ตอนที่ 1375 : ตื่นตัว
หลัวเฟิง ใส่กรงเล็บสีทอง และพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นมา ตอนนี้เขาเหนือกว่าสัตว์อสูรตรงหน้า เทคนิคของสัตว์อสูรอยู่ที่ขั้น 6 มันน่าประทับใจสำหรับ เจ้าแห่งกฏ ที่สร้างเทคนิคขั้น 6 ขึ้นมาได้ บวกกับเขารู้ขั้นแรกของเทคนิคเผาพลังอมตะ เขาสามารถใช้พลังขั้น 7 ได้!
นอกจากนี้แล้วสมบัติเครื่องจักรก็ยังเป็นกรงเล็บ และมันก็โดดเด่นด้านการโจมตี!
มันพัฒนาพลังของการโจมตีขึ้นถึง 3 ขั้น!
ซึ่งหมายความว่ามันจะมีพลังถึงขั้น 10!
แต่มันไม่ได้พัฒนาเรื่องการป้องกันและการหลบหลีก มันหมายความว่าสัตว์อสูรนี้ไม่อาจจะโจมตี หลัวเฟิง ได้ ส่วน หลัวเฟิง นั้นโจมตีอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะโจมตี หลัวเฟิง ถูก แต่ หลัวเฟิง ก็มีการป้องกันของตัวเอง และกรงเล็บที่คอยปกป้องเขา ผลก็คือเขาไม่ได้บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย แต่ถ้าสัตว์อสูรโดนโจมตี มันก็จะเสียพลังอมตะไปอย่างมาก มันไม่ใช่การต่อสู้ที่เท่าเทียม!
นักรบคนอื่นต่างก็พากันช็อกเมื่อเห็นแบบนั้น พวกเขาต่างก็เป็น เจ้าแห่งกฏ ที่แข็งแกร่งซึ่งมีขีดจำกัด การทะลวงผ่าน และแข็งแกร่งขึ้นมานั้นเป็นเรื่องที่ยากอย่างมาก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงไม่ได้มีช่องว่างด้านพลังในหมู่ เจ้าแห่งกฏ แต่ หลัวเฟิง
นั้น….
“เหลือเชื่อ เทคนิคร่างของนักรบ ทางช้างเผือก เหลือเชื่อจริงๆ สมบัติเครื่องจักรของเขาไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนักแต่มันช่วยเขาได้อย่างมาก เมื่อโจมตีออกก็สามารถบดขยี้อีกฝ่ายได้”
“เทคนิคกรงเล็บเองก็น่าประทับใจ กรงเล็บสีทอง ไม่ได้เด่นเรื่องการโจมตี แต่เขายกระดับพลังด้วยเทคนิคกรงเล็บของเขา”
นักรบต่างก็พากันเห็นจุดนี้ตอนที่ดูการต่อสู้ พวกเขาเข้าใจว่าพวกเขาต้องฆ่ากันเองเพราะต้องทำแบบนั้นเพื่อขึ้นไปยังชั้นสอง อีกอย่างแล้วพวกเขาต้องสู้กันเองเพื่อผลประโยชน์อย่างอื่น พวกเขาต้องเข้าใจถึงพลังของนักรบคนอื่นๆ
นักรบทั้งหมดได้ตัดสินใจ “เราอย่าไปยุ่งกับ ทางช้างเผือก เราต้องอยู่ห่างเขามากที่สุด!”
“ข้าจะไม่ไปยุ่งกับเขาหากรู้ว่าเขาแข็งแกร่งเช่นนั้น” ซูซ่ง พูดขึ้นด้วยความรู้สึกผิด “ถ้าข้าเป็นเพื่อนกับเขา ข้าก็จะได้รับความช่วยเหลืออย่างมากระหว่างการเดินทางในหอคอยวูฉี งั้นทุกอย่างก็คงง่ายดายกว่าเดิม”
***
ฮัวะ!
กรงเล็บขวางอเล็กน้อย กรงเล็บนั้นราวกับใบมีด กรงเล็บได้ฟันเข้าที่หลังของสัตว์อสูรและทำให้สัตว์อสูรกลิ้งออกไป ร่างเทพของสัตว์อสูรอ่อนแอลงจากการโจมตีอย่างต่อเนื่อง กรงเล็บสีทองนั้นราวกับคลื่นที่สั่นไหวฟันเข้าใส่สัตว์อสูรอย่างต่อเนื่อง สัตว์อสูรเสียร่างเทพไปจำนวนมาก และพลังของมันก็ลดลงถึง 80% เป็นธรรมดาที่มันจะต้องตาย
“ทางช้างเผือก ไว้ชีวิตข้าด้วย!” สัตว์อสูรเริ่มกังวลและร้องขอชีวิต
หลัวเฟิง ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย
“ข้า…ข้ายอมยกสมบัติทั้งหมดของข้าให้!” สัตว์อสูรพูดขึ้นมา มันกลัว และไม่ต้องการที่จะตาย
“ข้าก็ยังได้สมบัติหากข้าฆ่าเจ้า” หลัวเฟิง พูดด้วยการส่งข้อความเสียง “นอกจากนี้เจ้าก็เลือกจะเข้ามาในหอคอยวูฉีด้วยตัวเอง เจ้าก็น่าจะเตรียมตัวตายไว้แล้ว เจ้าอ่อนแอลงเยอะแล้ว แม้ว่าข้าจะไว้ชีวิตเจ้าแล้วชั้นต่อไปล่ะ? เจ้าคิดว่าเจ้าจะรอดรึไง? นอกจากนี้หากข้าไม่ฆ่าใคร ข้าก็ไม่อาจจะขึ้นไปที่ชั้นสองได้ งั้นข้าก็จะโดนฆ่าโดยหอคอยวูฉี ข้าไม่ต้องการตาย! บวกกับแม้ว่าเจ้าจะรอดไปได้แต่เจ้าก็ไม่อาจจะฆ่าใครได้ เจ้าก็จะตายทันที!”
