Skip to content

Swallowed Star 1460

ตอนที่ 1460 : สร้างจักรวาลด้วยความคิด

ฮ่ง!

มันคือการทำลายของจักรวาล คลื่นนับไม่ถ้วนปะทุอกมาแผ่กระจายไปทั่วทุกทิศ ส่วนหนึ่งของน้ำวนที่ไม่สมบูรณ์ได้เข้าปะทะกับผิวของดาบเงาเลือดทำให้เขากระเด็นออกมา

ฟู่!

แรงปะทะนี้ทำให้ หลัวเฟิง อึดอัดอย่างมาก เขากระอักเลือดออกมา หลังจากที่กลายเป็นเทพแท้จริงแล้ว เลือดของ หลัวเฟิง ก็ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงปกติ

“ลึกลับ ลึกลับอย่างมาก”

หลัวเฟิง ไม่ได้โกรธเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันแล้วเขากลับดีใจ รอบแรกเขาได้สังเกตตอนที่หอคอยดวงดาวรับมือกับการทำลาย ครั้งนี้เขาใช้ดาบเงาเลือดด้วยมือตัวเองต้านทานรับการทำลาย ตอนนี้เขาเข้าใจจุดกำเนิดการทำลายมากกว่าเดิม เป็นธรรมดาที่เขาจะเข้าใจได้มากกว่าเก่า

สำหรับเลือดที่เขาคายออกมาน่ะรึ?

มันใช่เรื่องใหญ่รึเปล่า?

มันไม่มีอะไรต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย!

สำหรับพลังอมตะที่ใช้ไป ดูจากร่างอมตะขนาดใหญ่แล้ว มันมองข้ามได้เลย

****

แบ๊ดดี้ เห็นว่า หลัวเฟิง กระเด็นออกไปแล้วกระอักเอาเลือดออกมา มันเริ่มตะกุกตะกัก “เจ้า…เจ้ารับมือได้งั้นรึ?”

มันไม่เคยเกิดขึ้นกับ แบ๊ดดี้ มาก่อนที่ หลัวเฟิง สามารถรับมือการโจมตีของมันต่อหน้าโดยไม่มีวังสมบัติแท้จริงอย่างหอคอยดวงดาว

“นี่คือท่าที่แรงที่สุดของเจ้างั้นรึ?” หลัวเฟิง พูดขึ้น “ธรรมดา!”

หลัวเฟิง ฉีกมิติ ดาบเงาเลือดปรากฏขึ้นในมือเขาอีกครั้ง ลำแสงดาบได้เปลี่ยนเป็นมังกร มังกรส่องแสงสีขาวที่กระพือปีกเข้าหา แบ๊ดดี้ จากนั้นมันก็กระพือปีกพุ่งเข้าใส่ อสูรทลายมิติ โดยไม่ลังเล

แบ๊ดดี้ ไม่กล้ารับมือโดยตรง มันรู้ว่าท่านี้ด้อยกว่าการทำลายของมันอยู่ระดับหนึ่ง ถ้า แบ๊ดดี้ รับมือกับการโจมตีของ หลัวเฟิง โดยตรง จำนวนพลังที่มันจะเสียก็เท่ากับตอนที่ใช้การทำลาย เนื่องจากมันปะทะกันจนมาถึงตอนนี้ มันได้ใช้การทำลายไปถึงสองครั้ง แบ๊ดดี้ เพิ่งเข้าสู่ระดับ 5…ซึ่งหมายความว่ายังไม่ถึงขั้นสูง ถ้ามันยังใช้ท่านี้ต่อไป งั้นด้วยอัตรานี้แล้ว หลัวเฟิง แค่ต้องดีดนิ้ว งั้น แบ๊ดดี้ ก็ไม่มีแรงจะต้านทานได้

“แยก!”

แบ๊ดดี้ แยกออกเป็น 99 ร่างแล้วบินออกไปทุกทิศทาง

โอ้!

มังกรเงยหน้าขึ้นแล้วคำรามออกมาก่อนจะแยกเป็นลำแสงนับพัน ลำแสงเหล่านั้นระเบิดพุ่งเข้าใส่ 99 ร่าง จากนั้นในหมู่ 99 ร่างก็ได้ระเบิดหายวับไป สุดท้ายร่างที่เหลืออยู่นั้นก็คือร่างหลักของ แบ๊ดดี้ ร่างหลักโดนลำแสงสามอันปะทะแต่ แบ๊ดดี้ ก็ยังหนีได้

“แบ๊ดดี้ ข้าออกมาแล้วไง” หลัวเฟิง พูดขึ้น “แต่เจ้ายังไม่คิดที่จะสู้ต่ออีกงั้นรึ?”

