสุสาน

เผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์มีพลังเทียบเคียงกับดินแดินศักดิ์สิทธิ์ แต่กลุ่มอำนาจอื่นจำเป็นต้องรวมกำลังกันเพื่อจะเทียบเคียงกับพลังของเขา

สองเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดได้ทำการปิดกั้นทางเข้าไว้เป็นเวลาหนึ่งปี

หลังจากนั้น เจ็ดเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดได้นำทีมเจ้าแห่งจักรวาลบังคับให้เปิดทาง

หลังจากทำการปิดกั้นต่อเป็นเวลาครึ่งปี เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดได้มารวมกันเป็นสิบๆ พวกเขาได้นำเจ้าแห่งจักรวาล อัศวิน อมตะมาเป็นจำนวนมาก พวกเขากำลังพุ่งเข้าใส่เพื่อเปิดทางเข้าไปยังข้างใน

สายน้ำวูดูวง มีความต้องการมากขึ้นในกระบวนการคัดเลือก ช่วงเวลาคัดเลือกของชุดเดียวกับหลัวเฟิงนั้นคิดเป็น 15% ที่ถูกกำจัด แต่ด้วยอัตราการรับสมัครที่มาก อัตราก็ถูกเพิ่มขึ้น 50%-80% อัตราของอมตะนั้นสูงถึง 90%

———-

ภายในทางเดินแห่งชีวิตและความตายของเรือสุสาน สิ่งมีชีวิตชั้นยอดจากสามยุคจักรวาลและสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์รวมตัวกัน

สองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ส่งเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเข้ามา มันเป็นการจัดการสมาชิกที่แตกต่างกันของกลุ่มอำนาจต่างๆ กับสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาไม่มีความรู้ในเรื่องลึกลับเท่ากับสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์

นานมาแล้วที่สองดินแดนศักดิ์สิทธิ์มักจะอยู่แยกกันเสมอ แต่คราวนี้พวกเขากลับส่งกองกำลังขนาดใหญ่มาเพื่อรับมรดก นี่มันจะต้องสำคัญมาก

การที่สองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ส่งเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเข้ารับมรดก ซึ่งมีความหมายสำคัญว่าเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเข้าร่วมก็ไม่ช่วยอะไรมากนัก

เจ้าแห่งจักรวาลนับสิบได้ทำการโจมตีหวังฆ่าและคำรามออกมาใส่หอคอยสีแดงเข้ม พวกเขาโจมตีต่อเนื่องจนเกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วทางเดิน

“เกิดอะไรขึ้น ใครเป็นเจ้าแห่งจักรวาลที่กำลังถูกโจมตี”

“หอคอยที่กำลังถูกโจมตีนั้นเป็นของมนุษย์จากจักรวาลปฐมกาล เขาคือผู้นำทางช้างเผือก มีคนบอกว่าเขาคือผู้มีโอกาสมากที่สุดที่จะได้รับมรดก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาทุกคนต้องการขัดขวางการทำความเข้าใจเกมของเขา”

อมตะได้ส่งข้อความให้อีกคนแบบลับๆ

เช่นเดียวกับกลุ่มอำนาจอื่นๆ พวกเขาได้ส่งอมตะมานับล้าน แม้แต่เผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ก็ส่งอมตะมาในชุดที่สอง

ส่งผลให้ผู้เข้ารับสมัครนั้นมีระดับอมตะเป็นจำนวนที่มาก ผู้เข้ารับทดสอบนั้นมีถึงหลักแสนคน แม้จะเป็นสถานการณ์ถึงชีวิต

“มนุษย์ทางช้างเผือกนั้นคิดว่าจะรับมรดกได้?”

