ตอนที่ 1374 : นักรบที่แข็งแกร่งที่สุด
หลัวเฟิง และนักรบคนอื่นๆ จากสี่กองทัพได้มองหน้ากัน จากนั้นพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นลำแสงพุ่งเข้าไปยังประตูหอคอย ไม่มีสักคนที่กล้าทำการเทเลพอร์ท ยังไงซะภารกิจนี้ก็อยู่ระดับน่ากลัวที่ทุกคนเข้าใจเป็นอย่างดี
ในหอคอยวูฉี โลกของชั้นแรกเป็นทะเลทรายที่กว้างใหญ่ซึ่งมีลมเย็นพัดผ่าน มันแห้งแล้งและหนาวเย็น ไกลออกไปคือประตูมิติที่ดูหรูหรา
ซู่! ซู่! ซู่!
ทั้งสิบบินผ่านประตูมิติและเข้าไปสำรวจรอบๆ หลังจากนั้นพวกเขาก็ลงไปยืนที่พื้นกันทีละคนๆ
“ชั้นแรกของหอคอยวูฉี?” หลัวเฟิง มองไปรอบๆ เห็นได้เพียงแต่ทะเลทรายที่กว้างใหญ่ มันไม่มีจุดสิ้นสุดให้เห็น แม้แต่ประตูมิติที่อยู่ไกลออกไปก็ยังหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ซูซ่ง ที่อยู่ข้างๆ หลัวเฟิง ได้ส่งข้อความเสียงมา “หอคอยวูฉีแห่งนี้อันตรายหาที่เปรียบไม่ได้ ทางช้างเผือก เจ้าคิดยังไง? มันจะมีอันตรายซ่อนตัวอยู่ที่ไหน? เป็นไปได้ไหมว่าอยู่ภายใต้ทะเลทรายไม่รู้จบนี่?”
หลัวเฟิง ส่ายหน้า “ข้าเองก็ไม่รู้”
นักรบ 10 คน มี 6 คนที่เป็นนักรบเผ่า และ 4 นักรบสัตว์อสูร ทุกคนต่างก็ระวังตัวกันอย่างมาก
จากสิบคนนี้มีเพียงแค่ 2 คนที่มาจากกองทัพตะวันออก หลัวเฟิง กับ ซูซ่ง ทั้งสองจึงอยู่ใกล้กันมากกว่าเดิมเผื่อว่าจะเจออันตราย พวกเขาจะได้พึ่งพากันในการรับมือได้
ฮ่ง!
ความเงียบสงบของทะเลทรายถูกรบกวนด้วยเสียงสั่นดังที่ดังขึ้นมา แรงกระแทกจากคลื่นพลังงานได้แผ่ออกไปทั่วทุกทิศทาง ทันใดนั้นมันก็กวาดออกไปทั่วเขตแห่งนี้
หลัวเฟิง และคนอื่นๆ รู้สึกได้ถึงคลื่นสั่น และหันกลับไปมอง ไกลออกไปในท้องฟ้าเหนือทะเลทรายมีลำแสงที่พุ่งลงมาด้านล่างรวดเร็วดั่งสายฟ้า ไม่กี่วินาทีลำแสงนั้นก็ได้ก่อตัวเชื่อมต่อกับทะเลทรายและท้องฟ้าด้านบน
“นั่นอะไรกัน?”
