ตอนที่ 1353 : อาละวาด
“ร่วมมือ?” ยูลั่ว ที่ตัวเขียวพูดขึ้นมาด้วยเสียงเย็นชา ตาของเขากวาดมองไปที่กัปตันและนักรบ 17 คนด้านหลัง “กัปตันที่เคารพ ทำไมข้าถึงจะกล้าร่วมมือกับเจ้าด้วย? หือ? ย้อนกลับไปตอนที่ข้ายังเป็นหน้าใหม่ ตอนที่ข้าถูกส่งไปทำงานทั่วไป ข้าพยายามอย่างมากเพื่อทำให้เจ้าพอใจ คอยติดตามเจ้าตลอดเวลา แล้วข้าได้อะไรกลับมา? เจ้าใช้ข้าเป็นเหยื่อล่อ…ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถในการป้องกันที่แข็งแกร่งของข้า และสมบัติที่ปู่ข้าให้ข้าไว้ก่อนที่จะเข้าร่วมหน่วย ข้าคิดว่าข้าคงตายไปตั้งแต่ภารกิจแรกแล้ว กัปตันอย่างเจ้าน่ะรึ? เจ้าคิดว่าข้าควรร่วมมือกับเจ้ารึ ไม่ล่ะ?”
ยูลั่ว และนักรบทั้งแปดด้านหลังมองมาที่กัปตันด้วยท่าทีเยาะเย้ย
กัปตันตอบกลับเบาๆ “นักรบทุกคนมีความสามารถและสถานะแตกต่างไป ย้อนกลับไปตอนที่เจ้าเป็นหน้าใหม่และไม่ได้รู้อะไรมาก เจ้าจะมาโทษข้าได้ยังไง? ครั้งนี้มันคือภารกิจระดับภัยพิบัติ ทุกครั้งที่เกิดภารกิจระดับนี้ขึ้นมา นักรบหลายคนก็ต้องตาย เจ้าคิดว่าแค่เจ้าเก้าคนจะมีโอกาสทำสำเร็จรึไง?”
“ไม่ต้องกังวล เราไม่ต้องให้เจ้าเป็นห่วงหรอก” ยูลั่ว ส่ายหน้าและหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “เราเก้าคนผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกัน ตั้งแต่ที่เราอยู่ด้วยกันมา เราก็สาบานกันมาแล้ว…เราสบายใจหากต้องฝากชีวิตไว้ในมือเพื่อน สำหรับเจ้าน่ะรึ? ฮึ่ม! เราไม่เชื่อใจพวกเจ้า…นี่ไม่ต้องคิดเรื่องการฝากชีวิตไว้กับเจ้าเลย”
“ฮึ่ม! เจ้าเก็บแรงไว้เถอะ!” สัตว์อสูรด้านหลัง ยูลั่ว ตะโกนขึ้นมา “ถ้าเจ้าให้เราเข้าทีม ตอนวิกฤตเจ้าคงต้องหลอกใช้เราอีกรอบ”
ยูลั่ว มองไปที่ หลัวเฟิง กับ วูฮี จากนั้นก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “เจ้าสองคนหน้าใหม่ ตอนที่เจ้าถูกรับเข้ามาที่นี่ เจ้าถูกส่งมาทำภารกิจระดับภัยพิบัติ มันเพราะโชคของเจ้า แต่จำไว้ว่า….ถ้า คูฟา รับเจ้าเข้าไป เจ้าก็ยังถือว่าไม่เป็นไรแต่กัปตันน่ะรึ? เขาจะหลอกใช้เจ้าและปล่อยให้เจ้าต้องพึ่งตัวเองอย่างแน่นอนและ….กัปตัน เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะไม่โดนเจ้าหลอกใช้ เราจะลงมือก่อน”
เมื่อพูดจบ ยูลั่ว และนักรบ 8 คนก็ได้เดินตรงไปที่รูหนอนใกล้กับห้องโถงปีศาจ นี่คือรูหนอนที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อออกจากแคมป์หน่วย
ซู่!
