Skip to content

Swallowed Star 130

ตอนที่ 130

สามเดือน

หลัวเฟิงอยู่อันดับที่ 68 ประจำเดือนเมษายน ซึ่งนั่นหมายความว่าเขาจะออกไปล่าสัตว์ประหลาดได้เฉพาะในวันคู่ และอยู่ในค่ายในวันคี่ระหว่างเดือนพฤษภาคมนี้

วันที่ 1 พฤษภาคม เวลาราวๆ 4 โมงเย็น

ประตูลิฟต์เปิดออก ติ๊ง บนชั้นที่ 1 ของตึกมหานพ

“อืม ใช่ๆ หลัวเฟิงเทคนิคดาบของนายมีความหวังมากขึ้นเยอะทีเดียว นายเพิ่งจะเริ่มเข้าขั้นที่ 2 เพราะงั้นนายจะต้องพยายามทำให้มันเสถียรขึ้นจนกระทั่งเข้าถึงระดับขั้นสมบูรณ์แบบ!” เจียงฟางเดินออกมาจากประตูลิฟต์กับหลัวเฟิง เจเน็ต และคนอื่นๆ

หลัวเฟิงพยักหน้าเหมือนกับว่าเขาจะวางแผนแบบนั้นไว้แล้วเช่นกัน “เข้าใจแล้วครับครู”

“ฝึกหนักต่อไป!” เจียงฟางยิ้มให้ขณะที่กล่าวสนับสนุน

หลัวจากที่เดินออกมาจากประตูของตึกมหานพ เจียงฟางก็มุ่งตรงไปยังส่วนที่เธอพักอยู่ หลัวเฟิง เจเน็ต และนักเรียนชาวจีนคนอื่นๆ ก็มุ่งหน้าไปยังตึกของตนตามลำดับ

“เจเน็ต”

“เจเน็ต”

เสียงเรียกตะโกนซ้ำๆ ทำให้ทั้งสามคนหยุดและหันศีรษะ สิ่งที่พวกเขาเห็นคือ คาเดซ นักเรียนชายที่ให้ความรู้สึกของสุภาพบุรุษคนหนึ่ง เขารีบเดินออกจากห้องนั่งเล่น และยิ้มขณะที่มองไปที่เจเน็ต

“เจเน็ต คืนนี้คุณมีเวลาไหม ? เราสามารถกินข้าวเย็นด้วยกันได้”

หลัวเฟิง ได้ยินและเขาพูดกับตัวเองว่า เขาก็แค่พยายามจีบสาว ๆ มีนักเรียนหญิงจำนวนน้อยอยู่ในค่ายฝึกยอดเยี่ยม ดังนั้นจึงมีคนตามจีบกันหลายคน

“โอ้ ฉันจะกินข้าวเย็นกับหลัวเฟิงคืนนี้ ” เจเน็ตยิ้มหวานและเกี่ยวแขนซ้ายของหลัวเฟิง

คาเดซรู้สึกสับสน

หลัวเฟิงก็รู้สึกสับสน

” รุ่นพี่ ” หลัวเฟิงมองไปที่เจเน็ต เจเน็ตเป็นคนสวยมากและมีรูปร่างที่ดี ผิวของเธอขาวมากเหมือนนางฟ้า ในระหว่างเรียน เจเน็ตเคยพูดเป็นนัยถึงความตั้งใจของเธอหลายต่อหลายครั้ง และได้ขอร้องให้เขาไปเที่ยวด้วย

แม้ว่าเขาจะไม่ยอมรับคำเชิญใดๆ ก็ตาม แต่คนที่รุ่นพี่คนนี้เชิญก็ไม่เคยมีใครปฏิเสธเธอเลย

