ตอนที่ 1358 : นักรบใหม่ ทางช้างเผือก
หลัวเฟิง เปลี่ยนขนาดเป็นเท่ากับเศษฝุ่น เขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงผ่านไม้ม่วง จากการที่เขาย่อขนาดลงไป ความเร็วของเขาทำให้เกิดคลื่นและพวกมันก็ถูกพบผ่านการรับรู้พลังอมตะ
ฮ่ง!
เทพแท้จริงกว่าหมื่นคนกำลังสู้กันอยู่และคลื่นนี้ก็แค่ระลอก มีแค่พวกที่อยู่ใกล้กับหลัวเฟิง ที่พบคลื่นนี้ คนอื่นไม่เห็นมันเลยแม้แต่น้อย
“มันอยู่นั่น”
หลัวเฟิง พุ่งเข้าหาศพ ศพของสัตว์อสูรนอนอยู่ในบึงและกว่าครึ่งจมอยู่ในน้ำ ตอนที่หลัวเฟิงเข้าไปใกล้ มันมีเทพแท้จริงสามคนสู้กันอยู่ใกล้ๆ สัตว์อสูรเทพแท้จริงสองคนกำลังล้อมเทพแท้จริงเผ่าคนหนึ่งเอาไว้อยู่
“หือ?”
ทั้งสามมองไปที่ระลอกคลื่นเล็กๆ และรู้ทันทีว่ามีอะไรกำลังเข้ามา ทุกคนต่างก็เห็นร่างขนาดเล็กของ หลัวเฟิง
“เจ้าแห่งกฎ!”
“เจ้าแห่งกฎ ขโมยร่างคนของบึงเก้าหมอก พวกที่ขโมยร่างต้องได้รับงานจากหน่วยมาแน่ งานนี้ยากจริงแต่การขโมยร่างของคนจากบึงเก้าหมอกนั้นต้องโดนลงโทษถึงตาย!”
เทพแท้จริงทั้งสามต่างก็พากันหยุดสู้ พวกเขาได้สู้กันมานานแล้ว แต่การต่อสู้นี้ไม่ใช่แค่เพื่อผลประโยชน์แต่ยังเป็นการฝึกฝน เจ้าแห่งกฎ ด้วย เจ้าแห่งกฎ ที่อ่อนแอจะใช้พลังของตัวเองออกมาทั้งหมด สำหรับเทพแท้จริงและเทพแท้จริงมิติ พวกเขายั้งพลังของตัวเองไว้ในการต่อสู้ เทพแท้จริงที่อ่อนแอตายได้ตลอดเวลา แต่สำหรับพวกที่ได้รับการฝึกในหน่วย มันยากที่พวกเขาจะตาย ทุกคนต่างก็เห็นพ้องต้องกัน แต่ศพของเทพแท้จริงที่ถูกขโมยเป็นถ้วยรางวัลนี้เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ในหมู่เทพแท้จริง
ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง!
ทั้งสามได้เปลี่ยนเป็นลำแสงบินเข้าหา หลัวเฟิง และพยายามขวางทางเขาไว้
ฮัวะ!
ทั้งสามราวกับสายรุ้งที่พุ่งเข้าหาจุดแสง
“ข้าถูกพบตัวแล้ว!” หลัวเฟิง มองไปยังลำแสงทั้งสาม “มีเทพแท้จริงแค่เพียง 3 คน ไม่มีอะไรต้องกังวล”
เพล้ง!
ทั้งสามเข้ามาอย่างรวดเร็ว พวกเขาคิดว่าไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอีกต่อไป
ฮ่ง!
ร่างเทพของ หลัวเฟิง ขยายขนาดสูงกว่า 100,000 กิโลเมตร
****
กัปตันและคนของเขามองดูการต่อสู้ของเทพแท้จริงใกล้ๆ กับส่วนนอกสนามรบ หลายคนสนใจศพในบึง
“มีคนจะชิงศพ!” นักรบคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยการส่งข้อความเสียง
กัปตันและคนอื่นๆ มองตาม
“เขาอยู่นั่น” กัปตันหัวเราะ “เห็นรึไม่? เขาระวังในการชิงศพแต่ก็ยังโดนเทพแท้จริงสามคนไล่ล่า ทำไมกัน? เพราะข้าได้ชิงศพมาแล้วก่อนหน้านี้ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงระวังตัวกันมากกว่าเดิม! ถ้าเจ้าไป เจ้าก็จะโดนเทพแท้จริงสามคนล้อมเอาไว้ และหากเจ้าหนีออกมาไม่ได้เร็วพอ มันอาจจะมีเทพแท้จริง 5 หรือ 7 หรือ 10 คนล้อมเจ้าก็ได้”
นักรบต่างก็รู้สึกกลัวขึ้นมา
“มาดูกันว่าชายหยิ่งทะนงคนนี้เป็นใครกัน คูฟา หรือ ยูลั่ว?” กัปตันรู้สึกผ่อนคลาย
“มันต้องเป็น ไอ้โง่ ยูลั่ว แน่” นักรบคนหนึ่งพูดขึ้น
ฮ่ง!
