ตอนที่ 129 ต่อสัญญา
รางวัลรวมทั้งหมดมี 5 อย่าง รางวัลแต่ละอย่างล้วนแล้วแต่น่าสนใจทั้งนั้น
แต่ข้อแลกเปลี่ยนนั้นก็สูงมากเช่นกัน
“ความสามารถในการต่อสู้ระดับ 12?” หลัวเฟิงถอนหายใจ “คนที่มีความสามารถในการต่อสู้ระดับ 12 จะขึ้นไปติดอันดับท็อป 20 ได้ง่ายมาก”
หลัวจากที่อ่านคู่มือนักเรียนแล้วพูดคุยกับนักเรียนคนอื่นๆ อย่างฉื่อเจียงและจ้าวรั่ว หลัวเฟิงก็ได้เข้าใจถึงความยากของการเพิ่มระดับความสามารถในการต่อสู้แล้ว
ระดับ 1-2 คือขั้นต้น…ระดับ 4-8 คือขั้นสูง และระดับ 8-16 คือขั้นสุดยอด!
สามารถบอกได้เลยว่าคงจะมีไม่กี่ครั้งนักหรอกที่นักเรียนในค่ายจะมีความสามารถเกินระดับ 16 ไปได้!
กล่าวคือ ความสามารถในการต่อสู้ระดับ 14-15 ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ติดอยู่ในอันดับท็อป
เข้าถึงระดับ 16 จะติดอยู่ในท็อป 10 ได้ไม่ยาก
เข้าถึงระดับ 12 จะติดอยู่ในท็อป 20 ได้ไม่ยาก
นี่คือมาตรฐานในค่าย
“รางวัลพวกนี้ล้วนแต่น่าอัศจรรย์มาก แต่สิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนก็หินไม่ใช่เล่น! ข้อเสนอที่ 3 มีรางวัลตอบแทนมากจริงๆ หากเราบรรลุความสามารถในการต่อสู้ได้ถึงระดับ 16 ก่อนวันที่ 1 มกราคา 2060 ถ้าจะแปลงเป็นตัวเงินล่ะก็ ราคาของมันก็คงจะมหาศาลมากเลยทีเดียว”
แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่เหนือเทพสงครามก็คงจะหนักใจทีเดียวที่ต้องจ่ายเงินมหาศาลซื้อของเหล่านี้!
“แต่นั่นก็คือคาดหวังให้เราบรรลุถึงระดับ 16 ในเวลาไม่เกินแค่ 3 ปีเท่านั้น” หลัวเฟิงรู้สึกกดดันไม่น้อยเลย
ยากที่จะบอกว่าจะมีนักเรียนคนใดหรือไม่ในค่ายตอนนี้ที่จะมีความสามารถในการต่อสู้ถึงระดับ 16
แต่ทว่า…
ก็ยังเคยมีนักเรียนที่เรียนจบไปพร้อมกับระดับ 16 อยู่บ้างเหมือนกันในประวัติศาสตร์ของค่าย
“รางวัลที่ใกล้เคียงกับเรามากที่สุดตอนนี้ก็เห็นจะเป็นข้อเสนอแรกนี่แหละ ที่ต้องการความสามารถในการต่อสู้แค่ระดับ 12”
ยิ่งเขาเข้าถึงระดับต่างๆ ได้เร็วเท่าไหร่ รางวัลก็จะยิ่งได้มากขึ้นเท่านั้น ถ้าเขาสามารถเข้าถึงระดับที่ว่าภายในวันที่ 1 สิงหาคม เขาก็จะได้รับรางวัลที่น่าตกใจทีเดียว ถ้าบรรลุระดับที่ว่าได้ภายในสิ้นปี รางวัลที่จะได้ก็จะต่ำลงตามด้วย
ถ้าเขาบรรลุขั้นที่ว่าได้ตอนปีหน้าหรือปีถัดๆ ไป เขาก็จะไม่ได้รางวัลใดๆ เลย
“อ่านจบหรือยัง?” เสียงแหบๆ ดังขึ้น
บนฝั่งตรงข้ามของโต๊ะน้ำชา ผู้ตรวจการหวังมองมายังหลัวเฟิง
“จบแล้วครับ” หลัวเฟิงพยักหน้า
“มีปัญหาอะไรไหม?” ผู้ตรวจการหวังกล่าวอย่างไร้อารมณ์
หลัวเฟิงเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม “ท่านผู้ตรวจการครับ ผมมีคำถาม ผมสามารถเปลี่ยนรางวัลเป็นยาอายุวัฒนะราคา 3 หมื่นล้านได้หรือเปล่าครับหากรางวัลมีมูลค่าเท่ากัน?”
