ตอนที่ 1371 : กับดัก
ทำภารกิจเพื่อรับตำแหน่ง(เจ้าแห่งกฏ) : หุบเขาราชาเทพ
รายละเอียดภารกิจ : หุบเขาราชาเทพ สถานที่พักของราชาเทพซึ่งเป็นตัวตนที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพวูฉี มันมีหอคอยวูฉี ซึ่งมีเก้าชั้น ชั้นเก้านั้นคือชั้นสูงสุด จนถึงวันนี้ก็มีแค่ราชาเทพที่ขึ้นไปที่ชั้นเก้าได้ เป้าหมายของภารกิจนี้คือ…เข้าไปในหอคอยวูฉี และขึ้นไปถึงชั้นเก้า คนที่ขึ้นไปถึงชั้นเก้าได้จะได้รับตำแหน่งนี้ไป!
รางวัล : คะแนนกองทัพ 10,000 คะแนน จะได้รับเมื่อรอดและกลับมาได้ การรอดกลับมาได้ด้วยความสำเร็จทั้งหมดจะได้รับฉายาไป มันมีผลประโยชน์นับไม่ถ้วน
การลงโทษ : ไม่มีการลงโทษหากล้มเหลวในภารกิจนี้
ย้ำเตือน : ภารกิจนี้อันตรายอย่างมาก ผู้เข้าร่วมทั้งหมดนั้นเป็น เจ้าแห่งกฏ ที่โดดเด่น ซึ่งเป็นตัวแทนของสี่กองทัพของโลกแห่งจินซึ่งได้รับการฝึกและบ่มเพาะทักษะมาอย่างดี พวกเขาต่างก็เตรียมตัวกันมาดีแต่จำนวนคนที่ตายก็ยังสูงถึง 90% เจ้าต้องระวังตัวไว้เสมอ ภารกิจเพื่อรับตำแหน่งนี้มานั้นดูเหมือนจะง่ายเพราะมันไม่มีบทลงโทษหากล้มเหลว แต่มันก็มีอัตราการตายที่สูง อันที่จริงแล้วนั่นคือบทลงโทษที่น่ากลัวที่สุด!
เจ้าแห่งกฏ ทุกคนที่รับภารกิจเพื่อรับตำแหน่งนี้จะรู้อัตราการตายนี้เพื่อที่ทุกคนจะได้เตรียมวังสมบัติแท้จริงหรือสมบัติประเภทเครื่องจักรไปกับตัวด้วยเพื่อทำภารกิจแต่จำนวนการตายก็ยังสูงอยู่ดี
“ห้ามประมาทเลยแม้แต่น้อย” หลัวเฟิง บอกกับตัวเอง “ในตอนที่ข้าตายไป เทพกรงเล็บทองคำ, เรือสุสาน, ดาบเงาเลือด และ เกราะงูหลามแม่น้ำ จะถูกคนอื่นชิงไป และจากนั้นข้าก็จะกลายเป็นตัวตลก”
เสียงของกัปตันดังขึ้นมาจากข้างๆ “ภารกิจนี้ง่ายดายอย่างมาก เจ้าเป็นคนใหม่ ตราบใดที่เจ้าไม่เลินเล่อ เจ้าก็จะทำภารกิจนี้สำเร็จได้อย่างง่ายดาย! ก่อนหน้านี้มันเป็นภารกิจระดับภัยพิบัติ ภายใต้การนำของข้า เราจะรอด พวกคนหน้าใหม่ทั้งเก้า…พวกเจ้ายังไม่รีบเข้าทีมเราอีกรึ? เราเต็มใจจะรับพวกเจ้าทั้งหมด ทำไมพวกเจ้ายังต้องลังเลในการร่วมทีมกับเราอีก?”
กัปตันและนักรบต่างก็ตะโกนบอกพวกมาใหม่ทั้งเก้าคน
“ฮึ่ม ติดตามเจ้างั้นรึ?” คูฟา พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “แม้ว่าเจ้าจะผ่านรอบนี้ไปได้ แต่ครั้งหน้าเจ้าอาจจะพินาศ เจ้ายังสูญเสียไม่พออีกรึไง? ก่อนหน้านี้ข้าได้เข้าร่วมกับ ยูลั่ว ซึ่งทำให้กัปตันของเจ้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องช่วยเหลือเจ้าต่อไป เจ้าคิดจริงๆ รึว่าเจ้าจะมีโอกาสรอดไปได้?”
