Skip to content

Swallowed Star 1394

ตอนที่ 1394 : ผู้นำทั้งสี่และนายพลทั้งสี่

พวกเขาได้รอคอยตอนนี้มานาน ตั้งแต่ที่ราชาได้ออกจากหอคอยวูฉีไป เป้าหมายของพวกเขาคือหาผู้ที่มีพรสวรรค์ซึ่งสำคัญกว่าชีวิตกว่าตัวพวกเขาเอง

“มันหายไปแล้ว!”

“งานผนึกหายไปแล้ว!”

“งานผนึกของ เจ้าแห่งกฏ หายไปแล้ว! เขาทำสำเร็จ! นักรบ ทางช้างเผือก ต้องขึ้นไปชั้นบนของหอคอยวูฉีได้แน่!”

ผู้นำทั้งสี่ในวังต่างก็มองมันอย่างตั้งใจ พวกเขาเห็นว่างานในกองทัพทั้งสี่และหุบเขาเทพแต่หลังจากที่ หลัวเฟิง เข้าไปที่ชั้น 8 ได้ พวกเขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ หลัวเฟิง ได้อยู่ที่นั่นมานานโดยที่ไม่ออกมา

ความคาดหวังของพวกเขาสูงขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาต่างก็มองไปที่รายชื่องานและต่างก็พากันอุทานออกมา

ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!

ทั้งสี่คนหายตัวไปจากวังและไปที่ชั้นล่างของหอคอยวูฉี

เทพแท้จริงบางคนที่อยู่รอบหอคอยวูฉีต่างก็พากันตะลึง มันยากที่ผู้นำทั้งหมดจะออกมาด้วยกัน

“ผู้นำ!”

“นั่นผู้นำ! มากันทั้งสี่คนเลย!”

ผู้นำทั้งสี่มองไปที่ประตูหอคอยวูฉี

“ทำไมเขาถึงยังไม่ออกมา?”

“เขาน่าจะออกมาได้แล้ว”

ทั้งสี่คนต่างก็รอคอยอย่างตื่นเต้น พวกเขาไม่รู้ว่าถึงรายละเอียดตั้งแต่ชั้น 8 ไปและ หลัวเฟิง ได้คุยกับราชาเทพที่ชั้น 9

ผ่านไปสักพัก

ฮ่ง! ล่ง!

ประตูได้เปิดออกและมีนักรบคนหนึ่งเดินออกมา

“เขาออกมาแล้วรึ?”

“ผ่านมานานนับแต่หอคอยวูฉีถูกสร้างขึ้นมา นักรบที่รอดต่างก็ถูกส่งออกมาและไม่มีใครเดินออกมาจากประตูหน้า นอกจากนี้นักรบคนอื่นก็ถูกส่งออกมานานแล้วแต่คนนี้อยู่ด้านในมานาน เขาผ่านไปถึงชั้นสูงสุดได้รึ?”

“ผู้นำทั้งสี่มาทักทายเขา เขาคงทำสำเร็จ”

ยามเทพแท้จริงได้เห็นนักรบมากมายเข้าไปด้านใน ดังนั้นพวกเขาจึงรู้เกี่ยวกับหอคอยวูฉี พวกเขาช็อกกันอย่างมาก

****

หลัวเฟิง เห็นคนทั้งสี่ตอนที่เขาออกมา หมอกดำ, ร่างผู้ชายที่สูงใหญ่, ผู้หญิงเกราะเงิน และสัตว์อสูร ทั้งสี่ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กันมองมาที่เขาด้วยท่าทีคาดหวัง

“เอิ่ม…” หลัวเฟิง มองไปที่ทั้งสี่คนแต่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เขาไม่รู้จักพวกนี้

“เราคือผู้นำทั้งสี่ของหุบเขาราชาเทพ เราคุ้มกันที่นี่ตามคำสั่งของราชา” ร่างเกราะแดงพูดขึ้นมา “อีกอย่างแล้วเรายังรอผู้มีพรสวรรค์ที่ไปยังชั้นสูงสุดของหอคอยได้ ทางช้างเผือกจิน เรายินดีที่เจ้าทำสำเร็จได้”

“ทางช้างเผือกจิน โปรดเข้าไปในวังกับเรา”

