Skip to content

Swallowed Star 1354

ตอนที่ 1354 : ตามข้ามา

“ช่องว่างระหว่างหน่วยทั่วไปกับหน่วยพิเศษนั้นมาก” เทพปีศาจคลั่ง นึกถึงรายชื่อสมบัติและคะแนนที่ต้องใช้ “อาวุธพิเศษหลายชิ้น, สมบัติพิเศษและการสืบทอดที่แข็งแกร่งนั้นไม่อาจจะแลกเปลี่ยนได้ในหน่วยทั่วไปแม้ว่าจะมีคะแนนเพียงพอก็ตาม! แม้ว่าบางอันจะแลกเปลี่ยนได้แต่มันก็มีราคามากกว่าหน่วยพิเศษ ข้าแค่ระดับทั่วไป แม้ว่าจะอยู่ในหน่วยทั่วไปก็ตาม สำหรับหน่วยพิเศษน่ะรึ?”

เทพปีศาจคลั่ง ส่ายหน้า เขาไม่ได้คิดจะไปฆ่าตัวตาย

ช่างมันเถอะ เทพปีศาจคลั่ง คิด ข้าแค่มาอยู่ในโลกแห่งจินเพื่อโอกาส ข้าจะกลับไปที่ทะเลจักรวาลในอนาคต ยังไงซะถ้าข้าไม่อาจจะเกิดใหม่เหนือกว่าได้ใน 3 ยุค ข้าก็จะตาย ฮึ่ม…สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจชุดสมบัติแท้จริงขั้นสูงสุดประเภทโจมตีนี้ และพัฒนาพลังของข้า! เมื่อข้าเข้าใจมันแล้ว ข้าก็จะเป็นตัวตนชั้นสูงในหน่วยทั่วไปได้”

เขาได้แลกเอาวังสมบัติแท้จริงขั้นสูงสุดและชุดสมบัติแท้จริงประเภทโจมตี ชุดสมบัติแท้จริงนี้แพงที่สุด พวกมันยังมีเทคนิคที่เหลือเชื่ออยู่ด้วย เมื่อเขาเข้าใจมันทั้งหมดแล้ว มันจะช่วยให้เขาทะลวงผ่านและสักวันอาจจะขึ้นถึงระดับเทพแท้จริงจำกัดได้

“ถูกต้อง ข้าต้องหาคะแนนให้ได้มากที่สุด ข้าจะเอาสมบัติแท้จริงขั้นสูงสุดมาให้มากกว่านี้เพื่อเอามันกลับไปที่ทะเลจักรวาลและแลกมันกับคนอื่นๆ” ตาของ เทพปีศาจคลั่ง เป็นประกายขึ้นมา “สมบัติแท้จริงงชั้นยอดในทะเลจักรวาลนั้นมีระดับต่างกันไป บางอันอยู่ที่ระดับเทพแท้จริง ส่วนบางอันอยู่ที่ระดับเทพแท้จริงมิติ จากนั้นข้าจะเอามันกลับเข้ามาในโลกแห่งจิน ฮ่า ฮ่า…แต่ข้าต้องรีบ ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร มันก็ยิ่งมีคนรู้ความลับนี้มากเท่านั้น กลับไปที่แคมป์ กันดีกว่า”

เทพปีศาจคลั่ง เดินออกมาจากหน่วยอาวุธพร้อมสัตว์อสูรอีกคน

****

บึงเก้าหมอกนั้นเป็นบึงขนาดใหญ่ มันมีสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่ที่นั่น ดังนั้นมันจึงกลายเป็นแหล่งขุมกำลังของสัตว์อสูร

ฮู่!