พวกมาใหม่ทั้งเก้าคนต่างก็เริ่มลังเลขึ้นมา
“ข้าจะไปกับ คูฟา และทีมของเธอ” วูฮี ตะโกนขึ้นมาจากด้านข้าง
หลัวเฟิง ที่กำลังคิดเรื่องภารกิจหันกลับมา มันเป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดอย่างมาก ข้างหนึ่งคือกัปตัน และอีกข้างคือ คูฟา ด้วยการที่ วูฮี ได้เข้าร่วมกับ คูฟา มันจึงทำให้พวกคนใหม่เริ่มไม่มั่นใจ คนมาใหม่ถึงกับมองไปที่ หลัวเฟิง เพราะพวกเขาต่างก็รู้สึกว่ากัปตัน, คูฟา และคนอื่นๆ ต่างก็กลัว หลัวเฟิง
“ถ้าเจ้าเลือกที่จะติดตาม คูฟา และทีมของเธอ อย่างน้อยๆ เธอก็ไม่มีพลังพอที่จะละทิ้งพวกเจ้าแม้ว่าเธอจะตั้งใจแบบนั้นก็ตาม” หลัวเฟิง พูดขึ้นมาเบาๆ
ในตอนที่เขาพูดออกมาเช่นนั้น คนมาใหม่จำนวนหนึ่งที่ลังเลเมื่อกี้ก็ได้เข้าไปที่ฝั่ง คูฟา
หลังจากพวกแรกตัดสินใจเข้าร่วมกับ คูฟา คนที่เหลือต่างก็ตามไปเข้าฝั่งคูฟา ด้วย พวกเขาต่างก็รู้สึกว่าสิ่งที่ หลัวเฟิง พูดมานั้นมีเหตุผล ในด้านของพลังแล้ว คูฟา เทียบกับกัปตันไม่ได้ แม้ว่า คูฟา จะต้องการเอาเปรียบแต่เธอก็ไม่ได้มีความสามารถเช่นนั้น
ทันใดนั้นนักรบในทีมกัปตันก็ตะโกนขึ้นมา
“ทางช้างเผือก! เจ้าคิดจะเป็นศัตรูกับกัปตันรึไง?”
“ทางช้างเผือก!”
กัปตันยังคงเงียบแต่สายตาสีเทาของเขาภายใตเขาโค้งได้จ้องมาที่ หลัวเฟิง
“เป็นศัตรูกับกัปตัน?” หลัวเฟิง มองไปที่กัปตันและแค่นเสียงออกมาเบาๆ “เขาคู่ควรด้วยรึ?”
นักรบต่างก็มองมาที่เขา ขณะเดียวกันสีหน้าของกัปตันก็เปลี่ยนไปเป็นไม่พอใจอย่างมาก “ทางช้างเผือก!”
“ข้าไม่ได้มีเวลาสำหรับเรื่องไร้สาระ คูฟา วูฮี…ได้เวลาไปแล้ว” หลัวเฟิง ยิ้มและบอกกับทั้งคู่ จากนั้นเขาก็บินไปยังรูหนอนที่อยู่ไม่ห่างออกไป
คูฟา และนักรบของเธอยังคงรู้สึกไม่พอใจต่อ หลัวเฟิง ที่ปฏิเสธข้อเสนอของพวกเขา แต่พวกเขาก็รู้ตัวว่าแม้แต่กัปตัน และทีมเองก็หมดหนทางที่จะต่อต้าน หลัวเฟิง ยิ่งกว่านั้น คูฟา และนักรบของเธอก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ เธอกับคนของเธอไม่ได้มีความบาดหมางใดๆ ต่อกัน ดังนั้นศัตรูของศัตรูจึงถือว่าเป็นมิตร
“ไปกันได้แล้ว!”
“ไปกันเถอะ!”
คูฟา, วูฮี และทีมนักรบต่างก็บินตรงเข้าไปในรูหนอน
สีหน้าของกัปตัน และนักรบหม่นลง พวกนักรบต่างก็หันไปมองที่กัปตันกันทีละคนๆ
“กัปตัน เราจะปล่อย ทางช้างเผือก ไปแบบนี้น่ะรึ?”