หลัวเฟิง พยักหน้า จากนั้นเขาก็ตามทั้งสี่เดินเข้าไปในวังเงิน ยามเทพแท้จริงไม่อาจจะได้ยินบทสนทนาของพวกเขาได้

ร่างเกราะแดงมองไปที่เหล่ายาม “อย่าพูดเรื่องวันนี้”

“ได้ ผู้นำ” ยามทั้งหมดต่างก็ตอบกลับด้วยความเคารพ

****

ที่ชั้นแรกของวังเงิน หลัวเฟิง ได้พูดคุยกับผู้นำ เขาแปลกใจที่พวกนี้พากันตื่นเต้น

พวกนี้ตื่นเต้นเกินไปแล้ว เขาคิด

หมอกดำอัดแน่นกลายเป็นรูปร่างมนุษย์

“เราหวังว่าจะมีคนขึ้นไปที่ชั้นบนของหอคอยวูฉีได้มานานแล้ว” เขาพูดขึ้น “เรารอวันนี้มานาน มันเป็นภาระยิ่งใหญ่สำหรับเราและมันก็กดดดันเรามานาน ทุกครั้งที่เราคิดเรื่องนี้ เราก็ได้แต่เศร้าแทนราชา เมื่อเจ้าทำสำเร็จ ทางช้างเผือก เราก็ค่อยรู้สึกโล่งอกขึ้นมา”

ผู้หญิงเกราะเงินนั่งอยู่และมันก็มีน้ำตาไหลออกมาจากตาของเธอ “มันนานแล้วจริงๆ”

“รอที่นี่สักหน่อย ทางช้างเผือก เราได้แจ้งไปยังนายพลทั้งสี่ว่าเจ้าขึ้นไปที่ชั้นบนได้สำเร็จ” ร่างเกราะแดงอธิบาย “นายพลทั้งสี่นั้นแข็งแกร่ง ดังนั้นพวกเขาจะมาถึงที่นี่ได้ในเวลาอันสั้น มันก็เหมือนกับเรา พวกเขาก็สงสัยเรื่องวิธีการคัดเลือกและบ่มเพาะผู้มีความสามารถที่จะขึ้นไปยังชั้นบนของหอคอยได้ นายพลทั้งสี่ต่างก็ตื่นเต้นและพอใจเมื่อรู้ว่าเจ้าทำสำเร็จ พวกเขาอยากจะพบเจ้า”

หลัวเฟิง พยักหน้าและยิ้มออกมา “ข้ารู้เกี่ยวกับนายพลทั้งสี่มานานแล้ว ข้าเองก็อยากจะพบพวกเขาแต่ข้าไม่คิดว่าจะมีโอกาส”

ในฐานะตัวตนที่โดนผนึกโดยเฉพาะได้รับการผนึกโดยการขึ้นไปยังชั้นบนของหอคอยวูฉีได้ เขาอยู่ระดับเดียวกับนายพลอย่างน้อยก็ดูจากภายนอก จริงๆ แล้วเขามีฐานะสูงกว่านายพลและผู้นำอีก

ตอนที่ หลัวเฟิง ได้คุยกับผู้นำทั้งสี่นั้น….

ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง!

มีสี่คนได้เข้ามาในวัง

หลัวเฟิง มองไปยังนักรบเผ่าสองคนและนักรบสัตว์อสูรสองคนที่เข้ามา พวกเขาต่างก็กดพลังของตัวเองไว้แต่ หลัวเฟิง ก็ยังรู้สึกกดดันจากแรงที่มองไม่เห็น

“ทางช้างเผือก นี่คือ นายพลหิมะประสาน จากกองทัพตะวันออก!” ร่างเกราะแดงพูดขึ้นมา

หิมะประสาน นั้นคือคนที่ดูสุภาพที่สุดในหมู่นายพลทั้งสี่ เขามีผิวขาวและมีสีเขียวหยกที่ข้างหู เขาดูสง่าในเกราะขาวและมีนัยน์ตาตรงหว่างคิ้ว เขาดูยินดีและมองมาที่ หลัวเฟิง ด้วยตาที่เป็นประกาย “เรารอตอนนี้มานานแล้ว ในที่สุดเราก็ทำตามที่ราชาคาดหวังไว้ได้”