ทั้งเก้าเข้าไปในรูหนอนและหายตัวไปทันที
กัปตันและนักรบของเขาพากันโกรธขึ้นมา
“คูฟา” กัปตันมองไปที่ คูฟา แล้วถามขึ้นมา “เจ้าล่ะ?”
“ไม่จำเป็น” คูฟา ส่ายหน้าและยิ้มออกมา รอยยิ้มของเธอนั้นงดงาม เธอหันกลับมามอง หลัวเฟิง และ วูฮี ก่อนจะพูดขึ้น “เจ้าสองคนหน้าใหม่ นี่คือภารกิจระดับภัยพิบัติ ข้าไม่อาจจะช่วยเจ้าได้แต่การเดินทางมันไกลจากที่นี่จนถึงบึงเก้าหมอก และมันจะเต็มไปด้วยอันตราย ข้ามียานรบระดับเทพแท้จริง เราเดินทางด้วยกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังบึงเก้าหมอกอย่างปลอดภัย เมื่อไปถึงที่นั่น เราก็จะแยกกัน”
“ได้” วูฮี ตอบกลับทันที
“ได้” หลัวเฟิง เองก็ตอบและพยักหน้า
“ไปกันเถอะ”
เมื่อ คูฟา สั่งการ นักรบทั้งสิบพร้อมกับ หลัวเฟิง และ วูฮี ก็ได้เดินหน้าไปยังรูหนอน จากนั้นทั้งหมดก็เดินเข้าไปในรูหนอน
มีแค่กัปตันและคนของเขาที่อยู่ที่นั่น นักรบคนอื่นๆ ต่างก็มีความคิดแบบเดียวกันในหัว
“กัปตัน?”
“อย่าสนใจ กัปตัน แม้ไม่มีพวกนั้นแต่เราก็ยังทำภารกิจที่หน่วยให้มาเสร็จสิ้นได้”
กัปตันมองไปยังรูหนอนแล้วฮึดฮัดออกมาอย่างเย็นชา “คูฟา กับ ยูลั่ว นานแค่ไหนแล้วตั้งแต่ที่เราร่วมมือกันมา? มีกี่ครั้งที่พวกเขาทำภารกิจระดับภัยพิบัติได้สำเร็จ? พวกเขาคิดว่ามันจะเป็นแบบเดิมรึไง? ครั้งนี้เราพูดถึงบึงเก้าหมอกอยู่ จากที่ข้ารู้มา บึงเก้าหมอกนั้นมีการต่อสู้ครั้งใหญ่กับภูเขาซวนยู่ การรักษาความปลอดภัยแน่นหนาอย่างมาก ถ้าเราต้องการทำให้สำเร็จ เราต้องร่วมมือกัน ช่างเถอะ เมื่อพวกเขามั่นใจ มาลองดูกันตอนกลับจากภารกิจนี้…จะมีสักกี่คนที่เหลืออยู่”
“กัปตัน ท่านคือคนที่รอดมาได้กับภารกิจระดับเกิดใหม่ ยูลั่ว กับ คูฟา จะมาเทียบท่านได้ยังไง?”
“จริง ข้าคิดว่าพวกเขาคงรอดไม่ได้ถึงหนึ่งยุคด้วยซ้ำ”
เหล่านักรบต่างก็เชื่อในกัปตันอย่างมาก
มันคือความจริงที่ว่าความสามารถเขาดีที่สุด เขาอยู่รอดมานานและถึงกับมีสมบัติเครื่องจักร เขาอาจจะเห็นแก่ตัวไปบ้างแต่เมื่อเป็นเรื่องภารกิจอันตราย บางทีน้อยคนนักที่จะตายหากติดตามกัปตันแต่การติดตาม คูฟา และ ยูลั่ว นั้นอาจจะทำให้พวกเขาตายกันทั้งหมดทีมก็ได้
กัปตันได้สั่งการออกมา “ไปกันเถอะ!”
“ได้!” ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกัน
ฮ่ง!
กลุ่มนักรบพากันหายไปในพริบตา!