“ดูเหมือนว่าจะมีพลังอันแข็งแกร่งอย่างมาก”
นักรบทั้งหมดต่างก็สงสัย
ตอนนั้นที่ผิวของลำแสงสีฟ้าที่เชื่อมต่อทะเลทรายกับท้องฟ้า มีตัวหนังสือสีดำ ได้ปรากฏขึ้นมา ทุกตัวได้แผ่รังสีอาฆาตออกมาซึ่งได้พุ่งเสียดแทงเข้าไปในความคิดของทุกคน มันทรงพลังจนแม้แต่พลังจิตของ หลัวเฟิง ก็ยังต้องสั่นไหว ตาทั้งสองข้างของเขาแดงขึ้นมาเล็กน้อย และในใจเขานั้นก็มีเสียงคำรามกึกก้องที่ไม่อาจควบคุมได้
ตัวหนังสือสีดำ ค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาทีละตัวๆ
‘นี่คือทางเดินที่เชื่อมต่อชั้นแรกกับชั้นสองของหอคอยนี้ พวกที่เข้าไปในทางเดินนี้ได้จะสามารถขึ้นไปที่ชั้นสองของหอคอยได้
เจ้าต้องฆ่านักรบคนหนึ่งก่อนจะขึ้นไปยังทางเดินนี้ได้ ถ้าเจ้าไม่ฆ่านักรบอีกคน เจ้าไม่มีทางที่จะออกจากที่นี่ได้ไปชั่วนิรันดร์…ก่อนที่ประตูจะเปิดออกอีกครั้งสำหรับนักรบกลุ่มใหม่ นักรบที่ยังไม่ได้ขึ้นไปที่ชั้นสองจะถูกกำจัด พวกคนที่ซ่อนอยู่ในเรือรบเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้จะถือว่าเป็นพวกล้มเหลว สำหรับพวกเขาแล้วพวกเขาก็จะโดนกำจัดด้วยเช่นกัน!’
ตัวหนังสือสีดำ ได้ลอยอยู่ในอากาศแผ่พลังอันล้นหลามออกมา เนื้อหาอันโหดร้ายที่อยู่ในตัวหนังสือเหล่านั้นเพียงพอที่จะกดดันนักรบทุกคนได้
พลังที่แข็งแกร่ง!
ถ้ามันบอกให้ฆ่านักรบบางคน พวกเขาก็ต้องทำตาม ไม่มีใครกล้าเล่นตุกติกในหอคอยวูฉี นักรบทั้งสิบรวมถึง หลัวเฟิง ต้องทำตามคำสั่งนี้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม….
“เราต้องฆ่านักรบคนหนึ่งเพื่อจะขึ้นไปยังทางเดินที่นำไปสู่ชั้นสองงั้นรึ?” หลัวเฟิงช็อก “มันหมายความว่าจาก 10 คนจะมีอย่างน้อย 5 คนที่ต้องตาย!”
ทันใดนั้น หลัวเฟิง ก็เข้าใจว่าทำไมสัตว์อสูรเขาเดียวด้านนอกถึงได้บอกว่านักรบกว่าครึ่งของกลุ่มสามได้ตายไป
“ฆ่าหนึ่งคน? แต่เราต้องเลือกใคร?”
ตาของ หลัวเฟิง กวาดมองไปรอบๆ
ทั้ง 10 คนได้เข้ามาด้วยกัน พวกเขาต่างก็อยู่ใกล้กัน ทุกคนได้มองไปรอบๆ ด้วยความระวังตัว พวกเขาต่างก็คิดว่าควรเลือกใครเป็นคู่ต่อสู้เพราะนักรบทุกคนที่กล้ามาทำภารกิจนี้ต่างก็โดดเด่น ถ้าพวกเขาเลือกคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าตัวเอง พวกเขาก็จะตายเองแทน
ฮัวะ!
ทันใดนั้นมิติรอบข้างก็ถูกแช่แข็ง ดูเหมือนว่าเป็นฝีมือของนักรบหลายคน
ฮ่ง!
จากเสียงตะโกนอันคลุ้มคลั่ง นักรบคนหนึ่งได้ลงมือซึ่งทำให้สถานการณ์ที่ควบคุมได้ก่อนหน้านี้ปั่นป่วนขึ้นมา
ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง!
นักรบพากันลงมือกันทีละคนๆ พวกเขาต่างก็พุ่งเข้าหาเป้าหมายของตัวเอง
“กรร!” สัตว์อสูรปีกใหญ่ได้ร้องคำรามออกมาแล้วพุ่งเข้าหา หลัวเฟิง
“จงพบกับจุดจบของเจ้า!” นักรบตัวกำยำถือค้อนใหญ่ ค้อนนั้นมีสายฟ้าล้อมรอบ และพลังของมันก็ทำให้ หลัวเฟิง สรุปได้ว่าค้อนนั้นต้องเป็นสมบัติประเภทเครื่องจักร
ฮู่!
