ตอนที่ 1232 ถ้าไม่ใช่ข้า แล้วเป็นใคร
ถูกกำจัด…
ช่วงเวลาที่สายน้ำวูดูวงทำการประกาศออกไป สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ทั้งหมดก็ต้องสะเทือนไปทั้งใจ นอกจากพันธมิตรหงที่ยินดี สิ่งมีชีวิตจากเผ่าพันธุ์อื่นนั้นมีอารมณ์หลากหลาย การศึกษาเพียงหนึ่งหรือสองปีนั้นไม่ได้เพิ่มอะไรมาก หลัวเฟิงจึงกลายเป็นภัยที่สุดสำหรับพวกเขา พวกเขาไม่คิดว่าหลัวเฟิงจะเป็นคนแรกที่บรรลุความต้องการพื้นฐาน
“เป็นปัญหาแล้ว”
“นี่เป็นสถานการณ์ที่แย่มาก”
“เจ้ามนุษย์นั่น”
เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาสที่อยู่ท่ามกลางเจ้าแห่งจักรวาลได้พูดออกมา “ตั้งแต่เริ่มสายน้ำวูดูวงมีความชื่นชอบหลัวเฟิง และตอนนี้หลัวเฟิงคือคนแรกที่บรรลุข้อกำหนดเกมจักรพรรดิแรด ยิ่งเขาเร็ว ตำแหน่งก็ยิ่งได้เปรียบมากขึ้น”
“เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาส เราจะฆ่าหลัวเฟิงนั่นได้ยังไง”
“ใช่ เจ้าแห่งจักรวาลเดียร์บาส เราต้องฆ่าเขา”
“แม้ว่าเราจะถูกทำลายโดยสายน้ำวูดูวง เราก็ต้องฆ่าหลัวเฟิงเพื่อโอกาสของเรา”
“เรื่องนี้ไม่ใช้แค่เราเพียงคนเดียวที่กังวล เผ่าพันธุ์อื่นก็เหมือนกัน แต่ที่กังวลที่สุดคงเป็นสิ่งมีชีวิตจากยุคจักรวาลที่หนึ่ง การที่หลัวเฟิงยึดเอาโอกาสนี้ไป มันก็ถือเป็นการทำลายโอกาสที่จะก้าวข้ามการจุติ ยิ่งกว่านั้น วังเงานั้นดูไม่ง่ายขนาดนั้น”
———-
กลุ่มอำนาจอื่นๆ ทำการส่งสัญญาณลับกัน พวกเขากำลังหาแนวทางที่ดีที่สุด
ทว่าสายน้ำวูดูวงที่มองลงมายังด้านล่างไม่ได้ใส่ใจกับพวกเขา “มนุษย์ทางช้างเผือกคนนี้อยู่ใต้การดูแลของเทคนิคลับข้า ไม่ว่าพวกเจ้าจะโจมตีด้วยวิธีใด มันก็ไม่สามารถที่จะทำลายการป้องกันและทำร้ายเขา มันจะดีกว่าที่พวกเจ้าจะไม่หาเรื่องเจ็บตัว”
“การทำความเข้าใจเกมจักรพรรดิแรดเป็นกระบวนการที่ยาวนาน จงตั้งใจทำมันให้ดี ยิ่งเจ้าทำความเข้าใจมากเท่าไรก็ยิ่งมีโอกาสได้รับมรดกมากขึ้นเท่านั้น หากใครสามารถถอดรหัสได้ถึง 6 พัน เจ้าจะได้รับการพิจารณาว่ามีคุณสมบัติรับมรดกของข้าทันที”
สายน้ำวูดูวงมองไปรอบๆ คนที่อยู่ด้านใต้เขา
ความต้องการในการผ่านด่านที่ 6 พันเป็นสิ่งที่เขามักจะพูดซ้ำๆ ผู้ที่มาใหม่นั้นมีความตั้งใจมาก แต่เมื่อพวกเขาทำความเข้าใจมัน พวกเขาก็รู้ว่ามันยากที่จะไปถึง 6 พันด่าน มันเป็นราวกับฝัน