ร่างเทพของ หลัวเฟิง อยู่ๆ ก็ขยายขนาดขึ้นมา
“นั่น…นั่น…” ทุกคนต่างก็มองไปที่ใบหน้าของ หลัวเฟิง ด้วยความสับสน
“มันคือนักรบใหม่!”
“มันคือ ทางช้างเผือก!”
“มันคือหน้าใหม่ ทางช้างเผือก! เขา…เขากล้าชิงศพแบบกัปตันด้วยรึ?” ทุกคนต่างก็ตะลึง
“เขาตายแน่” กัปตันพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
กัปตันรู้ดีว่าสถานการณ์ที่ หลัวเฟิง เจอน่ากลัวแค่ไหน แม้แต่ตัวกัปตันเองก็ต้องใช้สมบัติเครื่องจักร ไม่งั้นแล้วเขาคงหนีมาไม่ได้
“เขาตายแน่”
“มาดูกันว่าเขาจะตายยังไง”
เหล่านักรบต่างก็จับตาดู นักรบคนนี้คือคนแปลกหน้าสำหรับพวกเขา
ร่างอมตะของ หลัวเฟิง บวมเป่งขึ้นมา มือข้างหนึ่งจับดาบ มืออีกข้างเองก็จับดาบด้วย เขารับมือกับลำแสงทั้งสาม จากนั้นก็พุ่งเข้าหาศพด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม
“ยืมแรงได้ดี”
“เขายืมแรงจากการโจมตีของเทพแท้จริง ไม่แปลกใจเลยว่าเขาอยู่ในหน่วยงูหลามแม่น้ำ” พวกนักรบต่างก็พยักหน้าและชม การยืมแรงนี้อาจดูเหมือนง่าย แต่พวกเขาต้องได้รับการฝึกฝนอย่างดีจนกว่าจะชำนาญ
กัปตันพยักหน้า “ไอ้หน้าใหม่นี้ทำได้ดี โชคร้ายที่เขาได้รับภารกิจระดับภัยพิบัติ เทพแท้จริงสามคนไล่ตามเขาและจากความเร็วแล้วไอ้หน้าใหม่คงไปไม่ถึงศพ”
พวกเขาจับตาดูต่อ หลัวเฟิง ได้พุ่งไปหาศพโดยมีเทพแท้จริงสามคนไล่ตามมา
“เขาตายแน่”
“น่าสงสารจริงๆ”
ทุกคนต่างก็พากันถอนหายใจ
“มัน…” ตอนที่กัปตันกำลังจะเปิดปากพูด เขาก็ต้องช็อกจนไม่อาจจะพูดต่อได้ มันราวกับว่ามีคนทำให้เขาสำลัก
ทุกคนในทีมต่างก็มองออกไปด้วยความแปลกใจ มันคือสิ่งที่เกินกว่าที่พวกเขาคาดเอาไว้
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
หลัวเฟิง จับดาบและสะบัดมันราวกับเงา ร่างของเขาเคลื่อนไหวไปตามดาบและทั้งร่างก็ได้เปลี่ยนเป็นเงา ภายใต้การร่วมมือกันของเทพแท้จริงทั้งสาม ดาบเงานี้ดูพร่ามัว พวกมันชนกันเองหลายครั้ง และเขาก็หลุดออกจากวงล้อมของเทพแท้จริงทั้งสาม
นักรบทั้ง 18 คนรวมถึงกัปตันมองดูฉากนี้ด้วยความตะลึง มันเหลือเชื่อ แค่เพียง เจ้าแห่งกฎ กลับฝ่าวงล้อมเทพแท้จริงทั้งสามออกมาได้!
แม้แต่กัปตันที่ผ่านภารกิจระดับเกิดใหม่มานับไม่ถ้วนก็รู้ว่าเขาสลัดเทพแท้จริงทั้งสามไม่ได้ง่ายๆ มันคือเทคนิคการหลบหลีกที่น่ากลัว
“เจ้าสองคน บอกชื่อกับจุดเด่นของเจ้ามา”
‘ข้า วูฮี ข้าเก่งเรื่อง…เรื่อง….โอ้ ข้ามีร่างเทพใหญ่พอซึ่งสูงกว่า 1 ล้านกิโลเมตร!’
‘ข้า ทางช้างเผือก ข้าแข็งแกร่งกว่า วูฮี ข้าเก่งการต่อสู้ระยะใกล้’
กัปตันนึกถึงบทสนทนาที่เขาได้คุยกับ หลัวเฟิง
“เก่งรึ? แค่เก่งรึ?” กัปตันตื่นเต้นขึ้นมา “ข้าไม่เคยเห็น เจ้าแห่งกฎ เก่งเรื่องการต่อสู้ระยะใกล้มาก่อน”
ที่เขาไม่รู้คือ หลัวเฟิง มีมิติการสืบทอดซึ่งเป็นพื้นที่การบ่มเพาะของผู้สืบทอดสายน้ำวูดูวง แต่ละรุ่น!
