ตอนที่ 1346 : เราคือตัวหลัก
ดังนั้นเพื่อจะออกเดินทางด้วยกัน หลัวเฟิง จึงได้รออยู่ที่เผ่าป่าแห้ง แต่สิ่งที่ ลมเหนือ หมายถึงคำว่าเร็วมากๆ นั้นคือเวลาถึงครึ่งปี
ในจักรวาลเสมือน ที่บนจุดสูงสุดของเกาะสายฟ้ามีกลุ่ม เจ้าแห่งจักรวาล จากเผ่ามนุษย์ได้มารวมตัวกันพร้อมจะพูดคุยถึงแผนการ เกี่ยวกับเรื่องดินแดนอันตรายแห่งที่สี่ซึ่งคือโลกแห่งจิน
พวก เจ้าแห่งจักรวาล พากันเดินทางกันมาอย่างต่อเนื่องและบรรยากาศนั้นก็เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
“เจ้าได้ยินถึงตัวตนในโลกแห่งจินที่กลายเป็นเทพที่แท้จริงรึเปล่า?”
“ข้าได้ยินว่าในโลกแห่งจิน มันมีสมบัติแท้จริงชั้นยอดมากมาย”
“หลัวเฟิง มี เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เยอะรึเปล่าที่เจ้าพบที่นั่น?”
เจ้าแห่งจักรวาล ทุกคนต่างก็พากันตื่นเต้น หลัวเฟิง เป็นแค่คนเดียวจากเผ่ามนุษย์ที่เข้าไปในโลกแห่งจินในครั้งนี้ คนอื่นๆ นั้นยังไม่ได้รีบเข้าไป
ฮู่!
ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ปรากฏตัวขึ้นมา เจ้าแห่งจักรวาล ทุกคนที่พูดคุยกันอยู่ต่างก็พากันเงียบ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล นั่งลงที่บัลลังก์กับ หลัวเฟิง และ เจ้าแห่งจักรวาลความมืด ที่อยู่ข้างๆ
“ทุกคน” เขาพูดขึ้น สายตาของเขากวาดมองไปทั่วผู้คน “ตอนนี้โลกแห่งจินได้เปิดออกมาสักพักแล้ว นอกจากพันธมิตรหงแล้ว คนจากกลุ่มอื่นๆ จากทะเลจักรวาลเองก็ได้เข้าไปในโลกแห่งจิน พันธมิตรหงนั้นได้รวบรวมข้อมูลมาได้เล็กน้อย กลุ่มอื่นเองก็ได้ข้อมูลมาบ้าง หลังจากที่แลกเปลี่ยนข้อมูลกันและสื่อสารกัน…วันนี้ข้าจะอธิบายเรื่องที่ชัดเจน ก่อนจะตัดสินใจว่าเราควรทำยังไงกับโลกแห่งจินนี้”
“โลกแห่งจิน…”
“ทรงพลัง!”
“แต่อันที่จริงแล้วมันควรจะถือว่าเป็นเศษชิ้นส่วนของสังคมโบราณ” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้น “สังคมโบราณนั้นล่มสลายไปนานแล้ว โลกแห่งจินนี้อาจจะแข็งแกร่ง แต่คนด้านในโลกก็โดนกักตัวอยู่ภายใน มันไม่มีทางที่จะออกมาได้ มนุษย์…เราคือตัวละครหลักของยุคนี้”
ตาของ หลัวเฟิง เป็นประกายขึ้นมา อันที่จริงตอนที่เขาได้ทำการติดต่อกับโลกแห่งจิน เขารู้สึกได้ถึงความกดดันแต่เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว…อันที่จริงโลกแห่งจินก็ถือว่าเป็นคุกขนาดใหญ่ คนด้านในไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่อาจจะออกมาได้ ยุคของพวกนั้นเป็นเพียงแค่อดีต ตอนนี้มันถึงเวลาที่เขาจะได้เป็นตัวละครหลัก!
