ตอนที่ 1412 : อสูรทลายมิติออกมา

เจ้าแห่งดาวไบ่ชิง พยักหน้า “เรารู้เล็กน้อยเกี่ยวกับพวกนั้นในตอนนี้ อย่างแรกเลยเรารู้ว่า อสูรทลายมิติ นั้นเก่งเรื่องการโจมตีวิญญาณและอย่างที่สองคือเรารู้ว่าพวกมันมีพลังตรงกันข้ามกับพลังอมตะ อีกอย่างแล้วเรารู้ว่าถึงแม้ อสูรทลายมิติ จะสู้และคิดจะฆ่ากันเองแต่เมื่อเราโผล่มา พวกมันก็จะร่วมมือกันในการโจมตีเรา เทพแท้จริงตาปีศาจ และ เทพแท้จริงเงามายา นั้นโดน อสูรทลายมิติ สามตัวโจมตีพร้อมกัน”

หลัวเฟิง และคนอื่นๆ ต่างก็พยักหน้า พวกเขารู้ว่าถึงแม้ อสูรทลายมิติ จะพยายามฆ่ากันเอง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูภายนอก พวกมันจะร่วมมือกันในการสู้กับคนนอก

“งั้น…” เทพแท้จริงเก้ากว้างไกล ส่ายหน้า “มันคงยากที่จะฆ่าพวกนั้นทีละตัวๆ”

หลัวเฟิง คิด ทั้ง หง และตาปีศาจ เก่งเรื่องภาพลวงตาและพลังจิตของเขาก็อยู่ในระดับเทพแท้จริงมิติ!

เทพแท้จริงในทะเลจักรวาลมีพลังจิตที่ระดับเทพแท้จริงมิติหลังจากที่ฝึกฝนในโลกแห่งจิน แต่มีหลายคนที่อยู่แค่ระดับเทพแท้จริง ถ้าพวกเขามีพลังจิตแค่ระดับเทพแท้จริง พวกเขาคงต้องได้รับความเสียหายอย่างมาก…

บางคำพูดนั้นเป็นข้อหวงห้ามในทะเลจักรวาล ข้อมูลเกี่ยวกับเทพแท้จริงมิติและพวกที่ทรงพลังมากกว่านั้นถูกปกปิดเอาไว้

“เรารู้เกี่ยวกับพวกมันเพียงน้อยนิด” เจ้าแห่งปีศาจเก้าหัว พูดขึ้นอย่างกังวล

“พวกมันมีทักษะอะไร? พวกมันมีกี่ตัว? เราไม่รู้อะไรเลย” จือฮี พยักหน้า

“นอกจากนี้จุดจบของจักรวาลยุคนี้ก็ใกล้เข้ามาแล้ว” เทพแท้จริงตาสวรรค์ พูดขึ้นมา “มันอาจจะกินเวลาล้านล้านยุคก่อนมันจะมาถึง ตามจักรวาลดั้งเดิมแล้วเราต้องจัดการพวก อสูรทลายมิติ ก่อนที่จะจบจักรวาลยุคนี้ ไม่งั้นแล้วมันคงสายเกินไป”

อสูรทลายมิติ นั้นคือต้นตอแห่งความกังวลสำหรับทุกคนในทะเลจักรวาล แม้แต่หลัวเฟิง กับ เทพแท้จริงตาสวรรค์ แม้จะเคยผิดใจกันแต่ตอนนี้ก็เป็นมิตรกันแล้ว ด้วยการที่มีศัตรูร่วมกันแล้ว ความเกลียดชังที่มีก็หายไปแทบจะทันที

“ข้าคิดว่าเราต้องไปยังที่อยู่ของ อสูรทลายมิติ อีกครั้ง” เทพแท้จริงตาสวรรค์ พูดขึ้น

“ใช่ เราต้องไปที่นั่นอีกและเราต้องการข้อมูลมากกว่านี้” จือฮี กังวล “เราต้องเรียนรู้จากพวกมัน จากนั้นเราจะได้เตรียมตัวและวางแผนได้ดีกว่านี้”

กว่าล้านล้านยุคที่ผ่านมา ทะเลจักรวาลได้ดูดซับการสืบทอดจากสังคมโบราณรวมไปถึงเทคนิคโบราณ, สมบัติเครื่องจักรและการควบคุมพวกมัน!