“ขอข้าแนะนำตัวบ้าง!” สัตว์อสูรหกหน้าพูดขึ้นมา ทั้งหกหน้านั้นน่าเกลียดและดุดัน จากนั้นเขาก็ยิ้มให้กับ หลัวเฟิง “ข้า…”

“ไม่จำเป็นต้องรีบ ข้าจะแนะนำพวกเจ้าทีละคนๆ”

****

ในที่สุด หลัวเฟิง ก็รู้ว่านายพลเหล่านี้ยินดีแค่ไหน นายพลและผู้นำต่างก็รอตอนนี้มานาน และหน้าที่ของพวกเขาคือหาผู้มีพรสวรรค์ที่ไปถึงชั้นบนของหอคอยวูฉีได้ เป้าหมายของพวกเขายอมทิ้งการฝึกแม้กระทั่งชีวิตตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงพากันตื่นเต้นเมื่อรู้ว่า หลัวเฟิง ปรากฎตัวขึ้นมา

“ทางช้างเผือก เจ้าฝึกฝนตัวเองได้แต่โลกแห่งจินนั้นใหญ่โต…และพลังของเจ้า…เจ้าอาจจะไม่ปลอดภัยไปตลอด ข้าจะจัดเทพแท้จริงมิติมาปกป้องเจ้าแบบลับๆ”

“ทางช้างเผือก…”

นายพลทั้งสี่ยังคงสลับกันพูด

พวกเขาดูแล หลัวเฟิง ราวกับว่าเขาเป็นสมบัติล้ำค่า พวกเขากลัวว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นกับของล้ำค่านี้

****

ผ่านไปครึ่งวัน หลัวเฟิง ก็ได้ออกจากหุบเขาราชาเทพ

“ผู้นำ กับนายพล…” หลัวเฟิง พูดขึ้น “พวกเขาต้องการพาข้ากลับไปที่กองทัพตะวันออก พวกเขาทำอย่างกับข้าเป็นลูกพวกเขาและพวกเขาก็ยอมหาสิ่งที่ข้าต้องการให้”

หลัวเฟิง รู้สึกได้จากบทสนทนาของนายพลและผู้นำที่ถือว่าเขาเป็นผู้สืบทอดของราชาเทพ

“กลับไปที่กองทัพตะวันออก”

หลัวเฟิง นั่งเรือเงินบินออกไป

****

ตอนที่ฝึกเทคนิคนาหยินของเทคนิคลี่หยวนเสร็จ ทั้งร่างมหาสมุทรก้าวกว้างไกลและร่างโมชานก็หยุดแผ่พลังโจมตีจิตออกมาและเริ่มสงบลง ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล, จักรพรรดิทรูหยัน และคนอื่นที่กังวลเรื่อง หลัวเฟิง ได้พากันติดต่อหาเขา

หลัวเฟิงได้สรุปสิ่งที่เกิดขึ้นและทำให้พวกนั้นเข้าใจเรื่องเบื้องหลังแต่แน่นอนว่า หลัวเฟิง ไม่อาจจะบอกความลับใหญ่ๆ ได้

จักรพรรดิทรูหยัน ได้รับการชี้แนะจากสังคมโบราณ หลัวเฟิง คิด และเขาก็ขึ้นมาถึงระดับอัศวินอวกาศชั้นยอด เขาห่างจากการเป็น เจ้าแห่งจักรวาล เพียงก้าวเดียว ข้าต้องให้ของขวัญกับเขาหลังจากที่เขาเป็น เจ้าแห่งจักรวาล

ทรูหยัน คืออาจารย์ของ หลัวเฟิง ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงให้ทรัพยากรมากมายกับอาจารย์เพื่อให้ ทรูหยัน พัฒนาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว

หลัวเฟิง สนิทกับ ทรูหยัน มากเกินกว่าอาจารย์คนอื่นๆ รองมาคือ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ตามด้วย ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ทรูหยัน นั้นดูแลศิษย์ราวกับครอบครัว ส่วน ผู้นำเมือง นั้นให้ค่า หลัวเฟิง เพราะ หลัวเฟิง เป็นสมบัติสำหรับมนุษย์ สำหรับ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่แล้ว เขามีแผนอื่น แน่นอนว่าทุกคนต่างก็เป็นอาจารย์ที่ หลัวเฟิง รำลึกบุญคุณ เขาต้องการตอบแทนพวกนั้นแต่ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ไม่เคยบอกว่าต้องการอะไร