ความเร็วของ หลัวเฟิง ชัดแล้วว่ามากกว่า แบ๊ดดี้ เขาย่นระยะห่างได้อย่างรวดเร็ว

แบ๊ดดี้ ไม่ได้ตอบกลับ ที่มันทำคือพยายามที่จะหนีจาก หลัวเฟิง

“อีกรอบเป็นไง? ท่านั้นของเจ้า ไม่ใช่ว่ามันน่าประทับใจรึไง?”

ยิ่ง หลัวเฟิง เข้าใกล้มากเท่าไหร่ เขายิ่งตัดพ้อเท่านั้น จากที่ โมโลซ่า บอกมา เขาเรียนรู้ว่าจำนวน อสูรทลายมิติ ที่ใช้การทำลายได้นั้นมีไม่มาก จำนวนพลังที่จำเป็นต่อท่านี้ก็มาก ปรากฏว่าตอนนั้น แบ๊ดดี้ ไม่คิดจะใช้ท่านั้นออกมาอีก

“ถ้าข้าสังเกตมันได้ต่อ แน่นอนว่าจะส่งผลดีต่อข้าอย่างมาก” หลัวเฟิง บ่นกับตัวเอง

เขารู้สึกได้ถึงการทำลายสองรอบและมันก็ส่งผลดีจนเขาต้องตกใจ เขารู้สึกว่าตราบใดที่เขาได้ข้อมูลเพิ่ม เขาก็จะสามารถสร้างเทคนิคขั้น 12 ได้!

มันสำคัญว่าทุกก้าวที่จะพัฒนานั้นจะยากกว่าเดิม…นอกจากนี้แล้ว หลัวเฟิง ก็จำกัดตัวเองไว้ที่ระดับเทพแท้จริง โดยเทคนิคแล้วมันยากกว่าเดิมที่เขาจะยกระดับตัวเอง เทพแท้จริง, เทพแท้จริงมิติ และเทพแท้จริงนิรันดร์ เขาจะขึ้นไประดับสูงกว่านี้ได้ยังไง?

อย่างแรกจากการทำความเข้าใจปกติ อย่างที่สองคือจากการสังเกตการพัฒนาของจักรวาลย่อยของตัวเอง!

ถ้าจักรวาลย่อยของเทพแท้จริงนั้นเล็กเกินไป ระดับความกระจ่างในการพัฒนาก็จะต่ำไปด้วย มันก็เหมือนกับการเกิดและทำลายของจักรวาลหลัก มันมีพื้นฐานอันลึกซึ้งที่แม้แต่คนจากสังคมโบราณก็ยังหมายตา นี่คือเหตุผลว่าทำไม ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ถึงต้องการให้ หลัวเฟิง เรียกร้องแบบนั้นจากจิตจักรวาลดั้งเดิม!

จักรวาลย่อยของเทพแท้จริงนั้นเล็กที่สุดซึ่งจักรวาลย่อยของเทพแท้จริงมิตินั้นใหญ่กว่าเล็กน้อย การพัฒนาภายในของเทพแท้จริงมิตินั้นเกี่ยวข้องกับระดับความกระจ่าง จักรวาลย่อยของเทพแท้จริงนิรันดร์นั้นมีขนาดใหญ่กว่ามากและยิ่งการทำงานภายในซับซ้อนเพียงใด มันยิ่งลึกลับเท่านั้น

เขาพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง!

ถ้า หลัวเฟิง ทะลวงผ่านกลายเป็นเทพแท้จริงมิติ เขาเชื่อว่าเขาจะพัฒนาความเข้าใจต่อจักรวาลย่อยได้เร็วกว่าเดิมแต่เขาไม่กล้า ตอนนี้เขาต้องจำกัดตัวเองไว้ที่ระดับเทพแท้จริง!

“เพราะนี่คือสิ่งที่เจ้ากำลังจะทำ งั้นเจ้าคงได้แต่โทษตัวเอง” หลัวเฟิง ฮึดฮัดออกมา

คลื่นพลังอมตะปะทุออกมาอย่างรวดเร็ว มันพุ่งเข้ามัดตัว แบ๊ดดี้ ที่อยู่ไม่ไกลเอาไว้

ชี่! ชี่! ชี่!

