ตอนที่ 1370 : ยุคสอง
ร่างมนุษย์ขนาดใหญ่ยังคงลอยอยู่ในทะเลจักรวาล ในทางกลับกันแล้วคนจากขุมกำลังต่างๆ ในทะเลจักรวาลที่อยู่ในช่วงสงบสุขมาเกือบยุคก็ได้มาถึง
ซู่! ซู่! ซู่! ซู่! ซู่! ซู่!
ลำแสงได้ปรากฎขึ้นมาทีละอันๆ ตัดไปทั่วมิติ จากนั้นพวกเขาก็ได้บินเข้าไปในปากของร่างมนุษย์ที่นอนอยู่
****
ท่ามกลางมิติของจักรวาลย่อย, ที่โลกแห่งจิน มีวังสมบัติแท้จริงจำนวนมากลอยอยู่ พวกมันเป็นของขุมกำลังต่างๆ ที่มาจาก 3 ยุคเกิดใหม่ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง
สำหรับยุคแรกแล้ว พวกเขาได้แต่ส่งทีมเข้ามาสำรวจก่อน และครั้งนี้มันก็ถือว่าส่งคนมาเต็มกำลัง วังสมบัติแท้จริงนับไม่ถ้วนนี้เหมือนดวงดาวในท้องฟ้า และในหมู่พวกนั้นก็มีหอคอย 9 ชั้น
ร่างมหาสมุทรหลัวเฟิง ได้มองไปรอบๆ แล้วพูดขึ้นมา “โลกแห่งจินเต็มไปด้วยอันตราย ทุกคนโปรดตามข้ามาติดๆ เมื่อเข้าไปแล้ว ข้าจะพาพวกเจ้าไปยังประตูของกองทัพตะวันออก นั่นคือตอนที่เจ้าจะได้เข้าร่วมกองทัพทันที…ข้าเชื่อว่าทุกคนคงรู้ดีเรื่องอันตรายในการเข้ากองทัพ คงไม่จำเป็นที่ข้าจะต้องพูดอีก หลังจากที่เข้ากองทัพไปแล้ว พวกเจ้าคงได้แต่พึ่งตัวเอง”
เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด พากันตอบกลับทีละคนๆ
“แน่นอน”
“ทางช้างเผือก ขอโทษที่รบกวน”
หลัวเฟิงร่างมหาสมุทร พยักหน้า นี่คือร่างมหาสมุทรอันใหม่ เพราะร่างใหม่นี้ได้มียีนชีวิตระดับสมบูรณ์ ร่างอมตะของมันแข็งแกร่งพอๆ กับร่างหลัก และสัตว์อสูรเขาทอง
“หลัวเฟิง” คนที่ยืนอยู่ข้างร่างมหาสมุทรนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ที่ส่งเสียงออกมา “ครั้งนี้มี เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ทั้งหมด 36 ที่จะเข้าไป ทุกคนมาจากเผ่าอื่นในพันธมิตรหง พวกเขานั้นไม่ใช่มนุษย์…เจ้าแค่ต้องนำทางพวกเขา หลังจากนั้นเจ้าก็ปล่อยพวกเขาได้ ปกป้องตัวเองคือเรื่องที่สำคัญที่สุด”
“ข้าเข้าใจแล้ว” หลัวเฟิง พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“โอ้ สีมันกำลังเปลี่ยนไป”
หลัวเฟิง มองไปที่จักรวาลย่อยของโลกแห่งจินที่อยู่ห่างออกไป ชั้นนอกของกำแพงโลกแห่งจินได้เปลี่ยนเป็นสีขาวซึ่งแสดงว่าถึงเวลาที่การป้องกันต่ำสุด นี่คือตอนที่พวกเขาจะเข้าไปได้
“เราจะเข้าไปแล้ว!”
“สีกำลังเปลี่ยนไป!”
“เราสามารถเข้าไปยังดินแดนอันตรายแห่งที่สี่ได้!”
