Skip to content

Swallowed Star 1409

ตอนที่ 1409 : พันล้านยุค

เด็กๆ ทั้งหกได้วิ่งไปล้อม สวีซิน เอาไว้และพากันร้องดีใจ สวีซิน เองก็เล่นกับพวกเขาอย่างมีความสุข

หลัวเฟิง ยิ้มและมองดู ด้วยความช่วยเหลือของเขา ภรรยาจึงได้ร่างนิรันดร์และย้ายวิญญาณมายังอีกร่างได้ เธอเป็นผู้อมตะมานานแล้วแต่หลังจากที่เป็นผู้อมตะ สวีซินไม่ต้องการบ่มเพาะต่อ อันที่จริงด้วยสมบัติที่ หลัวเฟิง ให้ไป สวีซิน สามารถเป็นอัศวินอวกาศได้อย่างง่ายดายหากเธอพยายาม แต่เธอไม่ได้สนใจการบ่มเพาะเลย

“ข้ารู้ว่าเจ้าจะมายังดวงดาวนี้ และเจ้าก็อยู่ที่นี่จริงๆ” สวีซิน พูดขึ้น จากนั้นเธอก็เดินไปหา หลัวเฟิง เด็กๆ รู้ว่าพ่อกับแม่คุยกัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เข้าไปยุ่งด้วย

หลัวเฟิง พยักหน้า “ข้าสร้างพวกเขามา ดังนั้นโดยเทคนิคแล้วพวกเขาก็คือลูกข้า ข้ามาที่นี่เพื่อดูพวกเขา”

“เจ้ามีลูกมากมาย ทั้งแบบเลือดเนื้อ, พลังงาน และต้นไม้” สวีซิน พูดตลกออกมา

“โชคร้าย” หลัวเฟิง พูดพร้อมกับถอนหายใจ “พวกเขาไม่อาจจะสืบพันธุ์ได้”

“เจ้าได้สร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาสุ่มๆ และพวกเขาก็ขึ้นถึงระดับจักรวาลได้อย่างง่ายดาย” สวีซิน พูดขึ้น “ถ้าเจ้าพยายาม พวกเขาก็จะเป็น ระดับห้วงมิติ ได้อย่างง่ายดาย…ถ้าพวกเขาสืบพันธุ์ได้ เผ่าอื่นจะมีหวังที่จะมีชีวิตต่อได้ยังไง? อาณาเขตก็จะมีแต่โดนยึดครองโดยพวกคนที่เจ้าสร้างขึ้นมา”

หลัวเฟิง พยักหน้า เขารู้ว่าสิ่งมีชีวิตที่เขาได้สร้างขึ้นมาง่ายๆ นั้นไม่อาจจะสืบพันธุ์ได้

“หือ?” ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัว หลัวเฟิง

สวีซิน เห็นสีหน้าของ หลัวเฟิง และบอกได้ว่า หลัวเฟิง มีความคิดบางอย่าง สีหน้าเขาดูพอใจอย่างมาก

“มีอะไร?” สวีซิน ถาม

“ข้ามีความคิด! ข้าได้ความคิดแล้ว!” หลัวเฟิง ดีใจขึ้นมา

“ความคิดอะไรกัน?” สวีซิน ถาม

ตา หลัวเฟิง เป็นประกายขึ้นมา “ทั้งเจ้าแห่งจักรวาลเก้ากว้างไกล กับข้าต่างก็ได้รับความสามารถในการสร้าง เราทั้งสองสามารถสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาได้ แม้ว่าสิ่งมีชีวิตที่สร้างขึ้นมาจะแข็งแกร่งแต่ไม่มีสักคนที่สืบพันธุ์ได้ มันต่างกันการให้ความสามารถผลิตซ้ำกับร่างชีวิต ตลอดเวลาร่างอมตะของเข้าก็หยุดพัฒนาและไม่อาจจะก้าวหน้า ข้าไม่รู้ว่าจะพัฒนาตัวเองยังไง! ตอนนี้ข้ามีความคิดขึ้นมา ร่างชีวิต! การสืบพันธุ์!”

