ตอนที่ 1416 : กองทัพของทะเลจักรวาล
จักรวาลหลักภายในชายแดนของจักรวรรดิแกนวูที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทางช้างเผือก
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทางช้างเผือกในวันนี้เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหนึ่งในสองศูนย์กลางหลักของเผ่ามนุษย์ ศูนย์กลางหนึ่งคือเขตหลัก อีกที่คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทางช้างเผือก เพราะเผ่ามนุษย์มีอำนาจมากพอ มหาสมุทรกว้างไกลจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในเขตหลักอีกต่อไป นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม หลัวเฟิง ถึงได้ย้ายมันมายังจักรวรรดิเทพ ก่อนจะเปลี่ยนมันอีกครั้งมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทางช้างเผือก
“โดมไฟ” หลัวเฟิง ในชุดขาวเดินไปตามทางเดิน ด้านหลังเขามีชายหนุ่มผมยาวสีแดง เขาอาจจะดูเหมือนชายหนุ่มแต่จริงๆ แล้วเขาคือ เทพแท้จริงโดมไฟ ผู้มีพรสวรรค์ในเรื่องภาพลวงตาซึ่งมี หลัวเฟิง เป็นอาจารย์
“อาจารย์” โดมไฟ โค้งให้ด้วยความเคารพ
หลัวเฟิง พูดพร้อมกับเดินไปด้วย “ข้าได้สั่งสอนการสืบทอดของ เจียฟานฉี ไปรวมถึงการสืบทอดจากโลกแห่งจิน เจ้านั้นมีพรสวรรค์ที่โดดเด่น เทคนิคลับของเจ้าก็สำเร็จเข้าไปในระดับสูงแต่พลังจิตของเจ้านั้นปรากฏว่าฉุดยื้อเจ้าให้เข้าขั้นสมบูรณ์ ตอนนี้พลังจิตของเจ้าอยู่เพียงแค่ระดับเทพแท้จริง…สำหรับเทพแท้จริงแล้ว ระดับพลังจิตนี้ถือว่าอ่อนแออย่างมาก”
“ศิษย์เข้าใจ” โดมไฟ โค้งให้อีกครั้งและตอบกลับ
ในใจ หลัวเฟิง แปลกใจ ทั้งเขาและ หง นั้นต่างก็มาจากโลก สำหรับตัวตนที่มาจากโลก ตราบใดที่เป็นคนโดดเด่น พลังจิตก็น่าจะถือว่ามากและแข็งแกร่งแต่ศิษย์คนที่สองนี้ค่อนข้างอ่อนแอในด้านนี้
“เมื่อถึงยุคใหม่ เจ้าจะมุ่งหน้าไปยังโลกแห่งจิน ข้าจะจัดแจงสิ่งที่จำเป็นไว้ ไปที่นั่น จะทำให้เจ้าได้เพิ่มพลังจิตของตัวเอง ถ้าพลังจิตของเจ้าขึ้นมาถึงระดับมิติได้ ข้าก็สามารถสั่งสอนเทคนิคพลังจิตให้กับเจ้าได้” หลัวเฟิง มองไปยัง โดมไฟ แล้วพูดขึ้นมา
โดมไฟ ตื่นเต้นขึ้นมาทันทีและพูดขึ้น “ข้าจะทำให้ดีที่สุดและไม่ทำให้อาจารย์ต้องผิดหวัง”
เขาไม่ลืมว่าย้อนกลับไปตอนที่เป็นเทพแท้จริงและไปยังโลกแห่งจินเพื่อบ่มเพาะทักษะของตัวเอง เขาถือว่าตัวเองเป็นเทพแท้จริงระดับสูง เขามั่นใจอย่างมาก เมื่ออยู่ต่อหน้าอาจารย์ที่เป็นอันดับหนึ่งในทะเลจักรวาล เขาอยากที่จะได้รับโอกาสในการเรียนรู้ผ่านการประมือ
หลัวเฟิง มองเรื่องนี้ออกด้วยการมองเพียงครั้งเดียวและพูดขึ้น “เจ้าลองดูก็ได้ ทุ่มสุดตัว”
โดมไฟ ได้ใช้เทคนิคเผาพลังอมตะและใช้สมบัติเครื่องจักร เขาเตรียมพร้อมเท่าที่จะทำได้
แต่ หลัวเฟิง เพียงมองแค่ครั้งเดียว!