“มัน แน่นอนว่ามันไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับสังคมโบราณ” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “แต่ยังไงซะเศษชิ้นส่วนของสังคมโบราณสำหรับเราที่ยังถือว่ายังเป็นเด็กนั้น มันถือว่าเป็นโอกาสที่ไม่อาจจะมองข้ามได้และยังน่าท้าทายด้วย เมื่อเผ่ามนุษย์มีแค่ หลัวเฟิง เพียงลำพังในโลกแห่งจิน ที่นั่น เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด รู้จักกันในนามเทพที่แท้จริงและตัวตนระดับนี้ก็มีมากมาย แน่นอนว่าเพราะเทพที่แท้จริงถือว่าเป็น เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด พวกเขาก็สามารถยึดครองอาณาเขตเล็กๆ ได้แต่ในโลกแห่งจินแล้ว มันมีตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าเทพที่แท้จริง! ตราบใดที่เราขึ้นถึงระดับนั้นได้ เราก็สามารถเกิดใหม่ที่เหนือกว่าได้! การต่อสู้! ในโลกแห่งจินนั้นมันมีการต่อสู้อยู่ทุกแห่ง แกนหลักของโลกแห่งจินคือกองทัพ กองทัพที่เป็นของ ราชาเทพ กองทัพนี้ก่อตั้งขึ้นมาโดยเลือกผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดและมีการคัดทิ้งด้วย เมื่อคนก้าวเข้าไป อิสระนั้นก็ถูกริบรอนไปแล้ว เขาต้องทำตามคำสั่งกองทัพและผ่านการคัดเลือกอันโหดร้ายซึ่งเสี่ยงจะโดนกำจัดอย่างมาก”
ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดต่อด้วยสีหน้าเคร่งขรึมกว่าเดิม “กลุ่มต่างๆ จากทะเลจักรวาลได้ส่งคนไปกว่า 200 คนแต่เท่าที่ข้ารู้มา จำนวนพวกที่โดนกำจัดนั้นก็มากกว่า 120 คน !”
“อะไรนะ!”
“เกินกว่า 120?”
“มากขนาดนั้นเลยรึ?”
มันมีเสียงอุทานเพราะความตกใจดังขึ้นทั่วทุกที่ แม้แต่ หลัวเฟิง ก็ยังต้องช็อก ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเขามาก่อน
“ใช่” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พยักหน้า “ในโลกแห่งจินมันมีเผ่ามากมาย มันมีสิ่งมีชีวิตหลายแบบและสัตว์อสูรมากมายในป่า การเดินในป่านั้นอันตราย เพราะเจ้าอาจจะถูกโจมตีตอนไหนก็ได้ พวกคนพื้นเมืองรู้เส้นทางที่ปลอดภัยแต่เราไม่รู้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมคนมากกว่าครึ่งจึงโดนกำจัด แม้ว่าจะใช้เวลาไม่ถึงครึ่งปีในโลกแห่งจินหลังจากที่เข้าไป ก็ยังไม่มีใครถูกยอมรับเข้ากองทัพ! และมันก็มีมากกว่าครึ่งที่โดนกำจัดไปแล้ว! หากมีการคัดเลือกขั้นสุดท้าย มันบอกกันว่าอัตราการโดนคัดทิ้งนั้นสูงกว่า 95%! การเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพนั้นเราจะเข้าใจถึงรายละเอียดการบ่มเพาะเพื่อจะกลายเป็นตัวตนที่สยบเทพที่แท้จริงได้ แต่ตัดสินจากอัตราการคัดทิ้งแล้ว มันชัดแล้วว่าจากทั่วทั้งทะเลจักรวาล มันอาจจะไม่มีสักคนที่ไปถึงระดับที่สยบเทพที่แท้จริงได้”
เหล่า เจ้าแห่งจักรวาล ต่างก็เงียบไปทันที
แม้ว่าจะไม่ได้ถูกรับเข้ากองทัพแต่หลายคนก็ยังโดนกำจัด
ด้วยภาพกองทัพในหัว…มันก็มี เจ้าแห่งจักรวาล อีกกลุ่มที่หวังจะกลายเป็น เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ที่จะโดนกำจัดไปอีกและจากเทพที่แท้จริงจนถึงระดับที่สูงกว่านั้น กองทัพจะไม่ให้ข้อมูลกับพวกเขาง่ายๆ ดังนั้นอัตราการคัดทิ้งจึงสูงจนคาดไม่ถึง
“โหดร้ายจริงๆ!” หลัวเฟิง พึมพำ ในหัว อันที่จริงมันยากแต่เขาก็มั่นใจ!