ที่ส่วนริมของบึงเก้าหมอกมียานลำหนึ่งได้ปรากฎขึ้นมา มันซ่อนตัวอยู่ในหญ้าที่โตรอบบึง

ประตูได้เปิดออกและมีคนบินออกมาก่อนที่ยานนั้นจะหายไป

“เรามาถึงบึงเก้าหมอกแล้ว” คูฟา พูดเสียงดังฟังชัด เธอมองไปรอบๆ นักรบทุกคนต่างก็ระวังตัว

“ทางช้างเผือก กับ วูฮี เราจะแยกกันที่นี่ ขอให้โชคดี” คูฟา กับนักรบของเธอมองไปที่ หลัวเฟิง และ วูฮี นักรบจำนวนมากต่างก็อวยพรให้ทั้งสองโชคดี

“ขอบคุณ” หลัวเฟิง และ วูฮี ตอบกลับ

หลัวเฟิง กับ วูฮี คิดว่านี่คือการดูแลที่ดีที่สุดของพวกเธอแล้ว แต่มันเป็นธรรมดาที่พวกนี้จะไม่พาทั้งสองไปด้วยสำหรับงานระดับภัยพิบัติ

“ไปกันเถอะ”

หลัวเฟิง และ วูฮี บินออกไปเป็นลำแสงเข้าไปในกอหญ้า คูฟา และนักรบคนอื่นๆ ต่างก็มองทั้งสองบินออกไป

“สองคนหน้าใหม่จากไปแล้ว มันได้เวลาที่เราจะลงมือแล้ว” คูฟา มองไปรอบๆ

****

มีเสียงคำรามดังขึ้นมาจากทั่วทุกที่ในก้อนเมฆ หลัวเฟิง และ วูฮี ซ่อนตัวอยู่ในกอหญ้าที่ริมบึงเก้าหมอก

“ตอนที่ข้าอยู่ในทะเลเหนือที่แท้จริง ข้าได้ท่องไปทั่วและไม่มีใครกล้ามารบกวนข้า!” วูฮี พูดขึ้นมา “แต่ข้าต้องระวังในบึงเก้าหมอกแห่งนี้”

“ดี” หลัวเฟิง พูดขึ้นมา “อย่างน้อยเราต้องรอดไปให้ได้ ถ้าเราไม่รอด แม้แต่พ่อเจ้าก็ยังช่วยเจ้าไม่ได้”

วูฮี พยักหน้าแล้วถามขึ้นมา “เราควรทำยังไงกันดี ทางช้างเผือก? คะแนน 10,000 คะแนน…มันมีสัตว์อสูรมากมายในบึงเก้าหมอก แน่นอนว่าเราต้องถูกพบตัวและต้องสู้ ด้วยพลังของเราแล้ว เราฆ่าสัตว์อสูรระดับเทพแท้จริงไม่ได้เลยแม้แต่ตัวเดียว…นี่ไม่ต้องนับถึงสองตัวเลย!”

หลัวเฟิง คิ้วขมวด ฆ่าเทพแท้จริง?

ถ้าเขาใช้พลังออกมาอย่างเต็มที่ เขาก็สามารถฆ่าเทพแท้จริงได้ แต่มันก็ต้องใช้เวลานาน ในสภาพแวดล้อมอย่างบึงเก้าหมอก มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำการโจมตีเทพแท้จริงได้นานแบบนั้น

“เจ้ามีความคิดอะไรรึไม่ ทางช้างเผือก?” วูฮี ถามด้วยท่าทีกังวล

“เจ้ากังวลอะไรกัน?” หลัวเฟิง ตะโกนถาม “เวลาที่จำกัดคือภารกิจครั้งต่อไปซึ่งเกือบเท่ากับ 1 ยุค! มันเป็นเวลาที่ยาวนานอย่างมาก ดังนั้นเราควรใช้เวลาเพื่อมองหาโอกาส”

วูฮี โล่งอกขึ้นมา “ก็จริง มันเป็นเวลาที่นานแต่ข้ายังไม่มีความคิดดีๆ เลย”

“วูฮี” หลัวเฟิง มองไปที่ วูฮี “ถ้าเจ้าทำตามที่ข้าบอก เราจะร่วมมือกัน ถ้าเจ้าไม่ทำตามที่ข้าบอก เราจะแยกกัน”