แน่นอนว่า สาวตะวันตกกล้าหาญ

แต่เขามีสวีซินอยู่แล้ว…

“เจเน็ต!” คาเดซรู้สึกโกรธมาก

” ขอโทษ คาเดซ ” เจเน็ตยิ้ม ขณะที่เธอกอดแขนหลัวเฟิงไว้และเดินออกไป

ใบหน้าของคาเดซแย่มากในขณะที่เขาเฝ้าดูหลัวเฟิงและเจเน็ตเดินหายไปที่มุมข้างหน้า ในเวลานี้มีนักเรียนอีกคนหนึ่งเดินออกจากล็อบบี้ชั้นแรก เขาคือวิลเลียม

“คาเดซ ผมบอกคุณแล้ว แต่คุณไม่ยอมเชื่อ! นักเรียนหลายคนในค่ายฝึกอบรมรู้อยู่แล้วว่า เจเน็ตกำลังสนใจในตัวหลัวเฟิง เธอขอให้เขาไปเที่ยวกับเธอ นั่นเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับสาวๆ ที่จะไล่จับคนที่พวกเธอต้องการ พวกเขาอาจจะนอนหลับอยู่บนเตียงเดียวกัน แล้วทำไมคุณถึงยังไล่ตามเจเน็ต!” วิลเลียมกล่าวด้วยความไม่พอใจ

“ไอ้!” คาเดซกำหมัดของเขาและใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียว

ในค่ายฝึกที่ยอดเยี่ยมแทบจะไม่มีนักเรียนหญิงและนักเรียนที่สวยก็ยิ่งหายากมาก! ใครจะรู้ว่ามีนักเรียนชายกี่คนที่ตามจีบพวกเธอ นับตั้งแต่ที่เจเน็ตเข้าค่ายฝึกอบรม คาเดซเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ตามจีบเธอด้วย

ก่อนอื่นเขาชอบรูปลักษณ์ของเธอ ประการที่สองถ้าเขามีภรรยาที่แข็งแกร่ง! จากนั้นคนในตระกูลพอลลินัสจะสนับสนุนเขามากยิ่งขึ้น!

“หลัวเฟิงต้องมีครูคนเดียวกับเจเน็ต” วิลเลียมส่ายหัว จากนั้นเขายักไหล่ “และครูเจียงฟาง มักยอมรับแต่คนจีนเท่านั้น นักเรียนหญิงหรือชายจากสหภาพยุโรปไม่มีโอกาสที่จะกลายเป็นนักเรียนของเธอ”

“ผมไม่เชื่อว่า ผมจะไม่สามารถจีบเธอได้!” คาเดซจ้องมองด้วยความโกรธแค้น!

ถ้านักเรียนทั่วไปต่อสู้กับคาเดซ เขาก็จะมีเทคนิคในการต่อสู้ของตัวเอง และเขาอยู่ในค่ายฝึกมา 3 ปีแล้ว และอยู่ในช่วงปีที่สี่ ในฐานะนักเรียนเก่าที่เคยอยู่ที่นี่เป็นเวลา 4 ปี เขาถือว่ามันเป็นเรื่องง่ายมากที่เขาจะสามารถไปถึงอันดับที่ 40 ได้! เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะเข้าสู่ Top 20 ได้ในช่วงปีที่ห้าของเขา

จริงๆ แล้ว คาเดซไม่ได้สนใจเกี่ยวกับนักเรียนคนอื่นๆ แต่กับหลัวเฟิง

“หลัวเฟิง! ต้องการจะแย่งผู้หญิงของฉัน!” คาเดซกัดฟันด้วยความโกรธ

“เย็นไว้! เย็นไว้!”

สำนักขีดสุดจงใจกระจายข้อมูลของหลัวเฟิงไปพร้อมกัน ข่าวนี้ได้เผยแพร่ไปยังประเทศและองค์กรหลัก ๆ แล้ว คาเดซรู้ในทันทีว่า หลัวเฟิงกลายเป็นหนึ่งในผู้ที่มีอำนาจของสำนักขีดสุด แม้แต่ตระกูลพอลลินัสยังต้องระมัดระวังเมื่อต้องรับมือกับพวกเขา ดังนั้นคาเดซไม่กล้าที่จะใช้กลยุทธ์ของเขา

“ฮึ่ม!”