“เผ่ามนุษย์ของข้าได้รับการสืบทอดจากสังคมโบราณมา” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้น “ในโลกแห่งจินนั้นมันถือว่าต้องมีสิทธิ์ถึงจะได้รับการสืบทอดระดับสูง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราไม่ควรรับความเสี่ยงในตอนนี้ เราควรจับตาดูสถานการณ์ไปก่อน เมื่อเวลาผ่านไปความลับจากโลกแห่งจินก็จะเผยรายละเอียดออกมา…สำหรับพวกที่อยากเข้าไปก็คงมีแค่พวกที่มีหลายร่างที่จะได้รับอนุญาตท่องไปในโลกแห่งจินได้”
“อืม”
“พวกเราต้องระวังตัวไว้ด้วย”
เจ้าแห่งจักรวาล ต่างก็พากันใจเย็นลงกว่าเดิม พวกเขาไร้ความกลัวแต่ไม่ได้หุนหัน
หลัวเฟิง เองก็เห็นด้วยกับข้อเสนอของ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ยังไงซะจากสิ่งที่เขาเรียนรู้มา มันไม่มีการสืบทอดภายในเผ่า คนที่ต้องการจะเป็น เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด คงมีวิธีเดียวคือการถูกรับเข้ากองทัพ!
นี่เป็นกฎเหล็กของโลกแห่งจิน มีแค่การถูกรับเข้ากองทัพถึงจะได้รับการสืบทอดพื้นฐานแต่แม้ว่าจะได้รับการชี้แนะแต่ก็ยังไม่กล้าจะบอกต่อข้อมูลให้กับเผ่าตน
สำหรับการเข้ากองทัพน่ะรึ?
มันอันตรายเกินไป!
***
ผลลัพธ์อันน่าเศร้าของพวกที่เข้าไปกลุ่มแรกอาจจะเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ พวกเขาต่างก็กระสันอยากพากันเข้าไปแต่ความจริงนี้ได้ปลุกพวกเขาจากความคิดเพ้อฝัน
การสืบทอด?
ภายในกองทัพมันมีการสืบทอดพื้นฐาน การสืบทอดที่ทำให้พวกเขาเกิดใหม่ที่เหนือกว่าได้ แต่พวกเขาจะรอดขั้นตอนการคัดเลือกเพื่อจะรับการสืบทอดรึเปล่า?
สมบัติแท้จริงชั้นยอด?
มันมีเยอะในกองทัพแต่มันก็เป็นแค่อุปกรณ์พื้นฐานสำหรับเทพที่แท้จริง มันจะมีเทพที่แท้จริงสักกี่คนในทะเลจักรวาล?
ไม่ถึง 100 และถ้าพวกเขาเข้าร่วมกับกองทัพ มันก็มีโอกาสกว่า 90% ที่จะโดนคัดทิ้ง?
มันมีไม่ถึง 10 คนที่เหลืออยู่ในทะเลจักรวาล?
การเข้าไปเพื่อ เอาอุปกรณ์ทั่วไป?
แค่คิด ก็ทำให้คนเราขนลุกได้แล้ว
“ไม่ต้องเร่งรีบ!”
“เราคงเข้าไปได้คนละยุค เราค่อยๆ ลงมือก็ได้”
“งั้นแล้วถ้าพวกคนท้องถิ่นแข็งแกร่งมากล่ะ?”
“พวกนั้นโดนขังไว้ที่นั่นไว้ชั่วนิรันดร์ พวกน่าสงสารนั้นยังคงสู้เพื่อราชาของพวกเขาอีกรึ ข้าคิดว่าราชาของพวกเขาคงโดนกำจัดไปแล้ว”
ขุมกำลังต่างๆ จากทะเลจักรวาลดูเหมือนว่าจะรู้ว่าพวกนั้นไร้พลังแค่ไหน ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าพวกเขาเป็นตัวเอกของยุคนี้ ส่วนอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่พวกที่ถูกขังไว้ในคุก พวกเขาเชื่อว่าพวกเขากำหนดชะตาตัวเองได้เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น ยังไงซะพวกเขาก็เป็นตัวตนระดับสูงตั้งแต่แรกแต่เมื่ออยู่ในโลกแห่งจิน พวกเขาก็ได้กลายเป็นแค่ตัวตนทั่วไป ใครกันจะไม่รู้สึกกลัวบ้างเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนั้น?