“กัปตัน ถ้าเราปล่อยเขาไปแบบนี้ เขาก็ยังหาทางที่จะเอาเปรียบท่านได้อยู่ ฝั่งเรายังมีนักรบไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ กลับกันแล้ว คูฟา กับทีมมีคนมากกว่า ถ้า ทางช้างเผือก ตัดสินใจที่จะสร้างปัญหา…กัปตัน ท่านอาจจะเสียชื่อเสียง เราไม่อาจจะปล่อยให้เขาทำตัวตามใจได้อีกต่อไป”
“กัปตัน…”
กัปตันตอบกลับด้วยท่าทีเช่นเดิม “ตอนนี้เราจะไม่ไปยุ่งกับเขา”
ซู่!
พวกนั้นต่างก็พากันบินเข้าไปในรูหนอนโดยมีกัปตันนำหน้า คนอื่นๆ ต่างก็มองหน้ากัน ทำไมกัปตันของพวกเขาที่มักจะภูมิใจในตัวเองกลับดูสุภาพต่อ ทางช้างเผือก?
รึว่าเขากลัว ทางช้างเผือก?
พวกนักรบเก่าๆ เริ่มมีความคิดเหล่านี้เข้ามาในหัวตอนที่บินเข้าไปในรูหนอน
***
ในเขตหนึ่งด้านนอกแคมป์ กองทัพตะวันออก รูหนอนจำนวนมากได้เปล่งแสงออกมา
ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง!
กลุ่มนักรบได้โผล่มาจากรูหนอน ทุกคนต่างก็พาพูดคุยกัน จากนั้นพวกเขาก็ได้ควบคุมเรือรบของตนแล้วเคลื่อนที่ออกจากที่นั่นไป
ไม่ไกลจากที่นั่นบนต้นไม้โบราณขนาดใหญ่มีนักรบคนหนึ่งในเกราะเทายืนมองที่กลุ่มรูหนอนอยู่
“มีคนมากมายที่จะไปทำภารกิจ” นักรบเกราะเทาพูดขึ้นมา เขาส่งข้อความเสียงออกไป “เจ้าว่าไงนะ? จับตาดูแบบนี้? เราจะจับตาดูนานแค่ไหนกัน?”
อีกจุดหนึ่งไม่ไกลนักมีนักรบคนหนึ่งยืนพิงต้นไม้ใหญ่มองออกไปด้วยท่าทีสบายใจ แต่อันที่จริงแล้วเขายังจับตาดูพื้นที่หนึ่งอยู่ “ตอนนี้ยุคก่อนเพิ่งจะจบลง”
เขาตอบกลับ “ยุคใหม่เพิ่งจะเริ่ม และกองทัพต่างก็ออกเดินทางเพื่อทำภารกิจ ตอนนี้คือช่วงเวลาที่วุ่นวาย…ถ้า หลัวเฟิง ต้องการจะออกเดินทาง ข้าคิดว่าเขาน่าจะออกมาในตอนนี้ บรรพบุรุษได้สั่งการให้เราทั้งสิบจับตาดูสถานการณ์ที่นี่เอาไว้ หลังจากที่อยู่มากว่าร้อยปี เราจะได้ทำภารกิจที่เราได้รับมอบหมายเอาไว้สักที”
ตอนนั้นมี เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด กว่าสิบคนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง และทุกคนต่างก็มารวมตัวในพื้นที่เดียวกันเพื่อจับตาดูพื้นที่ใกล้เคียง นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดตอนที่นักรบเดินทางออกมา โอกาสที่ หลัวเฟิง จะปรากฏตัวออกมาตอนนี้สูงที่สุดแล้ว พวกเขาจะประมาทได้ยังไง?
แม้ว่าจะต้องเลื่อนเวลาการทำภารกิจออกไป แต่พวกเขาก็ต้องจับตาดูสถานการณ์ต่อ
“ดูนั่น มันคือหน่วยดินเหลืองโลหิต”
“จับตาดูไว้ มันเป็นหน่วยพิเศษ มันมีโอกาสสูงที่ หลัวเฟิง จะปรากฏตัวในหน่วยพิเศษ”
ในบรรดานักรบที่ปรากฏตัวขึ้นมา บางครั้งนักรบจากหน่วยพิเศษก็จะปรากฏตัวขึ้นมาด้วย เมื่อเวลาผ่านไปกลุ่มนักรบจากหน่วยพิเศษมักจะปรากฏตัวขึ้นมาให้เห็น
ฮ่ง!
