Skip to content

Swallowed Star 1404

ตอนที่ 1404 : ความช่วยเหลือจากนายพล

“วิกฤตใหญ่นี้สามารถกำจัดทุกเผ่าพันธุ์ในทะเลจักรวาลได้และทำให้เผ่ามนุษย์พบกับจุดจบ!” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล บอกกับ หลัวเฟิง หลังจากที่เห็นบรรพบุรุษอสูรเทพหายตัวไป “มันอาจจะสำคัญในการช่วย อาจารย์ต้นกำเนิด ให้ได้รับอิสระแต่เทียบกับวิกฤตนี้แล้ว เรื่องของ อาจารย์ต้นกำเนิด อาจจะถือว่าเล็กน้อย เจ้าไม่มีทางที่จะส่งผลต่อมันได้”

“อีกอย่าง!” เขาพูดต่อ “เมื่อเจ้าเป็นเพียงแค่ เจ้าแห่งจักรวาล แต่พลังของเจ้าค่อนข้างแข็งแกร่ง”

คิ้วเขาขมวดเข้าหากัน “เมื่อเจ้ากลายเป็นเทพแท้จริง พลังของเจ้าจะเพิ่มขึ้นกว่าเดิมหลายระดับ จากนั้นมันก็ง่ายกว่าเดิมที่เจ้าจะจัดการกับอสูรทลายมิติ เจ้าจะมั่นใจมากกว่าเดิม! และเมื่อจิตของจักรวาลดั้งเดิมชี้แนะให้เจ้าเข้าสู่สงคราม มันจริงหรือว่าเพราะ…มันต้องการให้ อสูรทลายมิติ ตายจริงๆ รึ? หรือเพราะมันต้องการยืมแรงของ อสูรทลายมิติ ในการฆ่าและทำลายเจ้า? ยังไงซะนอกจากขวานยักษ์ แล้วก็ไม่มีใครรับมือกับ อสูรทลายมิติ มาก่อน การที่มันเป็นตัวตนแห่งการทำลายล้าง วิธีการโจมตีของมันก็น่าจะน่ากลัวอย่างมากแน่ แม้ว่าเจ้าจะมีหลายร่างแต่ถ้าวิญญาณเจ้าถูกกำจัดไป งั้นร่างอื่นๆ ก็จะพินาศไปด้วย ถ้าจิตของจักรวาลหลักต้องการให้เจ้าฆ่า อสูรทลายมิติ จริงๆ งั้นเจ้าก็ไม่ต้องกังวลอะไรแต่ถ้ามันตั้งใจจะยืมแรงของ อสูรทลายมิติ ในการฆ่าเจ้า งั้นเจ้าก็ต้องระวังตัวให้มาก นั่นคือที่ที่เจ้าไม่อาจจะลดการป้องกันได้ ยังไงซะหลายปีมานี้แม้ว่า อสูรทลายมิติ จะไม่อาจจะหยุดยั้งได้แต่อย่างมากแล้ว จักรวาลหลักก็คงระเบิดตัวเองและกลับคืนสู่จุดกำเนิด ตอนที่เรื่องเลวร้ายจบลง มันก็สามารถพัฒนากลับมาเป็นจักรวาลหลักได้ พลังของจักรวาลหลัก…สำหรับคนที่สามารถทำลายมันได้ตั้งแต่ระดับพื้นฐานแล้ว มันไม่เคยมีมาก่อน ถ้าเป็นแบบนั้น งั้นทำไมมันถึงต้องการจะฆ่า อสูรทลายมิติ? มันจริงรึ? หรือว่าทุกอย่างคือส่วนหนึ่งของแผนใหญ่?”

หลัวเฟิง พยักหน้าตอบรับตอนที่ฟัง มันจริง อสูรทลายมิติ เป็นตัวแทนของการทำลาย แต่จักรวาลหลักเป็นตัวแทนของชีวิต อสูรทลายมิติ จะใช้เวลานานกว่าที่จะเกิดมา แต่จักรวาลหลักนั้นทำลายตัวและเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง อันที่จริงแล้วมันไม่เคยโดนทำลายมาก่อน นี่เพราะแม้แต่ อสูรทลายมิติ ก็ไม่อาจจะทำลายจักรวาลหลักได้จริงๆ