***
ที่เผ่าป่าแห้งในโลกแห่งจิน
ลมเหนือ ได้ตะโกนเรียก หลัวเฟิง “ไปกันเถอะ ทางช้างเผือก ไปกันได้แล้ว เราต้องเดินทางแล้ว”
หลัวเฟิง ร่ำลาเพื่อนที่เขามีตลอดครึ่งปีมานี้ จากนั้นก็ได้แยกตัวออกไปพบกับ ลมเหนือ
“เจ้าต้องกลับมา”
“เชื่อใจข้าได้”
“กลับมาให้ได้”
“ถ้าเจ้าไม่เป็นเทพที่แท้จริง เจ้าลืมเรื่องกลับมาหาข้าได้เลย”
มันมีคนมากกว่าหมื่นคนมารวมตัวกันรวมทั้งเพื่อนและเด็ก เด็กๆ เหล่านี้อยากจะเข้าร่วมกองทัพเมื่อโตขึ้นมา แต่การเข้าร่วมกองทัพได้ต้องเป็น เจ้าแห่งจักรวาล ให้ได้ก่อน
“รีบกลับมา!” เทพที่แท้จริงสวมหมวกตะโกนออกมา บนหมวกเขามีเขาคู่หนึ่ง อันหนึ่งหักไปแล้ว “รีบๆ!”
เรือขนาดใหญ่สีดำทึบร่อนอยู่บนหัวเขา เรือนี้ได้แผ่ออร่าอันแข็งแกร่งออกมา เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง หลัวเฟิง ก็พบว่าเรือลำนี้คือสมบัติแท้จริงชั้นยอด
“ย้อนกลับไปตอนที่ ลุงหินเหนือ อยู่ในกองทัพ เขาได้ประสบความสำเร็จอย่างมาก!” ลมเหนือ พูดด้วยความตื่นเต้น “ดังนั้นเขาจึงได้รับเรือรบนี้มา ด้วยเรือรบนี้เราจะเดินทางได้ปลอดภัยกว่าเดิม ตอนข้าเข้ากองทัพ ข้าจะขอเรือรบที่แข็งแกร่งและใหญ่กว่านี้”
หลัวเฟิง พูดขึ้น “เราควรได้ของที่ดีกว่า ดีกว่านี้มากๆ”
“ใช่ ของที่ดีกว่า” ลมเหนือ พยักหน้า
เทพที่แท้จริงสวมหมวกหักลับไปมอง แค่เพียงโบกมือเขาก็ตบไหล่ ลมเหนือ การตบนี้แรงพอจะทำให้ตัวของ ลมเหนือ สั่นได้ “พูดได้ดี เจ้าต้องทำให้ดีกว่าข้า! ลม! จากชื่อเหนือของตระกูล…เจ้าคือคนที่โดดเด่นที่สุด อย่าทำให้เราต้องอับอาย!”
“ได้ ท่านลุง” ลมเหนือ ตอบกลับทันที
หลัวเฟิง ผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นแบบนั้น น่ากลัวจริงๆ!
แค่เพียงตบจากเทพที่แท้จริงที่โผล่มา!
เขากังวลว่าไหล่เขาจะรับไหวได้หรือเปล่า นี่คือเทพที่แท้จริงซึ่งผ่านการคัดเลือกอันโหดร้ายและยังได้รับรางวัลมาด้วย มันอาจจะเป็นแค่การตบไหล่ธรรมดาสำหรับเทพที่แท้จริงคนนี้ แต่จากที่ หลัวเฟิง เห็นแล้ว มันช่างเป็นแรงที่น่าประทับใจ หลัวเฟิง เดาว่านี่คงไปถึงขั้น 9 ของระดับพลัง
“ไปกันเถอะ!” ลมเหนือ บอกกับ หลัวเฟิง และหลัวเฟิงได้ตาม ลมเหนือ ไปที่เรือรบ นักรบคนอื่นๆ จากเผ่าได้เข้าไปในเรือรบ บางคนเริ่มตะโกนออกมา ปรากฏว่านั่นคือวิธีแสดงความกล้าของตน
ไม่นานจากนั้น…
ภายในเรือรบนั้นดูเรียบง่าย ห้องขนาดใหญ่จุคนได้ 800 คนซึ่งแต่ละคนสูงกว่า 10,000 กิโลเมตร มันอาจจะมีบางคนที่สูงกว่า 100,000 กิโลเมตร แต่ไม่มีใครกล้าทำตัวตามสบาย
“ครั้งนี้จากเผ่าป่าแห้งของข้า มันมีนักรบ 800 คนเข้าร่วมกองทัพตะวันออก!” ลมเหนือ ยืนอยู่ที่ด้านหน้าสุดได้พูดขึ้นมา “ครั้งนี้นอกจากเผ่าเราแล้ว มันยังมีวิญญาณกล้าหาญเข้าร่วมการเดินทางกับเราด้วย…ทางช้างเผือก! จากพลังของเขาแล้ว ในหมู่ 800 คน ไม่มีสักคนที่เทียบได้ ถ้ามันมีใครที่นี่เข้ากองทัพได้และตามเขาทัน ข้าจะยกเรือรบนี้ให้!”
