ตอนที่ 1376 : ผู้นำของหุบเขาราชาเทพ
เสาแสงทั้งสิบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจน หลัวเฟิง และคนอื่นๆ ไม่ได้มีโอกาสที่จะหลบ พวกเขาถูกเสาแสงห่อหุ้มเอาไว้ทันที
มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมารอบตัว หลัวเฟิง และคนอื่นๆ
“นี่คือชั้นสองของหอคอยวูฉี” เสียงนั้นพูดขึ้น “พวกเจ้าทุกคนจะถูกส่งไปโลกย่อย และเจ้าจะถูกโจมตีที่นั่น ที่พวกเจ้าต้องทำคือต้องรอดจากการโจมตีทั้งหมด กลุ่มก่อนหน้านี้ได้พักมานาน ดังนั้นร่างเทพของพวกเขาก็ฟื้นฟูขึ้นมาแล้ว สำหรับกลุ่มที่เพิ่งมาถึง ฟื้นฟูร่างเทพของเจ้าให้เร็วที่สุด เจ้าจะถูกส่งไป พวกคนที่ซ่อนอยู่ในยานเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้จะถูกกำจัด”
จากนั้นก็เกิดการสั่นไหวมิติและเวลา ชายหนุ่มเกราะแดงกับนักรบอีก 4 คนก็ได้ถูกส่งไปยังที่ห่างไกลบนพื้นที่สีแดง พวกเขากระจัดกระจายกัน และถูกขังไว้ในโลกย่อยที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 100 ล้านกิโลเมตร
“เราต้องฟื้นฟูร่างเทพของเราให้เร็วที่สุด”
“เร็วเข้า”
“ฟื้นฟู”
หลัวเฟิง และอีกสี่คนมองไปรอบๆ อย่างผ่อนคลาย
อีก 5 คนที่มาทีหลังรีบใช้สมบัติของตนเพื่อฟื้นฟูร่างเทพของตน ใช้เวลาสักพักกว่าที่สมบัติจะทำงาน พวกเขาได้ถูกย้ายมาที่นี่หลังจากที่สู้ที่ชั้นแรกเสร็จ พวกเขาไม่อาจจะอยู่ในชั้นแรก โชคดีหอคอยวูฉีออกแบบมาเช่นนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงมีเวลามากพอจะใช้สมบัติของตนในการฟื้นฟูร่างเทพของตน
****
ชายหนุ่มเกราะแดงมองไปรอบๆ เขาอยู่ในโลกเล็กเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 100 ล้านกิโลเมตร
ฮ่ง! ล่ง!
ภาพสลักขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 100 ล้านกิโลเมตรปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้าเผยให้เห็นการสลักทุกแบบ พวกมันก่อตัวเป็นภาพเหนือพื้น แสงได้ส่องประกายออกมาจากภาพสลักตามมาด้วยเสียง!
เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!
แสงได้แผ่อออกมาอย่างดุดัน ชายหนุ่มเกราะแดงจับดาบเงิน และใช้มันกันแสงที่ยิงเข้าใส่เขา แต่คลื่นกระแทกได้ทำให้เขากระเด็นไปตามท้องฟ้า ลำแสงนับไม่ถ้วนได้ถูกยิงออกมาจากภาพสลัก หลายอันยิงเข้าใส่เขาจนทำให้เขากระเด็น
“ทรงพลัง ลำแสงแต่ละอันทรงพลังเท่ากับการโจมตีของเทพแท้จริง ข้าต้องการสมบัติเครื่องจักร”
ชายหนุ่มเกราะแดงกลัวขึ้นมา และวนรอบภาพสลักที่โผล่ใต้เท้าของเขา แสงสีเงินเริ่มแผ่ออกมาถึงตัวเขา ชายหนุ่มรีบเร่งความเร็วจนไม่กระเด็นเพราะลำแสงนี้
***
มันมีนักรบ 5 คนในโลกย่อยที่ต่างกัน ทุกคนต่างก็โดนโจมตีในโลกย่อยนั้น
หลัวเฟิง และนักรบอีก 4 คนมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น หลัวเฟิง ยังคงเงียบ ส่วนอีก 4 คนพูดคุยกัน และบางครั้งก็มองมาที่ หลัวเฟิง
“ดูเหมือนว่าโลกเล็กนั้นจะไม่ได้อันตรายอะไร”
“มันดีกว่าชั้นแรกของหอคอย ชั้นแรกต้องให้นักรบสู้กันเอง มีอย่างน้อยครึ่งหนึ่งที่ตายไป นักรบต้องสู้ในโลกย่อยที่ชั้นสองเท่านั้น…บางทีอาจจะรอดกันไปได้เยอะ”
หลัวเฟิง มองไปที่โลกทั้งห้าไกลออกไป อันที่จริงภาพสลักนั้นยังคงโจมตีอยู่ในโลกย่อย แต่การโจมตีนั้นทรงพลังเท่ากับเทพแท้จริงทั่วไปเท่านั้น ด้วยสมบัติเครื่องจักรนักรบทั้งห้าคนไม่อาจจะต้านทานมันได้ง่ายดายนัก
เป็นไปได้รึไม่ว่าชั้นสองจะง่ายกว่าเพราะมีหลายคนตายไปที่ชั้นแรก?
