Skip to content

Swallowed Star 1272

ตอนที่ 1272 สูงสุดระดับหก

ภายในหอคุกดำ ที่เต็มไปด้วยหมอกควันสีดำ และความเงียบ มีสองร่างถูกดูดเข้ามาในนั้น หนึ่งในนั้นเป็นหมาป่านภา และอีกหนึ่งคือคทาหมึก(เป็นสิ่งมีชีวิตสามหางที่เต็มไปด้วยเกล็ด บนหัวของมันมีสามเขา) พวกเขาทั้งคู่กำลังถูกคุมขัง

“ไม่ดีแล้ว” หลังจากมหาป่านภาตื่นขึ้นมาจากภาพลวงตาสักครู่

เจ้าแห่งจักรวาลคทาหมึกที่อยู่ด้านข้างก็โวยวายเช่นกัน “หมาป่านภา เราจะทำยังไงกันดี เราถูกจับโดยสมบัติแท้จริงสูงสุดหอคุกดำ” เจ้าแห่งจักรวาลคทาหมึกกำลังตื่นตระหนก

“หอคุกดำ…” เจ้าแห่งจักรวาลหมาป่านภาจดจ่ออยู่กับระลอกคลื่นกาลอวกาศ มันถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีทางที่จะหลบหนี ไม่มีแม้แต่การเทเลพอตหรือเคลื่อนย้ายผ่านจักรวรรดิเทพ

“ข้า…ข้าไม่มีอีกร่าง” เจ้าแห่งจักรวาลหมาป่านภาพูดด้วยมุมปาก สิ่งนี้ถือเป็นฝันร้ายที่แท้จริงสำหรับเจ้าแห่งจักรวาลที่ถูกขังอยู่ในสมบัติแท้จริงสูงสุด พวกเขาไม่มีทางหลบหนีรอดไปได้ หากพวกเขามีอีกร่างก็ไม่จำเป็นกังวลใจ ทั้งสองยังไม่ได้เป็นเจ้าแห่งจักรวาลระดับสูงของเผ่ามาร แล้วยังไม่มีร่างอื่น สถานะพวกเขาในเผ่าพันธุ์จึงแตกต่างอยู่มาก ถ้าพวกเขามีสถานะที่แตกต่างไปจากปกติ พวกเขาที่มีร่างอื่นก็ยังสามารถที่จะทำลายร่างเพื่อทิ้งสมบัติที่ติดตัวไปได้ทันที พวกเขาเพียงแค่ทำลายร่างเพื่ออยู่รอดได้

“เราต้องรอโอกาสของเรา บรรพบุรุษมารฝันยังคงอยู่ด้านนอก เรายังมีโอกาสเพียงแค่รอบรรพบุรุษมารฝันเอาหอคุกดำนี้ไปจากมนุษย์ จากนั้นเราก็จะออกไปได้” เจ้าแห่งจักรวาลหมาป่านภากล่าว

“ใช่ ใช่ บรรพบุรุษมารฝันจะต้องมาช่วยเราอย่างแน่นอน” เจ้าแห่งจักรวาลคทาหมึกกล่าว

———–

“ไม่”

“เจ้าพวกน่ารังเกรียจ”

เจ้าแห่งจักรวาลเผ่ามารและบรรพบุรุษมารฝันนั้นกำลังส่งเสียงดังออกมาด้วยความโกรธ แต่ในทางตรงกันข้ามนั้น ฝั่งของมนุษย์กลับมีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม พวกเขากำลังมีความสุขมากยิ่งกว่าใคร

“เป้าหมายพื้นฐานสำเร็จ เราได้กำจัดหนึ่งเจ้าแห่งจักรวาลและจับสองเจ้าแห่งจักรวาลที่ไม่มีร่างอื่น ทำให้พวกเขาไม่มีทางหลบหนีออกมาได้” เจ้าแห่งจักรวาลเป็งกงพูดด้วยความตื่นเต้น

