ตอนที่ 1363 : เผชิญหน้า
นักรบหน้าแดงได้เดินเข้าหา หลัวเฟิง จากนั้นก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมา “ทางช้างเผือก เจ้าคิดว่าเปลี่ยนหน้าตากับผมที่ยุ่งนี้แล้วเราจะจำเจ้าไม่ได้รึไง? ไม่ว่าเจ้าจะเปลี่ยนหน้าตายังไงแต่พลังอมตะกับออร่าของเจ้าก็ยังคงเดิม ตราบใดที่เจ้าเข้าใกล้เรา เราก็จะจำเจ้าได้ทันที”
สายตาของ หลัวเฟิง กวาดมองไปรอบๆ “มันคงมีพวกเจ้ามากกว่าหนึ่งคน”
“กัปตันและคนที่เหลือมาถึงแล้ว” นักรบหน้าแดงส่งเสียงบอก “พวกเขากระจายกันไปทั่ว พลังของเจ้า เราทุกคนได้เห็นแล้วที่ริมสนามรบเทพแท้จริง การหนีมาได้ง่ายแบบนั้นแม้ว่าเจ้าจะอยู่ในสภาพน่าอนาถต่อหน้าเทพแท้จริงหลายคนก็ตาม…เอาจริงๆ แล้วข้าไม่มั่นใจว่าจะรับมือเจ้าได้คนเดียว”
ฮัวะ! ฮัวะ! ฮัวะ! ฮัวะ! ฮัวะ! ฮัวะ!
ไกลออกไปมีกว่า 10 คนที่เข้ามาหาเขา หลัวเฟิงกวาดมองไปรอบๆ และจำคนหนึ่งได้
กัปตันที่มีเขาโค้งขนาดใหญ่ คนอื่นๆ คือกลุ่มนักรบของเขา พวกนั้นพากันพูดคุยกันผ่านการส่งข้อความ
“นักรบใหม่ ทางช้างเผือก เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่เราคาดไว้เยอะ”
“พลังของเจ้าน่าประทับใจจริงๆ”
“เรายอมรับเจ้าให้เป็นส่วนหนึ่งกับเรา”
แม้แต่กัปตันก็ยังมองมาที่ หลัวเฟิง และพูดขึ้น “นักรบใหม่ ทางช้างเผือก!”
“กัปตัน” หลัวเฟิง มองไปที่กัปตันที่ดูถูกเขาตอนที่เพิ่งเข้าหน่วยในฐานะนักรบใหม่ ตอนนี้กัปตันคนเดิมยิ้มและดูเหมือนจะยินดี
“ก่อนหน้านี้เราไม่ยอมรับเจ้าเพราะปกติแล้วนักรบใหม่นั้นอ่อนแอ แต่พลังของเจ้าทำให้เรายอมรับ” กัปตันพูดขึ้นมาตรงๆ “ทั้งหมดที่เจ้าต้องทำ คือแบ่งศพเทพแท้จริงกับเรา จากนี้ภายในทีมของเรา นักรบทุกคนจะเชื่อในความภักดีของเจ้า ข้าจะยอมยกตำแหน่งกัปตัน….ให้กับเจ้า!”
“ใช่ เราจะถือว่าเจ้าเป็นกัปตันและรับใช้เจ้า!”
“ตราบใดที่เจ้ายอมช่วยเราให้เรามีโอกาสรอด!”
“ทางช้างเผือก!”
พวกนักรบต่างก็มองอย่างคาดหวังมาที่ หลัวเฟิง แม้แต่กัปตันก็ยังแสดงสีหน้าเดียวกันออกมา เขานั้นถือว่าไม่เห็นแก่ตัวที่ยอมยกตำแหน่งกัปตันให้หลัวเฟิง
หลัวเฟิงกวาดตามองดูนักรบตรงหน้าและถามขึ้นมาอีกครั้ง “จริงรึ?”