“ข้าเข้าใจแล้ว” หลัวเฟิง พูดพร้อมกับพยักหน้า

“ยังไงซะ อาจารย์ต้นกำเนิด ก็ถูกขังไว้แล้ว” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้นมา “ถ้าแม้แต่เจ้ายังโดนกำจัดโดยการนำของจิตจักรวาลดั้งเดิม ไม่ว่าข้าจะมั่นใจตัวเองแค่ไหนแต่ข้าก็ยังรู้ตัวดี ข้าไม่มีทางเก่งเท่ากับเจ้าหรืออาจารย์ต้นกำเนิดได้”

****

หลัวเฟิง ไม่ได้รีบไปที่ดินแดนแห่งความมืดมิด ยังไงซะตามที่จิตจักรวาลดั้งเดิมบอกมา มันก็ต้องโดนทำลายก่อนยุคนี้

อะไรคือความยาวของหน่วยเวลา 1 ยุคเกิดใหม่ ยังไงซะ หลัวเฟิง ก็อยู่มาไม่ถึง 10 ล้านปี เทียบกับยุคเกิดใหม่แล้ว มันสั้นเพียงน้อยนิด นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม หลัวเฟิง ถึงยังมีเวลาเตรียมตัวอีกมาก

ในเวลาเดียวกัน หลัวเฟิง ก็เตรียมตัวสำหรับการเก็บกวาดครั้งใหญ่

****

อีกหลายวันผ่านไป

ในทางช้างเผือกภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทางช้างเผือก ร่างมหาสมุทรก้าวกว้างไกลนั่งอยู่บนหอคอยเก้าชั้นที่ลอยอยู่ตรงหน้าเขา ก่อนหน้านี้เขาเข้าใจถึงระดับ 3 ของปีกซื่อหวู๋ทั้งหมด แต่จากการเพิ่มระดับเทคนิคลับ แม้แต่ หลัวเฟิง ที่อยู่ในหอคอยดวงดาวก็เข้าใจคร่าวๆ ว่าพื้นฐานเทคนิคลับนี้มีระดับสูงแค่ไหน เขาอยู่ที่นี่เพื่อทำการศึกษาและทำความเข้าใจ หลัวเฟิง หวังว่าจากการทำความเข้าใจและเข้าใจกระจ่างต่อเทคนิคต่างๆ แล้ว เขาจะสามารถเพิ่มการพัฒนาเส้นทางพลังอมตะของตัวเองได้

ในเส้นทางพลังอมตะ การเข้าใจยีนส์ชีวิตอันที่จริงเป็นเรื่องธรรมดาของเทคนิคลับ, เกมวางแผนและอื่นๆ พวกมันต่างก็มีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกัน

“อาจารย์?” ร่างมหาสมุทรก้าวกว้างไกลหยุดสิ่งที่ทำอยู่ เขาพลิกมือแล้วดึงเอาเหรียญสื่อสารออกมา

“หลัวเฟิง” มันมีข่าวที่ถูกส่งมาโดย ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่

ทันใดนั้น หลัวเฟิง ก็จริงจังขึ้นมา ตั้งแต่ดินแดนอันตรายแห่งที่สี่ปรากฏขึ้นมา ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ก็ดูเหมือนจะหายตัวไปและไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับมันเลย

“อาจารย์” หลัวเฟิง ตอบกลับ

“พวกบรรพบุรุษอสูรเทพทั้งสามคงไปหาเจ้าแล้ว” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ พูดขึ้น

หลัวเฟิง ผงะแต่ก็ยังตอบกลับ “ใช่”

“ฮึ่ม นอกจากเจ้าแล้วไม่มีใครอื่นเลยที่พวกนั้นไปหา” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ตอบกลับ “แต่เจ้าต้องจำไว้ให้ดี เจ้าอย่ารีบเร่งไปยังดินแดนแห่งความมืดมิด ยังไงซะที่นั่นก็คือรังของ อสูรทลายมิติ มันมี อสูรทลายมิติ ด้านในมากมาย…หากเจ้าพร้อมและตัดสินใจจะไปจัดการกับพวกมัน งั้นก็ให้มาหาข้าก่อนจะไป”

หลัวเฟิง เริ่มไม่มั่นใจ “อาจารย์ ไปหาที่พักของท่านรึ?”

“เจ้าแค่ต้องจำไว้ว่าต้องทำแบบนั้น!” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ตัดบทสนทนา

หลัวเฟิง อึ้ง “เกิดอะไรขึ้นกัน?”