หลัวเฟิง ตื่นเต้นขึ้นมาและพูดต่อ “มันยากที่ข้าจะสร้างร่างชีวิตที่สืบพันธุ์ได้ ข้าต้องทำความเข้าใจโครงสร้างชีวิตมากกว่านี้…เมื่อข้าเข้าใจแล้ว มันจะช่วยให้ข้าพัฒนาร่างอมตะของข้าได้”

****

แม้แต่ในสังคมโบราณ มันก็มีไม่กี่คนที่กลายเป็นเทพแท้จริงหลังจากที่มียีนส์ชีวิต 90,000 เท่า แม้ว่ามันจะมีวิธีในสายน้ำวูดูวง เรื่องเส้นทางพลังเทพ แต่ยีนส์ชีวิตของหลัวเฟิง ก็อยู่ระดับ 60,000 เท่าแล้ว วิธีส่วนมากไร้ค่าและวิธีที่มีประโยชน์ก็ยังไม่อาจจะใช้ได้

หลัวเฟิง ติดอยู่กับที่ เขาได้แต่ศึกษาภาพโครงสร้างชีวิตของเทพแท้จริงแต่ตอนนี้เขาพบทางอื่นแล้ว เขาจะศึกษาภาพโครงสร้างชีวิตและสร้างร่างชีวิตพร้อมกัน การทำสองวิธีนี้พร้อมกันจะช่วยให้เขาพัฒนาตัวเองได้อย่างมาก!

****

การมียีนส์ชีวิต 90,000 เท่าของเส้นทางพลังอมตะนั้นยากกว่าการเป็นเทพแท้จริงมิติ และมันต้องกินเวลานาน หลายพันล้านยุคจะผ่านไปเพียงพริบตา

****

จากยุคสามตั้งแต่ที่โลกแห่งจินปรากฏตัวขึ้นมา คนจากกองกำลังพันธมิตรร่วมและดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงนั้นโดนฆ่าในโลกแห่งจิน ทุกขุมกำลังในทะเลจักรวาลต่างก็หวั่นเกรงและกองกำลังพันธมิตรร่วมก็แตกกระจาย พวกเขาพากันอพยพและถอย ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงไม่ทำตัวโดดเด่นและก่อปัญหาให้กับมนุษย์

มนุษย์ได้ขยายตัวทันที พวกเขายึดครองพื้นที่ในจักรวาลดั้งเดิมไว้กว่าครึ่ง มันคือจุดเริ่มต้นของมนุษย์

ยุคหก อาจารย์ที่ห้าจากเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ได้รับสมบัติเครื่องจักรมาและหลังจากที่ข่าวนี้แผ่ออกไป ทุกขุมกำลังในทะเลจักรวาลต่างก็พากันอิจฉา พวกเขาขยันมากกว่าเดิมในโลกแห่งจินเพื่อหาสมบัติเครื่องจักร

พวกที่ได้รับสมบัติเครื่องจักรต่างก็อยู่ในหน่วยพิเศษโดยไม่มีข้อยกเว้น แค่เรื่องนี้อย่างเดียวก็ทำให้หลายขุมกำลังต้องผิดหวัง ไม่งั้นแล้วพวกเขาจะเอาคะแนนกองทัพไปแลกกับสมบัติเครื่องจักรมาแล้ว

ในยุคเจ็ด หลัวเฟิง ได้พบกับ อาจารย์ที่ห้า ในทะเลจักรวาล อาจารย์ที่ห้า ได้ท้าทายเขา เพราะรู้มาจากบรรพบุรุษอสูรเทพทั้งสามว่า หลัวเฟิง คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลจักรวาลแต่ อาจารย์ที่ห้า ไม่เชื่อ

ไม่มีใครดูการต่อสู้นี้ หลัวเฟิง ได้สู้กับ อาจารย์ที่ห้า ที่ซึ่งเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลจักรวาลก่อนที่ หลัวเฟิง จะโผล่มา(ยกเว้นอาจารย์ต้นกำเนิดที่โดนขัง) เมื่อเขาได้รับเทคนิคเผาพลังอมตะและสมบัติเครื่องจักรมา เขาจึงแข็งแกร่งอย่างมาก

ไม่มีใครรู้ผลลัพธ์การต่อสู้แต่พวกเขาต่างก็รู้ว่าเกิดการต่อสู้ขึ้น หลังจากที่สู้กันแล้วเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์ได้กลายเป็นพันธมิตรของมนุษย์และ อาจารย์ที่ห้า ก็กลายเป็นเพื่อนกับ หลัวเฟิง

โลกภายนอกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ หลัวเฟิง รู้ดีว่าผลลัพธ์การต่อสู้นี้คือเสมอกัน!