มองเพียงครั้งเดียว โดมไฟ ก็รู้สึกได้ว่ามิติและเวลารอบตัวนั้นหายไป สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงสายตาอันน่ากลัวที่สามารถจัดการกับทุกอย่างได้ ตอนนั้น โดมไฟ ได้หมดสติไปและล้มลงกับพื้น!
ทุกครั้งที่เขานึกถึงครั้งแรกที่เผชิญหน้ากับ หลัวเฟิง…แค่เพียงการมองครั้งเดียวเขาก็จะสลบทันที!
โดมไฟ พบว่าเทคนิคพลังจิตของ หลัวเฟิง นั้นร้ายกาจแต่ในเวลาเดียวกันเขาก็อยากเรียนรู้มัน ศิษย์จำนวนมากของ หลัวเฟิง ต่างก็รู้ว่าอาจารย์นั้นมีเทคนิคพลังจิตที่แข็งแกร่งแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครที่สืบทอดมันได้
ตามที่ หลัวเฟิง บอกมา มันไม่ใช่ว่าเขาจะไม่คิดจะสั่งสอนมันให้กับศิษย์แต่มันขึ้นกับตัวศิษย์เอง พลังจิตนั้นมีไม่พอที่จะบ่มเพาะเทคนิคนี้ ช่างเป็นเส้นแบ่งที่ยากจะก้าวข้ามได้!
“หือ?” อยู่ๆ สีหน้าของ หลัวเฟิง ก็เปลี่ยนไป
“อาจารย์?” โดมไฟ สงสัยและถามขึ้นมา จากนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปด้วย เขาอุทานออกมาด้วยความตกใจ “อสูรทลายมิติ!”
“อสูรทลายมิติ…” หลัวเฟิง พูดออกมาช้าๆ “ในที่สุดมันก็มาที่นี่!”
จากนั้น หลัวเฟิง ก็เงยหน้าขึ้นมอง
ไกลออกไปมีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมา มันได้เปลี่ยนเป็นแสงและพุ่งเข้าหา หลัวเฟิง ร่างนั้นลงมาที่พื้นอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มผมดำ นี้อยู่ในชุดดำ นี่ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็น หง
“เจ้าก็รับรู้ถึงมันได้ด้วยรึ?”
หลัวเฟิง พยักหน้า “พี่ชาย กับ โดมไฟ เจ้าทั้งสองมากับข้า เราจะไปดู เทพที่แท้จริงฟายลี่”
หง เดินเข้ามาหาและส่ายหน้า “ก่อนหน้านี้ข้าได้รับบาดเจ็บเพราะ อสูรทลายมิติ ใครจะไปคิดว่าจะมี อสูรทลายมิติ อีกตัวโผล่มาในเวลาอันสั้นแบบนี้? ข้ากลัวว่าเหตุผลนั้นเพราะ เทพแท้จริงตาปีศาจ กับข้าได้ไปยังอาณาเขตของมัน ดังนั้นเหล่าอสูรทลายมิติ จึงมีความคิดที่จะออกมา หลังจากที่เจ้าได้สู้กับมัน เจ้าจะเข้าใจว่าพวกมันน่ากลัวแค่ไหน หลัวเฟิง….ครั้งนี้เราต้องพึ่งเจ้าจริงๆ”
“รอดูไปก่อน ยังไม่มีใครรู้ว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหน” หลัวเฟิง โบกมือและหอคอยเก้าชั้นก็ปรากฏขึ้นมา “ไปกันเถอะ!”