สัตว์อสูรเข้าใจ แต่มันกำลังเผชิญหน้ากับความตาย และมันก็ไม่ต้องการตายแบบนี้ มันต้องการมีชีวิตให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้ สำหรับอันตรายในอนาคต?
มันไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย
“ข้าต้องฆ่าเจ้าเพื่อขึ้นไปชั้นสอง” หลัวเฟิง พูดขึ้น เสียงเขาดูเย็นชาและมั่นคง สัตว์อสูรตัวนี้โจมตีเขาก่อน ถ้าเขาแข็งแกร่งไม่พอ เขาก็จะโดนฆ่า
“ไม่!” สัตว์อสูรพูดออกมาด้วยความสิ้นหวัง
มันไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากมองดูตัวเองอ่อนแอลง แม้ว่ามันจะระเบิดตัวเอง แต่พลังของมันก็ไม่ถึงขั้น 10 ด้วยการโจมตีราวกับคลื่นนี้ยังไงสัตว์อสูรก็ถูกกำจัด!
“มันทิ้งสมบัติเอาไว้มากมาย” หลัวเฟิง พูดขึ้น
เขาสะบัดมือและเก็บสมบัติทั้งหมด มันมีกรงเล็บสีดำอยู่ในนั้นด้วย มันคือสมบัติเครื่องจักรที่สัตว์อสูรนี้เหลือไว้
“โลกแห่งจิน…” หลัวเฟิง พูดขึ้น
“มันมีเทคนิคโบราณที่สมบูรณ์ และมันคือสมบัติเครื่องจักร!” เขาอุทานออกมา “ถ้า เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด สามารถขึ้นไปถึงขั้น 10 ได้ด้วยเทคนิคเผาพลังอมตะ และสมบัติเครื่องจักร มันก็จะทรงพลังเท่ากับ อาจารย์ต้นกำเนิด ในทะเลจักรวาล”
สมบัติเครื่องจักรสามารถพัฒนาพลังของ เจ้าแห่งกฏ และสามารถทำให้เขาสู้กับเทพแท้จริงได้!
***
หลัวเฟิง เก็บเอาสมบัติและเขาก็เข้าใจว่าได้ฆ่าสัตว์อสูรไปเพราะเขาเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไวและหลบการโจมตีได้!
เขาได้เปรียบอย่างมากเมื่อเป็นเรื่องการหลบหลีก แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับเทพแท้จริงซึ่งได้พิสูจน์ตัวเองมาในบึงเก้าหมอกแล้ว
“มันดีกว่าฆ่านักรบขั้นสูงเมื่อเทียบกับฆ่าเทพแท้จริงสิบคน” หลัวเฟิง มองไปรอบๆ
ในทะเลทรายแห่งนั้นลมยังพัดอยู่ และมันมีการต่อสู้อยู่ในหลายทิศทาง บางครั้งนักรบจะมองมาที่ หลัวเฟิง
“พวกเขาห่างจากข้านัก” หลัวเฟิง อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า
เขาวางแผนจะฆ่านักรบอีกสัก 1-2 คนเพื่อเอาสมบัติ ยังไงซะเขาก็มีคนมากมายต้องดูแล…มนุษย์, ชาวโลก และแม้แต่ทาส พวกนั้นต่างก็ต้องการสมบัติ แต่นักรบเหล่านี้ถือว่าเขาเป็นภัยสูงสุด ดังนั้นพวกนั้นอาจจะหนีถ้าเขาเคลื่อนไหว
ข้าจะรอที่ชั้นต่อไป หลัวเฟิง คิด โดยทั่วไปแล้วมีแค่ 10% ที่สามารถรอดในหอคอยวูฉีไปได้ แต่ 50% ตายไปในชั้นแรกแล้ว!
ผู้ชนะจะได้สมบัติ ดังนั้นข้าจะฆ่าผู้ชนะและเอาสมบัติพวกนั้นมา
หลัวเฟิง มองไปรอบๆ และหยุดลังเลก่อนจะบินไปยังเสาแสง
ฮ่ง!
หลัวเฟิง บินไปยังเสาแสง และเสานั่นก็ไม่ได้หยุดเขา
ฮ่ง!