“ในโลกแห่งจิน”
วังนับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่ในมิตินอกโลกแห่งจินพากันพุ่งผ่านกำแพงจักรวาลย่อย และเข้าไปในโลกแห่งจิน ในเวลาเดียวกันก็มีเส้นแสงนับไม่ถ้วนที่โผล่ออกมาจากจักรวาลย่อยของโลกแห่งจิน มันคือเครื่องหมายแสดงว่ากลุ่มแรกที่เข้าไปนั้นยังมีชีวิตอยู่
ซู่!
เรือรบสีเงินได้บินออกมาอย่างรวดเร็ว มันคือเรือสุสาน
“ไปกันได้แล้ว” ร่างมหาสมุทรพูดขึ้นมา
เรือสุสาน และหอคอยดวงดาวเข้าใกล้กันอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันประตูเรือสุสานก็เปิดออก
“ทุกคนเข้ามา” ร่างมหาสมุทรสั่งการ
เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด จำนวนมากจากพันธมิตรหงไม่รีรอ และออกจากหอคอยดวงดาวเข้าไปในเรือสุสาน มีแค่ร่างมหาสมุทรและ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ที่ยังอยู่ในหอคอยดวงดาว
“หือ?” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พบว่าร่างมหาสมุทรอ่อนแอลงอย่างรวดเร็วในเวลาสั้นๆ นี้ร่างอมตะของเขาได้อ่อนแอลงระดับหนึ่งจนเหลือพลังแค่ 80% “เกิดอะไรขึ้น?”
“ตอนที่ข้าอยู่ในโลกแห่งจิน มันต้องใช้ร่างอมตะไปจำนวนหนึ่ง ข้าต้องใช้โอกาสนี้ชดเชยมัน” ร่างมหาสมุทรพูดพร้อมเสียงหัวเราะ
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาโดนสัตว์อสูรเทพแท้จริงไล่ล่า เขาได้ใช้ขั้นสองของการกำจัด และด้วยเงื่อนไขพวกนั้น จำนวนพลังอมตะที่ใช้ไปจึงค่อนข้างน่าตกใจ แม้ว่าเขาจะฆ่าสัตว์อสูรเทพแท้จริงได้สำเร็จแต่ร่างอมตะก็ถูกใช้ไปส่วนหนึ่ง โชคดีที่มันมีร่างสัตว์อสูรเขาทองชดเชยจำนวนนั้นได้ นี่ทำให้เขารักษาสภาพที่ดีที่สุดของตนไว้ได้ในโลกแห่งจิน การชดเชยพลังอมตะนั้นยากอย่างมาก ผ่านไป 1 ยุคแต่เขาก็ชดเชยมันได้แค่เพียงเล็กน้อยจากที่ใช้ไปและตอนนี้ภายในเรือสุสาน ร่างหลักของเขาและร่างสัตว์อสูรเขาทองก็อยู่ใกล้กัน เป็นธรรมดาที่พลังอมตะของทั้งสองจะส่งหากันได้ ดังนั้นมันจึงช่วยเขาในการชดเชยพลังอมตะได้
****
ภายในเรือรบสีทอง เทพปีศาจอาละวาด โอ้อวดกับเพื่อนตัวเอง เจ้าแห่งดาวไบ่ชิง
“ฮ่า ฮ่า! ตอนนี้ข้าได้เรียนรู้เทคนิคการเผาพลังอมตะและข้าก็ยังมีสมบัติแท้จริงขั้นสูงสุดประเภทโจมตีมากมาย แม้ว่าข้าจะอยู่ในทะเลจักรวาลแต่ข้าก็สามารถปลดปล่อยพลังขั้น 10 ออกมาได้ นี่เทียบได้กับ อาจารย์ต้นกำเนิด ตอนที่เขาอยู่ระดับเดียวกับข้า! ตอนนี้ข้าสามารถจัดการเจ้าได้ตามใจต้องการ ดูนี่สิ นี่คือเรือรบสมบัติแท้จริงขั้นสูงสุดที่ข้าได้มา!”