หลัวเฟิง สงสัย ไม่นานเขาก็รู้ว่าเขาคิดผิด
***
“มันก็หนักมืออยู่ แต่มันไม่ได้ยากกับการรอดไปได้”
ตอนที่นักรบทั้งห้ากำลังผ่อนคลายกับการรับมือการโจมตี อยู่ๆ พื้นดินก็สั่นไหว
ฮ่ง! ล่ง! ล่ง!
พื้นดินของโลกทั้งห้าเริ่มสั่นไหว ของเหลวสีแดงได้ระเบิดออกมาจากรอยแตก ของเหลวสีแดงนั้นทำให้นักรบทั้งห้าต้องบินขึ้นไปไม่กล้าที่จะอยู่ที่พื้นต่อไป
ฮัวะ! ฮัวะ! ฮัวะ!
ของเหลวสีแดงยังคงรวมตัวกัน หลังจากนั้นสักพักพวกมันก็ก่อตัวเป็นยักษ์ตัวใหญ่!
ตอนที่ของเหลวเริ่มจับตัวที่ผิวของมัน มันก็เปลี่ยนเป็นยักษ์หิน!
ของเหลวอันร้อนแรงได้ไหลไปทั่วร่างกายของยักษ์
ฮู่!
ยักษ์ทั้งห้าเงยหน้าขึ้นมอง ของเหลวอันร้อนแรงได้ระเบิดออกมาจากรอยแตกได้ถูกดึงเข้าตัวของยักษ์
ฮ่ง! ล่ง! ล่ง!
ท้องฟ้าของโลกย่อยทั้งห้ายังคงโจมตีด้านล่าง และมีลำแสงหลายอันที่โดนตัวยักษ์หิน แต่การโจมตีแต่ละครั้งนี้ทำให้หินส่วนหนึ่งระเบิดออกมา และหินเหล่านั้นก็เปลี่ยนเป็นของเหลวสีแดงที่โดนดึงเข้าหาตัวยักษ์ ยักษ์คำรามออกมาแล้วพุ่งเข้าหานักรบ บางตัวก็กระทืบพื้น บางตัวพุ่งเข้าหาด้วยหมัดหิน นักรบเหล่านั้นพากันกระเด็นออกไปทันที
“ไม่!”
“ยักษ์พวกนี้แข็งแกร่งเกินไป”
“พวกเขาพินาศแน่”
หลัวเฟิง และนักรบอีก 4 คนที่ฟื้นฟูร่างเทพอยู่ไกลออกมาต่างก็ช็อก พวกเขาบอกได้ว่าโลกย่อยพวกนั้นโหดร้ายแค่ไหน ยักษ์พวกนี้แข็งแกร่งพอๆ กับเทพแท้จริง!
ถึงพวกยักษ์จะไม่มีเกราะป้องกันตัว แต่ของเหลวสีแดงที่ไหลมาเติมไม่รู้จบก็สามารถฟื้นฟูพวกมันได้ แม้ว่าพวกมันจะบาดเจ็บ พวกมันถือว่าเป็นอมตะ และพวกมันก็ไม่ใช่แค่ศัตรูอย่างเดียวของนักรบ ลำแสงยังคงถูกยิงลงมาด้วย!
ก่อนหน้านี้นักรบพากันหลบลำแสงได้อย่างยากลำบาก แต่ตอนนี้พวกเขายังถูกยักษ์หินโจมตีด้วย ภายใต้การโจมตีพวกนี้พวกเขาก็ไม่อาจจะหลบลำแสงได้อีก และถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง
ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง!
พวกเขายังคงถูกลำแสงยิงใส่ และตกที่นั่งลำบาก หากพวกเขาหลบลำแสง พวกเขาก็จะถูกยักษ์โจมตี ลำแสงยังถูกยิงลงมา และยักษ์หินก็ยังคงโจมตี!
พลังอมตะของนักรบถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว
***
นักรบที่มองดูอยู่ต่างก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึมออกมา ห้าคนแรกอยู่ในสภาพสิ้นหวัง มันมีอันตรายอยู่ทั่วทุกที่ มันไม่ใช่ว่านักรบเหล่านั้นอ่อนแอแต่เป็นโลกย่อยนั้นที่อันตรายเกินไป
“เราควรทำยังไง?”