“แน่นอน มีเพียงแต่ความจริง”
“เราจะให้เจ้าเป็นกัปตันทันที” นักรบคนหนึ่งพูดขึ้น คนอื่นๆ ก็คิดเช่นเดียวกัน
หลัวเฟิง กลับยิ้มออกมา แต่รอยยิ้มนี่ไม่ได้ดูต่างจากเดิม เขาตอบกลับ “งั้นการที่พวกเจ้าจะรอดหรือตาย…มันเกี่ยวอะไรกับข้า?”
นักรบต่างก็ตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินคำถามนั้น
“ข้าคิดว่าพวกเจ้าคงไม่มีสักคนที่จะคิดว่านักรบใหม่จะรอดไปได้หรือไม่ใช่รึเปล่า?” หลัวเฟิง พูดพร้อมกับเย้ยหยัน “และตอนนี้เจ้ากลับมาขอผูกมิตรตอนสงครามเนี่ยนะ?”
เขามองออก กัปตันอะไรกัน?
มิตรภาพอะไรกัน?
ตลกสิ้นดี!
การคัดเลือกเข้ากองทัพที่โหดร้ายทำให้นักรบนับไม่ถ้วนต้องตาย และนักรบที่มีประสบการณ์ก็เคยเห็นการตายมากมายแบบนั้นมาแล้ว ที่พวกเขาต้องการคือเป็นเทพแท้จริงเพื่อตัวเอง ใครจะไปสนเรื่องตำแหน่งกัปตันกัน?
พวกนักรบยังอยู่ใต้คำสั่งของกัปตันเพราะเขาแข็งแกร่ง ถ้ามันเพื่อการเอาตัวรอด พวกเขาก็จะทิ้งกัปตันทันที
****
นักรบทั้ง 18 คนรวมไปถึงกัปตันต่างก็แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา พวกเขาไม่คิดว่าหลัวเฟิง จะแสดงท่าทีแบบนี้ออกมา
“ทางช้างเผือก!” กัปตันส่งข้อความมาด้วยความโกรธ “ตอนนี้มีเทพแท้จริง 50 คนไล่ตามเจ้า พวกเขาเดาว่าเจ้าต้องอยู่ในกองทัพ เจ้าแห่งกฎ ของภูเขาซวนหยู สนามรบของ เจ้าแห่งกฎ กระจายไปทั่วและมันมีเทพแท้จริงซ่อนอยู่ไกลออกไปในสนามรบเพื่อหาตัวเจ้า ไม่ไกลจากเราในท้องฟ้าก็ยังมีเทพแท้จริงคอยตามหาเจ้าที่นี่”
หลัวเฟิง เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าไกลออกไป
“ข้ารู้” หลัวเฟิง ตอบกลับ “แต่มันไกลเกินไป มันไม่อาจจะจำข้าได้”
“แต่เรายืนยันได้” กัปตันพูดขึ้น “ที่เราต้องทำก็แค่ส่งสายตาติดต่อ ทันทีมันก็จะรู้พื้นที่นี้ เราแค่ต้องขยับปากและจากรูปร่างปากของเรา มันก็จะรู้ว่าเราจะบอกอะไร”
“โอ้?” หลัวเฟิง หัวเราะ
“ตอนที่เจ้าถูกพบ” กัปตันพูดขึ้น “เทพแท้จริงแค่ต้องสั่งการ และ เจ้าแห่งกฎ จำนวนมากจากบึงเก้าหมอกจะเข้าล้อมเจ้า จากนั้นเจ้าก็ไม่มีทางหนี”
เขามองมที่หลัวเฟิง “เจ้าจะโดนฆ่า! เลือกเอา! เจ้าจะเลือกส่งศพของเทพแท้จริง และเอาบางส่วนกลับไปอย่างปลอดภัย หรือว่าจะไม่ได้อะไรและตายที่นี่!”
“เลือกเอา” เหล่านักรบต่างก็พูดขึ้นและมองไปที่ หลัวเฟิง
“ทางช้างเผือก ครั้งนี้เรายังมีหวังในการรอด ถ้าเจ้าบังคับเรา เราคงต้องตายไปด้วยกัน”
“ถ้าเราต้องตาย เราจะลากเจ้าไปกับเราด้วย”
หลัวเฟิง ส่ายหน้า “งั้นพวกเจ้าทุกคนก็ตายซะ ข้าจะเอาศพเทพแท้จริงทั้ง 35 ร่างกลับไปที่แคมป์”
จากนั้นเขาก็หันกลับและคำรามออกมา “ฆ่าพวกบัดซบจากบึงเก้าหมอก!”
