ตอนที่ 1252 ขวางเขา
เรือสุสานนั้นใหญ่แค่ไหน
กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่ถูกนำมาโดยเจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงได้ทำการจับตาดูเรือสุสานอย่างใกล้ชิด ไม่มีใครกล้าที่จะปล่อยความระวังลง ไม่จำเป็นต้องใช้การตรวจจับใดๆ พวกเขาสามารถที่จะเห็นเรือสุสานได้ด้วยตาเปล่า
“เรือสุสานหายไป”
“เรือสุสานที่หยุดอยู่ที่นี่ได้หายไปในทันที”
“เร็วเข้า ผู้นำทางช้างเผือกกำลังเคลื่อนไหว เฝ้าระวังทุกมุมอย่าปล่อยให้เขาหนีไป”
เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงและสิบเจ้าแห่งจักรวาลกำลังตื่นตัว จากตำแหน่งของพวกเขาสามารถที่จะเห็นเรือสุสานได้หายไปจากสายตา หลัวเฟิงได้เข้าไปอยู่หอคอยสีแดงเลือดซึ่งเล็กกว่ามาก มันเล็กจนไม่สามารถที่จะสังเกตด้วยสายตา พวกเขาไม่กล้าที่จะใช้การตรวจสอบทุกวิธีเพื่อจะไม่สร้างความโกรธให้กับสายน้ำวูดูวงในบริเวณที่เรือสุสานเคยอยู่
“พวกเจ้าทุกคนเปิดตาไว้ให้ดี” เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงส่งคำสั่ง
“อย่าประมาทแม้จะเล็กน้อย เมื่อเจอสมบัติประเภทวังบินให้หยุดเอาไว้ อย่าปล่อยให้หลัวเฟิงหลบหนี”
“ครับ”
“รับทราบ”
เจ้าแห่งจักรวาลตอบกลับทีละคน
“บรรพบุรุษได้เตือนเอาไว้หลายครั้ง เรื่องนี้มีความสำคัญสูงสุด แม้แต่กลุ่มอำนาจอื่นที่อยู่รอบนอก ทั้งหมดล้วนซุ่มโจมตี เราต้องระวังไม่ให้กลุ่มอำนาจอื่นได้รับประโยชน์จากเรา”
“ทุกคนนั้นมีสมบัติแท้จริงสูงสุด ทั่วทั้งพื้นที่ไฟน้ำแข็งไม่มีกลุ่มอำนาจใดพร้อมเท่ากับพวกเรา พวกเขาจะสู้เราได้อย่างไร”
ทุกคนถูกกระตุ้นให้เริ่มค้นหา
เรือสุสานที่โดดเด่นอยู่กลางอากาศได้หายไป ไม่ใช่เพียงแค่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพาเท่านั้นที่ได้รับรู้ กลุ่มอำนาจต่างๆ ที่คอยซุ่มอยู่ในระยะไกลก็เริ่มรับรู้เหตุการณ์
กลุ่มอำนาจต่างๆ ที่สงบราวกับน้ำนิ่ง แต่เมื่อเริ่มเคลื่อนไหวก็เป็นเหมือนกับน้ำเดือดในทันที
“เรือสุสานหายไป”
“ผู้สืบทอดกำลังปรากฏตัว”
“นี่คือความหวังสุดท้ายของเราที่จะอยู่เหนือการกำเนิดใหม่ พวกเราจับผู้สืบทอดเอาไว้”
“ไม่ว่าเขาจะมีคุณสมบัติที่เป็นผู้สืบทอดมากแค่ไหน เขาก็ไม่ใช่ภัยคุกคามใหญ่อะไร เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ทุกคนที่ต้องการเวลาในการเติบโต แม้ว่าผู้สืบทอดได้รับมรดก ก็ไม่มีทางที่พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นในเวลาอันสั้น เมื่อถึงวันแห่งความพินาศ เผ่าเราทั้งหมดจะถูกทำลาย ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับผ่านมันไปอีกให้ได้อีกแล้ว การต่อสู้กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองไม่สำคัญอีกแล้ว เราจะต้องคว้ามันเอาไว้”
———-
“นี่คือความหวังสุดท้ายของเรา”
เจ้าแห่งจักรวาลแท้เจริงที่หนึ่ง สาม สี่ ห้า หกจากเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ได้คอยเฝ้าดูเหมือนกับกลุ่มอำนาจอื่น ตั้งแต่เริ่มการแข่งหาผู้สืบทอด สองเจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงในกลุ่มพวกเขานั้นถูกทำลาย ห้าคนที่เหลือได้มารวมกันเพื่อจับผู้สืบทอด