“เจ้าหลงตัวเองเกินไปแล้ว แต่เจ้าก็ช่างน่าประทับใจ” เจ้าแห่งดาวไบ่ชิง ฟังคำชมตัวเองของ เทพปีศาจอาละวาด
“ฮ่า ฮ่า…” เทพปีศาจอาละวาด พอใจอย่างมาก
เขาเป็นนักเดินทางโดดเดี่ยว เขาหาสมบัติที่แข็งแกร่งให้ตัวเองได้ เขาจะไม่อวดได้ยังไง?
ฮ่ง!
เรือรบบินด้วยความเร็วสูง และมันก็เร็วจนชนกับส่วนนอกของวัง ด้วยแรงกระแทกนี้ทำให้วังต้องกระเด็นออกไป
“ใครกันกล้ามาชนกับวังของกลุ่มดวงตาศักดิ์สิทธิ์ของข้า?”
คนในส่วนนอกของวังหงุดหงิด และตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจ
“ข้าเอง ปีศาจอาละวาด เจ้าจะทำยังไงล่ะ?” เทพปีศาจอาละวาด ทำตัวสมกับชื่อ เขาไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นกลุ่มดวงตาศักดิ์สิทธิ์ก็หยุดมือ ก่อนหน้านี้ เทพปีศาจอาละวาด วางแผนจะเก็บสมบัติแท้จริงขั้นสูงสุดเพิ่มจากทะเลจักรวาล แต่เพราะข้อมูลเกี่ยวกับกองทัพเผยออกมา และส่งต่อให้กลุ่มต่างๆ ในทะเลจักรวาลมากขึ้นเรื่อยๆ แผนของเขาจึงล้มเหลวไป หลังจากนั้น เทพปีศาจอาละวาด ก็มักจะอวดของของตัวเองเพื่อให้ทั้งทะเลจักรวาลรู้ว่าตอนนี้เขานั้นแข็งแกร่งอย่างมาก แม้แต่สำหรับกลุ่มดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ตอนที่พวกเขาได้พบกับนักเดินทางโดดเดี่ยวอย่าง เทพปีศาจอาละวาด พวกนั้นก็ไม่กล้าจะระบายความโกรธ และเลือกที่จะเดินทางอ้อมเขาไป
****
“ไป!”
หลัวเฟิง ยืนอยู่ในห้องโถงเรือสุสาน ด้านหลังเขามี เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด 36 คนจากพันธมิตรหงที่รอฟังคำสั่งจาก หลัวเฟิง อยู่
ซู่!
สั่งการเพียงครั้งเดียว เรือสุสานก็ได้บินเข้าไปในโลกแห่งจินทันที
****
ภายในเรือรบที่ย้อมด้วยสีดำ มี เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด กลุ่มใหญ่ได้มารวมตัวกันทั้งหมดเกือบ 100 คน
“บรรพบุรุษได้สั่งการมาแล้ว!”
“ครั้งนี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงของเราได้เข้ามาในโลกแห่งจิน เป้าหมายแรกของเราคือหาความช่วยเหลือจากกองทัพ และฆ่า ทางช้างเผือก! ตราบใดที่กองทัพโจมตีด้วยการโจมตีวิญญาณเพื่อฆ่า หลัวเฟิง ร่างอื่นๆ ของเขาก็จะตายไปโดยไม่มีหวังจะเกิดใหม่ได้อีก”
“สำหรับอย่างแรกแล้วเราต้องหาว่าเขาอยู่ที่ไหน”
ชายสองหน้าสี่แขนในเกราะดำคำรามออกมาเบาๆ
กลุ่ม เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ด้านล่างต่างก็ตั้งใจฟังคำพูดเขา
“พวก เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ของพันธมิตรหงออกเดินทางแล้ว! ตามพวกเขาให้ทัน!”
ฮ่ง!
เรือรบสีดำตามไปติดๆ ตอนที่เรือสุสานบินไปยังโลกแห่งจิน
****
ก่อนหน้านี้ในระหว่างยุคแรก จำนวนผู้ที่เข้ามานั้นไม่ได้มากนัก แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่รอด พวกที่รอดมาได้นั้นมีน้อย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหลายกลุ่มจึงหาข้อมูลของโลกแห่งจินจากพวกอื่นๆ พวกเขาไม่ได้มีคนมากในโลกแห่งจิน ดังนั้นพวกเขาจึงพากันกลัวและกังวลว่าข้อมูลที่ได้มานั้นไม่ถูกต้อง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมในยุคสองนี้ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด จากขุมกำลังต่างๆ จึงมีมากกว่าพันคนที่เข้าไปในโลกแห่งจิน!