“เราอาจจะเจออันตรายแบบเดียวกัน! ลำแสงนับไม่ถ้วนถูกยิงลงมา และเราต้องรับมือกับยักษ์หินด้วย…เราจะทำอะไรได้? ถ้าเราหลบลำแสง เราก็ไม่อาจจะป้องกันยักษ์หินได้ ถ้าเราป้องกันยักษ์หิน เราก็จะโดนลำแสงโจมตี ร่างเทพของเราจะถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราอาจจะไม่รอด”
นักรบคนอื่นๆ ต่างก็พากันกังวล ส่วนหลัวเฟิง กลับกัน เขายังคงใจเย็น และยังแสดงสีหน้าเคร่งขรึมด้วย
มันไม่ได้มีค่าอะไรกับข้า เขาคิด แต่มันจะอันตรายมากกว่าเดิม นอกจากภาพสลักและยักษ์หินพวกนี้?
มันจะมีอันตรายที่สามหรือสี่รึเปล่า?
เขาไม่ได้ให้ค่าอะไรกับยักษ์หิน และลำแสง เขากังวลว่ามันจะมีอันตรายมากกว่านี้ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่พลังของเขาก็ใช่ว่าไร้ขีดจำกัด
“ปกติแล้วมี 1 ใน 10 คนที่เข้ามาในหอคอยวูฉีจะรอดไปได้ ข้าสามารถเป็นคนนั้นได้”
หลัวเฟิง พยักหน้าแล้วจับตาดูสถานการณ์
***
หอคอยวูฉีคือสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในหุบเขาราชาเทพ ใกล้กับหอคอยมีวังเงินสามชั้น และมีเทพแท้จริงกลุ่มใหญ่อยู่ที่นั่น มันยังเป็นศูนย์กลางอำนาจของหุบเขาราชาเทพ
ในชั้นสามของวังเงินมีบัลลังก์เงินสี่อันในห้องโถง ในบัลลังก์ทางซ้ายสุดมีเมฆหมอกดำขนาดใหญ่ หมอกดำสั่นไหวแล้วหดลงเข้าไปในบัลลังก์ ร่างบนบัลลังก์นั้นดูพร่ามัว และมีแรงอันชั่วร้ายแผ่ออกมาจากหมอกดำ บัลลังก์อีกสามอันนั้นว่างเปล่า
ฮัวะ!
จอแสงปรากฏขึ้นมาในวังแสดงให้เห็นฉากของชั้นสอง มันแสดงให้เห็นว่านักรบทั้งห้าสิ้นหวังแค่ไหน
“ไร้ค่า” มีเสียงถอนหายใจจากหมอกดำ “พวกนี้ไร้ค่า นักรบพวกนี้ไร้ค่า! จะนานแค่ไหนกว่าจะมีอัจฉริยะที่ราชาต้องการจะปรากฏตัวขึ้นมา?”
มันคือหนึ่งในสี่ผู้นำของหุบเขาราชาเทพ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่เทพแท้จริงมิติ แต่มันก็ถูกผนึกไว้โดย ราชาเทพ สิ่งมีชีวิตที่โดนผนึกสามารถกำจัดผู้นำของทะเลเหนือที่แท้จริงได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าทั้งสองจะเป็นเทพแท้จริงมิติก็ตาม
“อ่อนแอเกินไป” มันพูดขึ้น “ไร้ค่า นี่แค่ชั้นสอง! มันมีนักรบขั้นสูงที่ทำได้ดีกว่าพวกนี้ แต่ไม่มีสักคนที่ทำสำเร็จได้ สำหรับกลุ่มนี้ พวกเขาไม่มีหวังเลยแม้แต่น้อย”
หุบเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยอันตราย มันไม่จำเป็นต้องมียามคอยคุ้มกัน อันที่จริงมันคือสถานที่ที่พิสูจน์ว่าราชาเชื่อในที่แห่งนี้ เป้าหมายที่แท้จริงของมันคือหาผู้มีความสามารถที่สามารถขึ้นหอคอย 9 ชั้นได้สำเร็จ
“มันนานมาแล้ว” เสียงโบราณพูดขึ้น “นี่เป็นเพียงแค่งานเดียวที่ราชาให้เราไว้ แต่นานมาแล้วเราก็ยังทำมันไม่สำเร็จ ถ้ามีใครทำได้จริงๆ ข้าก็พร้อมยอมตาย”
เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าแทนราชา มันได้กระซิบออกมา “การแข่งขันในโลกแห่งจินไม่มากพอรึ? รึว่ามันควรโหดร้ายมากกว่านี้?”
ในจอนั้นนักรบห้าคนต่อไปได้ถูกส่งไปยังโลกย่อยของตน