“มันเป็นสิ่งหายากมากสำหรับการตายของเจ้าแห่งจักรวาล แต่ในวันนี้เผ่ามารได้สูญเสียไปสาม ถ้าข่าวนี้กระจายออกไป พวกกลุ่มอำนาจที่เทียบกับเผ่ามารไม่ได้จะต้องกลัว เราที่สามารถทำให้เผ่ามารเสียสามเจ้าแห่งจักรวาลต่อหน้าสิ่งมีชีวิตอย่างบรรพบุรุษมารฝัน กลุ่มอำนาจเล็กๆ เราก็สามารถที่จะกวาดออกไปได้ง่ายๆ”

“ถูกต้อง”

“เป้าหมายพื้นฐานของเราสำเร็จแล้ว เราสามารถฆ่าและจับให้มากขึ้น การทำงานของเราก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นมีสมบัติแท้จริงสูงสุด ทำให้ทั้งเผ่าพันธุ์มีสามเจ้าแห่งจักรวาลระดับหก แม้ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ด้านความเร็ว แต่ก็ยังคงได้เปรียบเหนือเผ่ามาร ถึงจะเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ยังรู้ดีว่ามรดกสายน้ำวูดูวงนั้นเป็นที่ดึงดูดกลุ่มอำนาจต่างๆ เผ่าพันธุ์มนุษย์จะต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มอำนาจอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่ใช่แค่เผ่าพันธุ์มาร สิ่งนี้ได้สร้างความกดดันที่รุนแรงกับพวกเขา บรรพบุรุษมารฝันเพียงหนึ่งยังน่ากลัว แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดอีกสามหรือห้า

หลัวเฟิงคิดเงียบๆ โดยไม่คิดถึงผลของสงครามนี้ พวกเขาต้องทำให้ดีที่สุดตั้งแต่เริ่มต่อสู้กับเผ่าพันธุ์มาร ทำต้องให้พวกเขารู้ว่าจะมีอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้ ถ้ามนุษย์แสดงความอ่อนแอ กลุ่มอำนาจอื่นก็จะเห็นว่าไม่มีประโยชน์ใดๆ อีกต่อไป เพราะมันสายเกินไปสำหรับพวกเขา ทำให้พวกเขาทั้งหมดมุ่งที่จะฆ่าเพียงอย่างเดียว

หากมนุษย์ดูน่ากลัว กลุ่มอำนาจอื่นๆ ก็ไม่เต็มใจที่จะเสียมากจนเกินไป ส่วนสามเผ่าพันธุ์ชั้นยอดอย่างมาร แมลง หุ่นยนต์ ก็ไม่จำเป็นต้องกังวล ตราบเท่าที่พวกเขายังมีโอกาสรอดชีวิต

ด้วยสิ่งที่หลัวเฟิงได้สอนให้กับเจ้าแห่งจักรวาลเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีความเป็นไปได้ในช่วงวิกฤติ เจ้าแห่งจักรวาลความมืด เจ้าแห่งจักรวาลเป็งกง ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลจะประสบความสำเร็จที่จะพัฒนาขึ้นไปได้ มันเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์

“ถ้าข้าประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าแห่งจักรวาล สถานการณ์จะต่างไปมาก” หลัวเฟิงพูดกับตัวเองเงียบๆ

“ตอนนี้มีเพียงร่างมนุษย์โลกและอสูรเขาทองเท่านั้นที่เป็นร่างต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ถ้าเป็นเจ้าแห่งจักรวาลได้ ร่างโมชาน ร่างมหาสมุทร ก็จะเข้าถึงพลังต่อสู้ระดับหก เผ่าพันธุ์มนุษย์หลังจากนี้ก็จะมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น”

พลังต่อสู้ระดับหกเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลดั้งเดิม การจะเข้าถึงระดับนี้เป็นสิ่งที่ยาก สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นคือเจ้าแห่งจักรวาลระดับห้าต้องมีสมบัติแท้จริงสูงสุด

เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นมีเพียงสามคนที่ถึงระดับห้า(เจ้าแห่งจักรวาลความมืด เจ้าแห่งจักรวาลเป็งกง ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล)