คาเดซสามารถเก็บความโกรธของเขาไว้กับตัวเองได้เท่านั้น ความอดทนคือความสามารถในการสืบทอดตระกูลใหญ่ ที่เขาต้องเรียนรู้!

“เป็นการแข่งขันที่ยุติธรรม เจเน็ตจะกลายเป็นของฉัน” คาเดซกล่าวกับตัวเอง

…..

เมื่อหลัวเฟิงและเจเน็ตเดินผ่านมุมอาคาร พวกเขาก็แยกตัวออก

“รุ่นพี่ ผมมีแฟนแล้ว” หลัวเฟิงยอมรับว่า หน้าตาของเจเน็ตน่ารักกว่าสวีซิน รวมถึงด้านความแข็งแกร่ง และความสามารถ เจเน็ตเป็นอัจฉริยะเหนืออัจฉริยะ

“แล้วจะเกิดอะไร ขึ้นถ้าคุณมีแฟนแล้ว แม้ว่าคุณจะแต่งงานแล้ว ฉันก็จะพยายามขโมยคุณไป อื้ม หลัวเฟิง รุ่นพี่คนนี้จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด”

เจเน็ตยิ้มให้หลัวเฟิง และมุ่งหน้าไปยังที่พักของเธอ

หลัวเฟิงลูบศีรษะ

เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี…

เขาจะทำอย่างไรกับรุ่นพี่เช่นนี้ดี

“ฉันจะหยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีเวลาเหลืออีกประมาณสองชั่วโมงก่อนอาหารเย็นดังนั้นฉันจะกลับไปห้องฝึกซ้อมและฝึกเกี่ยวกับเทคนิคดาบของฉัน ขณะที่ฉันใช้ดาบ มันมีความรู้สึกเหมือนสายฟ้า ตามที่ครูบอกฉันควรพยายามรักษาสถานะปัจจุบันของดาบให้สมบูรณ์แบบ”

หลัวเฟิงรีบวิ่งกลับไปที่หอเจียงหนาน และฝึกซ้อมเทคนิคการใช้ดาบในห้องฝึกซ้อมใต้ดินของเขา!

………

สำหรับหลัวเฟิงแล้ว ค่ายฝึกอบรมยอดเยี่ยมเป็นเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยยกระดับความแข็งแกร่งของเขา

(ขอเปลี่ยนจาก ค่ายฝึกหัวกะทิ เป็นค่ายฝึกอบรมยอดเยี่ยมครับ)

ทางลัดที่ดีที่สุดในการเพิ่มความแกร่งของคุณอยู่ที่นี่ เมื่อใดก็ตามที่คุณสับสนเกี่ยวกับแนวคิด คุณสามารถขอให้ครูอธิบายสิ่งต่าง ๆ ได้ มีห้องแรงโน้มถ่วงและห้องฝึกซ้อมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยพัฒนาเทคนิคการใช้ดาบของคุณซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มพูนทักษะอย่างรวดเร็ว

ฝึกฝนเทคนิคการใช้ดาบ และเทคนิคการควบคุมพลังให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการเรียนรู้คู่มือการฝึกฝน ดาบฟ้า เก้าขั้น ทุกๆ วันเขาจะออกล่าสัตว์ประหลาดในถิ่นทุรกันดาร

(ขอเปลี่ยนจากแดนเถื่อน เป็นถิ่นทุรกันดารครับ)

หลัวเฟิงใช้ทุกๆ วันให้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งและหลัวเฟิงก็มีเป้าหมายอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ได้ถึงระดับ 12 ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม! แม้ว่าเป้าหมายนี้จะเป็นเรื่องยากมากที่จะเข้าถึง แต่ผลตอบแทนที่ได้จะรับในสัญญานี้ นั้นคือเขาต้องพยายามไปให้ถึงในระดับ 12 ให้ได้ภายในสามเดือน!