พลังอมตะของเขากับพลังของ อสูรทลายมิติ เผาผลาญกันเอง

สองหัวของ แบ๊ดดี้ หันกลับมามองที่ หลัวเฟิง มันมองอย่างอาฆาตและกัดฟันแน่น

“หลัวเฟิง ข้าจะจำเรื่องนี้ไว้” แบ๊ดดี้ เงยหน้าขึ้นแล้วคำรามออกมา “อ๊า!”

เสียงคำรามของมันเต็มไปด้วยความแค้นและความเศร้า ร่างมันเปล่งแสงหลากสีออกมา ขอบเขตสำคัญที่สุดภายในตัวมันถูกเผาอย่างบ้าคลั่ง นี่คือสิ่งที่ อสูรทลายมิติ ไม่คิดที่จะใช้ สำหรับ อสูรทลายมิติ ที่แข็งแกร่งที่สุดแล้วการเลือกแบบนี้เท่ากับการต้องไต่เต้าใหม่ มันยากกว่าจะเพิ่มระดับมาเท่าเดิมหากเทียบกับตอนแรกแล้วมากกว่าเป็นหมื่นๆ เท่า

“ไม่ดีแล้ว”

หลัวเฟิง รู้ตัวทันทีว่า แบ๊ดดี้ จะใช้ทางเดินส่วนแสง!

หึ่ง!

ด้านหลังเขาปีกทั้งห้าคู่ได้กางออก พวกมันเผาไหม้หลอมรวมกับพลังอมตะ ปีกคู่ที่สี่ได้ทำงานและรอยสลักทั้งหมดในปีกก็ได้เปล่งแสงออกมา แค่คิดก็สร้างมิติได้สลายหายไป ในเวลาเดียวกันจักรวาลย่อยที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10,000 ปีแสงก็กำเนิดขึ้นมา!

มีอากาศปั่นป่วนอยู่ทั่วทุกที่ คลื่นสีทองที่เกิดขึ้นจากไข่มุกทะเลทองคำได้ก่อตัวเป็นเขตเล็กๆ ในจักรวาลย่อยนี้ นี่คือขั้นสี่ของปีกซื่อหวู๋ ‘สร้างจักรวาลด้วยความคิด!’

“ไม่!” แบ๊ดดี้ ร้องออกมา ทางเดินส่วนแสงซึ่งกำลังจะเสร็จสิ้นกลับโดนสยบโดยพลังจากจุดกำเนิดจักรวาลย่อยของ หลัวเฟิง มันถล่มลงไปทันที มันทำให้ แบ๊ดดี้แสดงสีหน้ากลัวออกมา มันคลั่งและตะโกนขึ้น “อีกครั้ง เผาไหม้!”

ฮ่ง!

แสงหลากสีเปล่งประกายออกมามากกว่าเดิม มันตั้งใจจะลดลงไปอยู่ระดับ 4 แต่ตอนนี้มันไม่สนใจอะไรแล้ว แม้ว่ามันจะลงไปอยู่ระดับ 3 แต่มันก็ต้องยอมรับชะตาตัวเอง ตราบใดที่มันหนีได้ งั้นเรื่องอื่นก็ไม่สำคัญ

ฮ่ง!

ภายใต้ความกดดันจากจักรวาลย่อย ทางเดินส่วนแสงก็ไม่อาจจะก่อตัวขึ้นมาได้

“นี่…นี่…นี่มัน…”

แบ๊ดดี้ สิ้นหวัง มันไม่ได้มีพลังเหลือให้ใช้อีก มันเพราะการลดลงจากระดับ 5 มาเป็น 4 พลังงานที่ขอบเขตสร้างออกมานั้นมหาศาล จากระดับ 4 มาระดับ 3 พลังงานที่ขอบเขตสร้างออกมานั้นน้อยกว่ามาก มันไม่จำเป็นต้องพูดถึงพลังงานจากการลดระดับต่อมาเลย มันลงมาอยู่ระดับ 3 แต่ก็ยังโดนสยบ ช่องว่างความสามารถแบบนี้นั้นหมดหนทาง…