เขาคิ้วขมวดและพยายามหาคำตอบในข้อสงสัย

ก่อนหน้านี้ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ มักจะเฉยชากับผู้คน เขามักจะเป็นห่วง หลัวเฟิง แต่ตั้งแต่ที่ดินแดนอันตรายแห่งที่สี่ปรากฏขึ้นมา ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ก็เปลี่ยนไป แม้แต่ในตอนที่มีเรื่องใหญ่แบบนี้ขึ้นเขาก็ยังไม่คิดจะมาหา หลัวเฟิง เลยแม้แต่น้อย ครั้งนี้อยู่ๆ  ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ก็ติดต่อหา หลัวเฟิง และแม้ว่าจะเป็นบทสนทนาเพียงสั้นๆ และคำสั่งแต่ หลัวเฟิง ก็รู้สึกได้ว่าอาจารย์ยังคงเป็นห่วงเขาอยู่

“ดูเหมือนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจากท่าทีของอาจารย์….” หลัวเฟิง กระซิบ “หรือเพราะโลกแห่งจิน? เทคนิคเก้าขั้น! มันคือชุดความรู้ที่หายไปของราชวงศ์จินที่ไม่น่าจะส่งต่อให้กับคนนอก หอคอยดวงดาวเป็นสมบัติแท้จริงที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพแท้จริง ข้าสงสัยมาก่อนหน้านี้แล้วว่าอาจารย์เกี่ยวข้องกับราชวงศ์จิน บวกกับอาจารย์ได้สั่งให้ข้าไปหาเขาก่อนจะไปจัดการกับพวก อสูรทลายมิติ….”

หลัวเฟิง คิ้วขมวดและจมไปกับความคิด เขาไม่ได้โง่ แน่นอนเขารู้สึกได้ว่าอาจารย์ลึกลับแค่ไหนและเขารู้สึกว่าความลับที่ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ปิดไว้นั้นเป็นเรื่องใหญ่

****

หลัวเฟิง สลัดทุกอย่างออกจากหัว สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เขาต้องเตรียมคือ…การเก็บกวาดครั้งใหญ่!

ในพริบตาก็ผ่านไปกว่า 1 ปี ในโลกแห่งจินที่แคมป์ หน่วยงูหลามแม่น้ำ หลัวเฟิง อยู่ในห้องของบ้านหิน

“แหวนหน่วยอาวุธ…” หลัวเฟิง ใส่แหวนก่อนจะใช้พลังอมตะ อยู่ๆ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงกับมิติและเวลารอบตัวก่อนจะมีร่างสีทองโผล่มา

“เทพ ทางช้างเผือก” ร่างสีทองทักทาย

“จำลอง เจ้าแห่งกฏ และเทพแท้จริงที่ผ่านการคัดเลือกของกองทัพทั้งสี่ที่ข้าตรวจสอบไปก่อนหน้านี้” หลัวเฟิง สั่ง

ภายใน 1 ปี เขาได้ทำการตรวจสอบ 6 รอบเพื่อให้มั่นใจถึงจำนวนและข้อมูลของคนที่มาจากกองกำลังพันธมิตรร่วมและดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงที่ได้เข้ามาในโลกแห่งจิน

“ได้” ร่างสีทองตอบกลับทันที

ฮัวะ!

ภายในมิติที่มีแต่ หลัวเฟิง กับร่างสีทองนั้นอาบด้วยแสงสีทอง ร่างนับไม่ถ้วนเริ่มโผล่มาอย่างรวดเร็ว ร่างเหล่านี้อยู่กันเป็นระเบียบราวกับต่อแถว พวกนั้นยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับดูคล้ายกับคนโง่ที่แผ่ออร่าชีวิตของตัวเองออกมา ในโลกหน่วยกองทัพนี้ มันค่อนข้างง่ายที่จะจำลองออร่าชีวิต

“หืม…” หลัวเฟิง มองไปรอบๆ พร้อมกับตรวจสอบด้วยพลังอมตะของเขา

หน้าตาพื้นฐานของ เจ้าแห่งจักรวาล นั้นยังคงเดิม ยังไงซะชาวพื้นเมืองของโลกแห่งจินก็ไม่เคยเห็นพวกนี้มาก่อน ดังนั้นไม่ว่าจะหน้าตาจะแตกต่างจากชาวพื้นเมืองก็ไม่สำคัญอะไร นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมการค้นหาด้วยตาเปล่าจึงพบเพียงไม่กี่เป้าหมาย