คนในทะเลจักรวาลได้ขึ้นไปถึงขีดจำกัดของตัวเอง คนอย่าง เทพแท้จริงตาสวรรค์, เจ้าแห่งดาวกระดูก และ เทพแท้จริงเก้ากว้างไกล ไม่อาจจะพัฒนาตัวเองได้อีกแม้ว่าจะให้เวลาอีกยุคเกิดใหม่ก็ตาม ในทางกลับกันแล้ว อสูรทลายมิติ นั้นมีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

มันได้เวลาสู้!

“เราต้องสร้างทีมเทพแท้จริงจากพวกทะเลจักรวาล” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดพร้อมกับพยักหน้า “เราต้องไปยังดินแดนแห่งความมืดมิดและเรียนรู้เรื่องพวกมันมากกว่าเดิมเพื่อที่เราจะได้วางแผนได้ดีกว่านี้ อย่างแรกเทพแท้จริงทั้งหมดในทีมก็ต้องแข็งแกร่ง อีกอย่างแล้วเราต้องรู้ว่ามันอันตราย เราไม่อาจจะให้ความล้มเหลวครั้งนี้ทำให้รากฐานของทะเลจักรวาลต้องสั่นไหว!”

ทุกคนพยักหน้า ไม่มีใครรู้ว่าดินแดนแห่งความมืดมิดอันตรายแค่ไหน ถ้าตัวตนสูงสุด 8 คนโดนฆ่า แม้ว่าพวกเขาจะได้ข้อมูลมามากกว่าเดิมแต่มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ยังไงซะทั้ง 8 คนนี้ก็เป็นเสาหลักของทะเลจักรวาล

“ข้าจะนำเอง” หลัวเฟิง พูดขึ้น “เทพแท้จริงคนหนึ่งจากจักรวาลยุคแรก, อีกคนจากยุคสอง และอีกสองจากจักรวาลดั้งเดิม เราจะสร้างทีมแบบนี้และข้าจะเข้าร่วมด้วย ซึ่งจะมีทั้งหมด 5 คน”

หากรวม หลัวเฟิง แล้ว จะมี 3 คนจากจักรวาลดั้งเดิม ซึ่งก็คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว เพราะจำนวนเทพแท้จริงจากจักรวาลดั้งเดิมนั้นก็มีมากกว่าจักรวาลยุคแรกและจักรวาลยุคสอง

“ได้”

“ทางช้างเผือก จะนำในครั้งนี้ มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

“ทางช้างเผือก จะหาความลึกลับเบื้องหลังนี้ได้แน่”

จือฮี, เทพแท้จริงตาสวรรค์ และ เจ้าแห่งดาวกระดูก ต่างก็แปลกใจ หลัวเฟิง เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลจักรวาล ถ้าเขาไม่พบเบาะแส งั้นก็ไม่มีใครทำได้

หลัวเฟิง พยักหน้า เขาเป็น เจ้าแห่งจักรวาล ที่มีหลายร่าง แม้ว่าร่างหนึ่งจะโดนกำจัดไปแต่มันก็สามารถฟื้นฟูได้ในไม่ช้า สำหรับล้านล้านยุคที่ผ่านมา พลังจิตของเขาได้ขึ้นมาถึงระดับเทพแท้จริงนิรันดร์และด้วยการฝึกฝนเทคนิคราชาเทพก็ให้รางวัลอย่างมาก เขายังมีร่างเทพขนาดใหญ่และเป็นคนที่แข็งแก่รงที่สุดในทะเลจักรวาล เขาไม่กลัวกลุ่มของพวก อสูรทลายมิติ

“เทพแท้จริงตาสวรรค์, จือฮี กลับไปคุยกับคนจากยุคของเจ้า” หลัวเฟิง พูดขึ้น “เทพแท้จริงอย่างละคนและพวกเขาก็ต้องมีพลังจิตที่แข็งแกร่ง”

ทั้ง เทพแท้จริงตาสวรรค์ และ จือฮี พยักหน้าและพากันตอบกลับ

“แน่นอน”

“ไม่มีปัญหา มีเทพแท้จริงหลายคนอยากจะไปกับเจ้า”

