Skip to content

Swallowed Star 1426

ตอนที่ 1426 : หลัวเฟิงสู้กับอสูรทลายมิติ

มันไม่ใช่ว่า โมโลซ่า ไม่เคยพบกับ เจ้าแห่งจักรวาล มีเทพแท้จริงหลายคนได้ส่ง เจ้าแห่งจักรวาล เพื่อตรวจสอบก่อน แต่ไม่มีใครใช้การผนึกมิติและไม่มีใครที่มีพลังที่น่ากลัวและแข็งแกร่งแบบนี้

“เจ้าคือ…” โมโลซ่า มองไปที่ชายเกราะทองที่ก้าวเข้ามาหามัน “หลัวเฟิง รึ?”

“ใช่” หลัวเฟิง เก็บเรือและมองไปที่ โมโลซ่า

“ข้าได้ยินว่าเจ้าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลจักรวาล เจ้าเป็นแค่ เจ้าแห่งจักรวาล แต่เจ้ากลับแข็งแกร่งที่สุดงั้นรึ?” โมโลซ่า มองไปที่ หลัวเฟิง แล้วฮึดฮัดออกมา “ดูเหมือนว่าเทพแท้จริงคนอื่นจะอ่อนแอจนเจ้าที่เป็นแค่ เจ้าแห่งจักรวาล กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดได้”

ตอนที่มันพูด โมโลซ่า ก็หยุดกินจุดกำเนิดและเส้นแสงเหล่านั้นก็เริ่มหมุนรอบตัวมัน ปรากฏว่ามันระวังตัวอย่างมาก ยังไงซะชื่อเสียงของ หลัวเฟิง ก็ดังไปถึงหูมันแล้ว มันไม่อาจจะประมาทมนุษย์ตรงหน้ามันได้

“เจ้าจะรู้หลังจากที่เราสู้กัน” ร่างอมตะของ หลัวเฟิง ได้ใช้ วูดูเหมย ออกมา

ฮ่ง! ฮ่ง! ฮ่ง!

เขาได้ใช้สามขั้นแรกและหลังจากที่เผาพลังอมตะแล้ว พลังของเขาก็แข็งแกร่งกว่าเทพแท้จริง โดยทั่วไปแล้วเทพแท้จริงมีเทคนิคพลังอมตะแค่อย่างเดียว น้อยคนนักที่จะมีสองระดับ

ฮัวะ! ฮัวะ!

หลัวเฟิง ในเกราะทองโบกมือขวาเรียกโซ่สีเขียวออกมา โซ่นั้นพันรอบตัว หลัวเฟิง เอาไว้

“แค่ เจ้าแห่งจักรวาล …” โมโลซ่า ยิ้มเยาะแต่ก็ยังมอง หลัวเฟิง ผ่านตาสีแดงก่ำด้วยความระวัง

พวกเขาเผชิญหน้ากันและสังเกตกัน อยู่ๆ โมโลซ่า ก็อ้าปากแต่ไม่มีเสียงใดๆ ออกมา การกรีดร้องที่ไร้เสียงนี้ดังก้องในวิญญาณของ หลัวเฟิง

หลัวเฟิง มีพลังจิตแข็งแกร่งกว่า เจ้าแห่งปีศาจเก้าหัว!

สำหรับพลังงานแล้วเขามีมากที่สุดในทะเลจักรวาลจากการเผาพลังอมตะสามระดับ!

และเมื่อเป็นเรื่องเทคนิคแล้ว หลัวเฟิง มีการสืบทอดสองอย่างจากโลกแห่งจินและสายน้ำวูดูวง!

สิ่งที่เรียกว่าการโจมตีวิญญาณนั้นเป็นเพียงแค่ลมสำหรับ หลัวเฟิง เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลย

หลัวเฟิง ไม่ได้รับผลเลยแม้แต่น้อย เขาสะบัดโซ่รอบตัวออกไป “ไป!”

ฮัวะ! ล๊ะ!