“โจมตี”

“เจ้าโง่”

กลุ่มอำนาจต่างๆ ทำการโจมตีเป็นครั้งคราวโดยที่หลัวเฟิงนั้นคือเป้าซ้อมมือของพวกเขา ไม่ว่าใครก็ตามจะทำการโจมตีเขาตามความพอใจในทุกเวลา

ภายในหอคอยดวงดาวหลัวเฟิงได้เปิดตาขึ้น “ส่งเสียงเห่าของเจ้าให้พอ พวกเจ้าจะตกใจเมื่อข้าได้รับมรดก”

รอบๆ กลุ่มอำนาจที่อ่อนแอที่สุดคือสิ่งมีชีวิตจากจักรวาลดั้งเดิม พวกเขาจึงเริ่มต้นรวมกลุ่มกัน

เผ่าพันธุ์ต่างๆ ในจักรวาลดั้งเดิมได้รวมตัวกันแม้ว่าพวกเขาจะไม่ถูกกัน

สิ่งมีชีวิตอมตะพวกเขามีจำนวนนับแสนคนที่ผ่านการคัดเลือก

“ช่างน่าเวทนา”

“ผู้นำทางช้างเผือกคือศัตรูของทุกคนที่ต้องการฆ่าเขา”

“ถึงจะน่าเสียดาย แต่ก็ทำให้เราไม่มีปัญหา”

สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จากจักรวาลปฐมกาลเห็นคนอื่นโจมตีหลัวเฟิง บางคนอย่างเจ้าแห่งจักรวาลเป็งกงนั้นมีการแสดงความโกรธออกมา แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้ ส่วนเผ่าพันธุ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์นั้นมีความเห็นใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาเฝ้ามองสถานการณ์ของหลัวเฟิงด้วยในใจที่ไม่ต้องการให้เผ่าพันธุ์มนุษย์แข็งแกร่งขึ้น

ไม่ว่าโลกภายนอกจะเป็นอย่างไร หลัวเฟิงก็ยังคงทำการศึกษาเกมจักรพรรดิแรดเงียบๆ

เวลาไหลไปเหมือนกับสายน้ำ จนมันผ่านไปหลายปี

ในพริบตาก็ใกล้ 500 ปี ทุกคนคิดว่าต้องใช้เวลาในการทดสอบเกมจักรพรรดิแรดนี้ไม่นาน สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ต่างก็ต้องพบกับความยากลำบากกับเกมจักรพรรดิแรด

“ด่านที่ 999 ถูกถอดรหัสเรียบร้อย”

ภายในพื้นที่ส่วนตัวในจักรวาลเสมือน

หลัวเฟิงยืนอยู่หน้าภาพร่างสามมิติของเกมจักรพรรดิแรดด่านที่ 1 พัน ยิ่งถอดรหัสเกมเหล่านี้ไปเรื่อยๆ เวลาก็ยิ่งถูกใช้มากขึ้นเรื่อยๆ จนมาถึงเกือบ 500 ปี

“ด่านที่ 1 พัน”

“มันยากมาก”

หลัวเฟิงรู้สึกว่าหนึ่งพันคือคอขวด

———-

“หลัวเฟิง”

ในจักรวาลเสมือนจริง หลัวเฟิงกำลังอยู่หน้าด่านที่ 1 พัน เพื่อทำการศึกษาเกมจักรพรรดิแรด มีชายชุดขาวได้เฝ้ามองดูเขา เขามีตาเหมือนหยก บนใบหน้าของเขามีรอยยิ้มอ่อนโยน เขานั้นทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้าน

“หลัวเฟิงได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง” ชายชุดคลุมสีขาวได้เฝ้ามองหลัวเฟิงอยู่ห่างๆ

แม้หลัวเฟิงจะมองมายังทิศทางของชายชุดคลุมสีขาว มันก็ไม่พบกับอะไร ราวกับมองไม่เห็นเขา

ไม่มีผู้ใดที่สามารถทำแบบนี้ในจักรวาลเสมือนได้ แม้แต่กับผู้สร้างขวานยักษ์ สิ่งนี้มีเพียงอาจารย์ต้นกำเนิดที่สร้างจักรวาลเสมือนจริงเท่านั้น แม้ว่าเขาจะไปยืนต่อหน้าหลัวเฟิง หลัวเฟิงก็จะไม่รู้สึกอะไรเลย