“เก็บไว้ 61 และกำจัดที่เหลือ” หลัวเฟิง สั่งการและเร่งพลังอมตะล็อคไปยัง 61 เป้าหมาย

“ได้” ร่างสีทองตอบกลับ

ทันใดนั้นร่างนักรบจำนวนมากก็เริ่มหายไปเหลือทิ้งไว้เพียง 61 คนที่เป็น เจ้าแห่งกฏ

“แสดงรายชื่อที่บันทึกเวลาที่พวกเขาเข้ามาในกองทัพ” หลัวเฟิง สั่ง

เขาแค่สั่งการข้อมูลของทั้ง 61 คนก็ถูกส่งมา

“ทั้ง 61 คนนี้มาถึงเป็นกลุ่ม” หลัวเฟิง มองและพยักหน้าเงียบๆ “โดยรวมแล้วพวกเขาแบ่งเป็น 5 กลุ่มและกลุ่มสุดท้ายเข้ามาเมื่อ 2 เดือนก่อน ดังนั้นตั้งแต่ 2 เดือนก่อนจนถึงตอนนี้ มันก็ยังไม่มีสักคนที่เข้ากองทัพ…”

จากที่เขาตรวจสอบมาตลอดปี ระหว่างเดือนแรกของยุคสาม เขาได้ตั้งตัวเลขเฉลี่ยของนักรบที่เข้าร่วมกองทัพไว้ที่ 12 คน ตั้งแต่เดือนสองจึงถึงเดือนแปด มันก็เกิดจำนวนเพิ่มมากขึ้น จำนวนนักรบที่เข้าร่วมกองทัพเพิ่มขึ้นสูงสุด

เมื่อเวลาผ่านไปในช่วงหลังๆ ตัวเลขก็ลดลงอย่างชัดเจน จากนั้นใน 2 เดือนสุดท้ายมันก็ไม่มีใครเข้าร่วมกองทัพอีก

“หืม ข้าว่าตัวเลขของ เจ้าแห่งจักรวาล จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงและกองกำลังพันธมิตรร่วมเกือบถึงขีดจำกัดของพวกนั้นแล้ว” หลัวเฟิง พูดกับตัวเอง “ตลอดปีมานี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงมี เจ้าแห่งจักรวาล ทั้งหมด 110 คนที่เข้าร่วมกองทัพ ในทางกลับกันแล้วกองกำลังพันธมิตรมี 166 คน นี่ถือว่าเป็น 1 กลุ่ม โดยรวมแล้วดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงต้องมีนักรบทั้งหมดที่ยังมีชีวิตอยู่ 205 คน! และกองกำลังพันธมิตรร่วมมี 238 คน!”

หลัวเฟิง พยักหน้าพร้อมกับคิด

“ข้าว่า เจ้าแห่งจักรวาล ส่วนมากจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงคงเปลี่ยนวิธีเข้ามาและกองกำลังพันธมิตรร่วมก็เช่นกันซึ่งกว่าครึ่งของกองกำลังอาจจะกำลังเดินทางมาที่นี่ก็ได้”

มันไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าทั้งสองกลุ่มให้ความสำคัญกับพลัง เจ้าแห่งจักรวาล ทุกคนคาดหวังกับมัน ถ้าจำนวนคนที่โดนกำจัดระหว่างตอนคัดเลือกถูกนำไปคิดด้วย งั้นจำนวนของ เจ้าแห่งจักรวาล ที่มาที่นี่ก็ต้องมากกว่าเดิมอย่างชัดเจน

“ตัดสินจากจำนวนนักรบแล้ว มันค่อนข้างชัดเจนว่าจำนวนผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ระหว่างการคัดเลือกไม่ได้สูง” หลัวเฟิง พยักหน้า “ดูเหมือนว่าระหว่างการคัดเลือกสำหรับเจ้าแห่งจักรวาล จากทะเลจักรวาล อัตราการตายนั้นจะต่ำกว่าพวกชนพื้นเมืองของโลกแห่งจิน”