เขาได้เปลี่ยนเป็นลำแสงและพุ่งออกไปทันที
****
นักรบทั้ง 18 คนรวมไปถึงกัปตันช็อก พวกเขาไม่คิดว่าจนตอนนี้ หลัวเฟิง ก็ยังไม่เกรงกลัว เป็นไปได้ไหมว่าเขาสามารถหนีตอนที่โดนล้อมโจมตีจากคนของบึงเก้าหมอก?
แม้ว่าจะช็อกแต่พวกเขาก็ตอบโต้กันอย่างรวดเร็ว!
ตอนที่ หลัวเฟิง ขยับ ทั้ง 18 คนก็ออกตัวทันที
“เจ้าต้องการให้เราตาย นักรบใหม่ งั้นเจ้าเองก็ตายไปด้วย!”
“ไอ้บัดซบ ทางช้างเผือก!”
“เจ้าสมควรตาย”
“เจ้าคือคนที่บังคับเราเอง”
นักรบบางคนแสดงสีหน้ากลัวออกมา สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง และพุ่งเข้าใส่ หลัวเฟิง
ตอนนั้น หลัวเฟิง ยังคงบินต่อด้วยรอยยิ้มอันเย็นชา
ฮ่ง! ฮ่ง!
ระดับสองของการกำจัดถูกใช้ออกมา!
ความเร็วนั้นดูโหดร้าย เร็วจนสลัดเหล่านักรบหลุด
“เจ้าคิดว่าจะตามข้าทันรึไง?” หลัวเฟิง ไม่ได้สนใจพวกนั้นเลยแม้แต่น้อย ในหมู่นักรบที่ไล่ตามเขามา กัปตันคือคนที่เร็วที่สุด
“ทางช้างเผือก อย่าคิดหนีเชียว!” เขาตะโกน
ตอนแรกกัปตันคิดว่านักรบใหม่จะกังวลกับสถานการณ์ตัวเอง เขาเดาว่าเขาสามารถใช้ข้อแก้ตัวนี้ให้ หลัวเฟิง ส่งศพมาให้แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นต่างจากที่เขาคาดไว้มาก หลัวเฟิง ไม่คิดที่จะหนีเลยแม้แต่น้อย
นักรบคนอื่นๆ ไม่เคยเห็น หลัวเฟิง บ้าคลั่งมาก่อน แต่กัปตันเคยเห็นมาแล้วก่อนหน้านี้ เขารู้ว่าถ้า หลัวเฟิง ลงมือเต็มกำลัง…นักรบคนอื่นๆ คงไม่อาจจะรับมือได้เลยแม้แต่น้อย
ชี๊! ชี๊! ชี๊!
ด้านหลังกัปตันมีปีกสีดำคู่หนึ่งงอกออกมา ที่ริมปีกมีโบว์สีดำนับไม่ถ้วน
ฮัวะ!
ปีกดำขนาดใหญ่มีโบว์สีดำหลายร้อยอัน และพุ่งเข้าหาพื้นที่ตรงหน้าที่ หลัวเฟิง อยู่ เขาไม่อาจจะเทียบความเร็วกับอาวุธนี้ได้
รอบตัว หลัวเฟิง มืดลง เมื่อหันกลับไปมองเขาก็เห็นโบว์ดำที่ราวกับงูขนาดใหญ่นับไม่ถ้วนได้พุ่งมาล้อมเขาไว้
“บัดซบ!” หลัวเฟิง ตะโกนออกมา
เขาถือค้อนสองอันเพราะเขาได้ใช้เวลาไปในหมู่ เจ้าแห่งกฎ จากภูเขาซวนหยูมาสักพัก และเขาไม่ต้องการให้สัตว์อสูรเทพแท้จริงไกลออกไปพบตัวเขา เขาจงใจเลือกค้อนเป็นอาวุธ
ฮัวะ!