หลัวเฟิง เป็นคนแรกที่เดินเข้าไปในหอคอยตามมาด้วย หง และ โดมไฟ ตอนนั้นอีกร่างก็เข้ามาหา มันคือร่างโมชานและมันก็ตามเข้าไปในในหอคอยด้วย
หลัวเฟิง ระวังตัวอย่างมาก แม้ว่าเขาจะมีสมบัติมากมายกับตัวแต่ในด้านการป้องกันแล้วหอคอยดวงดาวนั้นทรงพลังที่สุด ร่างมหาสมุทรกว้างไกลและร่างโมชานได้ออกเดินทางพร้อมกันและแม้ว่าร่างโมชานจะถูกทำลายไปในสงครามแต่ร่างมหาสมุทรกว้างไกลก็ยังเก็บสมบัติที่เหลือมาได้หลังจากที่ร่างโมชานโดนทำลาย
****
“ตาสวรรค์” ท่ามกลางอากาศที่ปั่นป่วน หลัวเฟิง และพวกอยู่ในหอคอยดวงดาวมุ่งหน้าไปหา เทพที่แท้จริงฟายลี่ หลัวเฟิง ได้เอาเหรียญสื่อสารออกมา “อะไรนะ? เจ้าไม่อาจจะมาที่นี่ได้?”
“ทางช้างเผือก เหล่า อสูรทลายมิติ โผล่มาที่นอกจักรวาลย่อยของ เทพที่แท้จริงฟายลี่ ไม่มีใครรู้ว่ามันมีกี่ตัวที่มายังทะเลจักรวาล มันอาจจะมากันน้อย ถ้าเราออกเดินทางไปที่นั่นพร้อมกัน แล้วถ้า อสูรทลายมิติ ตัวอื่นโผล่มาและเข้ามาจัดการกับจักรวาลย่อยของข้าล่ะ? ข้าคงกลับมาไม่ทัน มันจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ ข้าได้ส่งเทพแท้จริงสองคนไปแล้ว ยังไงซะแม้ว่าเราจะพบ อสูรทลายมิติ แต่เราก็ต้องแจ้งกลุ่มอื่นๆ จากทะเลจักรวาลเพื่อให้พร้อมจะลงมือ”
หลัวเฟิง เข้าใจในมุมมองจุดนี้ มันคล้ายกับว่าทำไมเขาถึงได้ทิ้งร่างสัตว์อสูรไว้ในจักรวาลหลัก เขาสามารถทำลายอีกร่างตอนไหนก็ได้ที่ต้องการและเอามันกลับไปตอนที่มันอยู่ในมหาสมุทรกว้างไกล
“เก้าหัว ได้ ได้ งั้นข้าเองก็จะรีบไปที่นั่นด้วย” หลัวเฟิง พูดขึ้นและสั่งการคนอื่นๆ “จักรวาลย่อยของเจ้าอยู่ใกล้กับจักรวาลย่อยของ เทพที่แท้จริงฟายลี่ เจ้าไปที่นั่นก่อนและดูแลสถานการณ์ ข้าจะรีบไปที่นั่นให้เร็วที่สุด”
จากตัวตนยิ่งใหญ่ทั้งแปดในทะเลจักรวาล หลัวเฟิง ถือว่าเป็นผู้นำและตอนนี้เขาก็พยายามที่จะติดต่อกับคนอื่นๆ
ครั้งนี้จาก 8 คน มันมี 3 คนที่รีบมาที่นี่ นอกจาก 3 คนนี้แล้วก็ยังมีเทพแท้จริงมากมาย ยกตัวอย่างเช่นจากเผ่ามนุษย์ก็ยังมีเทพแท้จริงถึง 7 คนที่รีบมาที่นี่ ชัดแล้วว่านี่เป็นครั้งแรกที่ อสูรทลายมิติ ได้โผล่มาในทะเลจักรวาลซึ่งทำให้ขุมกำลังต่างๆ พากันระวังตัวกันมากขึ้น
****
เทพแท้จริงอยู่กระจายตัวรอบจักรวาลย่อยของ เทพที่แท้จริงฟายลี่ บางคนอยู่ใกล้ บางคนอยู่ไกลมาก หลัวเฟิง ที่มุ่งหน้าออกมาจากจักรวาลหลักเองก็ถือว่าอยู่ไกลอย่างมาก
ยังไงซะในบรรดาสามยุคเกิดใหม่นี้ จักรวาลย่อยของเทพแท้จริงจากยุคแรกก็อยู่ห่างจากจักรวาลหลัก พวกมันอยู่กระจายตัวกันและแม้แต่ในยุคแรก ระยะห่างระหว่างจักรวาลย่อยก็แตกต่างกันออกไป บางอันอยู่ใกล้กัน บางอันอยู่ห่างกันไปในระยะเท่าๆ กัน
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ และเยื่อหุ้มจักรวาลย่อยของ เทพที่แท้จริงฟายลี่ ก็มีร่างของ เทพที่แท้จริงฟายลี่ โผล่ออกมามองออกไปยังภายนอก
“ไม่! บัดซบ”
เทพที่แท้จริงฟายลี่ กังวลอย่างมาก ชัดแล้วว่าเขารู้สึกได้ว่าจุดกำเนิดจักรวาลย่อยของตัวเองกำลังถูกกิน มันคือการรุกล้ำที่ไม่อาจจะฟื้นฟูขึ้นมาได้ มันต้องใช้เวลาที่ยาวนานอย่างมากกว่าจะฟื้นฟูแค่เพียงเศษเสี้ยวขึ้นมาได้ มันยังเป็นเหตุผลว่าทำไมจิตของจักรวาลหลักถึงได้น่ากลัว
“ข้าควรทำยังไง ควรทำ ยังไง?”