อยู่ๆ ก็มีกลุ่มหนึ่งบินออกกมาจากทางออกรูหนอนแห่งหนึ่ง
“มันคือหน่วยงูหลามแม่น้ำ ซึ่งเป็นหน่วยพิเศษ จับตาดูไว้ดีๆ” เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ทั้งสิบจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงต่างก็จับตาดูรอบๆ ตอนนี้มีหกคนที่มองไปยังรูหนอนแห่งนั้น ที่พวกเขาเห็นคือกลุ่มคนที่บินออกมาจากรูหนอน ทุกคนต่างใส่เกราะงูหลามแม่น้ำ และตัดสินจากเกราะเพียงอย่างเดียวก็ง่ายที่จะบอกถึงตำแหน่งได้!
เพราะพวกเขาเป็น เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงที่ได้เข้ามาในโลกแห่งจินโดยเป็นกลุ่มแรกของผู้ที่เข้ามา พวกเขาจึงได้รับข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยพิเศษภายในกองทัพตะวันออก
“ทางช้างเผือก งั้นเราจะแยกจากกันตรงนี้”
“ทางช้างเผือก ถ้าเจ้าไม่ไปทำภารกิจกับเราแล้วเจ้าไปไหนกัน?”
วูฮี และ คูฟา ถามออกมา
หลัวเฟิง ยิ้มและตอบกลับ “ข้ามีเรื่องสำคัญต้องไปดู”
เพราะนี่เป็นแค่บทสนทนาที่เรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็น หลัวเฟิง, วูฮี หรือ คูฟา ทุกคนต่างก็พูดด้วยท่าทีปกติโดยไม่ได้ส่งเสียงผ่านจิต
เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ทั้งหกที่จับตาดูอยู่นั้นแม้ว่าจะมองไปที่ หลัวเฟิง อยู่ แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่านั่นคือเป้าหมายของพวกเขา ตั้งแต่ที่เข้าร่วมกองทัพมา ลักษณะภายนอกของ หลัวเฟิง ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย ท่าทีเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย มันดูหยาบขึ้น ยิ่งกว่านั้นเขายังใส่เกราะงูหลามแม่น้ำ และมีหมวกที่หัว มันเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงจำหลัวเฟิง ไม่ได้ในตอนแรก
แม้ว่าจะอยู่ห่างออกมา และไม่ได้ยินเนื้อหาที่พวกเขาพูดคุยกันได้ดีนักแต่ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ทั้งหกก็แค่ต้องอ่านปากก่อนจะรู้ถึงเนื้อหาที่พูดคุยกัน
“ทางช้างเผือก?”
ชื่อนี้ทำให้พวกเขาหูผึ่งกันทันที
“เป้าหมายปรากฏตัวในร่างมนุษย์! เป็นไปได้ว่ามันจะคือ หลัวเฟิง”
“จับตาดูเขาเอาไว้”
“ข้าจะไปยืนยันเดี๋ยวนี้”
จาก เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ทั้งสิบคนที่ยืนอยู่ห่างออกมา มีคนหนึ่งได้แยกตัวออก ไม่นานเขาก็กลายเป็นเหมือนนักรบทั่วไปในเกราะเงิน และบินยังไปเขตรูหนอนที่มีนักรบมากมายมารวมตัวกันอยู่
ซู่!
มันมีนักรบมากมายรอบตัว หลัวเฟิง และทำไมเขาต้องมาสนใจนักรบคนอื่นด้วย?
นักรบคนนั้นได้บินผ่าน หลัวเฟิง ไปอย่างรวดเร็ว
“หือ?” หลัวเฟิง คิ้วขมวดแล้วหันกลับทันที
ออร่านั่น….มันเป็นออร่าที่เขารู้จัก มันมีแค่เพียงไม่กี่พวกในหมู่สิ่งมีชีวิตมากมายจากทะเลจักรวาลในโลกแห่งจิน ตอนนั้นแค่เพียงหยุดวัตถุขนาดใหญ่ก็ยังมี เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด หลายพันคนมารวมตัวกัน เป็นธรรมดาที่ หลัวเฟิง จะได้พบกับ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด มากมาย และออร่าเมื่อเมื่อกี้ก็เป็นของหนึ่งในพวก เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ที่เขาเคยรู้จักมาในตอนนั้น
ออร่าที่ข้าตรวจจับได้ต้องมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง หรือว่ามันบังเอิญกับการได้พบกับพวกนั้นที่นี่?