ค้อนได้ถูกเหวี่ยงออกไป พลังงานของพลังอมตะเผาไหม้ พลังของค้อนทั้งสองน่าตะลึง ตอนที่มันกวาดไปรอบๆ โบว์สีดำได้กระเด็นกลับออกไปเล็กน้อย โชคร้ายที่การถดถอยแบบนั้นเพียงพอให้โบว์ได้ก่อตัวเป็นแก่นทรงกลมขนาดใหญ่ซึ่งได้ห่อหุ้มตัวเขาไว้
“ยืดหยุ่นดีจริงๆ พลังเหลือล้น” หลัวเฟิง รู้สึกได้ถึงพลังของโบว์ผ่านค้อนและอดไม่ได้ที่จะช็อก “กัปตันคนนี้ไม่ใช้เทคนิคลับนี้ออกมา พลังของโบว์ดำนี้ดูเหมือนจะห้อมล้อมรอบๆ ไว้อย่างแข็งแกร่ง นี่มันดูไม่เข้าท่าเลย”
พลังอันแข็งแกร่งมักเกี่ยวข้องกับเทคนิคลับ แต่พลังของโบว์เหล่านี้นั้นแข็งแกร่งจนเหลือเชื่อ
“รึว่ามันเป็นสมบัติเครื่องจักร?” หลัวเฟิง สรุปจากสิ่งที่ตัวเองเห็น “ข้าต้องพังมันด้วยดาบเงาเลือด ถ้าข้าหวังจะทำลายมัน ข้าต้องใช้เทคนิคดาบที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ถ้าข้ายังโดนล้อมแบบนี้ต่อไป ข้าก็ไม่รู้ว่าจะเสียเวลาไปนานแค่ไหน ข้าแค่กังวลว่าสุดท้ายแล้วข้าจะโดนสัตว์อสูรเทพแท้จริงพบตัว”
****
กัปตันและนักรบใหม่ได้ปะมือกันทันที แม้ว่านักรบเผ่าคนอื่นรอบตัวสงสัยเหตุผลที่ทั้งสองสู้กัน แต่พวกเขาก็ยั้งความสงสัยเอาไว้ ยังไงซะหากมองจากภายนอก การโจมตีของกัปตันที่ใช้ออกมาก็เหมือนจะแค่ยับยั้งด้วยอาวุธวิญญาณ พวกคนดูมีข้อสงสัยของตัวเอง แม้ว่าจะมีความบาดหมางในอดีต พวกเขาจะสู้กันตอนนี้ได้ยังไง?
หรือเพราะของที่ได้จากชัยชนะ?
“กัปตัน ปีกเมฆดำของท่านน่าประทับใจจริงๆ”
“ปีกเมฆดำบินได้อย่างรวดเร็วและยืดหยุ่นอย่างมาก มันปรับตัวได้ดีในการป้องกันตัวเอง มันคือสมบัติที่มีไว้ในการหนีและเอาตัวรอด”
นักรบคนอื่นๆ ต่างก็พากันอิจฉา
ตอนนั้น…
ฮ่ง!
โบว์ดำหลายอันได้กระเด็นออกมาด้วยความเร็วอันน่ากลัว การระเบิดเกิดขึ้นที่แก่นมันราวกับมีสัตว์ประหลาดซ่อนตัวอยู่ในแก่นซึ่งบินออกมาด้วยความเร็วสูงพร้อมกับดึงแก่นดำไปกับตัวขึ้นไปบนท้องฟ้า
ชี๊! ชี๊! ชี๊!
โบว์ดำนับไม่ถ้วนฉีกขาดเผยให้เห็นเรือรบโบราณ และดูเหมือนว่าโบว์ดำนับไม่ถ้วนได้ผูกกับผิวเรือรบ โบว์ดำเหล่านั้นยังคงจำกัดการเคลื่อนไหวของเรือรบเอาไว้ แต่เรือรบยังเดินทางอย่างต่อเนื่องราวกับไม่ได้รับผลกระทบเลยสักนิด มันบินด้วยความเร็วสูง!