พูดโดยเปรียบเทียบแล้วมันก็ไม่ได้มากมายอะไรโดยเทียบกับยุคแรก จำนวนของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด นั้นมากกว่า 2,000 คน พวกเขาต้องเจอกับวิบัติ พวกเขาอยากรู้ข้อมูลของโลกแห่งจิน คนส่วนมากจากยุคแรกก็มีมากกว่าครึ่งที่รับหน้าที่นี้ แต่ตอนนี้มีแค่ 600 คนที่ยังรอดผ่านยุคแรกมาได้ มันก็เป็นแบบที่คาดเอาไว้ที่ยุคสามจะต้องมีคนเพิ่มขึ้นไปอีก
****
“เราตามไม่ทัน”
ตอนที่เรือสีดำเข้าไปในโลกแห่งจิน มันก็รู้ตัวว่าเรือสุสานได้เทเลพอร์ทหนีไปอย่างรวดเร็ว
“แม้ว่าเราจะตามไม่ทันแต่พื้นที่พักของกลุ่ม เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด จากพันธมิตรหงที่นำโดย หลัวเฟิง คงอยู่ในการดูแลของกองทัพตะวันออก หลัวเฟิง ได้เข้าร่วมกองทัพตะวันออกไปแล้ว แต่เพื่อรับมือ เรามี เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด 100 คน 20 คนไปกองทัพเหนือ 20 คนไปกองทัพใต้, 20 คนไปกองทัพตะวันตก และส่วนที่เหลือไปกองทัพตะวันออก!”
เรือรบสีดำได้ออกเดินทางทันที
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงได้ส่ง เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เข้ามาก่อนหน้านี้สองคน ยุคหนึ่งเพียงพอที่สองคนนี้จะได้รับแผนที่คร่าวๆ ของโลกแห่งจินซึ่งทำให้พวกเขารู้ตำแหน่งแคมป์ กองทัพทั้งสี่
****
พวกที่เข้ามานี้มาจากขุมกำลังต่างๆ ในทะเลจักรวาล ในทางกลับกันแล้วเกือบจะสังเกตเห็นไม่ได้ มันราวกับหยดน้ำกับมหาสมุทร มันน้อยซะจนไม่อาจจะสร้างระลอกคลื่นได้
ที่แคมป์ กองทัพตะวันออก ภายในพื้นที่หน่วยงูหลามแม่น้ำ มันมีเสียงหนึ่งได้ส่งออกมา “ทางช้างเผือก ทางช้างเผือก”
หลัวเฟิง เดินออกมาจากบ้านหินและเงยหน้าขึ้นมองฟ้าและพบกับ วูฮี
“ทางช้างเผือก นักรบคนอื่นเตรียมตัวออกเดินทางไปทำภารกิจสำหรับยุคนี้แล้ว” วูฮี พูดขึ้นมา “และจากยุคก่อนหน้านี้ มีนักรบใหม่ 9 คนที่เข้าร่วมกองทัพ พวกเขาจะออกไปทำภารกิจกับเราด้วย ไปกันเถอะ!”
