ตอนที่ 1465 : ลากแห
ด้วยความพยายามที่จะล้อม หลัวเฟิง เอาไว้ อสูรทลายมิติ ก็เริ่มมารวมตัวกันมากกว่าเดิม จำนวนของพวกมันเยอะจน โมโลซ่า ต้องเริ่มกลัว “นายท่าน ตอนนี้ 7.9 ล้านตัวแล้ว”
“นี่ค่อนข้างได้ผล” ร่างพลังอมตะพูดขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม
“นายท่าน แม้ว่าท่านก็ลำบากเมื่อรับมือกับ อสูรทลายมิติ 18,000 ตัวได้ในการต่อสู้ แต่ท่านสามารถเอาชนะพวกมันได้จนทำให้พวกมันหนี สุดท้ายแล้วมันก็มีไม่ถึง1,000 ตัวที่หนีไปได้” โมโลซ่า ชื่นชมอย่างมาก “ท่านน่าประทับใจจริงๆ! เหล่า อสูรทลายมิติ คงกลัวแต่ความกลัวนี้จะทำให้พวกมันอยากที่จะฆ่าท่านไม่ว่าจะเสียอะไรก็ตาม”
ถ้าพวกมันต้องการกำจัด หลัวเฟิง ที่เป็นภัยใหญ่ที่สุด พวกมันต้องกำจัดร่างหลักของเขา สำหรับการทำลายจักรวาลย่อยของ หลัวเฟิง น่ะรึ?
แม้ว่าพวกมันจะทำลายจักรวาลย่อยของเขาได้แต่ หลัวเฟิง ก็ยังมีชีวิตอยู่ อย่างมากที่ทำได้ก็แค่ไม่ให้เขากลายเป็นเทพแท้จริงมิติ ในทางกลับกันแล้ว อสูรทลายมิติ หวังว่า หลัวเฟิง จะกลายเป็นเพทแท้จริงมิติและไปเกิดใหม่เหนือกว่า
“เขตนี้” ร่างพลังอมตะชี้ไปที่แผนที่ “ลองทำเครื่องหมายกองทัพที่เขตนี้ ส่งจำนวนพวกมันให้กับข้า”
“ได้ นายท่าน” โมโลซ่า ตอบกลับทันที
ตัวเลขที่บอกจำนวนของแต่ละกลุ่มได้แสดงออกมา
“ทีมที่ใกล้ที่สุดมี อสูรทลายมิติ 12,000 ตัว” ร่างพลังอมตะพยักหน้าเล็กน้อย
ตอนนั้นเองร่างหลักก็ได้เดินทางไปยังทีมที่ใกล้ที่สุดเพื่อกำจัดพวกมัน ไม่นานจากนั้น…
“นายท่าน มีกลุ่ม อสูรทลายมิติ มากมายในระยะที่เริ่มถอยและพวกมันก็กระจายตัวไปทุกทิศทางเพื่อหนี” โมโลซ่า แจ้งเตือนทันที “แม้แต่กลุ่มที่มี อสูรทลายมิติ 2-3 หมื่นตัวก็ไม่กล้าที่จะสู้กับท่านอีกต่อไป”
“น่าเสียดาย ข้าเพิ่งจัดการแค่ไม่กี่ร้อยตัวเอง” ร่างพลังอมตะส่ายหน้า “ถ้ากลุ่มเหล่านี้กระจายตัวตอนที่หนี มันจะยากที่จะล่อพวกมันมาฆ่า”
ตอนที่ อสูรทลายมิติ มารวมตัวในพื้นที่หนึ่ง การโจมตีด้วยดาบของเขาเท่ากับว่าจะมี อสูรทลายมิติ หลายร้อยตัวหายไป มันจะน่าพอใจแค่ไหนกัน?
แต่ตอนนี้ อสูรทลายมิติ ทุกตัวต่างก็กระจายตัวกันออก มันมีปัญหาในการฆ่าพวกมัน
“ตอนนี้ อสูรทลายมิติ ได้ไปรวมตัวกันที่เขตนอก บางกลุ่มมีถึง 100,000 ตัว”
โมโลซ่า รู้สึกกังวลเพราะจำนวนที่เพิ่มขึ้นมา มันเห็นชัดว่าแผนที่เต็มไปด้วยกลุ่มแสงที่มารวมตัวกันสร้างวงล้อมหลายชั้นที่เขตนอกโดยมี หลัวเฟิง อยู่ตรงกลาง
“จำนวน อสูรทลายมิติ ที่เข้ามาในเขตหลักยังคงเพิ่มขึ้น!” โมโลซ่า ตะโกนบอกด้วยเสียงที่สั่น “เกือบ 8 ล้านแล้ว!”