โซ่นั้นเหมือนงูพิษที่บินออกไป โซ่บิดตัวไปมาฟาดเข้าใส่ท้องฟ้าและมีหิมะนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในมิติรอบตัวโซ่ หิมะเข้าปกคลุมพื้นที่สิบตารางปีแสง เวลาและมิติถูกกักเอาไว้

ตอนนั้น หลัวเฟิง ได้ใช้สมบัติสองอย่าง หนึ่งในนั้นคือโซ่ที่เป็นอาวุธเครื่องจักร ‘โซ่บี่หยาน’ อีกอันคือสมบัติเครื่องจักรขอบเขตที่ชื่อโลกหิมะ มันมีความสามารถในการควบคุมมิติและเวลาได้ทรงพลังเท่าๆ กับดินแดนสีทอง บางทีอาจจะทรงพลังกว่า

ในล้านล้านปีที่ผ่านมา เขาได้รับสมบัติมากมายจากโลกแห่งจิน ครั้งนี้เขาเตรียมตัวมาอย่างดี แม้ว่าทีมนี้จะไม่ได้มีสมบัติมากมายเท่ากับอีกทีมแต่สมบัติที่สัตว์อสูรเขาทองมีก็ถือว่าน่าทึ่งสำหรับเทพแท้จริงคนอื่นอย่าง ตาสวรรค์

โมโลซ่า ยืนนิ่งอยู่กับที่แต่ตัวมันล้อมรอบด้วยหมอกดำ มันมีเส้นพลังสีดำหนาๆ รอบตัว โซ่ฟาดใส่ท้องฟ้าและลอยไปทั่ว มันกลายเป็นสายน้ำขนาดใหญ่!

สายน้ำนี้ตัดท้องฟ้า ทุกที่ที่มันสัมผัส มิติจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวและเกิดหญ้าขึ้นมา น้ำนี้ได้ซัดเข้าหา โมโลซ่า

ซ่า!

มันรวดเร็วอย่างมาก แส้ที่ดูเหมือนจะนุ่มแต่จริงๆ แล้วกลับรวดเร็วและดุดัน น้ำได้เปลี่ยนเป็นโซ่และฟาดเข้าใส่ โมโลซ่า หลายส่วนของร่างกายมันโดนโซ่นี้กลืน แม้แต่หัวก็ยังโดนบีบเหมือนกับทองแท่ง

ป๊ะ! ป๊ะ! ป๊ะ! ป๊ะ! ป๊ะ! ป๊ะ!

เสาน้ำยังคงฟาดไปที่ อสูรทลายมิติ จนโซ่เปลี่ยนเป็นเงา หลัวเฟิง ยังคงมองอยู่ห่างออกไปคอยเผาพลังอมตะให้ถึงระดับสูงสุด เขาได้ใช้การสลักบนสมบัติเครื่องจักร และได้ใช้เทคนิคที่เขาสร้างมาอย่าง ‘ตาน้ำกับไม้’ แก่นของเทคนิคนี้ร้ายกาจ เสาน้ำยังคงฟาดเข้าใส่ โมโลซ่า แต่หญ้าก็ยังงอกออกมาผ่านโลกหิมะและชีวิตก็เริ่มปรากฏขึ้นในมิติคอยสยบ อสูรทลายมิติ เอาไว้ แส้น้ำ ยังคงฟาดเข้าใส่ โมโลซ่า แต่มันยังไม่ตาย

ฮู่!

เสียงคำรามอันหงุดหงิดดังขึ้นมา โมโลซ่า นั้นหงุดหงิดที่โดนฟาดอย่างต่อเนื่อง มันยังคงเสียพลังไปอย่างต่อเนื่อง

“ไป!” โมโลซ่า มองไปยัง หลัวเฟิง ที่อยู่ไกลออกไป

ฮัวะ! ฮัวะ! ฮัวะ!

อยู่ๆ เส้นพลังสีดำ รอบตัว โมโลซ่า ต่างก็บินไปหา หลัวเฟิง เพื่อห่อหุ้มตัวเขาไว้ พวกมันรวดเร็วเหมือนไม่ได้รับการจำกัดความเร็วโดยทะเลจักรวาล ทันใดนั้นมันก็มาถึงตัวหลัวเฟิง และห่อตัวเขาอย่างกับรังไหม!