มันชัดแล้วว่าแม้ว่ามันจะมีขอบเขตพลังมากกว่านี้แต่ก็ยังไร้ประโยชน์

“เป็นไปได้ยังไง?” แบ๊ดดี้ พูดขึ้นมา “เป็นไปได้ยังไงที่ข้า…? ข้าเข้าถึงระดับ 5 แล้วแท้ๆ…”

แบ๊ดดี้ ยากที่จะเชื่อ มันมองไปยังอากาศปั่นป่วนรอบๆ จากนั้นมันก็มองกลับไปที่ หลัวเฟิง ซึ่งอยู่ไกลออกไป

หลัวเฟิง ยิ้มออกมา เขาสามารถใช้สร้างจักรวาลด้วยความคิดได้ต้องขอบคุณ แบ๊ดดี้ ก่อนที่พวกเขาจะสู้กัน เขายังไม่เข้าใจขั้นสี่ของปีกซื่อหวู๋ มันมีช่องว่างเล็กๆ ที่เขาจะเข้าใจมันได้ทั้งหมด แต่ด้วยการเห็น แบ๊ดดี้ ใช้การทำลายออกมา เขาก็เข้าใจและก้าวข้ามช่องว่างเล็กๆ และเรียนรู้การทำงานของขั้นสี่ปีกซื่อหวู๋ได้

และการที่ แบ๊ดดี้ ใช้การทำลายออกมาเป็นครั้งที่สอง หลัวเฟิง ก็เข้าใจได้ดีกว่าเดิม การสร้างมิติด้วยความคิด!

สร้างจักรวาลด้วยความคิด!

ทั้งสองวิธีนี้คือการควบคุมมิติและเวลา การควบคุมมิติด้วยความคิดถือว่าถึงขีดจำกัดแล้ว การสร้างจักรวาลด้วยความคิดทำให้ควบคุมจักรวาลย่อยได้ทั้งหมด มันแข็งแกร่งจนน่ากลัว การสร้างจักรวาลขึ้นมาได้นี้…ทางเดินส่วนแสงจะหนีออกไปได้ยังไง?

****

“ยอมรับความตายซะ”

หอคอยดวงดาวบินออกมจากมือของ หลัวเฟิง มันลอยอยู่กลางอากาศและที่ฐานก็มีน้ำวนก่อตัวล้อมรอบ แบ๊ดดี้ เอาไว้

การลดลงมาเหลือระดับ 3 ทำให้ แบ๊ดดี้ ไร้พลังในการต่อต้านการควบคุมของหอคอยดวงดาวและจักรวาลย่อยของ หลัวเฟิง

“เจ้ามันเจ้าเล่ห์!” แบ๊ดดี้ พูดขึ้นมาและถูกดูดบินไปหาหลุมดำที่ฐานของหอคอยดวงดาว มันมอง หลัวเฟิง และคำรามออกมา “ทางช้างเผือก เจ้ามันคืออุปสรรคชิ้นใหญ่ที่ขวางทาง อสูรทลายมิติ เอาไว้! แต่…ไม่มีใครหยุดเราได้สำเร็จ ไม่มี! ทุกคนที่คิดจะหยุดเราจะโดนเราทำลาย!”

แบ๊ดดี้ ยังคงจ้อง หลัวเฟิง อย่างเคียดแค้น

“เจ้า…กับเผ่าของเจ้าทั้งหมด” แบ๊ดดี้ พูดขึ้น “มันมีชะตาต้องถูกทำลาย! นั่นคือโชคชะตาของเจ้า มันไม่มีทางที่เจ้าจะปฏิเสธได้ ฮ่า ฮ่า…”

ฮ่ง!

ร่างของ แบ๊ดดี้ ระเบิดออกไม่เหลืออะไร

หลัวเฟิง มองดูฉากนั้นจากไกลๆ แบ๊ดดี้ เลือกที่จะระเบิดตัวเอง เขาไม่สามารถหยุดเรื่องนี้ได้

ย้อนกลับไปตอนที่ โมโลซ่า เลือกจะระเบิดตัวเอง มันอยู่แค่ระดับ 2 หลัวเฟิง สามารถสยบมันด้วยพลังของหอคอยดวงดาว, พลังจากจุดกำเนิดจักรวาลย่อยและพลังจากแค่คิดก็สร้างมิติ ด้วยพลังสามชั้นนี้เขาจึงสามารถสยบ โมโลซ่า จากการระเบิดตัวเองได้ แต่แม้ว่า แบ๊ดดี้ ลดระดับลงมาแต่มันก็ยังอยู่ที่ระดับ 3 เขามีแค่พลังจากจุดกำเนิดจักรวาลย่อยที่ใช้สยบมัน!