เทพที่แท้จริงฟายลี่ กังวลแต่เขาก็ไม่กล้าจะออกไปเมื่อไม่มีสมบัติเครื่องจักรแม้แต่ชิ้นเดียวโดยเฉพาะเมื่อ ควบคุมความมืด โดนกินทันทีที่เจอกับ อสูรทลายมิติ นี่ทำให้ความมั่นใจของ เทพที่แท้จริงฟายลี่ ลดทอนลงไป
“บรรพบุรุษ”
ข้างๆ นั้นมี เจ้าแห่งจักรวาล อยู่มากมาย
“บรรพบุรุษ แม้ว่ากลุ่มอื่นจะรีบมาที่นี่แต่ยังไงซะพวกเขาต่างก็มาจากทั่วทุกมุมของทะเลจักรวาล พวกนั้นต้องการเวลา ผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งของทะเลจักรวาล ทางช้างเผือก ต้องเดินทางออกมาจากจักรวาลหลัก”
“เขาคงมาไม่ถึงในเวลาอันสั้น”
“ยิ่งพวกเขาใกล้เราเท่าไหร่ มันยิ่งเร็วที่จะมาถึงได้แต่พวกที่อยู่ใกล้อาจจะไม่มา เทพแท้จริงบางคนนั้นกังวลว่าพวกเขาอาจจะโดน อสูรทลายมิติ โจมตีไปด้วย”
เหล่า เจ้าแห่งจักรวาล ต่างก็กังวลอย่างมากเช่นกัน
****
“ฮ่า ฮ่า…”
ท่ามกลางมิติ โมโลซ่า ยังคงปล่อยลำแสงเสียดแทงเข้าไปเพื่อกลืนกินจุดกำเนิดของจักรวาลย่อยตรงหน้า
“น่าตลก” โมโลซ่า พูดขึ้น “จุดกำเนิดของเขาโดนข้ากิน เทพที่แท้จริงฟายลี่จะไม่รู้ตัวได้ยังไงกัน? ตอนแรกเขาส่ง เจ้าแห่งจักรวาล มาแค่คนเดียวเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้แต่ตั้งแต่นั้นมามันก็ไม่มีการเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย ชัดแล้วว่าเขากลัวข้าและไม่กล้าที่จะจัดการกับข้า ฮ่า ฮ่า! ดูเหมือนว่าข้าต้องประเมินทะเลจักรวาลใหม่ ข้ากลัวว่าทุกเผ่าในทะเลจักรวาลจะอ่อนแอกันหมด”
โมโลซ่า คึก เขาได้เตรียมตัวจะทำสงครามแล้วแต่มันไม่คิดว่าหลังจากที่รออยู่สักพัก เทพที่แท้จริงฟายลี่ ก็ไม่ได้ลงมืออย่างอื่นนอกจากส่ง เจ้าแห่งจักรวาล ออกมาตรวจสอบ หลังจากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
****
เทพที่แท้จริงฟายลี่ กังวล
มีข่าวหนึ่งได้ถูกส่งเข้ามา “ฟายลี่ ข้ามาถึงแล้ว”
เท้าข้างหนึ่งของ เทพที่แท้จริงฟายลี่ ถือเหรียญสื่อสารเอาไว้และตอนที่ได้รับข่าวนี้เขาก็ดีใจขึ้นมาทันที “กล้วยไม้เลือดเจ้ามาแล้วรึ? ข้ากังวลอย่างมาก เทพแท้จริงบางคนกลัวหรือกังวลเรื่องจักรวาลของตัวเองและอยู่ห่างจากที่นี่ มันมีคนอื่นที่รีบเดินทางมาที่นี่จากพื้นที่ห่างไกล กล้วยไม้เลือดพิกัดของข้าคือ…”
เทพที่แท้จริงฟายลี่ ดีใจอย่างมาก
“ข้าจะไปที่นั่นทันที” อีกฝ่ายตอบกลับ
เทพที่แท้จริงฟายลี่ ตื่นเต้นและมองไปรอบๆ “กล้วยไม้เลือด จะมาถึงในไม่ช้า”
“บรรพบุรุษกล้วยไม้เลือด?”