หลัวเฟิง เริ่มสงสัย
ดูเหมือนว่าเขาจะพบข้าแล้ว แม้ว่าเขาจะพบตัวข้าแต่เขาจะทำอะไรได้…? ที่นี่นั้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงไม่มีสิทธิ์ใดๆ ทั้งนั้น
หลัวเฟิง ไม่เคยยกย่องดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง บวกกับกฎของโลกแห่งจินที่ตัดสินโดยกองทัพ ที่นี่ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงไม่ได้มีค่าใดๆ เลย
“ข้าขอตัว!”
หลัวเฟิง ควบคุมเรือบรบ และพุ่งออกไปยังมิติด้านนอกด้วยความเร็วสูง
***
นักรบในเกราะเงินที่บินผ่าน หลัวเฟิง ไปเมื่อกี้ยืนยันได้ในเสี้ยววินาที “นั่นคือออร่าของ หลัวเฟิง มันคือออร่าของเขา นักรบคนเมื่อกี้จากหน่วยงูหลามแม่น้ำ คือ หลัวเฟิง ข้ามั่นใจในเรื่องนี้ มันคือ หลัวเฟิง!”
“ยืนยันข้อมูล กลับไปรายงานเรื่องนี้ให้กับบรรพบุรุษทันที!”
พวก เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงต่างก็พากันตื่นเต้น พวกเขาได้ส่งข่าวนี้กลับไปให้กับ บรรพบุรุษจันทราม่วง ทันที
***
ที่ทะเลจักรวาลในดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง
ภายในห้องโถงมีร่างสีม่วงยืนอยู่บนแท่นสูง ด้านล่างนั้นมี เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด 10 คนคุกเข่าอยู่
“เจ้ามั่นใจรึว่านั่นคือ หลัวเฟิง?” ร่างสีม่วงถามขึ้นมา
หนึ่งในนั้นได้ตอบกลับ “ใช่ มันคือ หลัวเฟิง ชื่อในโลกแห่งจินของเขาคือ ทางช้างเผือก! และข้าเพิ่งบินผ่านเขาไป และรู้สึกได้ถึงออร่าของเขา มันคือร่างอมตะของร่างหลักของ หลัวเฟิง”
“ดีมาก” บรรพบุรุษจันทราม่วง พยักหน้า “เพราะเรายืนยันได้ว่าเขาคือนักรบของหน่วยงูหลามแม่น้ำ ต้องมีคนไปจับตาดูเขาไว้ ดูว่าเขาอยู่ทีมไหนในหน่วยงูหลามแม่น้ำ? เราต้องรู้ให้ชัดในเรื่องนี้”
“เข้าใจแล้ว!”
ทุกคนต่างก็ตอบกลับเป็นเสียงเดียวกัน นี่มันง่ายดายอย่างมากเพราะมันมีนักรบอยู่มากจากหน่วยงูหลามแม่น้ำ ตราบใดที่รู้ชื่อและบอกลักษณะภายนอกไป…แน่นอนว่ามันง่ายที่จะตรวจสอบ
“หลังจากที่ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว มันก็ไม่ต้องเร่งรีบลงมือ” บรรพบุรุษจันทราม่วง สั่งการ “ตอนที่เราได้คำตอบชัดเจนแล้วก็แค่รอให้ หลัวเฟิง กลับไปที่แคมป์ ตอนที่เขากลับไป…เจ้าก็เริ่มทำการฆ่าได้! ถ้าเจ้าเร่งรีบโจมตี และพันธมิตรหงรู้เรื่องนี้เข้าก่อน พวกนั้นอาจจะบอกกับ หลัวเฟิง เขาอาจจะหนีไปก่อนที่เราจะได้ทำอะไร มันไม่ดีแน่ รอจนกว่าเขาจะกลับไปที่แคมป์ รอจนกว่าเขาจะเข้ามาในกับดักของเรา จากนั้นมันก็ไม่มีทางที่เขาแม้แต่จะคิดที่จะหนี!”
“เข้าใจแล้ว!” นักรบทั้งสิบต่างก็ตอบกลับเป็นเสียงเดียวกัน