“การฝึกฝนเวลาสั้น แต่ทรงพลังมาก เขาได้เลือกเส้นทางการฝึกฝนการแกะสลักภาพ…มันเป็นไปได้ว่าการศึกษาการแกะสลักภาพคล้ายกับเกมจักรพรรดิแรด ถ้าไม่ใช่แบบนั้น มันคงเป็นไปไม่ได้ที่ความเร็วของขวานยักษ์จะห่างไกลกับเขามาก”

สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จากเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ทำการศึกษาเกมจักรพรรดิแรดผ่านจักรวาลเสมือนจริง

อาจารย์ต้นกำเนิดนั้นได้รับรู้ถึงความก้าวหน้าของแต่ละคน

เขาตกใจที่ความเร็วในการทำความเข้าใจของหลัวเฟิงนั้นไกลเกินกว่าเจ้าแห่งจักรวาลทุกคน แม้แต่ขวานยักษ์ก็ไม่อาจเทียบกับเขาได้

“นี่เป็นการตัดสินเพื่อมรดก”

“อมตะ อัศวิน เจ้าแห่งจักรวาล เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ทั้งสี่นี้มีระดับรากฐานที่แตกต่างกัน ความเร็วในการเข้าใจจากพื้นฐานนั้นก็แตกต่างกัน”

ชายชุดคลุมขาวพยักหน้าเบาๆ

“หลัวเฟิงเป็นเพียงอัศวิน ข้อกำหนดเขาควรไม่สูง เขาสามารทำความเข้าใจได้รวดเร็ว ไม่แปลกที่สายน้ำวูดูวงจะจับตาเขา”

“การศึกษาการแกะสลักภาพงั้นเหรอ อืม…”

สายชุดคลุมขาวส่ายหัว “เกมจักรพรรดิแรดนี้น่าสนใจจริงๆ”

“ขวานยักษ์ไม่เด่นในด้านการสร้างโครงร่าง เขาแข็งแกร่งแต่ก็เขลา เขาเพียงแค่ใช้ความรู้สึกทั้งหมดลงไปบนขวานของเขา” ชายชุดคลุมขาวส่ายหัว

“ไม่เช่นนั้นรากฐานระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดอย่างเขาคงเข้าใจเร็วกว่าหลัวเฟิง”

“เกมจักรพรรดิแรดนี้น่าสนใจ”

ชายชุดคลุมขาวได้เดินไปข้างๆ หลัวเฟิงที่กำลังนั่งโดยที่หลัวเฟิงไม่ได้ตระหนักถึง

“แม้ว่าข้าจะเป็นอัศวินอวกาศเหมือนหลัวเฟิง ข้าก็คงไม่อาจเทียบกับเขาได้” ชายชุดคลุมขาวส่ายหัว

ตัวอาจารย์ต้นกำเนิดก็มีรากฐานที่แข็งแรง ด้านความสามารถ ขวานยักษ์นั้นยังห่างไกลจากตัวเขานัก แต่เขาถูกขังเอาไว้ชั่วนิรันดร์ เขาได้เติบโตและแข็งแกร่งขึ้น แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย

“ด่านที่สองพันจะถอดรหัสยังไง”

ชายชุดคลุมสีขาวได้เดินไปหน้าด่านที่ 2 พัน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย พรสวรรค์ของเขานั้นช่างยอดเยี่ยม จักรวาลเสมือนนั้นต้องการตอบสนองความต้องการของชีวิตมากมายในแต่ละวัน ด้านฝีมือของเขาจึงเหนือว่าสิ่งมีชีวิตใดๆ

“ตัวตนแบบไหนที่สร้างวัตถุอันน่าเหลือเชื่อนี้ได้”