การรวมกันของผู้มีความสามารถที่มากอาจจะทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นมา เผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์จึงไม่อยากแสดงตัวมากนัก พวกเขาต้องคอยระวังตัวจากการสูญเสียใหญ่ที่เกิดขึ้น
“รอไปก่อน เราจะปล่อยให้กลุ่มอำนาจอื่นลงมือก่อน การต่อสู้กับผู้สืบทอดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย”
“ใช่ การได้รับสืบทอดสายน้ำวูดูวง ผู้สืบทอดจะต้องมีวิธีเอาตัวรอดที่ยอดเยี่ยม การจะจับเขานั้นต้องไม่ใช่เรื่องง่าย หาโอกาสที่ดีที่สุด จากนั้นเราทั้งห้าจะร่วมมือกันและจับผู้สืบทอดในทีเดียว”
“ตกลง”
ดวงตาทั้งห้าส่องประกาย การต่อสู้ครั้งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะเปลี่ยนชะตากรรมของพวกเขา
———-
ในช่วงเวลานี้ พื้นที่ไฟน้ำแข็งกำลังโหมกระหน่ำ เหมือนกับพายุจากกลุ่มอำนาจจำนวนมากที่คอยซุ่มโจมตี ในหมู่พวกเขาส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าใครคือผู้สืบทอด แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับพวกเขา พวกเขาเพียงแค่ต้องการจับผู้สืบทอด
“ถ้าเป็นเลือดสีฟ้าเราก็จับเลือดสีฟ้า หากเป็นหลัวเฟิงเราก็จับหลัวเฟิง” ทุกคนมีแผนเดียวกัน
———-
หลัวเฟิงนั้นรู้อยู่แล้วว่ามีการซุ่มดูอยู่ในโลกภายนอก เผ่าพันธุ์มนุษย์ของเขาได้เตือนเขาไว้แล้วล่วงหน้าตั้งแต่อยู่ในเรือสุสาน และบอกให้เขาอยู่ในเรือสุสานหากเขาไม่มั่นใจที่จะเอาตัวรอด ทว่าตอนนี้หลัวเฟิงนั้นมีความมั่นใจมาก
“ข้าจะทำลายผ่านมันไปทั้งหมด”
หอคอยสีแดงเข้มได้สร้างเส้นแสงจากการเร่งความเร็วสูง
———-
หอคอยสีแดงเข้มมีขนาดเล็กมากจนหลบสายตาเปล่า
“นี่มัน…มันคือวังบิน ข้าพบวังบิน มันเป็นหอคอยสีแดงเข้ม มันคือของหลัวเฟิง”
เจ้าแห่งจักรวาลมิยา จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพาได้ส่งข้อความออกไปหาพรรคพวก
“ตอนนี้ เขากำลังมุ่งหน้ามายังพื้นที่ของข้า”
เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงรู้สึกยินดีแล้วตอบกลับในทันที “มิยา ข้าจะรีบไป”
“ดี”
เจ้าแห่งจักรวาลมิยาได้ทิ้งเป็นแนวแสงเข้าหาหอคอยสีแดงขึ้นที่กำลังเข้ามาหา
เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงใช้งานสมบัติแท้จริงสูงสุด เขาเร่งความเร็วจาก 1 พันของความเร็วแสงขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึง 1 หมื่นเท่าของความเร็วแสง เพียงแค่เสี้ยววินาที ก็มาถึง หลัวเฟิงนั้นรักษาความเร็วไว้ที่ 100 เท่าของความเร็วแสง
เสียงถูกส่งมายังหอคอยสีแดงเข้มในทันที “ผู้นำทางช้างเผือก เดินทางไปเยี่ยมดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเราหน่อยเป็นอย่างไร บรรพบุรุษบูรพายินดีที่จะได้พบเจ้าเป็นอย่างยิ่ง”
หลัวเฟิงกำลังยืนอยู่ในห้องควบคุมของหอคอย เขามองผ่านสิ่งกีดขวางในหอคอยเพื่อสังเกตภายนอก
“สมควรที่เป็นผู้มีอำนาจ ยังคงเป็นคนแรกที่เคลื่อนไหว นั่นจะต้องเป็นเจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริง ได้ยินมาว่าเขาทำ การขัดขวางกลุ่มอำนาจอื่นไม่ให้เข้าไปยังเรือสุสานมาระยะเวลาหนึ่ง”
“เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริง” หลัวเฟิงส่งข้อความกลับด้วยเสียง “ข้ามีเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องกลับไปยังจักรวาลดั้งเดิม หลังจากเสร็จธุระแล้วข้าจะไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพา มันคงใช้เวลาไม่นาน เจ้าคิดยังไงกับข้อเสนอของข้า”
“ดูเหมือนว่าบรรพบุรุษของข้า…ผู้นำทางช้างเผือกจะไม่เคารพ” เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริง กลัวการที่หลัวเฟิงก้าวกลับไปยังจักรวาลดั้งเดิมก็จะเป็นไปไม่ได้ที่จะจับเขา
“แล้วนี่เป็นวิธีที่จักรพรรดิบูรพาเชิญแขกงั้นรึ” หลัวเฟิงนั้นยังคงใจเย็นและมั่นใจ
“แล้วอย่าโทษข้า”
เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงใช้งานทรงกลมสีดำหลายหน้าตัดประชิดเข้ามายังหอคอยสีแดงเข้ม ผิวด้านหนึ่งของทรงกลมสีดำขนาดใหญ่ได้เปิดออก แรงดึงดูดรุนแรงได้ดึงหอคอยดวงดาวอย่างทันทีโดยไม่มีการเตือน มันพยายามดูดหอคอยดวงดาวให้เข้าไปในรู
“เก็บมัน” เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงใช้ความสามารถที่ดีที่สุดในการควบคุมสมบัติ
หอคอยดวงดาวนั้นเป็นสมบัติแท้จริงสูงสุด มันมีความสามารถมากพอที่จะป้องกันการโจมตีจากแรงดึงดูดนี้ แต่ว่าหอคอยดวงดาวนั้นต้องการใช้พลังงานอมตะ ด้วยตาข่ายขนาดใหญ่ที่รอเขาอยู่ภายนอก การที่จะใช้เพียงแค่หอคอยดวงดาวจะทำให้เขาเหนื่อยเกินไป แต่ในขณะที่เรือสุสานเป็นเครื่องจักรอัตโนมัติ ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นมาก
เรือสุสานได้ถูกออกแบบใหม่โดยสายน้ำวูดูวง ไม่ว่าจะพบกับสมบัติแท้จริงสูงสุดใดก็จะทำให้พลังของมันลดลงโดยไม่ต้องถาม มันต้องการเพียงพลังงานเล็กน้อยจากหลัวเฟิง จากนั้นเขาก็สามารถที่จะพลังต่างๆ ของเรือสุสานได้ง่ายๆ ด้วยการทำสิ่งง่ายๆ นี้ก็จะทำให้เขามีพลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก
“เรือสุสาน!” เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงมองลงมาก็พบกับสิ่งที่มีขนาดใหญ่โต การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เรือสุสานเป็นสิ่งที่พิเศษที่สายน้ำวูดูวงได้สร้าง มันสามารถทำให้เจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงที่สองและเจ็ดต้องพบกับจุดจบมาแล้ว
“ยอมแพ้ซะ” เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงพยายามอย่างดีที่สุดในการใช้พลังของสมบัติแท้จริงสูงสุดเพื่อจะจับเรือสุสานเอาไว้ แรงดึดดูดนั้นกลับไร้ประโยชน์ เรือสุสานได้ขยายตัว มันใหญ่โตขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
ก่อนหน้านี้เรือสุสานมีขนาดเท่ากำปั้น แต่ในพริบตามันก็มีขนาดถึงแสนล้านกิโลเมตร เรือสุสานก็ได้เริ่มทำการบินหนีไป โดยที่มันไม่สนใจพลังดึงดูดของเจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงที่กำลังใช้อยู่เลย
“ไม่ดีแน่” เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงรู้ตัวดีว่าพลังดึงดูดนี้ไม่สามารถใช้กับเรือสุสาน
“ขวางไว้”
เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงใช้งานทรงกลมหลายเหลี่ยมสีดำขนาดใหญ่ชนเข้ากับเรือสุสาน