เจ้าแห่งจักรวาลทแท้จริงที่ 2กล่าว “6 พันด่าน มันยากขนาดไหนกันแน่ ข้าเพิ่งเข้าใจเพียงแค่ 1,005 ด่าน ตอนนี้เจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงที่เจ็ดกำลังติดอยู่ที่ด่าน 1 พัน ทุกๆ หนึ่งพันด่านระดับจะก้าวกระโดด ระดับที่ 1,001-2,000 นี้ก็ยากที่จะเข้าใจ ข้าไม่รู้ว่าระดับพื้นฐานต่ำสุดนั้นคืออะไร”
“ข้าเข้าใจถึงด่าน 1,005 แต่ก็ยังไม่ตรงกับพื้นฐานของสายน้ำวูดูวง ทว่าหลัวเฟิงกลับไปถึงความต้องการพื้นฐานของเขาแล้ว เป็นไปได้ว่าหลัวเฟิงนั้นจะเข้าใจมากกว่าข้า หรือความต้องการแตกต่างไปสำหรับเจ้าแห่งจักรวาล”
———-
สายน้ำวูดูวงมองมาที่หลัวเฟิงและพูดว่า “มนุษย์ทางช้างเผือก จำนวนความเข้าใจถึงระดับพื้นฐานของข้า แต่ต้องตั้งใจทำต่อไปให้มากยิ่งขึ้น ยิ่งเจ้าถอดรหัสมากเท่าไรก็ยิ่งดีกับเจ้า”
“ครับ ท่านสายน้ำวูดูวง” หลัวเฟิงโค้งลงเล็กน้อย
สายน้ำวูดูวงพยักหน้า จากนั้นเขาก็หายไป โดยทิ้งให้เกิดความโกลาหลกับสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ทั้งหมดที่อยู่ตรงทางเดิน
หลัวเฟิงได้ทำการสำรวจสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว เขาสังเกตเห็นว่ามีคนจำนวนหนึ่งกำลังส่งสายตาโกรธแค้นมาที่เขาพร้อมกับความตั้งใจที่จะฆ่า
หลัวเฟิงได้พูดออกมา “อยากจะฆ่าข้าไม่ใช่หรือไง งั้นก็มาเลย ข้าจะไม่ตอบโต้เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่ทุกคนทำการโจมตีข้า”
“เจ้าคนน่ารังเกียจ”
“สารเลว”
สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จำนวนหนึ่งกำลังกัดฟันด้วยความไร้อำนาจ ก่อนหน้านี้พวกเขายังกล้าที่จะจู่โจม แต่ตอนนี้สายน้ำวูดูวงได้พูดออกมาชัดเจนว่าถ้าทำการโจมตีจะถูกกำจัด ยิ่งไปกว่านั้นสายน้ำวูดูวงได้ให้คำสัญญาว่าภายใต้เงานั้นจะไม่มีใครโจมตีผ่านมันไปได้
หลัวเฟิงหัวเราะขณะที่มองไปยังเจ้าแห่งจักรวาลที่ทำการโจมตีเขาก่อนหน้านี้
สิ่งที่หลัวเฟิงทำ ได้ทำให้เหล่าเจ้าแห่งจักรวาลโกรธแค้นมากขึ้น แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าหลัวเฟิงได้ทำมันไปเพราะมีเจตนาบางอย่าง หากพวกเขาโจมตีพวกเขาก็ต้องตกลงสู่หลุมพรางของหลัวเฟิง
“ก่อนหน้านี้ทำการโจมตีโจ่งแจ้ง แต่ตอนนี้กลัวแล้วหรือไง” หลัวเฟิงส่ายหัว
“เวลาของข้ามาเสียกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ ข้าจะทำความเข้าใจต่อ และมรดกนี้ต้องเป็นของข้าแน่นอน”
หลัวเฟิงกลับไปนั่งไขว้ขาอยู่เงียบๆ ตามเดิม วังเงาสีทองได้ปกคลุมเขาไว้เหมือนกับหลังคาขนาดใหญ่
———-
สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จากเผ่าพันธุ์ต่างๆ ได้มีการเข้ามาใกล้วังเงานั้นเพื่อสำรวจให้ละเอียดมากขึ้น แต่สิ่งที่เขาสัมผัสได้เป็นออร่าที่น่าหวาดกลัว สิ่งที่ทำการคุ้มกันนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมากกับเจ้าแห่งจักรวาล จนพวกเขาสูญเสียความมั่นใจ พวกเขานั้นไม่สามารถที่จะทำอะไรได้จนทำให้พวกเขาทั้งโกรธและเกลียดหลัวเฟิงมากยิ่งขึ้น
“ทำให้เผ่าพันธุ์ของเราต้องเสียโอกาสในการจุติ”
“เจ้ามันสมควรตาย”
ตาของพวกเขาได้จ้องมองหลัวเฟิง
หลัวเฟิงยังคงปิดตาราวกับไม่มีอะไรมารบกวนเขา การที่เขาเป็นเป้าหมายสำหรับทุกเผ่าพันธุ์นั้นไม่มีอะไรใหม่สำหรับเขา
———-
ในจักรวาลเสมือนจริงที่เต็มไปด้วยหมอกควันและเงาของเสาสามมิติ
หลัวเฟิงได้ยืนมองอยู่หน้าเสาเกมที่ด่าน 1,001 ส่วนชายชุดคลุมสีขาวได้ยืนอยู่หน้าเสาเกมที่ 2,001
“หลัวเฟิง”
“ฮ่าฮ่า หลัวเฟิง”
“ข่าวนี้ยอดเยี่ยมมาก แต่เจ้าก็ไม่ได้บอกเรา”
มีร่างไม่กี่ร่างได้ปรากฏขึ้นมาในจุดที่ห่างออกไป พวกเขาคือผู้สร้างขวานยักษ์และผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล และยังมีเจ้าแห่งจักรวาลคนอื่นๆ จากเผ่าพันธุ์มนุษย์
หลัวเฟิงทำการยืนต้อนรับพวกเขา
ผู้สร้างขวานยักษ์ได้หัวเราะออกมาเสียงดัง “เราได้ยินมาว่า เจ้าได้ทำตามความคาดหวังของสายน้ำวูดูวง เจ้าเป็นคนแรกที่บรรลุเป้าหมายนี้”
“ยิ่งเจ้าทำได้เร็ว เขาก็บอกว่าเจ้าจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด เจ้าคือผู้สมัครที่มีความหวังที่สุดในการรับมรดกครั้งนี้”
“ด้วยมรดกนี้เผ่าพันธุ์มนุษย์ของเราจะอยู่เหนือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองในอนาคต ถึงข้าจะไม่รู้แต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองได้จับจ้องมายังมรดกนี้”
“ถูกแล้ว ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร ให้ความสำคัญกับการนำมรดกนี้มา”
“ครับ ไม่มีอะไรที่ข้าสามารถทำได้แม้ว่าพวกเขาจะสร้างความวุ่นวายในตอนนี้”
“ดี ดี เราจะไม่รบกวนเจ้า เชิญทำความเข้าใจของเจ้าต่อ” ขวานยักษ์กล่าว
“เรามาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับเจ้า นี่คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับมนุษย์เรา โอกาสที่ดีแบบนี้มันยากที่จะเกิดขึ้น อาจจะเป็นหนึ่งในหลายหมื่นยุคสมัย มันอาจเป็นเรื่องไม่ดีที่ทำให้มันหลุดมือไป” เจ้าแห่งจักรวาลความมืดกล่าว
“เราได้ฝากความหวังไว้กับเจ้า” เจ้าแห่งจักรวาลก้าวไกลกล่าว
เจ้าแห่งจักรวาลภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ข้างๆ ก็ให้กำลังใจเช่นกัน