ไม่ว่าจะยากแค่ไหน เขาก็ต้องพยายาม

สิ่งเดียวที่หลัวเฟิงสามารถทำได้ คือ ใช้ประโยชน์สูงสุดจากเวลาที่เหลืออยู่ของเขาและพัฒนาทุกวัน!

…..

เวลาผ่านไป พร้อมกับร่างกายและจิตใจของเขาที่หมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝนและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ในพริบตาก็จะถึงเดือนกรกฎาคมแล้ว

หอเจียงหนานในอาคารที่พักของหลัวเฟิง เขาจุดธูป และมีกลิ่นหอมที่แผ่กระจายไปทั่วห้องที่เงียบสงบ ตัวหลัวเฟิงเองสวมเสื้อคลุมผ้าไหม ขณะที่เขากำลังดูดพลังงานจากพลังงานทางพันธุกรรมเพื่อเสริมสร้างร่างกายของเขา เซลล์จำนวนนับไม่ถ้วนของหลัวเฟิง ได้ทำงานอย่างรวดเร็วเหมือนโรงงาน หลังจากที่พลังงานผ่านเข้าไปในเซลล์มันกลายเป็นพลังงานทางพันธุกรรม

ยีนในเซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในขณะที่ดูดซับพลังงานทางพันธุกรรม…

การเปลี่ยนแปลงนี้มีขนาดเล็กมาก แต่ก็เกิดขึ้นตลอดเวลา หลังจากนั้นสักพักร่างกายก็จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็ก ผิวของเขาอาจจะแข็งแกร่งพอๆ กับเพชร นี่เป็นส่วนที่มหัศจรรย์ของร่างกาย

มนุษย์

หลังจากนั้นสักครู่…

หลัวเฟิง ลืมตา

“และแล้วก็มาถึงเดือนกรกฎาคม ในชั่วพริบตา” หลัวเฟิงกล่าวกับตัวเอง

การผจญภัยแห่งชีวิตและความตายจะเริ่มต้นในเดือนสิงหาคม

ค่ายฝึกอบรมยอดเยี่ยมจะให้นักเรียนกลับบ้านในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ อีก 10 เดือนนับจากนั้น มีความปลอดภัยมาก ไม่ว่าจะอยู่ในค่ายฝึกอบรมหรือในเมือง จะได้รับการตรวจสอบอย่างรอบคอบ ในเมือง 1001 ในถิ่นทุรกันดาร ในช่วง 9 เดือนนี้การเสียชีวิตมักไม่ค่อยเกิดขึ้น

เดือนที่อันตรายอย่างเดียวคือเดือนสิงหาคม!

สิงหาคมเป็นเดือนที่จะมีการผจญภัยแห่งชีวิตและความตาย ในเวลานั้นนักเรียนทุกคนจะต้องออกจากค่ายฝึกอบรมขึ้นเครื่องบินไปยังสถานที่อันตรายและผจญภัยอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหนึ่งเดือน!

หากนักเรียนชั้นยอดเหล่านี้ไม่ได้ฝึกฝนตัวเองให้อยู่ในช่วงขอบเหวแห่งชีวิตและความตาย พวกเขาจะไม่พัฒนากลายเป็นคนที่แข็งแกร่งในอนาคต ดังนั้นค่ายฝึกอบรมจึงจัดให้มีการออกค่ายผจญภัยแห่งชีวิตและความตาย ในเดือนสิงหาคมเพื่อให้นักเรียนเหล่านี้ทั้งหมดได้มีโอกาสต่อสู้อยู่บนขอบเหวของชีวิตและความตาย!

อย่างไรก็ตามนักเรียนเหล่านี้มีพลังที่แข็งแกร่งมาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะฆ่าพวกเขา ถึงกระนั้นก็ตามยังมีโอกาสที่นักเรียนในค่ายจะเสียชีวิตประมาณ 10%

“สิงหาคมเป็นเดือนแห่งการผจญภัย ชีวิตและความตาย และมันเป็นครั้งแรกของฉัน”

“ฉันยังมีเวลาอีก 1 เดือน แต่ระดับของความสามารถในการต่อสู้ของฉันยังอยู่ที่ ระดับ 8.96 ยังคงห่างไกลจากระดับที่ 12!”