น้องชายของเขาต้องการยาอายุวัฒนะเพื่อให้ขาของเขางอกออกมาใหม่อีกครั้ง และเขาก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีการประมูลยาตัวนี้อีก
เขาอยากจะลองถามดูจากสำนักขีดสุดนี่แหละ
“เปลี่ยนไม่ได้!” ผู้ตรวจการหวังส่ายหน้าเล็กน้อย “ไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งใดในสัญญานี้ได้”
“ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงส่วนใดได้เลยเหรอ?” หลัวเฟิงอึ้งไป
พวกเขาไม่ควรบังคับมากขนาดนี้ในการทำสัญญา โดยเฉพาะเมื่อสำนักขีดสุดเป็นหนึ่งในองค์กรที่เชื้อเชิญเขา เพราะผู้ตรวจการแสดงตัวออกมา จึงชัดเจนว่าทางสำนักนั้นต้องการให้ตัวเขาเข้าร่วมด้วยจริงๆ
“นักเรียนหลัวเฟิง สัญญานี้เป็นสัญญาที่เจ้าสำนักเขียนขึ้นด้วยตัวเอง ดังนั้นนอกจากเจ้าสำนักแล้ว ไม่มีใครมีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงมัน” ผู้ตรวจการหวังกล่าว
“เจ้าสำนัก?” อาจารย์หงเหรอครับ?” หลัวเฟิงอึ้งไป
คนรุ่นหลัวเฟิงโตมากับการได้ยินตำนานของอาจารย์หง นักสู้อันดับ 1 ชายผู้ร่ำรวยที่สุด บุคคลผู้ยืนอยู่เหนือสุดของโลก
อาจารย์หงเป็นคนที่เขียนสัญญานี้ขึ้นเอง ไม่แปลกใจเลยที่ผู้ตรวจการจะไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงมัน
“นายต้องการยาอายุวัฒนะจริงๆ งั้นเหรอ?” ผู้ตรวจการหวังถามย้ำเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขา
“ครับท่าน” หลัวเฟิงพยักหน้า
“มันก็ไม่ยากนะ ตามตารางแล้วน่าจะมีการเปิดประมูลยาอายุวัฒนะในตอนครึ่งปีหลังนี้แหละ ถึงตอนนั้น นายก็แค่เข้าร่วมการประมูล” ผู้ตรวจการหวังนับประคำไปพลางพูดไปพลาง เสียงเขาแหบพร่าและพูดอย่างช้าๆ การพูดคุยกับเขาอาจทำให้คนเข้าสู่สมาธิได้โดยไม่รู้ตัวเลย
“ครึ่งปีหลังนี้?” หลัวเฟิงช็อคไปเหมือนกัน
ผู้ตรวจการหวังกล่าวโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ “เดิมทียาอายุวัฒนะไม่ใช่ของที่หายากนัก ถ้าไม่เพราะกองทัพอเมริกันพยายามหลอกประชาชนและองค์กรต่างๆ ความจริงมันไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องเอามาประมูลด้วยซ้ำ”
ต่อหน้าหลัวเฟิง ผู้ตรวจการหวังไม่ได้ปกปิดความจริงแต่อย่างใด
“ไม่ใช่ของหายากเหรอครับ?” หลัวเฟิงตะลึง “ส่วนประกอบหลักของมันไม่ใช่วิญญาณของสิ่งมีชีวิตที่เหนือพวกระดับจ่าฝูง…มังกรจ้าวพิภพ ระดับจักรพรรดิหรอกเหรอ…แล้วมัน…”
“นายไปได้ยินเรื่องนี้มาจากไหน?” ผู้ตรวจการหวังถามอย่างสงบ
“อินเตอร์เน็ตครับ” หลัวเฟิงนิ่งไป
ผู้ตรวจการหวังยกชาขึ้นจิบเล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่อ “แล้วจะให้พวกเขาเปิดเผยความลับในการผลิตยาอายุวัฒนะได้อย่างไร? กองทัพอเมริกันแค่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องช่วยในการปั่นราคายาอายุวัฒนะและทำให้มันเป็นของหายากเท่านั้น พวกเขาตั้งใจสร้างข่าวลือเพื่อให้มันดูมีมูลค่าขึ้นเท่านั้นเอง”
“ข่าวลือ?” หลัวเฟิงขมวดคิ้ว
“จำไว้นะ” ผู้ตรวจการหวังมองหน้าหลัวเฟิง “ของล้ำค่าเกือบจะทุกอย่างในอินเตอร์เน็ตที่นักสู้ทั่วๆ ไปรู้จักกันมันสามารถผลิตขึ้นได้ และพวกมันถูกตั้งราคาไว้หมดแล้ว! ถ้านายตั้งใจประมูลซักหน่อย นายก็จะได้มันในราคาที่ไม่สูงนัก”
“ผลิตขึ้นได้?”