****
จากรูหนอน กลุ่มคนที่เดินทางออกมาจากแคมป์ หน่วย เดินทางมาถึงพื้นที่ขนาดใหญ่เหนือภูเขาและป่า คูฟา สะบัดมือและปล่อยยานรบสีดำ ซึ่งเป็นวังสมบัติแท้จริงขั้นสูงสุดออกมา จากนั้นทุกคนรวมไปถึง คูฟา ก็ได้เข้าไปในยานรบ หลัวเฟิง และ วูฮี เองก็เข้าไปโดยไม่ลังเล
“การเดินทางจากที่นี่ไปถึงบึงเก้าหมอก” คูฟา พูดออกมาเสียงไพเราะฟังดังชัดเจน “ด้วยความเร็วสูงสุดเราต้องใช้เวลา 12 วัน ทุกคนจงอดทนและเตรียมตัวระหว่างเดินทาง”
หลัวเฟิง ยืนในห้องแต่ไม่ได้กังวลใดๆ ถ้าเขาอยู่ในทะเลจักรวาล มันคงไม่ง่ายที่จะเข้ามาในวังของคนอื่น นี่เพราะถ้าอีกคนยอมให้เขาเข้าไป ในตอนที่อีกฝ่ายมีความคิดแย่ๆ เขาอาจจะดึงวังกลับเข้าไปในจักรวาลย่อยและฆ่าเจ้าของวัง!
แต่ในโลกแห่งจินนั้นไม่ต้องกังวลแบบนั้น
ในโลกแห่งจินไม่ว่าจะเป็นผู้อมตะ, อัศวินกฎ, เจ้าแห่งกฎ หรือผู้แข็งแกร่งกว่านั้นอย่างเทพแท้จริงและเทพแท้จริงมิติ ดินแดนเทพและจักรวาลย่อยต่างก็อยู่ในมิติหลักของโลกแห่งจิน
ในมิติหลักของโลกแห่งจิน มันเป็นมิติที่กว้างขวางที่ถือว่าเป็นมิติต้นกำเนิดของโลกแห่งจิน ดินแดนเทพและจักรวาลย่อยจำนวนมากอยู่ในมิตินี้ แต่คนในโลกแห่งจินไม่อาจจะเข้าไปในมิติต้นกำเนิดได้ ดังนั้นแน่นอนว่าไม่มีทางที่พวกเขาจะเข้าไปในดินแดนเทพหรือจักรวาลย่อยของตัวเองได้ มันไม่มีทางที่พวกเขาจะใช้จักรวาลย่อยของตัวเองในการฆ่าศัตรู!
ไม่ใช่แค่นั้น แต่โลกแห่งจินก็ต่างจากทะเลจักรวาลในหลายๆ ด้าน ยกตัวอย่างเช่นในโลกแห่งจินมันไม่มีเลยสักคนที่มีอีกร่างอื่น!
นักสู้อมตะ, อัศวินกฎและ เจ้าแห่งกฎ นั้นมีร่างอมตะเพียงแค่ร่างเดียว!
ความสามารถในการแบ่งร่างแต่เดิมถูกมอบให้กับสิ่งมีชิตโดยจักรวาลหลัก เพราะสิ่งมีชีวิตในโลกแห่งจินไม่ได้รับพรแบบนั้นจากจักรวาลหลัก ชัดแล้วว่าไม่มีสักคนที่มีร่างที่สอง
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมในยานรบนี้ แม้ว่า คูฟา จะกลายเป็นศัตรูแต่มากสุดที่เธอทำได้คือขังทุกคนไว้ด้านใน การฆ่าใครนั้นเกินความสามารถของเธอและเมื่อถึงเวลาภารกิจต่อไป หน่วยก็จะตามหานักรบที่ยังไม่กลับมา เมื่อตรวจสอบแล้ว เหล่านักรบที่ตายก็จะถูกพบตัว สำหรับนักรบที่โดนจับตัว แม้แต่ คูฟา ก็ต้องได้รับโทษตามกฎของหน่วย
****
ตอนที่ หลัวเฟิง, วูฮี, คูฟา และนักรบคนอื่นๆ ออกจากหน่วยมุ่งหน้าไปยังบึงเก้าหมอก…
ในแคมป์ หน่วยตะวันออกที่หน่วยอาวุธด้านนอกห้องโถงหลัก
“นี่คือหน่วยอาวุธรึ?” สัตว์อสูรเปลือกทองเงยหน้าขึ้นมองห้องโถงขนาดใหญ่
สัตว์อสูรอีกตัวยืนอยู่ข้างๆ ด้วยร่างกายที่เหมือนกับงูส่งข้อความกลับมา “ปีศาจคลั่ง เจ้าได้เกราะสมบัติแท้จริงมาแล้ว ทำไมเจ้าถึงยังมาที่หน่วยอาวุธอีก?”