กลุ่มสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จากเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ทำการพูดคุยกับหลัวเฟิง โดยที่มีชายชุดคลุมสีขาวที่ไม่มีใครรับรู้ได้เฝ้ามองอยู่
ชายชุดคลุมสีขาวได้ส่ายหัวเบาๆ เขาถอดหายใจออกมา “พวกเขาต้องต่อสู้เพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ มันขึ้นอยู่กับพวกเขาทั้งหมดโดยที่ข้าทำได้เพียงแค่เฝ้าดู”
มันเป็นเวลานานแล้วที่เขาทำการเฝ้าดูอันตรายที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ แต่เขาก็ทำอะไรมันไม่ได้เพราะถูกขังเอาไว้ชั่วนิรันดร์
เขาได้อยู่ในการประชุมต่างๆ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่นั่น ในจักรวาลเสมือนจริงเขาเป็นเจ้าของมันอย่างสมบูรณ์ เขาคือผู้ที่มีอำนาจที่สุดของจักรวาลเสมือนจริง
“หลัวเฟิงทำต่อไปให้ดีที่สุด” ชายชุดคลุมสีขาวกล่าว
“จักรวาลดั้งเดิม ข้าไม่เคยที่จะยอมแพ้ ไม่มีทาง หากยังคงมีโอกาสแม้เพียงน้อย ข้าก็สู้จนถึงที่สุด”
หลังจากนั้นชายชุดคลุมขาวก็กลับไปทำความเข้าใจเกมจักรพรรดิแรดอยู่เงียบๆ
———-
เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งต่างๆ ภายในทางเดินของเรือสุสานก็เต็มไปด้วยความสงบสุข ทุกกลุ่มอำนาจได้รวมตัวกันเพื่อศึกษาเกม
หลัวเฟิงที่บรรลุตามความต้องการของสายน้ำวูดูวงทำให้เขาเริ่มสบายใจมากขึ้น
เขาตัดสินใจเปลี่ยนการทำความเข้าใจหลังจากผ่านไป 500 ปี หลัวเฟิงได้ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อถอดรหัสเกม เขาให้ 80%ของตัวเองเพื่อทำความเข้าใจเกมจักรพรรดิแรด และใช้ 20% ในการทำความเข้าใจเทคนิคลับที่ซ่อนอยู่ในพื้นที่ลับของเหวลึกที่เก้า
ด้วยการทำความเข้าใจทั้งสองอย่างนี้ หลัวเฟิงจึงหยุดทำความเข้าใจในเส้นทางสัตว์เทพไป เพราะเขาใกล้จะเข้าใจมันครบถ้วนแล้ว ถ้าเขาทำความเข้าใจมันครบก็จะกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาล
ปีกสีขาวนั้นเขาก็ต้องการ เขาจึงยังคงเป็นอัศวินเพื่อไปรับมันมาเป็นของตัวเอง
หลัวเฟิงได้หยุดทำความเข้าใจกฎหลังจากที่ได้ทำการสืบทอดมรดกสายน้ำวูดูวง
เขามีความสามารถในการแกะสลักที่สร้างเทคนิคสูงสุดของเจ้าแห่งจักรวาล มันดีกว่าการทำความเข้าใจกฎ
“ความเร็วในการทำความเข้าใจของข้านั้นเร็วขึ้นมาก บางทีถ้าใช้เวลาสำหรับฝึกฝนอำนาจจิตให้ผ่านไปถึงระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ถ้าสามารถไปถึงได้การศึกษาเทคนิคลับนี้อาจจะเร็วขึ้น”