ความสามารถในการสร้างจักรวาลด้วยความคิด…เมื่อเทียบกับจักรวาลย่อยของเทพแท้จริงทั่วไปแล้วทรงพลังกว่ามากแต่มันก็ยังห่างจากจักรวาลย่อยของตัวเขาเองจริงๆ

****

แบ๊ดดี้ โดนกำจัด!

ก่อนที่ แบ๊ดดี้ จะโดนกำจัดมันได้ส่งข้อมูลให้กับ อสูรทลายมิติ ตัวอื่นๆ ทันที

****

รังของ อสูรทลายมิติ เข้าสู่ความมืดมิด อสูรทลายมิติ เกือบ 10 ล้านตัวกระจายไปทั่ว ในวันปกติแล้วพวกมันจะสู้กันเองเพื่อหาราชาตัวสุดท้าย พวกมันเกิดมาเพื่อทำลาย!

พวกมันไม่เคยมองไปที่สิ่งมีชีวิตในทะเลจักรวาล ในสายตาพวกมันแล้วในช่วงเติบโตนี้ เผ่าอื่นๆ ในทะเลจักรวาลคืออาหารของมัน

“ข้าคือ แบ๊ดดี้” ข้อความถูกส่งมา “อันดับหนึ่งของทะเลจักรวาล ทางช้างเผือก หลัวเฟิง ได้เข้ามาในรังของเรา! เขาได้เข้ามาในใจกลางรังของเรา! ข้าอาจจะเข้าถึงระดับ 5 แต่ข้าก็ยังเทียบเขาไม่ได้ เขาแข็งแกร่งกว่าที่เราคิดเอาไว้ อสูรทลายมิติ ทุกตัว สถานการณ์วิกฤตของเรามาถึงแล้ว…เมื่อเผชิญหน้ากับ หลัวเฟิง ผู้นี้ ถ้าเราไม่ร่วมมือกัน เราจะต้องโดนเขากำจัด นี่คือวิกฤตครั้งใหญ่ของ อสูรทลายมิติ! เราทุกคนต้องร่วมมือกันผ่านพ้นวิกฤตนี้! เลิกสู้กัน เราต้องร่วมมือกันในการกำจัดหลัวเฟิง! ข้าได้ใช้ทางเดินส่วนแสงไปแต่ก็ไม่อาจะหนีอออกมาได้ ข้าต้องระเบิดตัวเองเพื่อ อสูรทลายมิติ ทั้งหลาย…ข้าอยู่ที่ระดับ 5 แต่ก็ต้องตายด้วยน้ำมือ หลัวเฟิง! พวกเจ้าทุกคนต้องฆ่าเขา! ฆ่า ทางช้างเผือก! ฆ่า หลัวเฟิง!”

เสียงของ แบ๊ดดี้ ดังก้องในใจของ อสูรทลายมิติ ทุกตัวในดินแดนแห่งความมืดมิด ตอนนั้นไม่ว่าพวกมันจะทะเยอทะยานกันแค่ไหนแต่ทุกตัวต่างก็พากันเงียบ อสูรทลายมิติ เกือบสิบล้านตัวจับกลุ่มกันแต่กลับไม่มีเสียงใดๆ ดังขึ้นมาเลย

ไม่นานหลังจากนั้นพวกมันก็รู้ว่า แบ๊ดดี้ ที่พวกมันตรวจจับได้ก่อนหน้านี้ได้หายไป แบ๊ดดี้ โดนกำจัดแล้ว!

“กรร!”

“กรร!”

“กรร!”

อสูรทลายมิติ กว่าสิบล้านตัวในรังเงยหน้าขึ้นและคำรามออกมา มันคำรามออกมาด้วยความโกรธและความคลั่ง

“ฆ่า ทางช้างเผือก!”

“ฆ่า ทางช้างเผือก!”

“ฆ่า ทางช้างเผือก!”

พวกมันพากันตะโกนออกมา ทุกตัวได้ยินเสียงของ อสูรทลายมิติ ตัวอื่นๆ พวกมันทั้งสิบล้านตัวร้องออกมาเป็นทำนองและน้ำเสียงเดียวกัน ทุกตัวต่างก็ส่งข้อความเหมือนกันหมด “ฆ่า ทางช้างเผือก!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!