ลำแสงสีดำ ยิงตรงเข้าใส่หัว หลัวเฟิง
นักรบสามคนได้เข้าโจมตี หลัวเฟิง พร้อมกัน!
ไม่คาดคิดว่าทั้งสามจะเลือกเขา!
หลัวเฟิง ได้แต่หัวเราะ ดูเหมือนว่าจะยอมรับความจริงที่ว่าเขาเป็นคนมาใหม่ ตอนพวกเขาอยู่ด้านนอกหอคอย มันก็ได้สร้างปัญหาให้กับเขาแล้ว เขาเคยได้ยินคำพูดที่บอกว่าความเด็ดขาดมาจากทักษะที่สูงส่ง และมันก็ชัดแล้วว่าหมายถึงอะไร เขารู้ว่าเขามีทักษะที่ทำให้เขาจัดการกับสิ่งที่เรียกว่านักรบขั้นสูงได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม หลัวเฟิง จึงกล้าที่จะพูดเรื่องแบบนั้นออกมา
ซู่!
หลัวเฟิง ถอยกลับอย่างรวดเร็ว
ฮ่ง!
เกล็ดน้ำแข็งนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมารอบๆ นี่เป็นหนึ่งในสมบัติแท้จริงประเภทขอบเขตที่เขาได้แลกเปลี่ยนมาก่อนหน้านี้ และตอนนี้เขากำลังใช้มันเพื่อจัดการกับนักรบทั้งสามที่โจมตีเขา
ตอนที่นักรบทั้งสามติดอยู่กับการโจมตีด้วยน้ำแข็ง เขาก็รู้ทันทีว่าพวกนี้เป็นใครกัน คนแรกคือสัตว์อสูร คนที่สองคือชายกำยำ และคนที่สามไม่คาดคิดว่าจะเป็นคนที่มาจากกองทัพตะวันออกเหมือนกัน มันไม่ใช่ใครอื่น ซูซ่ง นั่นเอง
“ซูซ่ง!” หลัวเฟิง ตะโกนออกมาด้วยความโกรธผ่านการส่งเสียง “เจ้ากับข้ามาจากกองทัพตะวันออกเหมือนกัน นี่เป็นเพียงชั้นแรกของหอคอยแต่เจ้ากลับลงมือกับข้างั้นรึ?”
“เจ้าเป็นคนมาใหม่!” ซูซ่ง ตะโกนขึ้นมาอย่างเย็นชา “ถ้าข้าไม่ฆ่าเจ้า งั้นข้าควรจะฆ่าใคร!”
ฮ่ง!
ชั้นแสงสีม่วงล้อมรอบตัว ซูซ่ง ต้านทานเกล็ดน้ำแข็งที่ หลัวเฟิง ใช้จำกัดตัวเขา ชัดแล้วว่า ซูซ่ง มีสมบัติแท้จริงประเภทขอบเขต
“ฮ่า ฮ่า…!” หลัวเฟิง หัวเราะออกมา เขาเกลียดนักรบอย่าง ซูซ่ง มากที่สุด เขาคำรามออกมาแล้วลงมือ เขาเปลี่ยนเป็นลำแสงหลบนักรบกำยำ และพุ่งเข้าหา ซูซ่ง การหลบนี้ตามด้วยการพุ่งเข้าชน ง่ายดายจริงๆ!
แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ใบหน้าของนักรบทั้งสามที่ล้อม หลัวเฟิง อยู่ การเคลื่อนไหวนี้ไม่ใช่แค่ทำให้ หลัวเฟิง หลบนักรบกำยำได้แต่ยังกระแทกสัตว์อสูรออกจากตัว นักรบที่อ่อนแออาจจะไม่เห็นในจุดนี้ แต่พวกนี้ต่างก็เป็นพวกระดับสูง แค่เพียงมองก็เห็นได้ว่าการเคลื่อนไหวของ หลัวเฟิง น่ากลัวเพียงใด
“ไม่ดีแล้ว!” ซูซ่ง ร้องออกมา
ฮัวะ
ชั้นแสงสีขาวได้โผล่มาจากตัวเขาอย่างรวดเร็วจนเขากลายเป็นสัตว์อสูรบินได้ตัวสีขาว สัตว์อสูรได้สลัดปีกแล้วทะยานขึ้นบนฟ้าเป็นเส้นตรงเพื่อหนีออกไป มันทำให้สีหน้า หลัวเฟิง เปลี่ยนไปเล็กน้อย “สมบัติแท้จริงประเภทเครื่องจักร ปีกอสูร!”