ผู้ตรวจการหวังพยักหน้าเล็กน้อย “ผลิตได้ นั่นหมายความว่าของล้ำค่าพวกนั้นสามารถผลิตได้ถ้ามีเงินมากพอ! ยกตัวอย่างเช่น ยาอายุวัฒนะ ที่จริงมันก็คือยาธรรมดา หลังจากที่ถูกใส่พลักงานและวัตถุดิบเข้าไปจำนวนมาก มันจะสามารถถูกผลิตขึ้นได้จากอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทางพวกอเมริกันขุดค้นได้จากซากโบราณคดีนั่นเอง!”
หลัวเฟิงอึ้งไป
ถ้าอย่างนั้น อุปกรณ์ทางการแพทย์ก็สามารถผลิตยาชนิดนี้ได้มานานมากแล้วน่ะซิ…
“ถ้ายิ่งพวกเขาลงทุนมาก พวกเขาก็จะยิ่งสร้างสรรค์สิ่งอื่นๆ ขึ้นมาได้อีก ดังนั้น บอกฉันหน่อยซิ คิดว่าของพวกนี้ควรจะขายแพงหรือเปล่าล่ะ?” ผู้ตรวจการหวังหัวเราะเล็กน้อย “ยกตัวอย่างเช่น เลือดมังกรมูลค่า 8 หมื่นล้าน นายเชื่อจริงๆ เหรอว่า…มันถูกทำมาจากเลือดจากหัวใจของมังกรระดับจักรพรรด์ ในตอนนี้ทั่วทั้งโลกมีมังกรระดับจักรพรรดิไม่ถึง 10 ตัวซะด้วยซ้ำ! แต่สำนักขีดสุดของเรายังคงขายพวกมันได้! ตราบเท่าที่นายมีเงินมากพอ สำนักขีดสุดของเราก็สามารถขายมันให้ได้”
ผู้ตรวจการหวังกล่าว “ถึงแม้ว่านายจะต้องการซื้อมันซัก 10 ส่วนเราก็หามาขายให้นายได้ บอกหน่อยซิ…ถ้ามีมังกรระดับจักรพรรดิน้อยกว่า 10 ตัวทั่วโลก แล้วเลือดมังกรมาจากไหน?”
ใช่…
ถึงแม้ว่าจะฆ่ามังกรทั้งหมด ก็จะไม่ได้เลือดมังกรถึง 10 ส่วนหรอก แต่สำนักขีดสุดกลับหามันมาขายได้!
“เลือดมังกรนี้ จริงๆ แล้วมันก็ยังเป็นเลือดมังกร แต่เลือดมังกรของทางสำนักเราสามารถให้ผลลัพธ์มากกว่าเลือดมังกรจากหัวใจของมังกรจริงๆ ด้วยซ้ำ!” ผู้ตรวจการหวังกล่าว “แต่มีเฉพาะเจ้าสำนักเท่านั้นที่สามารถผลิตเลือดมังกรนี้ได้ นี่เป็นความลับขั้นสุดยอดทีเดียว”
หลัวเฟิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ ของเหล่านี้ล้วนมีราคาตั้งไว้อย่างชัดเจน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งล้ำค่า แต่มันก็เป็นของที่สามารถผลิตขึ้นมาได้!
ถ้าหากมีเงินลงทุนกับแหล่งวัตถุดิบที่มากพอ ก็สามารถผลิตมันได้!