ร่างพลังอมตะมองดูอยู่เงียบๆ
“นายท่าน มันมี อสูรทลายมิติ 8 ล้านตัวแล้ว!” ตาทั้งสองของ โมโลซ่า เบิกกว้างราวกับจะหลุดออกจากเบ้า
มันไม่รู้…
เมื่อเผชิญหน้ากับวงล้อมนี้ โมโลซ่า ไม่รู้ว่า หลัวเฟิง ตั้งใจจะจัดการกับพวกมันทั้งหมด 1 ต่อ 10,000 หลัวเฟิง ก็ทำได้สำเร็จ!
พลังของเขาแน่นอนว่าเข้าถึงขั้นสูงสุดของเทพแท้จริงมิติ แต่ยังไงซะเขาก็เป็นแค่เทพแท้จริง เขาอาจจะเทียบกับพลังของเทพแท้จริงมิติไม่ได้ แต่เขาก็ยังพึ่งสมบัติอย่างเทพวูฉีและดาบเงาเลือดในการปลดปล่อยพลังระดับนั้นออกมาได้ แต่มันเกือบจะถึงขีดจำกัดของ หลัวเฟิง แล้ว!
อสูรทลายมิติ แสนตัว เขาจะจัดการกับพวกมันเยอะแบบนั้นได้ยังไง?
และล้านตัวล่ะ?
การรวมการโจมตีจาก อสูรทลายมิติ กว่าล้านตัวไม่ได้ด้อยไปกว่าการโจมตีจากเทพแท้จริงนิรันดร์ ไม่ว่า หลัวเฟิง จะเก่งกาจแค่ไหนแต่เขาก็เป็นแค่เทพแท้จริง การรวมความสามารถของ อสูรทลายมิติ 8 ล้านตัวเทียบได้กับตัวตนชั้นสูงในหมู่เทพแท้จริงนิรันดร์
“จุดกำเนิดคือพลังงานที่เทพแท้จริงดึงออกมาด้วยการพึ่งปีกทองปั่นป่วนที่สมบูรณ์” หลัวเฟิง พูดขึ้น “ส่วนหนึ่งของมันมีพลังต่อสู้ที่ระดับศักดิ์สิทธิ์ โชคร้ายที่พลังนี้ใช้ได้เพียงครั้งเดียว มันไม่มีเหลืออีกหากใช้ไปแล้วแต่มันดึงความสนใจจาก อสูรทลายมิติ 8 ล้านตัวได้ นี่เป็นปาฏิหาริย์ มันอาจจะยากที่จะดึงความสนใจจาก อสูรทลายมิติ ได้มากกว่านี้แต่ข้าก็ต้องพยายามดูก่อน”
****
ด้วยการชี้แนะของ โมโลซ่า หลัวเฟิง จัดการลอบโจมตีกลุ่ม อสูรทลายมิติ เล็กรวมถึงพวกที่อยู่เพียงลำพังได้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม อสูรทลายมิติ ถึงได้ตายอยู่ตลอด มันทำให้ อสูรทลายมิติ ทั้งหมดโกรธ และมันก็โกรธมากกว่าเดิมจนเริ่มเข้าร่วมแผนในการเข้าล้อม หลัวเฟิง เอาไว้ ไม่ว่าพวกมันจะโกรธกันแค่ไหนแต่แผนการล้อมนี้ก็ไม่ได้แสดงความไม่เป็นระเบียบ พวกมันรวมตัวกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประจำอยู่ที่เขตนอกที่ล้อม หลัวเฟิง เอาไว้ แม้ว่าพวกมันจะเจอกับการลอบโจมตีแต่ก็ยังคงรักษาตำแหน่งของตัวเองเอาไว้อยู่
“แม้ว่าจะมีเป็นแสนตัวที่ต้องตายแต่เพื่อเผ่าพันธุ์แล้ว…การตายของพวกนั้นถือว่าคุ้มค่า”
“ไม่มีใครหยุดการกำเนิดราชาได้”
อสูรทลายมิติ เหมือนกับเครื่องจักรที่พร้อมทำงาน พวกมันเกิดมาเพื่อทำลาย ตอนที่ไม่มีภัยภายนอก พวกมันจะสู้กันเองแต่เมื่อมีภัยที่แท้จริง พวกมันจะร่วมมือกันและคิดช่วยกัน มันไม่มีการขัดแย้งภายในและพวกมันจะไม่สู้กันเอง มันมีพิกัดที่แม่นยำ ทุกตัวยอมสละตัวเองมากกว่าทำให้ตัวเองเป็นภัยภายในเผ่า
