ตอนที่ 1280 พันธมิตรสามเผ่าพันธุ์
หลัวเฟิงนั่งอยู่ที่สวนขณะถือลูกบอลคริสตัลสีสดใส มีจุดๆ หนึ่งอยู่บนนั้นเหมือนกับลูกตา มันเป็นคริสตัลสมบัติแท้จริงที่อาจารย์ของเขาสร้างให้
“อาจารย์ไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยว เขาไปทันทีหลังจากเอาสมบัติมาให้กับข้า”
“อาจารย์พูดแค่ว่า ประทับตราจิตวิญญาณชีวิตลงบนมันเพื่อให้จดจำว่าเจ้าคือเจ้านายของมัน ข้าจะทำสมบัติให้ตามสัญญาที่ให้ไว้ขณะที่เจ้ายังเป็นอัศวิน แต่หากเป็นเจ้าแห่งจักรวาล ความต้องการก็จะต้องเพิ่มขึ้น หลังจากพูดเสร็จเขาก็หายไปทันที”
หลัวเฟิงมองลูกบอลคริสตัลในมือ เขาใช้พลังของเขาสัมผัสมัน ผนึกชีวิตได้ถูกใส่เข้าไป
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไม่มีข้อมูลใดๆ อาจารย์ไม่เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เขาสร้างใดๆ ของมีค่าในดาวต้นกำเนิดมักจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับมัน มันขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขาถ้าเขาคิดว่ามันจำเป็น”
“แต่การใช้งานของมันก็ง่ายๆ”
มันมีเพียงการแกะสลักระดับเดียวที่อยู่บนบอลคริสตัล อำนาจจิตของเลือดเทพได้ออกมาจากดวงตาของบอลคริสตัล มันใช้งานได้ง่ายเพราะแม้แต่อัศวินก็ใช้งานมันได้
“มันเป็นเพียงสมบัติแท้จริงง่ายๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเลือดเทพนี้ มันคงจะเป็นสมบัติธรรมดาทั่วไป แกนหลักของมันคือเลือดเทพจากสิ่งมีชีวิตโบราณ ฉะนั้นข้าจะเรียกมันว่าดวงตาเทพโบราณ”
มันเป็นสมบัติแท้จริงที่ยากจะวัด ด้วยพลังทำลายจิตใจที่สูงกว่าเจ้าแห่งจักรวาล มันจึงเป็นสมบัติที่สำคัญกว่าสมบัติแท้จริงสูงสุดในช่วงสงคราม หลังจากหลัวเฟิงได้รับดวงตาเทพไม่นานก็กลับไปยังดินแดนลับปฐมกาล
“ผู้นำทางช้างเผือก”
“ผู้นำทางช้างเผือก”
หลัวเฟิงเดินไปตามทางเดินของวัง อัศวิน อมตะ ห้วงมิติก็ทำความเคารพเขา
หลัวเฟิงรู้สึกถึงเจ้าแห่งจักรวาลจำนวนมากที่มารวมตัวกันที่วังผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พวกเขาต่างเตรียมพร้อมที่จะทำสงคราม
“หลัวเฟิง” ร่างดั้งเดิมของผู้นำเมืองเดินออกมาจากห้องหลักของวัง
“อาจารย์” หลัวเฟิงทำความเคารพ
“เจ้ามาที่นี่เพื่อพบข้า?” ผู้นำเมืองจ้องมองหลัวเฟิง
เผ่าพันธุ์มนุษย์กำลังเผชิญหน้ากับอันตรายที่ไม่เคยเจอมาก่อน วังหลักของผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลเป็นส่วนสำคัญที่สุด เขาต้องควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ ตามปกติไม่มีใครมาวังผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลถ้าไม่มีธุระ
“ครับ เลือดเทพได้เปลี่ยนเป็นสมบัติแท้จริงแล้ว” หลัวเฟิงพยักหน้า