เมื่อเป็นเรื่องพลังโจมตี อาจารย์ที่ห้า นั้นได้เปรียบแต่เมื่อเป็นเรื่องร่างอมตะแล้ว หลัวเฟิง ได้เปรียบ นอกจากนี้ หลัวเฟิง ก็เก่งการต่อสู้ระยะประชิดและการป้องกัน ดังนั้นมันจึงไม่อาจจะสรุปได้จนสุดท้ายก็เสมอกัน

แน่นอนว่าถ้าพวกกเขาสู้กันนานพอ หลัวเฟิง คงจะชนะด้วยการเผาร่างอมตะแต่อาจารย์ที่ห้า มั่นใจว่าจะหนีไปได้ด้วยสมบัติแท้จริงชั้นยอดของเขา มันคือผลเสมอจริงๆ และมันก็ไม่มีผู้ชนะในการต่อสู้นี้ นอกจากนี้ อสูรทลายมิติ คือภัยสำหรับทุกคน ดังนั้น หลัวเฟิง จึงถือว่าการต่อสู้นี้เป็นการทดสอบ พวกเขาต่างก็เข้าใจว่าพวกเขามีหน้าที่ต้องไปจัดการกับ อสูรทลายมิติ

ข้าฆ่าเทพแท้จริงได้อย่างง่ายดาย หลัวเฟิง คิด แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคนอย่าง อาจารย์ที่ห้า ที่มีเทคนิคเผาพลังอมตะและสมบัติเครื่องจักรแล้ว มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับข้า แม้ว่าข้าจะใช้แค่คิดมิติก็เกิดแต่ข้าก็ได้แค่สยบเขาแทนที่จะเอาชนะเขา

เขาไม่ได้ใช้ปีกซื่อหวู๋ในตอนที่สู้ แค่คิดก็สร้างมิติถูกใช้ไว้ทำให้ศัตรูโดนผูกมัด อาจารย์ที่ห้า นั้นเก่งเรื่องการโจมตีโดยตรง แม้ว่าจะถูกกักกันแต่เขาก็ยังดีกว่า หลัวเฟิง อาจารย์ที่ห้า ไม่จำเป็นต้องหลบแม้ว่าจะโดนจำกัดตัวไว้ก็ตาม

****

ในยุคที่ 12 เจ้าแห่งดาวไบ่ชิงได้รับสมบัติเครื่องจักรมา

ในหลายๆ ยุคที่ผ่านมามีเทพแท้จริงจากทะเลจักรวาลได้เข้าไปในโลกแห่งจินกันทีละคนๆ บางคนตายแต่บางคนก็น่าประทับใจ สุดท้ายพวกเขาก็ได้สมบัติเครื่องจักรมา ภายใต้การฝึกอันหนักหน่วงจากกองทัพ พวกคนจากทะเลจักรวาลก็เริ่มแสดงพรสวรรค์ของตัวเอง พรสวรรค์และความเข้าใจของคนจากทะเลจักรวาลนั้นเหมือนจะสูงกว่า

****

ในยุคที่ 91 หลัวเฟิง ดีใจขึ้นมาเมื่อรู้ว่าทรูหยันได้กลายเป็น เจ้าแห่งจักรวาล เขาเป็น เจ้าแห่งจักรวาล คนที่สามที่เกิดมาหลังจากที่ หลัวเฟิง ได้รับการสืบทอดสายน้ำวูดูวง

****

จากยุค 91-1,003 เจ้าแห่งจักรวาล บางคนได้กำเนิดขึ้นมาในเผ่ามนุษย์แต่ไม่มีเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเลยสักคน

ในยุค 1,003 มันก็มีเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดคนที่สองกำเนิดขึ้นมา เทพแท้จริงเป็งกง!

แม้แต่ในหมู่มนุษย์ มันก็น่าแปลกใจที่ เป็งกง ได้กลายเป็นเทพแท้จริง!

ด้วยจิตของจักรวาลดั้งเดิม บรรพบุรุษอสูรเทพทั้งสามไม่ได้สนใจที่จะปิดความลับว่า หลัวเฟิง คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลจักรวาล ผลก็คือเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป

ไม่มีใครรู้ผลลัพธ์การต่อสู้ระหว่าง อาจารย์ที่ห้า กับ หลัวเฟิง แต่ อาจารย์ที่ห้า ไม่ได้ปฏิเสธว่า หลัวเฟิง นั้นเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งเป็นการยืนยันคำพูดของจิตจักรวาลดั้งเดิม

ทุกเผ่าต่างก็หวังว่า หลัวเฟิง จะกลายเป็นเทพแท้จริงคนที่สอง…หรืออย่างน้อยก็น้องของผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล อย่าง เจ้าแห่งจักรวาลความมืด แทนที่จะเป็น เทพแท้จริงเป็งกงที่ไม่ได้ทำตัวโดดเด่นเลยตลอดเวลา

****

ในยุค 3,402 หลังจากที่ศึกษาภาพโครงสร้างชีวิตมานาน ในที่สุด หลัวเฟิง ก็สร้างร่างชีวิตที่สืบพันธุ์ได้ ชีวิตนั้นดูเหมือนกับมนุษย์แต่อ่อนแอ แม้ว่าจะอ่อนแอกว่าชาวโลกแต่อย่างน้อยก็สืบพันธุ์ได้

หลัวเฟิง ทะลวงระดับขึ้นมาได้ 3 ยุคจากนั้นร่างอมตะของเขาก็พัฒนาจาก 60,000 เท่าเป็น 69,000 เท่า จากนั้นมันก็มาถึง 72,000 เท่า

****

ในยุค 13,000 เจ้าแห่งจักรวาล คนใหม่ก็กำเนิดขึ้นมาจากชาวโลก หง!