แม้ว่าพวกเขาจะมีสมบัติแท้จริงสูงสุดอีกก็ไม่สามารถที่จะทำให้เจ้าแห่งจักรวาลที่เหลือปลดปล่อยพลังถึงระดับหกได้

สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่นั้นต้องคู่กับสมบัติจึงจะเข้าถึงพลังระดับหก แต่กับหลัวเฟิงนั้นแตกต่าง เขาสามารถสร้างเทคนิคระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดจึงสามารถที่จะใช้มันได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีสมบัติก็เข้าถึงพลังระดับหกได้

———-

“บรรพบุรุษมารฝันกำลังพุ่งมาทางนี้”

เผ่าพันธุ์มนุษย์จ้องมองบรรพบุรุษมารฝันที่พุ่งมาด้วยความเร็วอันบ้าคลั่ง

“ข้าจะหยุดเขาเอง เจ้าแห่งจักรวาลความมืด เจ้าแห่งจักรวาลเป็งกง พวกเจ้าทั้งคู่ทำการโจมตีกลุ่มเจ้าแห่งจักรวาลเผ่ามารต่อ”

ทั้งสองได้ตอบรับ พวกเขาได้เห็นความสามารถของหลัวเฟิงก่อนหน้านี้ พวกเขาจึงมีความมั่นใจในตัวหลัวเฟิง

หลัวเฟิงขยายปีกที่อยู่บนหลัง มันกว้างใหญ่จนแพร่ออกไปเหมือนกับจะผ่าครึ่งท้องฟ้าออกจากกัน เขากระชับดาบเงาเลือดในมือ ตาของเขาจ้องมองไปยังบรรพบุรุษมารฝันและเร่งความเร็วพร้อมกับความตั้งใจฆ่า

บรรพบุรุษมารฝันส่งเสียงออกมาจากความบ้าคลั่ง “หลัวเฟิง”

“เข้ามา”

เรือสุสานที่มีขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นมาและปะทะเข้ากับหัวบรรพบุรุษมารฝัน จากการพุ่งเข้าชนด้วยความเร็วสูงและไม่คิดจะหยุดหรือชะลอความเร็ว เรือสุสานที่เพิ่งจะออกมา ทำให้เครื่องจักรเพิ่งจะเริ่มทำงาน การปะทะกันจึงทำให้เรือสุสานถอยไปตามแรงเล็กน้อย

หลังจากการปะทะหลัวเฟิงโบกมือและนำเรือสุสานกลับคืน

“เจ้ามนุษย์น่ารังเกรียจ” หลังจากปะทะบรรพบุรุษมารฝันยิ่งมีความโกรธและบ้าคลั่งมากขึ้น

หัวงูของบรรพบุรุษมารฝันได้เปิดกว้างขึ้น

เงาเส้นแสงสีฟ้าได้พุ่งตัดผ่านมาทางหลัวเฟิง

หลังช่วงปะทะได้ไม่นาน หลัวเฟิงกำด้ามจับดาบเงาเลือดและเหวี่ยงมันออกมา แสงดาบได้ถูกสร้างขึ้นมา ขนาดของมันเริ่มใหญ่ขึ้นจนเป็นวงรีสีดำ จักรวาลขนาดเล็กสีดำได้ขวางแสงสีฟ้า จักรวาลขนาดเล็กได้แยกตัวออกแล้วแสงดาบส่องประกายก็ปรากฏขึ้นมา หลังจากนั้นมันก็หายไป แสงสีฟ้าได้บินกลับปากบรรพบุรุษมารฝันที่เปิดอย่างรวดเร็ว

ทั้งสองจับจ้องตามองกัน

“เป็นเทคนิคดาบที่ยอดเยี่ยม ข้าว่านั่นคงเป็นสมบัติแท้จริงสูงสุด” บรรพบุรุษมารฝันกำลังคิดอย่างลึกซึ้ง เขาคิดถึงวิธีจัดการกับหลัวเฟิง และดาบที่เขามีก็มีพลังในการทะลุทะลวงที่น่ากลัวอย่างมาก ลักษณะที่บอกได้จากไม้เท้ายันจุนคือใหญ่ สำหรับดาบของหลัวเฟิงนั้นคือคม