“ด้วยการที่ บรรพบุรุษกล้วยไม้เลือด มาที่นี่ ทุกอย่างก็จะดีขึ้น”
“บรรพบุรุษกล้วยไม้เลือด กับเผ่าของข้ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอเป็นคนแรกที่มาช่วย สำหรับจักรวาลย่อยอีกสามอันที่ใกล้เราที่สุด ไม่มีสักพวกเลยที่มา”
เจ้าแห่งจักรวาล ต่างก็ถอนหายใจพร้อมกับตะลึงกับความเป็นเพื่อนที่จะแสดงออกมาในตอนวิกฤต
ไม่นาน…
ฮัวะ!
หอคอยยสามเหลี่ยมสีดำ ก็ได้โผล่ขึ้นมา จากนั้นมันก็บินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว เทพที่แท้จริงฟายลี่ รีบเข้าไปต้อนรับก่อนที่จะมีร่างหนึ่งโผล่ออกมา เธอมีดอกไม้สีแดงนับไม่ถ้วนรายล้อมซึ่งดูไปแล้วงดงามอย่างมาก มันคือบรรพบุรุษกล้วยไม้เลือด!
ย้อนกลับไปตอนที่โลกแห่งจินยังไม่โผล่มา เทพแท้จริงสามคนมักจะอยู่รอบเสาหิน พวกเขาคือ เจ้าแห่งดาวไบ่ชิง, บรรพบุรุษกล้วยไม้เลือด และ เทพปีศาจคลั่ง
ตอนที่โลกแห่งจินโผล่มา บรรพบุรุษกล้วยไม้เลือด ได้เข้าไปที่นั่น หลังจากที่ใช้เวลาบ่มเพาะทักษะตัวเอง เธอก็แข็งแกร่งกว่าเดิม ในด้านของพลังแล้วเธอไม่ได้ด้อยกว่าตัวตนยิ่งใหญ่ทั้งแปดมากนัก ถ้าแปดคนเป็นทีมอันดับหนึ่ง งั้นเธอก็พอจะเข้าทีมรองลงมาได้ ข้อได้เปรียบของเธอคือร่างของเธอ ร่างต้นไม้ บรรพบุรุษกล้วยไม้เลือด มีร่างที่ใหญ่โต ตอนนั้นเธออยู่ในร่างผู้หญิงที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้แต่มันเป็นเพียงการเปลี่ยนร่างไม่ใช่ร่างที่แท้จริง ก่อนหน้านี้เธอใช้เวลาอยู่นานกับเสาหิน ดังนั้นพลังจิตของเธอจึงแข็งแกร่งอย่างมาก
“ข้า?” บรรพบุรุษกล้วยไม้เลือด มองไปยัง เจ้าแห่งจักรวาล ของเผ่า ฟายลี่ นับไม่ถ้วน จากนั้นก็หันไปหา เทพที่แท้จริงฟายลี่ ด้วยสีหน้าสงสัย “มีแค่ข้าเพียงลำพังรึ?”
เทพที่แท้จริงฟายลี่ เดินเข้าไปหาและพูดด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน “เทพแท้จริงคนอื่นอยู่ห่างจากที่นี่พอสมควร ดังนั้นพวกเขาจึงยังมาไม่ถึง ทางช้างเผือก, เจ้าแห่งปีศาจเก้าหัว และ เทพแท้จริงเก้ากว้างไกล เองก็กำลังมาที่นี่”