ปีกอสูร เป็นสมบัติแท้จริงประเภทเครื่องจักรที่กองทัพตะวันออกเป็นเจ้าของ มันเด่นเรื่องการหนี ถึงจะใช้ได้ไม่กี่ด้านอย่างการหลบ มันรวดเร็วหากทำการหนีเป็นเส้นตรง!
เพื่อรับมันมาต้องใช้คะแนนกองทัพ 600,000 คะแนน!
มันแพงกว่า กรงเล็บสีทอง ที่ หลัวเฟิง ใช้อยู่ ในประเภทการหลบหนีแล้ว มันถือว่าน่าประทับใจ
แค่เพียงมองดูการเคลื่อนไหวของ หลัวเฟิง ซูซ่ง ก็รู้ว่าชนกำแพงเข้าแล้ว ด้วยเทคนิคการต่อสู้ระยะใกล้ หลัวเฟิง โจมตีเขาได้สิบครั้ง ส่วนเขาโจมตีได้อย่างมากก็แค่ครั้งเดียว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่นาน หลัวเฟิง ก็จะจัดการเขาได้ เมื่อเห็นเงื่อนไขที่เขาต้องเสียเปรียบ ซูซ่ง ก็ได้เอา ปีกอสูร ออกมาทันทีเพื่อทำการหนี!
“เจ้าโชคดีที่เร็วพอ!” หลัวเฟิง ฮึดฮัดออกมาและไม่ได้กังวลเรื่อง ซูซ่ง อีก ชัดแล้วว่าเขารู้ว่าหากมีสมบัติแท้จริงแบบนั้นอยู่ มันก็ยากที่เขาจะฆ่า ซูซ่ง ได้
***
ไกลออกไป ปีกอสูร ได้กางปีกของมันและมองมาทาง หลัวเฟิง
“มาใหม่? เขาแข็งแกร่งกว่าพวกที่อยู่รอดมาอีก!” ซูซ่ง แสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา “เขาโกหกรึเปล่า? ไม่น่าจะเป็นไปได้ ข้ารู้จักนักรบทุกคนจากหน่วยงูหลามแม่น้ำที่มีทักษะน่าประทับใจ ข้าไม่รู้จักเขา ดังนั้นเขาจึงไม่น่าจะโกหก เขาต้องเป็นคนมาใหม่ แต่สำหรับพวกคนมาใหม่ที่น่าประทับใจเช่นนี้…ข้าตกอยู่ในปัญหาแล้ว แม้ว่าข้าจะรอดจากชั้นแรกไปได้แต่ข้าก็ยังต้องไปที่ชั้นสอง จากนั้นก็ชั้นสามอีก”
ซูซ่ง รู้สึกเสียดายขึ้นมา เขามองการณ์ได้แย่จริงๆ เลือกเพียงครั้งเดียวก็ทำให้เขาได้พบกับโชคร้าย เขากลับเล็งเป้าหมายไปยังนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มนี้
****
ซู่! ซู่!
ซูซ่ง รีบหนี ส่วนนักรบอีกสองคนที่เห็นว่าเสียเปรียบก็เริ่มที่จะหนีเช่นกัน นักรบกำยำเริ่มตัวสั่นไหว ไม่คาดคิดว่าจะมีปีกสีดำโผล่มาที่หลังเขา จากนั้นเขาก็รีบบินหนีไป นักรบสัตว์อสูรนั้นกลับกันที่ทำได้แต่หนีช้าๆ หรืออย่างน้อยก็ช้าหากเทียบกับความเร็วของ ซูซ่ง และชายกำยำ
“ความผิดใครที่เจ้าช้าเกินไป?” หลัวเฟิง ตะโกนออกมาและพุ่งเข้าหา
ฮ่ง!