หลัวเฟิงถอนหายใจ

จริงๆ แล้วการพัฒนาของหลัวเฟิง ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาก็น่าแปลกใจเทคนิค ‘สายฟ้าฟาด’ ของเขามีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ การใช้อาวุธของเขาอยู่ในระดับที่สองคือระดับ ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ และเกือบจะถึงขั้นสมบูรณ์ แม้แต่ครูเจียงฟางก็ชื่นชมเขาอยู่เสมอ!

เทคนิคของเขาเสร็จสมบูรณ์ในระดับที่สมบูรณ์

สิ่งเดียวที่ยังไม่ได้รับความคืบหน้า คือขั้นตอนที่สี่ของดาบสายฟ้า เก้าขั้น แม้ว่าหลัวเฟิง จะสามารถควบคุมพลังของเขาได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่สี่

ในช่วงเดือนพฤษภาคม ระดับในหอคอยแห่งการทดสอบของ หลัวเฟิง อยู่ในระดับที่ 3.0 ในชั้นที่สาม สำหรับการทดสอบระดับ A หลัวเฟิงไม่สามารถอยู่ได้เกินสิบวินาที จนกระทั่งเทคนิคการใช้ดาบของเขาพัฒนาขึ้นและก้าวไปถึงระดับที่สมบูรณ์แบบ ทำให้เขาสามารถผ่านการทดสอบจนกระทั่งอยู่ในระดับที่ 3.1 ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม

มิถุนายน ระดับของหอคอยแห่งการทดสอบของหลัวเฟิง ยังอยู่ในระดับที่ 3.2 เท่านั้น

ดังนั้นปัจจุบันความสามารถในการต่อสู้ของหลัวเฟิง คือ 8.96

เมื่อสรุปทุกอย่างแล้ว หลัวเฟิงยังไม่สามารถผ่านการทดสอบระดับ A ของชั้นสามได้ในสองเดือนที่ผ่านมา

แม้แต่ครูที่เก่งที่สุดหยางหัวก็มีระดับในหอคอยแห่งการทดสอบเพียงแค่ระดับที่ 3.2 เมื่อมาถึงในระดับนี้ก็ถือว่ามีความแข็งแกร่งอย่างมากแล้ว อย่างไรก็ตาม ข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ หลัวเฟิง คือความแรงของหมัดของเขา!

“ดาบสายฟ้า เก้าขั้น” ถือว่าเป็นเทคนิคที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการออกแรงเมื่อเทียบกับคู่มือการฝึกฝนอื่นๆ แม้แต่คู่มือระดับ S หรือ SS

…….

เมื่อคุณฝึกฝนจนเสร็จสมบูรณ์ คุณจะมีพลังเพิ่มเพียงแค่สามหรือสี่เท่าเท่านั้น แต่ “ดาบสายฟ้า เก้าขั้น” ที่สมบูรณ์” จะเพิ่มพลังให้ถึงเจ็ดเท่า!

ตอนนี้ หลัวเฟิง สามารถเพิ่มพลังได้ถึง 2.8 เท่า ซึ่งมากกว่านักเรียนเก่าหลายๆ คน

แม้ว่าหลัวเฟิงยังไม่พอใจกับตัวเอง แต่เขาก็มีชื่อเสียงในค่ายฝึก เพราะในเดือนพฤษภาคม หลัวเฟิงได้เลื่อนขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 56 ในการจัดอันดับมังกรดำ ในเดือนมิถุนายนเขาสามารถขยับขึ้นไปที่อันดับ 48 เขาสามารถติดใน Top 50 ของค่ายฝึกได้!

ซึ่งในช่วงเดือนมิถุนายน คาเดซอยู่ในอันดับที่ 40 เท่านั้น

แน่นอนว่า…..

สำหรับหลัวเฟิงแล้ว ระดับการออกกำลังกายของร่างกายของเขาได้พัฒนาขึ้นมากที่สุด!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!