“หือ?” วูฮี ตาเป็นประกายขึ้นมา “เจ้ามีความคิดอะไร ทางช้างเผือก? ตราบใดที่เจ้ามีความคิดดีๆ ข้าก็จะทำตามที่เจ้าบอกให้ข้าหากไม่นับการฆ่าตัวตาย”

“เราต้องระดมความคิด” หลัวเฟิง พูด “เราต้องเรียนรู้เรื่องเขตนอก เราต้องหาโอกาสในการทำความเข้าใจสถานการณ์ มันคงโง่หากเราวางแผนโดยไม่ทำความเข้าใจที่นี่ก่อน”

วูฮี พยักหน้า

“ไปกันเถอะ!” หลัวเฟิง ตะโกนบอก

****

หลัวเฟิง พา วูฮี เริ่มตรวจสอบเขตนอกของบึงเก้าหมอก เขาต้องเก็บเอาทุกอย่างมาคิด

ครึ่งปีผ่านไป

ลมได้พัดกดหญ้าลงไป สิ่งมีชีวิตสองคนในหญ้านั้นดูราวกับมด คนหลายสิบคนติดอยู่ในการต่อสู้ไกลออกไป

“พวกบัดซบจากภูเขาซวนหยู พวกเจ้ากล้าดียังไงถึงได้กลับมาที่นี่อีก!” สัตว์อสูรที่ตัวเต็มไปด้วยเกล็ดคำรามออกมา มันมีกรงเล็บ 4 อัน, คอยาวและหัวเป็นสามเหลี่ยม “เจ้าแพ้ไปแล้วในครั้งที่แล้ว! ไป! ฆ่าพวกบัดซบจากภูเขาซวนหยู!”

มันมีสัตว์อสูรที่ดูคล้ายกับเขาอยู่อีก 12 คน

“กรร!”

“บัดซบ!”

“พวกบัดซบจากภูเขาซวนหยู!”

“ฆ่าพวกมันให้หมด!”

สัตว์อสูรคำรามออกมาและเข้าสู้กับนักรบตัวสูง นักรบพวกนี้อยู่ในร่างมนุษย์พากันตะโกนกันอย่างบ้าคลั่ง

“ครั้งที่แล้วเราพ่ายแพ้ให้กับเจ้า! พี่น้อง! ฆ่าพวกสัตว์อสูร!”

“ฆ่า!”

นักรบเผ่าต่างก็คำรามและพุ่งเข้าหาสัตว์อสูรก่อนจะสู้กันอย่างดุเดือด เวลาและมิติรอบๆ นั้นสั่นเครือและการต่อสู้ก็โหดร้ายทารุณ มันมีนักรบเผ่ามากกว่าแต่สัตว์อสูรนั้นมีขนาดร่างกายที่ใหญ่กว่า

“ทางช้างเผือก พวกนั้นกำลังสู้กันเอง” วูฮี มองดูการต่อสู้และส่งข้อความเสียง “นอกจากนี้แล้วพวกนี้ยังไม่มีเกราะระดับเทพแท้จริงในการป้องกันตัวและพวกนี้ก็สู้กันเอง ร่างเทพของพวกนั้นถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว บางคนอาจจะตายในเวลาอันสั้น เรารอและแย่งเอาวุธที่เหลือเพื่อเอาไปแลกกับคะแนนได้”

ร่างขอเทพแท้จริงคือข้อพิสูจน์ว่าทำการฆ่าได้สำเร็จ ส่วนการปล้นอาวุธนั้นคือข้อพิสูจน์ว่าฆ่า เจ้าแห่งกฎ ได้สำเร็จ นอกจากนี้หน่วยจะยืนยันกับบึงเก้าหมอกในภายหลัง ตราบใดที่มีอาวุธและสัตว์อสูรนั้นตายไป มันก็จะได้รับคะแนนกลับมา

“ไม่จำเป็นต้องรีบ!” หลัวเฟิง ส่งข้อความเสียงกลับมา

วูฮี กังวล “เราตรวจสอบเขตนอกของบึงเก้าหมอกมานานแล้วแต่เรายังไม่ได้คะแนนใดๆ เลย”

“ทำไมเจ้าถึงกังวลนัก?” หลัวเฟิง พูดขึ้น “เราพบการต่อสู้สามครั้งระหว่างตรวจสอบเขตนอก พื้นที่มีขนาดใหญ่โตและสิ่งที่เราตรวจสอบก็เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง แต่ก็ยังพบการต่อสู้ถึงสามแห่ง มันจะมีการต่อสู้กี่แห่งกันในเขตนอก?”