หลัวเฟิงไม่ได้ตระหนักถึงตัวตนของอาจารย์ต้นกำเนิดที่อยู่ข้างๆ เขาเลยแม้แต่น้อย

———-

ทางเดินของเรือสุสานเต็มไปด้วยเสาคริสตัล มันเทียบเท่ากับจำนวนของผู้สมัครแต่ละคน พวกเขาได้ทำความเข้าใจอยู่เงียบๆ แต่ก็ยังคงมีเพียงไม่กี่คนที่ทำการโจมตีหอคอยสีแดงเข้ม พวกเขาพยายามไม่ให้หลัวเฟิงทำความเข้าใจเกมได้ มีสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ได้เข้ามาต่อเนื่อง แล้วบางคนที่เบื่อหน่ายกับการทำความเข้าใจก็ได้มาโจมตีหอคอยสีแดง

เสียงแปลกๆ ดังขึ้น เสียงนี้เหมือนเข้าสู่ใจของสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ทุกคน

“เกิดอะไรขึ้น”

“สายน้ำวูดูวง?”

“ดูนั่น สายน้ำวูดูวง”

แม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดก็ยังสงบเสงี่ยมและมองขึ้นไปบนอากาศ แสงมากมายได้มาบรรจบกันจนเป็นรูปร่างของชายผมสีฟ้าอมเขียว เขาได้ส่งเสียงดังขึ้น

“ผู้เข้าสมัคร…มนุษย์ทางช้างเผือกได้บรรลุข้อกำหนดในการถอดรหัส”

“อะไรนะ”

“มนุษย์นั้นได้ทำถึงความต้องการพื้นฐานแล้วงั้นเรอะ” ทุกคนนั้นตกใจ พวกเขาเห็นว่าหลัวเฟิงนั้นคือภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขา แต่เมื่อมันผ่านไปได้ 500 ปี พวกเขาก็ไม่เชื่อว่าหลัวเฟิงนั้นเป็นภัยกับพวกเขา

ทุกคนจ้องมองสายน้ำวูดูวงอย่างเงียบๆ

สายน้ำวูดูวงมองมาทางหอคอยสีแดงเข้ม

“ทางช้างเผือก มานี่” สายน้ำวูดูวงออกคำสั่ง

หอคอยสีแดงเข้มหายไป หลัวเฟิงได้มายืนอยู่แทนหอคอย เขาทำการโค้งทักทายเล็กน้อย “ขอคารวะ ท่านสายน้ำวูดูวง”

“นั่นมนุษย์ ผู้นำทางช้างเผือก”

“นั่นคือผู้นำทางช้างเผือก” อมตะที่มองมาเปิดตากว้างขึ้น

หลัวเฟิงรู้ดีว่าทำไมสายน้ำวูดูวงได้ปรากฏตัว เพราะว่าเขาได้ถอดรหัส 1 พันด่านแรก เขาคือคนแรกที่ประสบความสำเร็จ

“ทางช้างเผือก” สายน้ำวูดูวงมองลงมายังหลัวเฟิง

หลัวเฟิงยังคงโค้งตัวลงเล็กน้อยโดยที่ไม่สนใจกับสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่อื่นที่อยู่รอบๆ เขา

“เจ้าได้บรรลุตามข้อกำหนด แต่การทดสอบนี้ยังต้องมีต่อไปอีก เมื่อเจ้าทำความเข้าใจได้แล้ว เมื่อถอดรหัสเกมได้มากขึ้น ประโยชน์ในการรับมรดกของเจ้าก็จะมากขึ้น”

“แต่มุ่งเน้นทำความเข้าใจตามสบาย จะไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้” สายน้ำวูดูวงชี้นิ้วมา

เสาหินข้างหลัวเฟิงได้ปล่อยแสงสลัวออกมา แล้วมันก็เคลื่อนไปอยู่รอบตัวหลัวเฟิง

แสงสีดำเงานั้นมีภาพสีทองอยู่ในนั้น มันเป็นภาพการแกะสลักลึกลับมากมายที่ยุ่งเหยิง พลังของมันคลายกับวังที่หุ้มไว้บางๆ แต่พลังของมันก็มากพอที่จะสะเทือนไปทั้งหัวใจของสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ทั้งหมด

“ผู้ใดกล้าโจมตีทางช้างเผือกจะต้องถูกทำลายทิ้งในทันที” สายน้ำวูดูวงได้กวาดตามองไปยังสิ่งมีชีวิตอื่น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!