เขาเหมือนกับลำแสงสีทองภายใต้เส้นทางเสาแสงสีฟ้า เขาพุ่งขึ้นและหายตัวไป
เหล่านักรบต่างก็โล่งใจ
“ในที่สุดเขาก็ขึ้นไปชั้นสองแล้ว”
“ฟิ้ว! ในที่สุด”
“มันเป็นเรื่องดี”
ถ้า หลัวเฟิง มองดูพวกเขาต่อสู้ พวกเขาก็จะรู้สึกกังวล พวกเขาบอกได้ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับ หลัวเฟิง
“เราต่างก็เป็นพวกขั้นสูงในหน่วยพิเศษ ดังนั้นเขาไม่น่าจะแข็งแกร่งกว่าเรามากนัก ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งได้มากขนาดนี้? โดยเฉพาะเทคนิคต่อสู้ระยะใกล้ของเขา? มันเป็นไปได้ยังไง? แม้แต่เทพแท้จริงก็ยังไม่มีเทคนิคร่างกายแบบนั้น”
หลังจากที่ หลัวเฟิง ออกไป พวกเขาต่างก็หันกลับไปสู้กันเอง
หลัวเฟิง ได้ฆ่าสัตว์อสูรไปอย่างรวดเร็ว แต่ในทางกลับกันแล้วพวกที่เหลือต้องใช้เวลาอีกนานในการสู้กัน
****
หลัวเฟิง รู้สึกว่าเวลา และมิติบิดเบี้ยวไป แสงพร่ามัวก่อนที่เขาจะปรากฏตัวขึ้นมาในที่ใหม่จากเสาแสง
“หือ?”
หลัวเฟิง มองไปรอบๆ มันเป็นดินแดนสีแดงทึบ มันมีรอยแตกที่ทั่วพื้น และมีของเหลวสีแดงไหลอยู่ด้านล่าง บางครั้งก็ไหลออกมาจากรอยแตก ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆแดง
“นักรบ 5 คน?” หลัวเฟิง มองออกไป มันมีนักรบ 5 คน และทั้งห้าต่างก็พากันจับกลุ่มรวมกัน ปรากฏว่าพวกเขาต่างก็พากันตื่นตัว
“กลุ่มก่อน?” หลัวเฟิง คิด
“นักรบคนใหม่มาถึงแล้ว” ชายหนุ่มเกราะดำทึบหน้าตาหล่อเหลาพูดขึ้นมา เขายิ้ม เกราะของเขาเข้ากับสีของพื้นเป็นอย่างดี
“ทำไม? ทำไมเจ้าถึงได้รอด้วย?” หลัวเฟิง ถาม
ชายหนุ่มยิ้มกว้างกว่าเดิม แต่ตาของเขาได้แสดงท่าทีดุดันออกมา “ตอนที่เรามาถึงหอคอยวูฉีได้บอกเราว่าแต่ละรอบต้องใช้นักรบ 10 คน และตอนนี้ก็มีเพียง 5 คนจากที่รอดมา ดังนั้นเราจึงรอเจ้าที่นี่”
หลัวเฟิง พยักหน้า นักรบ 3 กลุ่มได้เข้ามาก่อนหน้าเขา มันมีนักรบ 30 คนใน 3 กลุ่ม ดังนั้นมันก็น่าจะมี 15 คนที่รอดมาได้ยกเว้นว่าจะมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น
“แล้วชั้นสองจะทดสอบอะไรเรา?” หลัวเฟิง ถาม
นักรบพากันตอบ
“ยังไม่รู้” คนหนึ่งตอบกลับ
“เราเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” อีกคนตอบ
“เจ้าเป็นคนแรกที่มาถึง ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มเจ้า”
“แค่โชคดี” หลัวเฟิง พูดขึ้น
“แล้วนักรบคนอื่นล่ะ?” ชายหนุ่มเกราะแดงถาม
“เดี๋ยวพวกเขาก็มาเอง” หลัวเฟิง พูดด้วยรอยยิ้ม
***
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเหล่านักรบก็มาถึง และพวกเขาก็มาถึงแทบจะพร้อมกัน
ซู่!
ทันที่ ซูซ่ง มาถึง ปีกนกของเขาก็กางปีกแล้วบินหนีไป เขามองไปรอบๆ และเห็น หลัวเฟิง อยู่ไกลออกไป นักรบทั้งสี่คนพยายามอยู่ห่าง หลัวเฟิง เอาไว้ให้มากที่สุด และนักรบ 5 คนจากกลุ่มก่อนหน้านี้ก็สังเกตเห็น ชัดแล้วว่าทั้ง 4 คนนี้ระวังคนที่มาถึงก่อนพวกเขา!
“เขาทำให้นักรบมากมายต้องเกรงกลัว”
“เราต้องระวังเขาไว้”
ทหารจากกลุ่มก่อนหน้านี้ต่างก็พากันช็อก
ตอนนั้นเอง…
ฮ่ง!
เสาแสง 10 อันตกลงมาจากฟ้าห่อหุ้มนักรบทุกคนไว้