หง ที่มักจะถ่อมตัวในที่สุดก็กลายเป็น เจ้าแห่งจักรวาล หลังจากได้รับการชี้แนะจากสังคมโบราณมา 10,000 ยุค เขาเป็นอัจฉริยะ แต่ความโดดเด่นนั้นด้อยกว่าหลัวเฟิง ถ้าไม่ใช่เพราะ หลัวเฟิง เขาคงเป็นหนึ่งในตัวตนระดับสูงของเผ่ามนุษย์

ตอนนี้มี เจ้าแห่งจักรวาล 32 คนในเผ่ามนุษย์แล้ว

จากนั้นมาก็มี เจ้าแห่งจักรวาล สองคนในหมู่ชาวโลกและก็มีอัศวินอวกาศ 9 คนรวมไปถึง เทพสายฟ้า ด้วย

****

ในยุค 39,000 ยูฮันโบ ได้ถูกยอมรับเข้าองค์กรจักรวาลเสมือน และเขาได้กลายเป็นอัศวินอวกาศด้วยการชี้แนะจากสังคมโบราณ

อันที่จริงพวกที่กลายเป็นจักรพรรดิและเจ้าหน้าที่ได้โดยไม่มีการชี้แนะจากสังคมโบราณถือว่ามีพรสวรรค์ คนที่อยู่เพียงลำพังอย่าง ยูฮันโบ ที่ไม่มีใครคอยชี้แนะได้สร้างเทคนิคขึ้นมาด้วยตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงถือว่ามีพรสวรรค์ เมื่อพวกเขาได้รับการชี้แนะจากคนอื่นและสังคมโบราณ มันก็เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะทะลวงระดับได้ อัศวินอวกาศหลายคนได้กำเนิดขึ้นมาในเผ่ามนุษย์ในเวลานั้น

หลายคนติดอยู่ที่ระดับจักรพรรดิขั้นสูงสุดได้กลายเป็นอัศวินอวกาศด้วยความช่วยเหลือจากสังคมโบราณ คนนับไม่ถ้วนได้ทะลวงระดับขึ้นมาได้ในหลายสิบยุคที่ผ่านมาและก็มีอัศวินอวกาศกว่า 50,000 คนในเผ่ามนุษย์

****

ในยุค 39,800 หลัวเฟิง ได้รับข่าวจากบาบาต้า บอกถึงตำแหน่งของ จักรพรรดิมือปีศาจซูเหล่าพู ข้อมูลนี้ทำให้ หลัวเฟิง อึ้ง จักรพรรดิมือปีศาจ ได้ฆ่า ยูฮันโบ และ หลัวเฟิง ก็ได้ไปฆ่าอีกฝ่ายหลังจากที่เขาแข็งแกร่งขึ้น หรือเขาคิดไว้แบบนั้น เขาไม่คิดว่าจักรพรรดิมือปีศาจ จะยังมีชีวิตอยู่

แต่ ยูฮันโบ ที่เป็นอัศวินอวกาศได้ออกไปล่า ซูเหล่าพู จักรพรรดิมือปีศาจ ถูกเปิดเผยตำแหน่งเพราะมนุษย์นั้นทรงพลัง มนุษย์ได้ครองพื้นที่กว่าครึ่งของเขตหลักในจักรวาลดั้งเดิมและคนของ หลัวเฟิง ในเผ่าอื่นๆ ของพันธมิตรหงก็ได้ครองพื้นที่ที่เหลือส่วนมาก อำนาจของเผ่ามนุษย์นั้นมองไม่เห็นแต่ถือว่าครอบคลุมไปทั่วจักรวาลดั้งเดิม

แม้ว่า ซูเหล่าพู จะซ่อนอยู่ในที่ห่างไกลแต่ก็มีหลายคนรู้จักเขา มนุษย์ได้ออกไปเพื่อตามหาตัวเขา

จักรพรรดิมือปีศาจ น่าจะตายไปนานแล้ว ทำไมเขายังมีชีวิตอยู่?

ข่าวนี้ทำให้ หลัวเฟิงสนใจขึ้นมา

แต่ ยูฮันโบ ได้ออกไปตามล่า ซูเหล่าพู และหลังจากผ่านไปไม่นาน ยูฮันโบ ก็ได้ฆ่า ซูเหล่าพู ได้หลังจากที่ทำการล่าอยู่ 3 ยุค

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!