****

ขนาดของรังไหมนั้นมีหลายขนาดและมันก็ห่อหุ้มตัว หลัวเฟิง ก่อนจะเริ่มดูดกลืนพลังงานอมตะของเขา

“มันเร็วจริงๆ” หลัวเฟิง พยักหน้า “เมื่อมันใช้ออกมาแล้ว ข้าก็โดนกักขังทันที…เทพที่แท้จริงฟายลี่ โดนท่านี้โจมตีและไม่อาจจะหลบได้”

หลัวเฟิง ดึงพลังอมตะกลับมาแต่รังไหมเองก็ห่อตัวลงมาด้วย

“ใหญ่กว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม!” หลัวเฟิง เผาพลังอมตะอย่างบ้าคลั่ง พยายามจะดันรังไหมรอบตัว แม้แต่ โมโลซ่า มันก็ยากที่จะกินพลังงานอมตะที่โดนเผาแบบนี้ได้

ทันทีที่ตัว หลัวเฟิง โตขึ้นมา รังไหมเองก็สูงกว่า 100 ล้านกิโลเมตร

****

โมโลซ่า กำลังควบคุมรังไหมอยู่แต่มันก็รู้สึกว่ารังไหมไม่อาจจะดูดกลืนพลังอมตะได้มากนัก มันเริ่มกังวล ตอนที่เห็นรังไหมสูงขึ้นมา 100 ล้านกิโลเมตร มันก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“เขาพยายามจะออกมา! ข้าไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นหรอก! ข้าแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก อยากออกมางั้นรึ?”

“ทลาย!” หลัวเฟิง ที่อยู่ในรังไหมตะโกนออกมา “ทลาย!”

โซ่ขนาดใหญ่ในมิติได้กลายเป็นหอก จากนั้นหอกก็ได้ฟันเข้าใส่รังไหม มิติที่หอกผ่านนั้นไม่ได้แตกออกแต่มันเกิดคลื่นแปลกๆ ขึ้นมา ตอนนั้นเอง หลัวเฟิง ด้านในรังไหมก็ได้ใช้กรงเล็บของตัวเอง กรงเล็บนี้เหมือนกับดาบ มันฟันโดยไม่เกิดเสียง แต่มิติที่มันผ่านล้วนแต่พังลง อันหนึ่งจากด้านนอก อีกอันจากด้านใน หอกโซ่โจมตีด้านนอก ส่วนกรงเล็บโจมตีด้านใน ทั้งสองอันคือสมบัติเครื่องจักร

ฮ่ง! ฮ่ง!

ไม่นานรังไหมก็สั่นไหว มีรอยแตกเล็กๆ ปรากฏขึ้นมาแต่มันก็ฟื้นฟูทันที ตอนนี้ หลัวเฟิง ยังโดนขังไว้อยู่ด้านใน

“ข้าออกไปไม่ได้รึ?” หลัวเฟิง แสดงท่าทีแปลกใจ “ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น ข้าใช้สมบัติเครื่องจักรสองชิ้นพร้อมกันทั้งจากด้านในและด้านนอก ข้ายังเผาพลังอมตะเพื่อสนับสนุนมัน ดังนั้นข้าน่าจะทำลายรังไหมนี้ได้ ดูเหมือนว่าข้าต้องเผาพลังอมตะมากกว่านี้”

ความต้านทานของรังไหมทำให้คนจากทะเลจักรวาลรู้ว่ามันนานแค่ไหนที่จะทำลายมันด้วยการโจมตีจากอาวุธแต่ หลัวเฟิง คิดว่ามันเป็นไปได้ที่เขาจะทำแบบนั้น เขาได้สร้างรอยแตกขึ้นมาที่รังไหมเมื่อกี้ ดังนั้นหมายความว่าต้องเพิ่มพลังโจมตีมากกว่าเดิม

ปกติแล้วทางที่ดีที่สุดในการออกมาคือใช้พลังอมตะให้เกินกว่าพลังของตัว อสูรทลายมิติ!

เขาแค่ลบพลังของรังไหมเพื่อ อสูรทลายมิติ จะไม่อาจให้พลังได้มากแบบเดิมได้อีก จากนั้นมันก็จะพังลงเพราะมันไม่ได้มีพลังป้องกันใดๆ

****

“เจ้าคิดว่าเจ้าจะออกมาได้ง่ายๆ รึไง?” โมโลซ่า เห็นความล้มเหลวของ หลัวเฟิง และยิ้มออกมา แต่รอยยิ้มนั้นก็แน่นิ่งไปในทันที

ฮ่ง!