“ขุมทรัพย์ที่แท้จริง อย่างพวกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะจะไม่สามารถถูกผลิตซ้ำได้ นั่นจะเป็นของที่ล้ำค่าอย่างแท้จริง!” ผู้ตรวจการหวังกล่าว “แต่นายนะไม่พบข้อมูลของขุมทรัพย์เหล่านั้นในอินเตอร์เน็ตหรอก ของแบบนั้นจะไม่มีขายทั่วๆ ไป และจะไม่มีการนำมาประมูลด้วย ยกตัวอย่างเช่น มีของอยู่ราวๆ 10 กว่าอย่างในโลกนี้ที่สามารถทำให้ร่างกายของนายแข็งแกร่งขึ้นได้ แต่มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่ถูกนำมาตั้งราคาขายกันก็คือเลือดมังกร และถึงแม้ว่าจะมีของอย่างอื่นที่สามารถเสริมสร้างร่างกายได้และไม่สามารถผลติได้ แต่พวกมันก็จะไม่สามารถให้ผลลัพธ์ได้เท่ากับเลือดมังกร! และก็มีของบางอย่างอยู่เหมือนกันที่สามารถให้ผลลัพธ์มากกว่าเลือดมังกร! เลือดมังกรจะทำให้ร่างกายของคนที่ใช้มันแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า และยังมีของอย่างอื่นที่ทำให้ร่างกายแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นได้ 3-4 เท่า และบางอย่างก็ทำได้ถึง 10 เท่า แต่ทว่า ของล้ำค่าเหล่านี้ถูกผลาญหมดไปตั้งแต่ราวๆ 20 ปีที่แล้วแล้ว ตอนนี้มันไม่หลงเหลืออยู่แล้วในโลกนี้”
หลัวเฟิงอึ้งไปขณะที่ได้ยินเรื่องเหล่านี้
ดังนั้น ของล้ำค่าเหล่านี้จึงได้ถูกจำแนกออกเป็นชนิดที่ ‘สามารถผลิตขึ้นได้’ และ ‘ไม่สามารถผลิตขึ้นได้’ ของที่มีเอกลักษณ์เฉพาะซึ่งเป็นของล้ำค่าอย่างแท้จริงนั้นจะไม่มีทางถูกนำออกไปประมูลกับสาธารณะชน สิ่งมีชีวิตระดับ อาจารย์หง และ เทพสายฟ้า พวกท่านต่างก็มีเงินมากพอที่จะจ่ายเพื่อซื้อพวกมัน แต่ไม่ว่าจะเป็นพลังหมัดหรือจำนวนเงิน พวกท่านก็สามารถครอบครองพวกมันได้อยู่ดี
แล้วใครล่ะจะเอามาขายให้กับสาธารณะชน
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมรางวัลของสำนักขีดสุดถึงได้สูงนัก เลือดมังกรมาจากสำนักขีดสุดของเรา แล้วคู่มือวิชาล่ะ? พวกมันดูจะแพงสุดๆ แต่ทางสำนักขีดสุดก็ขายพวกมันอยู่แล้ว สำหรับชุดต่อสู้ ทางสำนักก็เพียงแค่จ่ายค่าผลิตเท่านั้น”
ถึงแม้ว่าหลัวเฟิงจะเข้าใจทุกๆ อย่างแล้ว แต่ยังไงรางวัลก็ยังคงดูสูงมากอยู่ดี แน่นอนเลือดมังกรไม่ได้ถูกผลิตอย่างจำกัดอะไร แต่ยังไงก็ต้องลงทุนในการผลิตอยู่ดี
ชุดต่อสู้และของอื่นๆ ทุกอย่างล้วนต้องใช้วัตถุดิบ แค่มูลค่าในการผลิตมันก็สูงมากอยู่แล้ว
“สัญญานี้ไม่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงได้นะ นายอยากจะเซ็นหรือเปล่าล่ะ?” ผู้ตรวจการหวังยิ้มให้เห็นเป็นครั้งแรก
“ครับ” หลัวเฟิงพยักหน้าแล้วเซ็นสัญญานั้นอย่างรวดเร็ว
“เซ็นที่นี่อีกครั้ง” ผู้ตรวจการหวังยื่นสัญญาที่เหมือนกันให้อีกฉบับ “เก็บไว้กับนายฉบับนึง ทางสำนักจะเก็บไว้อีกฉบับนึง”
………
หลังจากที่เซ็นสัญญา หลัวเฟิงก็กลายเป็นสมาชิกส่วนกลางของสำนักขีดสุดอย่างเป็นทางการแล้ว แต่นี้ไป เขาจะได้รับเงินจำนวน 5 พันล้านต่อปีเป็นค่าตอบแทน
และสำหรับตอนนี้ เป้าหมายหลักของเขาก็คือ…
การพยายามบรรลุถึงความสามารถในการต่อสู้ระดับ 12 ก่อนวันที่ 1 สิงหาคมนี้
“ถ้าเราทำสำเร็จ เราก็จะได้รับเลือดมังกร!”
เลือดมังกรสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายขึ้นได้ทันที ความเร็วในการฝึกก็จะเพิ่มขึ้นด้วย สิ่งที่หลัวเฟิงต้องการที่สุดตอนนี้ก็คือระดับสมรรถภาพร่างกายที่สูงขึ้น เพราะว่ายิ่งร่างกายแข็งแกร่งขึ้นเท่าใด พลังจิตก็จะแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น!