“เลือดนั้นได้เปลี่ยนเป็นสมบัติแท้จริงงั้นเหรอ” ผู้นำเมืองตะลึงก่อนที่จะรู้สึกยินดี
มีเพียงผู้นำเมือง หลัวเฟิง เจ้าแห่งจักรวาลความมืด เจ้าแห่งจักรวาลเป็งกงที่รู้เกี่ยวกับมัน สำหรับเจ้าแห่งจักรวาลอื่นๆ ไม่มีใครทราบ
“เจ้าแห่งจักรวาลช่างฝีมือ หรือขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่” ผู้นำเมืองถามด้วยความสงสัยจนเก็บเอาไว้ไม่อยู่
“ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่” หลัวเฟิงตอบ
หลัวเฟิงไม่ได้เก็บซ่อนมันเอาไว้ ความลับบางอย่างควรจะเก็บเอาไว้ขณะที่ยังอ่อนแอ ตอนนี้เขามีพลังมากจนไม่ต้องกังวล ไม่มีใครกล้าล้อมเขาเพื่อขโมยของมีค่าจากเขาไป
“ดาวเคราะห์โลกที่เป็นบ้านเกิดของเจ้าถูกสร้างโดยเขา ข้าคิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างต่อกัน เจ้าขอให้เขาช่วยเราไหม”
“ข้าทำ แต่เขาบอกว่าไม่” หลัวเฟิงส่ายหัว
“มันไม่แปลก เราไม่มีเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดคนใดที่อยู่ฝั่งเรา เราคงจะเสียเปรียบอยู่ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่นั้นเป็นคนฉลาด เขาไม่มีทางที่จะเข้าร่วม แล้วสมบัติแท้จริงนั้นล่ะ”
หลัวเฟิงยิ้มเล็กน้อย “ผู้ที่มีอำนาจจิตต่ำกว่าระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดไม่มีทางทนมันได้”
“ก่อนหน้านี้ขีดจำกัดของมันอยู่ที่ระดับขีดจำกัดสูงสุดของเจ้าแห่งจักรวาลเพราะการกระจายพลังงานไปทุกทิศทาง แต่ในตอนนี้จะมีเพียงผู้ที่มีอำนาจจิตระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเท่านั้นที่จะต้านเอาไว้ได้”
“งดงามมาก ด้วยสมบัตินี้ เจ้าแห่งจักรวาลกว่า 90% ก็จะไม่มีประโยชน์ เราสามารถที่จะจัดการเจ้าแห่งจักรวาลเหล่านั้นได้ สมบัตินี้มีค่ามากกว่าสมบัติแท้จริงสูงสุด”
“ของมีค่าที่จะสามารถที่จะพลิกสถานการณ์ได้นี้ เป็นสิ่งที่ทำให้ข้ามาหาอาจารย์ที่นี่” หลัวเฟิงพยักหน้า
“ข้าจะคิดถึงการเตรียมการสำหรับสงคราม เจ้าควรจะฝึกตัวเองเช่นกัน ถ้าเจ้าได้เป็นเจ้าแห่งจักรวาลก็จะลดแรงกดดันลงไปอย่างมาก”
“ข้าเข้าใจแล้ว” หลัวเฟิงหายตัวไป
ตามจริงแล้ว หลัวเฟิงใช้พลังงานอมตะแยกตัวเองสำหรับฝึกฝนในพื้นที่สืบทอด ความเข้าใจของเขาผ่านไปเร็วกว่าภายนอก 1 หมื่นเท่า เขามาถึงขีดจำกัดของกฎทองและกาลอวกาศ เขาขาดเพียงแรงบันดาลใจที่จะกลายเป็นเจ้าแห่งจักรวาล
ถ้าเขาเป็นเจ้าแห่งจักรวาล ร่างโมชานและมหาสมุทรกว้างไกลก็จะเข้าถึงเจ้าแห่งจักรวาลระดับหกได้ ทำให้เขามีร่างสี่ร่างที่เข้าถึงระดับหก แต่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดนั้นไม่มีหลายร่าง และพลังของเขาในจักรวาลดั้งเดิมมีเพียงแค่ระดับหก สิ่งนี้ถูกคาดหวังจากผู้นำเมือง เขาต้องการให้หลัวเฟิงเป็นเจ้าแห่งจักรวาล