นอกจากการเร่งเวลาแล้ว มันยังมีมิติสำหรับการทดสอบ และต่อสู้ด้วย มันมีคู่ต่อสู้ 282 คนรวมถึงผู้สืบทอดแต่ละรุ่นของสายน้ำวูดูวง!
พวกที่แข็งแกร่งที่สุดคืออาจารย์บรรพบุรุษทั้งสาม
กว่า 8 ล้านยุคที่ผ่านมา หลัวเฟิง ได้รับเทคนิคดาบมา ยังไงซะแต่ละรุ่นของสายน้ำวูดูวง ก็มีแค่ส่วนหนึ่งที่สร้างเทคนิคดาบระดับ 7 ขึ้นมาได้ หลัวเฟิง ได้สร้างเทคนิคดาบระดับ 7 ขึ้นมา แสงของน้ำกับไฟ โดยสร้างขึ้นจากเทคนิคดาบที่เขาสร้างขึ้นมาอย่างเกิดใหม่นิพพาน นี่แค่ส่วนเล็กๆ ที่เขาได้มาจากที่เขาทำได้ตลอด 8 ล้านยุคที่ผ่านมา
หนึ่งจากสองผลประโยชน์ที่ได้มาคือเทคนิคร่างกาย ‘ทองไหล’ มันยากที่จะพัฒนาเทคนิคดาบ ดังนั้น หลัวเฟิง จึงเริ่มศึกษาเทคนิคร่างกายและเขามักจะสู้กับคู่ต่อสู้ในมิติจำลอง หรือแม้แต่กับอาจารย์บรรพบุรุษทั้งสามด้วยแต่ทั้งสามสามารถบดยี้ หลัวเฟิง ได้ง่ายๆ แม้ว่าจะใช้พลังระดับ เจ้าแห่งกฎ ก็ตาม ยังไงซะอาจารย์ทั้งสามก็มีเทคนิคที่โดดเด่นจนอยู่ระดับสูงในสังคมโบราณได้ ด้วยการฝึกฝนแบบนั้นเขาก็ได้เรียนรู้เทคนิคจากรุ่นที่แล้วมา ดังนั้นสุดท้ายเขาก็สร้างเทคนิคทองไหลขึ้นมาได้!
เทคนิคสืบทอดจำนวนมาก, ตัวตนยิ่งใหญ่จากมิตจำลอง, การฝึกฝนและความเข้าใจ ทั้งหมดรวมกันนี้กลายเป็นเทคนิคขึ้นมา
****
นักรบทั้ง 18 รวมไปถึงกัปตันตะลึงเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
ทางช้างเผือก ใช้เทคนิคการต่อสู้ระยะใกล้ ในการหนีจากเทพแท้จริงทั้งสาม จากนั้นเขาก็ไปถึงข้างศพก่อนจะเก็บมัน เขาพุ่งไปยังอีกทาง ร่างกายเขาขยับเหมือนกับดาบ แม้ว่าจะมีเทพแท้จริงสองคนพยายามจะหยุดเขาแต่เขาก็ยังสลัดสองคนนั้นไปได้ด้วยการหลบหลีกของเขา
ซู่! ซู่! ซู่!
หลัวเฟิง เข้าไปในแมกไม้และหายตัวไป
“บ้าไปแล้ว”
“เหลือเชื่อ”
“คนเราจะมีเทคนิคที่ร้ายกาจแบบนั้นได้ยังไงกัน?”
นักรบทุกคนต่างก็ช็อก “ถ้าเขาโดนจับได้ระหว่างที่สู้กันกับสองขุมกำลัง ด้วยเทคนิคการต่อสู้ระยะใกล้ ของเขา เขาก็ยังรอดไปได้หลังจากที่ เจ้าแห่งกฎ ทั้งหมดและเทพแท้จริงส่วนมากตายไป”
ทุกคนพากันกลัวขึ้นมารวมไปถึงกัปตันด้วย เขาเคยผ่านการฝึก และความยากลำบากมากมายมา เขาคิดว่าเขาอยู่ในส่วนบนของขุมกำลัง เจ้าแห่งกฎ แม้แต่ในหน่วยตะวันออกก็ด้วย น้อยคนนักที่จะเทียบเขาได้แต่เขาไม่คิดว่าจะมี เจ้าแห่งกฎ ที่เก่งเรื่องเทคนิคการต่อสู้ระยะใกล้แบบนี้
“หากไม่มีสมบัติเครื่องจักร ข้าคงโดนเขาบดขยี้แม้ว่าจะสู้กันอย่างยุติธรรม” กัปตันกลัวอย่างมาก “แน่นอนว่าเมื่อเป็นการต่อสู้ อาวุธ และสมบัติเครื่องจักรล้วนแต่สำคัญ ด้วยสมบัติเครื่องจักร พลังของข้าก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นข้าก็จะเหนือกว่าเขาและฆ่าเขาได้!”
ยังไงซะสมบัติเครื่องจักรก็เพิ่มความแข็งแกร่งของคนเราได้อย่างมาก