ตอนนั้นนักรบหลายคนได้มองไปที่ หลัวเฟิง และพากันซุบซิบกัน
หลัวเฟิง หมดคำพูด เขากลายเป็นตัววัดมาตรฐานแล้ว เขาอาจจะสู้กับหลายคนมาตลอดหลายวันมานี้ แต่นักรบ 800 คนมาจากเขตต่างกันไป มันมีหลายคนที่ หลัวเฟิง ไม่เคยแม้แต่เดินผ่าน
“เจ้าจะมองอะไรกัน?” ลมเหนือ ที่ยืนข้าง หลัวเฟิง ตะโกนขึ้นมา “แม้แต่ข้าก็ยังเทียบกับเขาไม่ได้! นี่ไม่ต้องนับพวกเจ้าเลย!”
“อะไรนะ?”
“แม้แต่ ลมเหนือ ก็ยังเทียบไม่ได้รึ?”
พวกนักรบพากันมอง หลัวเฟิง ต่างไปจากเดิม หลายคนช็อกและรู้สึกชื่นชม หลัวเฟิง ทั้งโลกแห่งจินนั้นมักจะเคารพผู้ที่แข็งแกร่ง
ลมเหนือ ได้ตะโกนขึ้นมา “พวกเจ้าทุกคน! ข้าไม่กลัวจะบอกพวกเจ้าตอนที่ข้ายังเป็น เจ้าแห่งกฎ ข้าได้เข้าร่วมกองทัพกับคนในเผ่า 800 คน แต่สุดท้ายแล้วจะมีแค่21 คนที่รอดกลับไปได้! และมันมีแค่ 3 คนที่จะกลายเป็นเทพที่แท้จริงได้! ข้าหวังจริงๆ ว่าพวกเจ้าทุกคนจะแข็งแกร่งกว่าคนชุดนั้น”
ความเงียบเข้าปกคลุม
ทุกคนรู้ว่าชีวิตในกองทัพนั้นโหดร้ายแค่ไหนแต่พวกเขาก็มารวมตัวกันเพื่อเรื่องนี้ เมื่อได้ยินที่ ลมเหนือ พูดมา ความกดดันที่พวกเขามีก็มากยิ่งกว่าเดิม
“เทพที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ต้องเป็นเทพที่แท้จริงแต่เราจะกลายเป็นเทพที่แท้จริงของมิติ!” ลมเหนือ ตะโกนขึ้นมา
“เทพที่แท้จริงของมิติ”
“เทพที่แท้จริงของมิติ”
นักรบจากกเผ่าอื่นต่างก็พากันตะโกนขึ้นมากันทีละคนๆ นี่คือความฝันของพวกเขา มันคือความฝันของนักรบทุกคนและทั้งเผ่าป่าแห้งนั้นก็มีเทพที่แท้จริงของมิติเพียงคนเดียว มันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหัวหน้าเผ่า!
ทุกคนต่างก็อยากจะกลายเป็นเทพที่แท้จริงของมิติ
หลัวเฟิง ยืนนิ่งเงียบๆ เขากำหมัดแน่นและฟังที่พวกนี้พูดคุยกันเรื่องเทพที่แท้จริงของมิติ!
ปากของ ลมเหนือ โค้งขึ้นมาเมื่อเห็นความคึกของนักรบในเผ่า จากนั้นเขาก็ตะโกนขึ้นมา “ไปกันได้แล้ว!”
ฮ่ง!
เรือรบได้พุ่งผ่านลำแสงและหายไปจากท้องฟ้าทันที