กว่าล้านล้านยุคก่อนหน้านี้ หลัวเฟิง ได้แข็งแกร่งมากกว่าเดิมเรื่อยๆ หลังจากที่ฝึกเทคนิคตาเทพแล้ว หลัวเฟิง ก็ทำให้เทพแท้จริงหวั่นกลัวได้ด้วยการมอง ทุกคนต่างก็กลัว หลัวเฟิง และพวกเขาก็รู้ว่าพลังของเขานั้นเหนือกว่าที่คาดถึงได้เมื่อเขากลายเป็นเทพแท้จริง

*****

หลังจากที่พบปะกันครั้งนี้พวกเขาก็มีแผนกับการจัดการกับ อสูรทลายมิติ ไม่นานทั้งแปดก็แยกย้ายกัน หลัวเฟิง, ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล และ เจ้าแห่งจักรวาลเก้ากว้างไกล ได้บินกลับไปยังจักรวาลดั้งเดิม

“เก้ากว้างไกล” หลัวเฟิง พูดขึ้น “เราต้องการเทพแท้จริงสองคนจากจักรวาลดั้งเดิม คนหนึ่งจากสำนักบรรพบุรุษอสูรเทพและอีกคนจากพันธมิตรสัตว์อสูรอวกาศ มันจะมีปัญหาอะไรรึเปล่า?”

“ไม่มีปัญหา” เจ้าแห่งจักรวาลเก้ากว้างไกล พยักหน้า

สำนักบรรพบุรุษอสูรเทพกับพันธมิตรสัตว์อสูรอวกาศมีเทพแท้จริงอยู่หลายคน

“แต่เจ้าก็ต้องระวังไว้ด้วย” เจ้าแห่งจักรวาลเก้ากว้างไกล พูดขึ้น “มันคือที่อยู่ของ อสูรทลายมิติ ซึ่งบังคับให้จักรวาลดั้งเดิมใช้วิธีการมากมาย”

“ถูกต้อง” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “อย่าประมาทพวกมัน นึกถึง ขวานยักษ์ ไว้ด้วย”

หลัวเฟิง พยักหน้า “ข้ารู้ ข้าจะส่งร่างโมชานไปที่นั่น มันไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น”

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ผ่อนคลายขึ้นมา ร่างโมชานเป็นสิ่งมีชีวิตพลังงานและมันไม่ได้มีวิญญาณ ดังนั้นการโจมตีวิญญาณจึงไร้ประโยชน์กับร่างนั้น นอกจากนี้ หลัวเฟิง ยังขึ้นไปถึงระดับสองของร่างพลังงานแล้วและร่างโมชานก็สูงกว่า 100 ล้านกิโลเมตร ร่างที่ใหญ่แบบนี้ใหญ่กว่า หง หรือ เทพแท้จริงตาปีศาจ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องกลัว

ครั้งนี้…หลัวเฟิง คิด ตอนที่จักรวาลทั้งสามยุคได้เลือกคนมา ข้าจะไปคุยกับอาจารย์

หลัวเฟิง รู้ว่าเทพแท้จริงเป็นคนของเผ่าอื่นๆ และมันก็ต้องใช้เวลาที่จะตัดสินว่าจะส่งใครไปบ้าง

****

ดินแดนแห่งความมืดมิดในเขตหลักของที่ห่างไกลในยอดเขาเอียง

ฮัวะ! ฮัวะ! ฮัวะ!

มีหมอกดำสั่นไหวสามอันที่ริมส่วนดินแดนแห่งความมืดมิด ซึ่งไม่มีให้เห็นมาก่อนแต่ยิ่งเวลาผ่านไปหมอกนั้นก็เริ่มหนาแน่นขึ้น

ฮ่ง!

ลำแสงสีดำพุ่งออกมาจากดินแดนแห่งความมืดมิด จากนั้นก็ลดความเร็วลงก่อนจะหยุด มันคือสัตว์อสูรขนาดใหญ่ที่แผ่แสงสีดำออกมาจากร่างกายทั่วทุกที่ มันมีหัวสองหัว และแต่ละหัวก็มีตา, จมูกและปากอันเดียว มันมีแขนคู่หนึ่งและขาอีกคู่ ตัวมันเปล่าเปลือยและมีพลังงานอันชั่วร้ายแผ่ออกมาจากทุกส่วนของร่างกาย ตาเดียวแต่ละหัวของมันมองไปรอบๆ ตัวของมันบาดเจ็บหลายสิบแห่งและมีเลือดสีดำไหลออกมา ทันใดนั้นหัวหนึ่งก็อ้าปากและมีลิ้นยื่นออกมา มันเลียไปทั่วตัวราวกับลำแสง