และความเร็วของมันก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
“อะไรกัน?” กัปตันคำรามออกมาเสียความเยือกเย็น “ช่างเป็นพลังบินที่แข็งแกร่ง!”
ด้วยปีกเมฆดำนี้ กัปตันพยายามควบคุมเรือรบเอาไว้แต่เรือนั้นแข็งแกร่งเกินไป มันไม่สั่นไหวเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันแล้วกัปตันกลับถูกลากไปด้วย
“กัปตัน” เสียงหนึ่งพูดขึ้น “ข้าคิดว่าเจ้าอยากเอาข้าไปหาเทพแท้จริงใช่รึเปล่า? งั้นไปหาเขากันเถอะ”
เรือรบได้ดึงกัปตันขึ้นไปบนท้องฟ้า พลังการขับเคลื่อนของเรือสุสานนี้ช่างมากมายจริงๆ!
ถ้ามันระเบิดพลังออกมา เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด จะทนรับได้รึเปล่า?
ฮู่!
ยานรบรวดเร็วอย่างมาก และมันก็เปลี่ยนทางในท้องฟ้า ที่ส่วนอกสุดของท้องฟ้าเหนือสนามรบ มันมีสัตว์อสูรเทพแท้จริงอยู่
“หยุด หยุด!” กัปตันตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “เจ้าอยากหาที่ตายรึไงกัน?”
“ฮ่า ฮ่า….!” เสียงนั้นพูดขึ้น “ไปหาเทพแท้จริงกันและมาดูกันว่าใครที่จะตาย”
ยานรบยังคงเดินหน้าเข้าหาสัตว์อสูรเทพแท้จริง
กัปตันลนลานอย่างมาก เขารู้ว่าตัวเองได้ขโมยศพเทพแท้จริงมา!
แม้ว่ากลุ่มเทพแท้จริงจากบึงเก้าหมอกจะโกรธ หลัวเฟิง มากกว่าก็ตาม หลัวเฟิง ยังซ่อนตัวอยู่ในเรือรบซึ่งไม่อาจจะถูกตรวจจับได้จากภายนอก สัตว์อสูรคงไม่อาจยืนยันตัวตน หลัวเฟิง ได้ ในทางกลับกันแล้วมันจะยืนยันกัปตันได้ก่อน จากนั้นพวกสัตว์อสูรก็คงไม่เปิดโอกาสให้เขาหนี!
“เจ้ามันชั่วร้าย!” กัปตันโกรธอย่างมาก แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมแพ้ โบว์ดำที่ผูกเรือรบเอาไว้ได้คลายออกสลัดกัปตันออกจากเรือรบ “เจ้ามีดาบเครื่องจักร และแม้แต่เรือรบเครื่องจักรด้วยรึ? พลังขับเคลื่อนของเรือนี่นั้นแข็งแกร่ง แม้แต่ปีกเครื่องจักรของข้าก็ไม่อาจจะควบคุมได้”
กัปตันลอยอยู่ในอากาศ เขาสิ้นหวังเมื่อต้องเผชิญกับเรือรบนี้ เขากระอักกระอ่วน
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีเรือรบเครื่องจักร!” เขาพูดขึ้น “นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเจ้าถึงหนีได้!”
เขาพูดต่อพร้อมกับกัดฟันแน่น “เจ้าหนีได้ครั้งหนึ่งแต่อย่าคิดว่าเจ้าจะหนีได้อีก”
****
ไม่นานท่ามกลางกองทัพบึงเก้าหมอกที่ประกอบไปด้วยนักรบสัตว์อสูรหลายพันคน สัตว์อสูรจำนวนหนึ่งพากันคำรามออกมาและจากนั้นก็พุ่งเข้าใส่พวกภูเขาซวนหยู
“ฆ่า! เราจะฆ่าพวกบัดซบจากภูเขาซวนหยู!” สัตว์อสูรเขาทองคำรามออกมาซึ่งตอนนี้อยู่ในร่างกิ้งก่ามีปีก
มันอยู่ในกองทัพบึงเก้าหมอกและพุ่งเข้าใส่พวกภูเขาซวนหยู