วูฮี ตอนนี้อยากจะเข้ากลุ่มกับ หลัวเฟิง
“9 คน?” หลัวเฟิง ผงะ นักรบที่เข้าร่วมหน่วยในยุคนี้เมื่อได้รับภารกิจก็ควรจะรอยุคใหม่ก่อนจะออกทำภารกิจแรก แต่หน่วยงูหลามแม่น้ำนั้นใหญ่สำหรับทีมเล็กๆ อย่างเขาที่จะรับนักรบถึง 9 คน มันมากเกินไป
“ทุกยุค หน่วยงูหลามแม่น้ำจะแบ่งนักรบกัน” วูฮี อธิบาย “หน่วยของเราเพิ่งทำภารกิจระดับภัยพิบัติได้สำเร็จ และสูญเสียไปค่อนข้างเยอะ ดังนั้นหลักๆ แล้วจึงชดเชยมาที่หน่วยเรา”
“โอ้ งั้นก็ไปกันเถอะ” หลัวเฟิง พยักหน้า “แต่ วูฮี ข้าต้องบอกเจ้าก่อนล่วงหน้า ครั้งนี้ข้าจะไม่ได้รับภารกิจเดียวกับเจ้า”
“ไม่เข้าร่วมกับเรา?” วูฮี สงสัยแต่เขาก็ไม่ได้กังวล จากการทำภารกิจภัยพิบัติได้สำเร็จ หน่วยไม่น่าจะส่งพวกเขาไปยังภารกิจยากแบบนั้นไปอีกนาน
“ข้ามีเรื่องอื่นต้องไปจัดการ” หลัวเฟิง พูดขึ้นและเขาก็ไม่ได้มัวรีรอ เมื่อเป็นภารกิจรับตำแหน่ง เขาก็ไม่ต้องการบอกอะไรมาก
****
ตอนแรกเขาได้มุ่งหน้าไปยังเกาะสืบทอดพื้นฐานที่จุดรวมตัว ชัดแล้วว่ากัปตัน และนักรบเก่าคนอื่นๆ เกลียดเขา แต่มันก็มีส่วนหนึ่งที่เป็นมิตรกว่าเดิม นอกจากนี้แล้วเขาก็รู้ว่า 9 คนใหม่นั้นต้องสงสัยเกี่ยวกับเขา
ตอนที่ หลัวเฟิง ไปถึง เขาก็ไม่ได้สนใจกัปตันหรือคนอื่นๆ เขาไปหานักรบใหม่ทั้ง 9 คน และพูดขึ้นมา “นักรบใหม่ นี่คือคำเตือนของข้า คูฟา น่ะค่อนข้างดี พวกเจ้าเลือกติดตามเธอได้ สำหรับกัปตันแล้ว นอกซะจากว่าจะอยากตาย เจ้าไม่ควรเลือกเขา”
นักรบใหม่ต่างก็ผงะ
“ทางช้างเผือก!” สีหน้าของกัปตันแสดงความไม่พอใจออกมา
หลัวเฟิง หันกลับไปมอง “ข้าพูดผิดรึไง?”
ทุกคนรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังระหว่าง หลัวเฟิง และกัปตัน
อันที่จริงแม้ว่าก่อนหน้านี้กัปตันจะอยากได้คะแนนจาก หลัวเฟิง แต่ทั้งสองก็เหมือนเข้ากันไม่ได้ กัปตันได้เห็นว่า หลัวเฟิง แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และวิธีที่ หลัวเฟิง ได้รับคะแนนจำนวนมากมาในตอนที่ทำภารกิจครั้งที่แล้ว หลัวเฟิง สามารถแลกเอาสมบัติเครื่องจักรมาได้ง่ายๆ
เทียบกับยุคที่แล้ว พลังของ หลัวเฟิง แข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมลึกๆ ในใจนั้นกัปตันยังรู้สึกกลัว หลัวเฟิง อยู่
กัปตันหันกลับและสั่งการโดยไม่รีรอ “ไปรับภารกิจได้แล้ว”
****
หลังจากที่ใช้เวลาเกือบทั้งวันในแคมป์ กองทัพ สุดท้าย หลัวเฟิง ก็ได้ไปถึงห้องโถงปีศาจ
ฮ่ง!
ลำแสงห่อหุ้มตัวนักรบทั้งหกทีมเอาไว้ทันที นักรบคนอื่นๆ ได้รับภารกิจง่ายๆ ส่วนหลัวเฟิง นั้นได้รับภารกิจในการรับตำแหน่ง
“หือ? หุบเขาราชาเทพ? ที่นั่นคือที่ที่ราชาพักในอดีต?” สายตาของ หลัวเฟิง แสดงความแปลกใจออกมาเมื่อรู้แบบนั้น “ภารกิจรับตำแหน่งจะจัดขึ้นที่นั่น!”