สัตว์อสูรเปลือกทองนี้คือ เทพปีศาจคลั่ง
ย้อนกลับไปตอนที่เขาตกมาในโลกแห่งจินอย่างน่าอนาถ เขาโชคร้ายไปเจอกับสัตว์อสูรระดับเทพแท้จริงเข้า เขาได้สู้กันมันอยู่สักพักและเชี่ยวชาญภาษาโบราณ แต่เขาก็ต้องเจอกับโชคร้ายหลังจากนั้นอีก…กลุ่มสัตว์อสูรระดับเทพแท้จริง โชคดีที่เขาเก่งเรื่องการป้องกัน ดังนั้นเขาจึงหนีมาได้อย่างปลอดภัย ตั้งแต่นั้นมาเขาก็เดินทางท่องไปมา
เทพแท้จริงในโลกแห่งจินถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่และเทพแท้จริงมิติคือผู้ปกครองซึ่งจะอยู่ในอาณาเขตตัวเองไม่ท่องไปที่อื่น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม เทพปีศาจคลั่ง ที่มีประสบการณ์มากมายจากการเดินทางถึงสร้างความสัมพันธ์กับสัตว์อสูรตอนที่ท่องไปในโลกแห่งจิน และรู้สถานการณ์ภายในมากขึ้น เขาเข้าใจอย่างรวดเร็วถึงการสืบทอดและสมบัติของโลกแห่งจินนับไม่ถ้วนว่าอยู่ในหน่วย!
ดังนั้นเขาจึงมาเข้าร่วมหน่วย!
จากการที่ เจ้าแห่งกฎ ทั่วไปสามารถเข้าหน่วยได้ มันก็แค่ข้อกำหนดพื้นฐานที่จะเข้าหน่วย บางคนบ่มเพาะได้อย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเทพแท้จริงก่อนจะถูกรับเข้าหน่วย แน่นอนว่าหน่วยจะต้อนรับเขาอย่างเต็มใจ!
ด้วยการที่มีเทพแท้จริงเข้าร่วมหน่วย โอกาสที่จะโดนกำจัดในระหว่างการคัดเลือกก็ต่ำอย่างมาก สำหรับเทพแท้จริงทุกๆ 10 คน มีแค่ 3 คนที่โดนกำจัด เทพปีศาจคลั่ง แข็งแกร่งในด้านการป้องกัน ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เขาจะผ่านการคัดเลือกมาได้ เขาถึงกับได้รับเกราะมาด้วย
“ทำไมเจ้าถึงได้น่ารำคาญแบบนี้!” เทพปีศาจคลั่ง พูดขึ้นมา “รอข้าก่อน ข้าจะเข้าไปสักพัก”
เทพปีศาจคลั่ง พุ่งเข้าไปทันที
ภายในห้องโถงที่หน่วยอาวุธ
หึ่ง!