การกลายเป็นนักอ่านจิตระดับเทพสงครามขึ้นสูงคือเป้าหมายที่แท้จริงของหลัวเฟิง
และเลือดมังกรก็สามารถเร่งความเร็วในกระบวนการนี้ขึ้นได้อีกหลายเท่า!
……….
ค่ำคืนวันที่ 30 เมษายน บนชั้นแรกของร้านอาหารภายในค่ายฝึก
นักเรียนหลากหลายเชื้อชาติต่างจับกลุ่มนั่งทานมื้อค่ำกันอยู่
“หลัวเฟิง ดูเหมือนว่านายจะอารมณ์ดีเชียวนะ” จ้าวรั่วยิ้ม
“ก็พอได้ครับ” หลัวเฟิงยิ้มกริ่ม
เหตุผลหนึ่งก็คือเรื่องสัญญา และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือเรื่องที่เขาได้พบว่า ยาอายุวัฒนะ มีการหมุนเวียนซื้อขายกันอยู่ จึงทำให้เขาคลายกังวลเรื่องการจะหาซื้อมันไม่ได้นั่นเอง!
“ทุกคน…ทุกคน”
ทันใดนั้น เสียงนุ่มลึกก็ดังก้องขึ้นภายในร้านอาหารนั้น
นักเรียนทุกคนพากันหันไปมองดูครูฝึกระดับเทพสงครามที่เข้ามาร้องบอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น “มีข่าวดีสำหรับทุกคนมาบอกก่อน ‘การผจญภัยเสี่ยงตาย’ ประจำปีนี้จะเริ่มขึ้น ซึ่งก็คือวันที่ 1 สิงหาคมนี้ เจ้าสำนักของสำนักขีดสุดของพวกเรา นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดบนปฐพี อาจารย์หง จะเข้ามาเยี่ยมที่ค่ายฝึกเป็นการส่วนตัว”
“อะไรนะ!”
“โอ พระเจ้า!”
“อาจารย์หง …อาจารย์หง…โอ้โห!”
ทั่วทั้งร้านอาหารเกิดความอึกทึกขึ้นทันที นักเรียนจากทุกที่ทั่วโลกเริ่มฮือฮากันด้วยความตื่นเต้น สีหน้าของพวกเขาล้วนเต็มไปด้วยความสุข
อาจารย์หง!
ณ ขณะนี้ เขาเป็นเหมือนกับพระเจ้าของโลกนี้
ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหน พื้นที่ใด นักสู้หรือคนดังคนไหน พวกเขาต่างก็รู้จักชื่อนี้! อาจารย์หง! ทุกคนต่างก็รู้ว่านักสู้ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดบนปฐพีคือ อาจารย์หง!
“อาจารย์หง!”
“พระเจ้า!”
นักเรียนผิวสีบางคนเริ่มลุกขึ้นเต้นด้วยความตื่นเต้น นักเรียนทั้งหมดต่างก็ลุกยืนขึ้นถกกันอย่างฮือฮา พระเจ้า แม้แต่ในค่ายฝึกหัวกะทิยังมีโอกาสพบอาจารย์หงน้อยสุดๆ โดยปกติแล้วอาจารย์หงจะมาเยี่ยมค่ายฝึกซักครั้งหนึ่งในรอบหลายปี แล้วใครจะไปนึกถึงล่ะว่าอาจารย์หงจะมาในฤดูร้อนนี้
“หลัวเฟิง อาจารย์หงจะมา” จ้าวรั่วดึงแขนหลัวเฟิงแล้วกระโดดอย่างตื่นเต้น “ฉันยังไม่เคยเห็นอาจารย์หงเลย ทั้งๆ ที่อยู่ที่นี่มา 3 ปีแล้ว”
“ครับ…ครับ” หลัวเฟิงก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน
เขาจะต้องได้เห็นบุคคลอันดับ 1 ของโลกคนนี้เป็นการส่วนตัวให้ได้
“วันที่ 1 สิงหาคม ก่อนการผจญภัยเสี่ยงตาย?” หลัวเฟิงตื่นเต้น “โอเค เราจะต้องฝึกให้หนักเพื่อยกระดับความสามารถในการต่อสู้ของเราให้ถึงระดับ 12! เรามีเวลาแค่ 3 เดือนเท่านั้น!
……..
วันที่ 30 เมษายน
ความจริงก็ยังมีเวลาอีก 3 เดือนกระทั่งถึงวันที่ 1 สิงหาคม แต่ถ้าหลัวเฟิงต้องการได้รับเลือดมังกร เขาก็จะไม่มีเวลามามัวผ่อนคลายอยู่ตลอด 3 เดือนนับจากนี้