หลัวเฟิง ที่โดนขังไว้ในรังไหมตอนนี้สูง 100 ล้านกิโลเมตรได้เผาพลังอมตะของตัวเองก่อนที่จะถูกเปลี่ยนโดยสมบัติเครื่องจักร มันก็แผ่พลังงานออกมาราวกับไฟป่า

ชี่! ชี่! ชี่!

พลังงานในรังไหมถูกลบไปอย่างรวดเร็ว พวกมันหักล้างกัน!

“ทลาย!” หลัวเฟิง ยื่นมืออกมา กรงเล็บของเขาเองก็ยื่นออกมาด้วย หลังจากที่คำรามเบาๆ สัตว์อสูรสองตัวก็ได้โผล่มาบนมือเขากัดที่รังไหมด้านหน้า เขาฉีกรังไหมนั้นออกจากกัน

ฮัวะ!

รังไหมพยายามจะลบพลังอมตะของ หลัวเฟิง และมันก็สูงถึง 100 ล้านกิโลเมตร ด้วยขนาดนี้พลังงานที่ใช้ไปจึงมากจนแม้แต่ โมโลซ่า รู้สึกได้ถึงภาระ ตอนที่รังไหมใช้พลังงานมากเกินไป แรงผูกมัดเป็นธรรมดาที่จะอ่อนแอลง

หลัวเฟิง ฉีกมันอีกครั้ง มันไม่จำเป็นที่เขาจะต้องใช้เทคนิคใดๆ เขาแค่ฉีกมันด้วยมือเปล่า เขาฉีกรังไหมออกจากกันแล้วเดินออกมา

“นี่คือทั้งหมดที่เจ้ามีสินะ อสูรทลายมิติ?” หลัวเฟิง พุ่งเข้าไปหา โมโลซ่า ราวกับแสง

โมโลซ่า กลัวขึ้นมา ยังไงซะมันก็ยังไม่ได้เป็นราชา ตอนที่ อสูรทลายมิติ กลายเป็นราชา ความสามารถที่ยิ่งใหญ่ของมันคือการให้กำเนิดนักรบระดับสูงจำนวนมากจะทำงาน อสูรทลายมิติ ยากที่จะปะทะกันในระยะใกล้ซึ่งหมายความว่าพวกมันอ่อนแอในการสู้กันแต่แข็งแกร่งในการเอาตัวรอด

“ข้าพัฒนาพลังของข้าแล้วแต่เขาก็ยังออกมาได้ง่ายๆ เขาเป็นแค่ เจ้าแห่งจักรวาล แต่เขาก็มีพลังมากมายเช่นนี้ พลังอมตะที่ข้าใช้ไปไม่อาจจะรับมือกับร่างที่สูงหลายล้านกิโลเมตรได้” โมโลซ่า ตัดสินใจที่จะหนี “ข้ายังไม่แข็งแกร่งพอ ข้าต้องแข็งแกร่งกว่าเดิมด้วยการกินจักรวาลย่อยมากกว่านี้ ข้าต้องหนี!”

โมโลซ่า คำรามออกมา ภาพสลักริมขอบสีดำ และผิวสีทองได้ปรากฏขึ้นมา มันมีรอยสลัก 99 อันและ

ฮ่ง!

ร่างของมันแตกออกและเปลี่ยนเป็นลำแสง 99 อัน

หลัวเฟิง คิ้วขมวด “มันหนีทันทีหลังจากที่โดนเอาคืนเล็กน้อย ช่างขี้ขลาดจริงๆ”

“โซ่จักรวาล!” หลัวเฟิง ตะโกน

ฮัวะ!

โซ่ขนาดใหญ่เริ่มหมุนเปลี่ยนเป็นโซ่ยาวหลายอัน

ฮัวะ! ฮัวะ! ฮัวะ!

โซ่กว่าหมื่นอันได้พุ่งออกไปราวกับงูที่พุ่งใส่เป้าหมาย มันเหมือนกับร่มที่ถูกกางออก แม้แต่ร่างของ อสูรทลายมิติ ก็ไม่อาจจะเร็วเท่ากับสมบัติเครื่องจักรได้ ทั้ง 99 ร่างของ โมโลซ่า รู้สึกได้ว่าทุกอย่างมืดมิดลง มันเหมือนกับมันได้เข้าไปยังจักรวาลย่อยที่สร้างขึ้นจากโซ่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!