หลัวเฟิงมองบรรพบุรุษมารฝันพร้อมกับคิดถึงขีดจำกัดของจักรวาลดั้งเดิมมันมีแค่ไหนกัน

“ตอนที่ใช้เทคนิค มีบางอย่างคอยขัดขวางที่รู้สึกได้ไม่ชัดเจน ไม่คิดว่าอิทธิพลของขีดจำกัดระดับหกจะอยู่ในระดับอัศวิน และอมตะด้วย นึกว่าจะมีเพียงเจ้าแห่งจักรวาลขึ้นไปเท่านั้น”

ก่อนหน้านี้ในจักรวาลดั้งเดิมยังไม่มีเจ้าแห่งจักรวาลที่เข้าถึงระดับหก แต่ในตอนนี้ เจ้าแห่งจักรวาลความมืด เจ้าแห่งจักรวาลเป็งกง หลัวเฟิง ทั้งสามได้เข้าถึงระดับหกจึงรู้สึกถึงอุปสรรคบางอย่าง

“ขีดจำกัดถูกบังคับโดยอำนาจจิตจักรวาลดั้งเดิม ทำให้เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดไม่อาจทำการสังหารหมู่โดยไร้สติ แต่มันก็ยังไม่ทำให้เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดอ่อนแอกว่าเจ้าแห่งจักรวาล แล้วนี่เป็นสิ่งที่สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ไม่อาจปลดปล่อยพลังที่เหนือกว่าระดับหกในจักรวาลดั้งเดิม” หลัวเฟิงคิด

“ตามหลักแล้วจะต้องมีเพียงเจ้าแห่งจักรวาลที่จะเข้าถึงระดับหก ในกรณีนี้จักรวาลดั้งเดิมจะยึดตามความสำเร็จ ถึงข้าจะสำเร็จ แต่มันก็ยังแตกต่างจากพวกเขา แล้วมันก็จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้าต้องพ่ายแพ้”

การทำลายขีดจำกัดถูกสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษที่สามสายน้ำวูดูวง ถ้าเขาใช้มัน พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับ หากไม่มีสิ่งกีดขวาง หลัวเฟิงสามารถที่จะเข้าถึงระดับที่เจ็ด มันจะเป็นพลังของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดทั่วไปที่เข้าถึง แล้วหากเขาสามารถพัฒนาไปถึงระดับเจ้าแห่งจักรวาล เขาก็สามารถที่จะปลดปล่อยพลังได้ถึงระดับแปด

น่าเสียดายที่พลังต่อสู้ของบรรพบุรุษมารฝันในมหาสมุทรจักรวาลมีความใกล้ระดับแปด แต่ก็ต้องถูกจำกัดไว้ที่ระดับหกในจักรวาลดั้งเดิม

“เจ้ามนุษย์น่ารังเกียจ ถ้าที่นี่เป็นมหาสมุทรจักรวาล เจ้าย่อมไม่ใช่คู่ต่อกรข้า”

หลัวเฟิงแสดงรอยยิ้มเย็นก่อนพูด “นั่นเป็นสิ่งที่เทพปีศาจเสมือนจริงพูดกับบรรพบุรุษเทพสองหน้า มันช่างน่าเสียดายจริงๆ ที่เราอยู่นี้คือจักรวาลดั้งเดิม”

หลัวเฟิงและบรรพบุรุษมารฝันทำการต่อสู้กันในระยะไกลจากกลุ่มเจ้าแห่งจักรวาลอื่น

เจ้าแห่งจักรวาลเผ่ามารจึงถูกล้อมโจมตีอย่างน่ากลัว ทว่าวังสมบัติแท้จริงสูงสุดได้ออกมาจากวังสมบัติของเจ้าแห่งจักรวาลหวงห้าม สัตว์ประหลาดที่อยู่ในเปลือกหอยได้คลืบคลานออกมาจากเปลือกหอยอย่างช้าๆ

เจ้าแห่งจักรวาลเผ่ามารได้ส่งเสียงออกมาด้วยความตื่นเต้น “บรรพบุรุษมารเขย่าขวัญ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!