ทรูหยัน, พี่หง และเทพสายฟ้าต่างก็ยังเป็นนักสู้อมตะ หลัวเฟิง คิด ตลอดหลายปีมานี้ข้าได้สู้เพื่อเผ่ามนุษย์มาตลอดแต่ข้าควรจะดูแลมนุษย์และครอบครัวของข้าแล้ว

****

หลัวเฟิง ได้ออกจากหุบเขาราชาเทพมุ่งหน้าไปยังกองทัพตะวันออก มันมีระยะทางที่ยาวไกลและตลอดเวลา หลัวเฟิง ก็ได้ศึกษาเทพวูฉีไปด้วย

มันมีอย่างน้อย 3 ระดับของเทพวูฉี ระดับแรกนั้นเหนือกว่าเทพกรงเล็บทองและ ปีกนก สำหรับระดับสามแล้ว มันแข็งแกร่งกว่าสมบัติเครื่องจักรของเทพแท้จริงมิติ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงเป็นกลไกเทพแท้จริงสุดร้ายกาจ

“ใช้เวลาเกือบทั้งวันกว่าจะเข้าใจวิธีการใช้เทพวูฉี”

วันหนึ่งเท่ากับเกือบสิบปีในมิติสืบทอด หลัวเฟิง ใส่เทพวูฉีและทั้งตัวเขาก็ดูคล้ายกับลิงสวมเกราะ ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีใบหน้าของ หลัวเฟิง มันเปลี่ยนเป็นสีดำ และหางของมันก็ฟาดไปมา

“เผา! เผาไหม้!”

หลัวเฟิง เผาผลาญพลังอมตะของตัวเองและใช้ระดับ 2 ของเทคนิควูดูเหมย ออกมาพร้อมไปด้วย พลังงานของเขาเพิ่มขึ้นและลามไปทั่วเกราะเทพวูฉี แก่นทั้ง 16 ของเทพวูฉีเปลี่ยนไปทันที 4 อันได้ก่อตัวเป็นภาพสลักขึ้นมา ภาพสลักทั้งหมดรวมกันแล้วเป็นแก่นจำลองภายในเทพวูฉี

ฮ่ง!

แสงสีทองส่องประกายออกมาจากเทพวูฉี

ซู่! ซู่! ซู่!

เงาของ หลัวเฟิง นับล้านได้ออกจากเรือสุสาน จากนั้นมันก็หายไป

“ทรงพลังเกินไปแล้ว” หลัวเฟิง แปลกใจ “ด้วยเทพวูฉีนี้ ข้าทิ้งทั้งกรงเล็บเทพทองคำ กับ ปีกนก ได้เลย ด้วยสมบัตินี้พวก เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ในทะเลจักรวาลก็เทียบข้าไม่ได้แม้ว่าพวกเขาจะได้สมบัติเครื่องจักรอื่นๆ มาก็ตาม”

หลัวเฟิง มั่นใจแต่ก็ยังคิดต่อ “เทพวูฉีน่ะกินพลังอมตะเร็วจริงๆ”

เขาบินไปอย่างรวดเร็วด้วยการใช้ระดับ 2 ของ วูดูเหมย รวมเข้ากับการขับเคลื่อนเทพวูฉี มันกลืนกินพลังงานอมตะของเขา ถ้าเขายังคงเป็น หลัวเฟิง คนเดิมที่มีร่างอมตะเพียงแค่ 100,000 กิโลเมตร มันอาจจะหมดไปนานแล้ว โชคดีที่เขามีร่างอมตะที่ใหญ่พอแต่เขาก็ยังไม่กล้าที่จะสู้นานเกินไป

“ไม่แปลกใจเลยว่าราชาเทพได้บอกข้าว่ามันกินพลังงานอย่างมากแม้แต่ตอนที่เขารู้ว่าข้ามีร่างอมตะที่ใหญ่ขนาดนี้” หลัวเฟิง ถอนหายใจ

สุดท้ายผ่านไป 3 เดือน หลัวเฟิง ก็ได้มาถึงกองทัพตะวันออก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!