ทว่าเรือสุสานก็ยังคงรักษาความเร็วไว้ที่ 100 เท่าของความเร็วแสง โดยที่ไม่หลบเลี่ยงการปะทะ มันเป็นเหมือนกับดาวอังคารที่พุ่งเข้าชนโลก เรือสุสานเพียงแค่สั่นเล็กน้อย ผลจากการปะทะถูกลดลงจนเป็นเหมือนกับไม่เกิดอะไรขึ้น มันยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยพลังที่เหนือกว่า
“หยุดไม่ได้!” เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงกำลังรู้สึกเสียใจ
“หลัวเฟิงใช้พลังงานขับเคลื่อนเรือสุสาน แต่เขากลับมีพลังขนาดนี้ได้ยังไง”
เรือสุสานเป็นประเภทเครื่องจักรอัตโนมัติ การเปิดใช้งานต้องการเพียงพลังงานอมตะส่วนหนึ่ง ส่วนอื่นๆ ล้วนเป็นพลังของเรือสุสานเอง นอกจากนี้เรือสุสานนี้ได้ถูกปรับปรุงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันผลกระทบจากการกระแทก การบินและอื่นๆ มันมีพลังมากกว่าเรือสุสานทั่วไปถึงร้อยเท่า
“เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริง ให้ข้าหยุดเขาเอง” เจ้าแห่งจักรวาลมิยาได้มาถึง
“รีบจับเขาไว้เร็ว” เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงกล่าว
“ไป”
แสงสีม่วงขนาดใหญ่ได้ตัดผ่านท้องฟ้า และเริ่มขยายตัว มันขยายตัวต่อเนื่องจนห่อหุ้มเรือสุสานเอาไว้จากด้านหลัง แสงสีม่วงขนาดใหญ่นี้เป็นสมบัติแท้จริงรูปแบบพิเศษที่เหมือนกับตาข่าย มันออกแบบมาให้ดักจับศัตรู
“จับเอาไว้” เจ้าแห่งจักรวาลมิยา พยายามควบคุมให้อยู่ภายใต้สถานการณ์ของตัวเอง
ไม่ว่าตาข่ายสีม่วงนี้จะผูดมัดเอาไว้ยังไง เรือสุสานก็ยังคงเดินหน้าต่อไป ตาข่ายสีม่วงเป็นเหมือนกับผ้าที่เอาไว้คอยตกแต่งเรือเท่านั้น มันไม่ส่งผลกับเรือสุสานแต่อย่างใด
“หยุดไม่ได้ ข้าหยุดเอาไว้ไม่ได้” ความกังวลของเจ้าแห่งจักรวาลมิยาพุ่งขึ้นสูงสุด
“งั้น…โจมตี” เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงกำลังหงุดหงิด
แรงดึงดูดก็ไม่มีผล การขัดขวางก็ไม่ได้เช่นกัน ไม่ว่าสมบัติแท้จริงสูงสุดที่ใช้ผูกมัดและดักจับยังไงก็ไม่มีผล พวกเขาจะหยุดหลัวเฟิงได้ยังไง
“เรือสุสานนี้สามารถป้องกันพลังงานได้ทุกรูปแบบอย่างสมบูรณ์” เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงกำลังลำบากจริงๆ แล้วในตอนนี้ เขาเปลี่ยนเป็นเส้นแสงโค้งเข้าปะทะกับเรือสุสาน ส่งผลให้เกิดการสั่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นก็เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงจ้องมองเรือสุสาน “แม้แต่การโจมตีวัตถุก็ไร้ประโยชน์”
ทุกอย่างที่ใช้ไม่มีผลกับเรือสุสาน ไม่มีความเห็นใจจากเรือสุสาน มันเพียงแค่เดินหน้าต่อไป ในระยะไกลมีสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จำนวนมากมาจากกลุ่มอำนาจอื่นๆ
“ฮ่า ฮ่า เรือสุสานนี้ทรงพลังจริงๆ” หลัวเฟิงกล่าว
“บางที แค่การเคลื่อนไหวส่งเดชก็ออกจากเรือจักรวาลได้”
หลัวเฟิงนั้นไร้กังวลและมีความมั่นใจ เขาไม่ต้องใส่ใจกับสมบัติแท้จริงสูงสุดและเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดที่อยู่ในเส้นทางของเขา เขายังคงมุ่งหน้าไปด้วยความมั่นคงเช่นนี้ แถมเขายังคงรู้สึกสนุก มันคือเสน่ห์ที่แท้จริงของสมบัติประเภทเครื่องจักรอัตโนมัติ