วูฮี สับสน “หมื่นรึ? ทางช้างเผือก!”

วูฮี มองไปที่ หลัวเฟิง ด้วยท่าทีแปลกใจและเข้าใจความหมายของ หลัวเฟิง

“เจ้าคงเห็นว่าสัตว์อสูรในบึงเก้าหมอกรู้สึกได้ถึงคลื่นสั่นไหวในการต่อสู้เหล่านี้แต่พวกนั้นก็ไม่ได้มาเกี่ยวข้องด้วย”- หลัวเฟิง พูดขึ้น “ข้าไม่ได้ยินว่ามีอะไรพิเศษกับการต่อสู้สองครั้งก่อนหน้านี้แต่ข้าได้ยินถึงภูเขาซวนหยูในครั้งนี้ ขุมกำลังของภูเขาซวนหยูคืออะไร?”

“ภูเขาซวนหยู?” วูฮี พูดขึ้น “ภูเขาซวนหยูคือขุมกำลังที่อยู่ใกล้กับบึงเก้าหมอกและมันก็ถือว่าแข็งแกร่ง บึงเก้าหมอกคือขุมกำลังสัตว์อสูรที่นำโดยเทพแท้จริงมิติสามคน ส่วนภูเขาซวนหยูคือเผ่าพันธมิตรที่นำโดยเทพแท้จริงมิติ 4 คน ทั้งสองฝั่งต่างก็แข็งแกร่ง ดังนั้นมันยากที่จะเกิดการต่อสู้ขึ้นมา ถ้ามันมีการต่อสู้ก็มักจะรุนแรงอยู่เสมอ”

หลัวเฟิง พยักหน้าพร้อมกับความคิดต่างๆ ที่ไหลเข้ามาในหัว

“ตอนที่ทั้งสองไม่ได้สู้กัน มันจะมีนักรบและสัตว์อสูรสู้กันเองรึเปล่า?” หลัวเฟิง ถาม

“ไม่” วูฮี ตอบ “ตอนที่พวกเขาไม่ได้ทำสงคราม พวกเขาจะควบคุมนักรบของตัวเองเพื่อไม่ให้ต่อสู้”

หลัวเฟิง ยิ้ม “แต่เราเห็นการต่อสู้มาสามครั้งซึ่งหมายความว่าภูเขาซวนหยูกับบึงเก้าหมอกกำลังอยู่ในช่วงสงคราม! มันอาจจะมีการหยุดพักซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเจ้าแห่งกฎ ถึงได้สู้กัน…”

“เจ้าหมายความว่าอะไร…?” วูฮี พูดขึ้นมา

“เมื่อทั้งสองฝ่ายสู้กัน” หลัวเฟิง พูดขึ้น “งั้นก็ให้เทพแท้จริงของทั้งสองฝ่ายสู้กัน จากนั้นเราค่อยเก็บร่างของพวกนั้น”

“การต่อสู้ระหว่างเทพแท้จริงงั้นรึ?” วูฮี ส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้”

“มันเป็นไปได้ แต่ก็จริงที่เกือบว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะดึงเอาเทพแท้จริงกลุ่มใหญ่มาสู้กัน แต่มันเป็นไปได้ที่จะดึงเอาเทพแท้จริงฝ่ายละหนึ่งคนมาสู้กัน”

หลัวเฟิง ตาเป็นประกาย เขามีแผนอยู่ในหัวอยู่แล้ว

“ตามข้ามา” หลัวเฟิง พูดขึ้น

หลัวเฟิง และ วูฮี ได้หายไปจากกอหญ้าทันที

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!