“หนึ่งวันในพื้นที่มรดกเท่ากับสามสิบวันในโลกภายนอก อาจต้องใช้เวลากว่าสามสิบปีถึงจะพัฒนาต่อไปได้ หรืออาจโชคดีก็เพียงแค่สิบปี”
หลัวเฟิงก็กังวลเช่นกัน แต่ความกังวลไม่ได้ช่วยอะไรเขาได้
———-
อาณาเขตเผ่ามารที่มืดมิดและเงียบสงบ
เรือขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นผ่านทางเดินจักรวรรดิเทพ วงรีสีดำ และแสงสีขาวก็อยู่ในนั้น
“มารฝัน มารเขย่าขวัญ”
“จักรพรรดินี”
“บิดาเทพ”
สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังได้ยืนอยู่ที่นั่น สี่สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดคือเจ้าแห่งจักรวาลสูงสุด
“ตามแผนของเรา จักรพรรดินีเจ้ามีวังสมบัติแท้จริงสูงสุด และ 80 เจ้าแห่งจักรวาลอยู่ในนั้น เจ้าจะทำการโจมตีพร้อมกันเพื่อสร้างพลังสูงสุด สำหรับเผ่าพันธุ์มารและเผ่าหุ่นยนต์ในแต่ละคนปกป้อง 16 เจ้าแห่งจักรวาล” บรรพบุรุษมารเขย่าขวัญกล่าว
“ตกลง”
“เราจะแจกจ่ายงานในตอนนี้”
สงครามใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในจักรวาลดั้งเดิมและเกี่ยวข้องกับกลุ่มอำนาจมากมาย บางกลุ่มได้เข้าร่วมกับมนุษย์ บางกลุ่มก็เป็นกลาง บางกลุ่มก็เห็นว่ามนุษย์นั้นเสียเปรียบ
เผ่าพันธุ์คุก เผ่าพันธุ์คริสตัล พันธมิตรสัตว์อวกาศ โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล พันธมิตรแดนเหนือ ทั้งหมดนี้ยังไม่มีการแสดงท่าทีของพวกเขา
มีเจ้าแห่งจักรวาลมากกว่า 80 จากสามเผ่าพันธุ์ชั้นยอดที่ให้การช่วยเหลือ พวกเขาทั้งหมดนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้มาให้ความช่วยเหลือ บางคนนั้นถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ในจักรวาลขนาดเล็ก ทำให้พวกเขามีเจ้าแห่งจักรวาล 112 คน เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดทั้งหมด 4
“คราวนี้เราจะทำมันพร้อมกัน นอกจากผู้ที่เข้าร่วมกับเราแล้ว ข้าเพียงคนเดียวก็สามารถอยู่เล่นกับเจ้าแห่งจักรวาลความมืดและเจ้าแห่งจักรวาลเป็งกงพร้อมกัน สำหรับหลัวเฟิงนั้นมีพลังมากกว่าที่คาด แต่จักรพรรดินีก็แข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับเขาได้” วงรีสีดำกล่าว
จักรพรรดินีแมลงพยักหน้า
“บรรพบุรุษมารเขย่าขวัญ บรรพบุรุษมารฝัน พวกเจ้านำ 112 เจ้าแห่งจักรวาลเข้าต่อสู้กับเผ่ามนุษย์”
“ตอนนี้เรามีข้อได้เปรียบยิ่งกว่าเดิม เราจะต้องประสบความสำเร็จ”
สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ได้ส่งเสียงคำราม พวกเขามีทั้งประเภทหิน ประเภทโลหะ เลือดเนื้อ และอื่นๆ มันเป็นสงครามที่จะกำหนดชะตาชีวิตของเผ่าพันธุ์พวกเขา
“ไปอาณาเขตมนุษย์” บิดาเทพส่งเสียงคำราม