หลัวเฟิง คาดการณ์ว่าขุมกำลังต่างๆ จะลงมือกันเป็นกลุ่ม ทุกกลุ่มจะนำสมบัติติดตัวมาด้วย และมันอาจจะมีสมบัติแท้จริงชั้นยอดอยู่ในกลุ่มนั้นๆ ด้วย ยังไงซะ เจ้าแห่งจักรวาล บางคนจากกลุ่มต่างๆ ที่เข้ามาในโลกแห่งจินระหว่างยุคแรกและสองก็ได้เอาสมบัติแท้จริงชั้นยอดของเผ่าตนไปแลกกับคะแนนเพื่อหาผลประโยชน์ให้มากที่สุด มันบอกได้ว่ามีสมบัติแท้จริงชั้นยอดหลายชิ้นในทะเลจักรวาลที่เป็นสมบัติระดับเทพแท้จริงมิติ แม้แต่พวกที่อยู่ระดับเทพแท้จริง บางคนก็โดดเด่นเป็นอย่างมาก อาศัยโลกแห่งจินนี้ เขาจะสามารถแลกเปลี่ยนสมบัติระดับเทพแท้จริงได้จำนวนค่อนข้างมาก

“ได้เวลาลงมือแล้ว” หลัวเฟิง สูดหายใจเข้าลึกๆและแผ่ความอาฆาตออกมาทางดวงตา “นายพลทั้งสี่”

หลัวเฟิง ได้ติดต่อหานายพลทั้งสี่โดยตรงผ่านโลกหน่วย ไม่นานนายพลทั้งสี่ก็ปรากฏตัวขึ้นมาไม่ห่างจาก หลัวเฟิง

“ทางช้างเผือก”

“ทางช้างเผือก ทำไมถึงได้เรียกเรามา? หายากอยู่นะโอกาสแบบนี้”

หิมะประสาน และอีกสามนายพลรู้ว่า หลัวเฟิง เป็นผู้สืบทอดของราชา เพราะพวกเขารู้ว่า หลัวเฟิง สามารถใช้แรงโลกได้ พวกเขารู้ว่าราชานั้นชื่นชอบ หลัวเฟิง ดังนั้นตอนที่พวกเขาถูกเรียกตัวมา พวกเขาจึงรีบมาโดยไม่ลังเล

“ข้าต้องการฆ่ากลุ่ม เจ้าแห่งกฏ” หลัวเฟิง พูดออกมาตรงๆ

ทั้งสี่ต่างก็ดูลนลาน

“ฆ่าเป็นกลุ่ม?”

“ฆ่าเท่าไหร่? กี่ล้านคน?”

นายพลทั้งสี่กังวลอย่างมาก พวกเขาอึดอัดกับการฆ่านักรบจำนวนมาก เรื่องแบบนี้มีแต่จะสร้างความวุ่นวาย

หลัวเฟิง หัวเราะออกมา “ไม่มากหรอก ไม่ถึง 500 ด้วยซ้ำ”

“ไม่มากกว่า 500!” นายพลทั้งสี่หัวเราะตามเขา

มันช่างเป็นตัวเลขที่น้อยนิด!

มันเท่ากับการสู้กันปกติตามเผ่าที่มี เจ้าแห่งกฏ ตายไป น้อยกว่า 500 นี่มันไม่เพียงพอจะก่อปัญหาให้กับการทำงานของพวกเขาด้วยซ้ำ

“เหตุผลว่าทำไมข้าถึงได้เรียกพวกท่านคือนักรบ 500 คนนี้ต่างก็อยู่กระจายไปใน 4 กองทัพ” หลัวเฟิง อธิบาย “แผนของข้าคือการโจมตีและฆ่าพวกนี้ทั้งหมดในคราวเดียวและ…ความต้องการของข้าคือการโจมตีวิญญาณ พวกนี้อยู่กระจายไปในแคมป์กองทัพทั้งสี่ การฆ่าพวกนี้ให้หมดในคราวเดียวนั้นเป็นเรื่องยากอย่างมาก ข้าจึงคิดว่าหากข้าได้พวกท่านทั้งสี่ช่วย ถ้าพวกท่านใช้จักรวาลย่อยร่วมกันห่อหุ้มแคมป์กองทัพทั้งหมดเอาไว้ ข้าก็จะสามารถกำจัดวิญญาณพวกนั้นทั้งหมดได้ในคราวเดียว และจะไม่มีใครรอดไปได้”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!