ตอนที่ หลัวเฟิง ไล่ตาม ตัวของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป ในพริบตาเขาก็เปลี่ยนเป็นสัตว์อสูรรูปร่างมนุษย์ มือและขาได้เปลี่ยนเป็นกรงเล็บสีทอง สมบัติประเภทเครื่องจักร…กรงเล็บสีทอง!
ติดไฟ!
พลังอมตะของเขาลุกไหม้ขึ้นมาในขั้นแรก!
ทันใดนั้นพลังอมตะก็ได้เสียดแทงไปยังกรงเล็บ และแล่นไปถึงแก่นของมันก่อนที่จะทำให้มันเปลี่ยนไป กรงเล็บสีทองได้แผ่ออร่าอันดุดันและป่าเถื่อนออกมา
****
“ไม่!”
สัตว์อสูรหันกลับมามองและต้องอึ้งทันที กรงเล็บนี้อยู่ใกล้ตัวมันและกำลังพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว!
“เขาเร็วแบบนี้ได้ยังไง?”
สัตว์อสูรตกที่นั่งลำบาก ตอนแรกทำไมเขาถึงไม่ใช่คะแนนในการแลกของที่ช่วยให้เขาหนีได้?
เขากล้าจะมาที่นี่เพราะเขามีสมบัติประเภทเครื่องจักรแต่มันเป็นของที่ใช้ไว้โจมตี ในด้านของการโจมตีแล้วเขาไม่กลัวนักรบคนอื่นแต่เมื่อเห็น หลัวเฟิง สามารถหลบการโจมตีได้ เขาก็รู้ว่าเขาต้องล้มเหลวหากยังสู้กับ หลัวเฟิง ต่อไป เขาต้องหนี!
แต่เขาก็ไม่อาจจะหนีได้!
ฮ่ง!
หลัวเฟิง พุ่งเข้าหาสัตว์อสูรด้วยความเร็วจนเกิดเสียงหวีดหวิวขึ้นมา ด้วยขาสองข้างที่เหมือนกับใบมีดขนาดใหญ่นั้น หลัวเฟิง ได้เฉือนผ่านอากาศ!
ด้วยขาทั้งสองข้างเขาได้ใช้เทคนิคดาบของตัวเอง แสงของน้ำและไฟ แม้ว่าเขาจะใช้มันได้เพียงขั้นแรกของการกำจัด แต่ระดับเทคนิคลับของเขาชัดแล้วว่าสูงกว่าศัตรู ส่วนพลังอมตะของเขานั้นดูน้อยนิดหากเทียบกับอีกฝ่าย แต่ความสามารถในการหลบของเขาน่าประทับใจ
การได้ประมือกับ หลัวเฟิง ทำให้สัตว์อสูรรู้ว่าเขาต้องพินาศ มันไม่มีทางหนีเลยแม้แต่น้อย เขาถูก หลัวเฟิง ที่หลบการโจมตีมันได้อย่างง่ายดายเข้าโจมตี เขาพยายามจะป้องกันซึ่งทำให้พลังของเขาลดลงไปอย่างมากแต่เมื่อ หลัวเฟิง โจมตี ตอนนี้สัตว์อสูรก็รู้ว่าเขาอาจจะกันการโจมตีของ หลัวเฟิง ทั้งหมดไม่ได้
ฮัวะ!
กรงเล็บสีทองนี้ราวกับดาบ พวกมันมันได้เฉือนไปที่หัวของสัตว์อสูรจนทำให้สัตว์อสูรพุ่งชนไปกับพื้น
ฮัวะ! ฮัวะ!
ขาที่เหมือนกับดาบของ หลัวเฟิง และแรงที่เพิ่มขึ้นนี้จึงทำให้เขาลอกเกล็ดของสัตว์อสูรออกทีละอันๆ