เวลาและมิติดูเหมือนจะเปลี่ยนไปตอนที่เขาเข้าไปและเขาก็รู้สึกว่าได้เข้าไปในอีกโลก
“ความรู้สึกนี้คล้ายกับการเข้าไปในจักรวาลเสมือนของมนุษย์” เทพปีศาจคลั่งพึมพำกับตัวเองแล้วมองไปรอบตัว มันดูเจริญอย่างมาก มันมีนักรบมากมายและทุกคนก็มีร่างสีทอง ตอนนั้นมีร่างสีทองร่างหนึ่งบินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้า เทพปีศาจคลั่ง
“แต่นี่มันดูวิเศษกว่าจักรวาลเสมือนของมนุษย์” เทพปีศาจคลั่ง บอกกับตัวเอง “จักรวาลเสมือนนั้นเกี่ยวข้องกับแค่ความคิดแต่นี่ทั้งร่างสามารถเข้ามาได้”
“เทพแท้จริง” ร่างสีทองร่อนลงมา “บอกความต้องการของเจ้ามา”
“ข้าต้องการแลกคะแนนด้วยสมบัตินี่ จากนั้นข้าก็ต้องการแลกเอาสมบัติอื่น”
เทพปีศาจคลั่ง กังวลนิดๆ เมื่อถือเกราะปีศาจทะเลเลือด นี่คือสมบัติแท้จริงขั้นสูงสุดที่ทำให้เขาท่องไปในทะเลจักรวาลได้ และมันก็มีพลังจิตที่แข็งแกร่งซึ่งมีผลกับเขาอย่างมาก แต่ตอนนี้เขามีเกราะธรรมดาและมันไม่ได้มีพลังต่างกันมากนัก เกราะธรรมดารับมือการโจมตีระดับ 7 ได้ เกราะปีศาจทะเลเลือดรับมือการโจมตีต่ำกว่าระดับ 8 ได้ สำหรับข้อเสียของมัน เกราะปีศาจทะเลเลือดนั้นมีข้อจำกัดมากกว่า แต่สำหรับ เทพปีศาจคลั่ง แล้วแม้ว่าข้อจำกัดของเกราะธรมดาแต่อย่างน้อยๆ ก็รับมือการโจมตีของเทพแท้จริงมิติได้ มันไม่จำเป็นที่ต้องใช้เกราะแบบนี้ในทะเลจักรวาล สำหรับว่าจะรับมือการโจมตีระดับ 7 หรือ 8ได้หรือไม่นั้น เทพแท้จริงจะปล่อยการโจมตีต่ำกว่าระดับ 8 ออกมารึไง?
หึ่ง!
ตาทั้งสองของร่างสีทองได้ยิงลำแสงสีทองออกมาตรวจสอบเกราะปีศาจทะเลเลือด “นี่คือเกราะระดับเทพแท้จริงมิติ มันมีค่า 300,000 คะแนน! เจ้าจะแลกมันกับคะแนนรึ?”
ตอนที่ เทพปีศาจคลั่ง ได้ยินว่าเกราะระดับเทพแท้จริงมิติ ตาเขาก็เบิกกว้าง เขายืนนิ่งไปทันที
“เจ้าจะแลกมันกับคะแนนรึ?” ร่างสีทองถามอีกครั้ง
“แลก แลก แลก” เทพปีศาจคลั่ง พูดซ้ำๆ เขากำลังดีใจ นี่เป็นผลประโยชน์ครั้งใหญ่ครั้งใหญ่!
ซู่!
ร่างสีทองเอื้อมมือไปรับเกราะมา จากนั้นเขาก็พูดขึ้น “เจ้าต้องการแลกสมบัติ นี่คือรายชื่อ เจ้าเลือกสิ่งที่เจ้าต้องการได้”
หน้าจอขนาดใหญ่ลอยอยู่ตรงหน้า เทพปีศาจคลั่ง มันมีรายชื่อปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ และใต้รายชื่อก็มีสมบัติอยู่มากมาย
***
สักพัก เทพปีศาจคลั่ง ก็ออกมาจากหน่วยอาวุธ เพื่อนเขาได้เดินเข้ามาทักทายเขา
“ข้าฆ่าเวลารอ เมื่อกี้ข้าได้แลกวังสมบัติแท้จริงขั้นสูงสุด และถึงกับได้ชุดสมบัติแท้จริงขั้นสูงสุดประเภทโจมตี ตอนนี้ข้าได้ชุดโจมตี, ป้องกันรวมถึงความสามารถทุกแบบแล้ว เมื่อกลับไปยังทะเลจักรวาล ข้าก็สามารถท่องไปที่ไหนก็ได้ตามใจต้องการ”
เทพปีศาจคลั่ง พอใจอย่างมาก
“ส่วนเดียวที่น่าเสียดายคือ” เขาพูดต่อ “ข้าไม่ได้อยู่หน่วยพิเศษ ถ้าอยู่ ข้าคงแลกสมบัติเครื่องจักรมาได้”