“ไบดี้…!” อสูรทลายมิติคำรามออกมา “ข้าคือราชา! เจ้าเป็นคนตั้งระบบซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น เจ้าต้องการฆ่าและกินข้ารึ? รอก่อนเถอะ…มันจะไม่ง่ายแบบนั้น ครั้งที่แล้วมีอาหารสองตัวอยู่ตรงหน้าเรา พวกสามตัวนั่นโง่จนปล่อยให้อาหารหลุดลอยไป ไบดี้ บางทีข้าอาจจะเอาชนะเจ้าที่รังของเราไม่ได้แต่นอกจากการกิน อสูรทลายมิติ แล้ว ข้าเองก็กินอาหารอันอร่อยเพื่อทำให้ข้าแข็งแกร่งขึ้นได้ ข้าจะไปยังโลกที่มีอาหารอันโอชะและกินพวกมันไม่หยุด ข้าจะแข็งแกร่งขึ้น เมื่อข้ากลับไป ข้าจะนำ หน้าเจ้า อสูรทลายมิติ ในรังของเราล้วนแต่ชั่วร้ายและไม่ยอมให้เจ้ากิน อาหารด้านนอกนั้นหาได้ง่ายกว่า ตอนที่ข้ากลับมาข้าจะแข็งแกร่งกว่าเจ้า จากนั้นข้าจะกินเจ้าและคนอื่นๆ ข้าจะเป็นราชาที่ไร้เทียมทาน”

ฮัวะ!

มันได้บินไปยังคลื่นส่วนที่มีเรือขนาดใหญ่ลอยอยู่ ตอนที่แสงสีดำบินผ่าน ร่างสองร่างได้บินออกมา

“ราชา” จักรพรรดิเจินเจี๋ย และ บรรพบุรุษมังกรหิน พูดขึ้น

สัตว์อสูรหยุดและมองไปยังเทพแท้จริงทั้งสอง มันมองไปที่พวกนั้นสักครู่ จากนั้นมันก็เปลี่ยนรูปร่างของมันและเปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์ซึ่งมีหางขนาดใหญ่ที่หลัง มันเลียนแบบบุคลิกของ จักรพรรดิเจินเจี๋ย และ บรรพบุรุษมังกรหิน ในเวลาเดียวกันมันก็ได้แผ่พลังอมตะออกมา

“ดูสิ ข้าดูเหมือนพวกเจ้ารึเปล่า?” อสูรทลายมิติ ถาม

“ใช่ ดูเหมือนแล้ว” จักรพรรดิเจินเจี๋ย และ บรรพบุรุษมังกรหิน ตอบกลับ

พวกนั้นคิดว่า อสูรทลายมิติ ทุกตัวเป็นราชา อสูรทลายมิติ ทุกตัวอันตรายและแต่ละตัวก็คิดว่าตัวเองดีที่สุด

“ข้าต้องการข้อมูลเรื่องทะเลจักรวาลมากว่านี้” อสูรทลายมิติ พูดขึ้น “บอกข้ามาเรื่องตัวตนยิ่งใหญ่ในทะเลจักรวาล”

จักรพรรดิเจินเจี๋ย และ บรรพบุรุษมังกรหิน มองหน้ากัน อสูรทลายมิติ ตัวนี้จะเข้าไปยังทะเลจักรวาลงั้นรึ?

พวกเขาพากันยินดี พวกเขาเก็บกดความต้องการมานานแล้ว หลังจากที่ เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดสายฟ้ายิ่งใหญ่ตายไป พวกเขาก็เป็นแค่ศัตรูสองคนของ หลัวเฟิง ที่เหลืออยู่!

จากชื่อเสียงของ หลัวเฟิง แล้ว พวกเขาไม่กล้าจะเข้าไปยังโลกแห่งจิน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้รับการสืบทอดโบราณหรือสมบัติเครื่องจักรและเพราะแบบนั้นพวกเขาจึงต้องรออยู่ที่นี่ตลอดเวลา