แม้แต่ใจของ หลัวเฟิง ก็ยังต้องสั่นไหวเมื่อรู้ระดับความเด็ดเดี่ยวของพวกมัน
“ชีวิตแบบไหนกันที่ทะเลจักรวาลให้กำเนิดขึ้นมา?” หลัวเฟิง ตะลึง “ตัวตนที่แทนถึงการทำลาย แม้แต่ช่วงเติบโต พวกมันก็แข็งแกร่งอย่างมาก”
ตัวตนพวกนี้ไม่ได้มีแค่พลังที่แข็งแกร่งแต่ยังมีวิญญาณที่แข็งแกร่งด้วย ความเด็ดเดี่ยวของพวกมันทำให้ไม่มีสักตัวที่หวั่นไหวกับการสละตัวเอง ความจริงข้อนี้ทำให้หลัวเฟิง กดดันอย่างมาก
****
หลัวเฟิง ยังคงพยายามใช้ทุกวิธีที่เป็นไปได้เพื่อล่อ อสูรทลายมิติ เขาต้องการทำให้พวกนี้หวั่นไหว
อสูรทลายมิติ ตายกันทีละตัวๆ แต่ทั้งหมดก็ยังไม่ได้สนใจ พวกมันยังรวมตัวกันต่อ พวกมันมีมากกว่า 5 ล้านตัวที่เข้ามาประจำตำแหน่งรอบตัว หลัวเฟิง
“เริ่มเดินหน้า!”
“เริ่มเดินหน้า!”
“เริ่มเดินหน้า!”
กลุ่มต่างๆ ของ อสูรทลายมิติ เริ่มเดินหน้าช้าๆ มันมีมากกว่า 3 ล้านตัวที่กำลังมุ่งหน้ามาที่นี่
ถ้าเหล่า อสูรทลายมิติ เสี่ยงครั้งแล้วครั้งเล่า หลัวเฟิง ก็จะมีวิธีในการฆ่ามันซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นกัน แต่ อสูรทลายมิติ 5 ล้านตัวที่มารวมตัวกันรอบตัวเขานี้ได้กดดันเขาจากทุกทิศทางอย่างช้าๆ
อสูรทลายมิติ ได้ทำให้ หลัวเฟิง รู้สึกอับอายแปลกๆ เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน พวกมันมั่นคงเกินไป อสูรทลายมิติ ได้แสดงถึงพฤติกรรมที่สูงส่งที่ร่วมมือกันเพื่อจัดการกับ หลัวเฟิง แต่ หลัวเฟิง จะทำอะไรได้?
อสูรทลายมิติ 5 ล้านตัวได้แบ่งออกมากกว่า 10 กลุ่ม หลัวเฟิงไม่กล้าที่จะเสี่ยงเต็มที่แต่ไม่ว่าเขาจะซ่อนตัวยังไงแต่ด้วยการที่มีวงล้อมที่หดเข้ามาเรื่อยๆ นี้สุดท้ายเขาก็ไม่อาจจะหนีไปได้ นอกซะจากว่าเขาจะทำให้ตัวเองมองไม่เห็นและไร้รูปร่าง!
ครั้งนี้จุดประสงค์ของ หลัวเฟิง ไม่ใช่การหนีแต่เป็นแผนกำจัดครั้งใหญ่ เขาได้มาถึงจุดที่ไม่อาจจะซ่อนตัวได้อีก…ถ้าเขาเลือกที่จะซ่อนตัว อสูรทลายมิติ จะคิดยังไง?
พวกมันคงมองไปรอบๆแล้วสงสัย ‘อะไรกัน? เราทำงานที่ไร้ช่องโหว่ในการล้อม แต่ หลัวเฟิง หายไปอีกได้ยังไง?’ ฉากแบบนั้นคงเผยถึงไพ่ตายของ หลัวเฟิง
****
พวกมันแม่นยำราวกับเครื่องจักรที่ไม่มีความผิดพลาด ทุกอย่างถูกเอามาคิด พวกมันยังคงล้อม หลัวเฟิง เอาไว้ต่อจนทำให้พื้นที่ลงมือเขาน้อยลงตามไปด้วย
“เราพบตัว ทางช้างเผือก แล้ว”
“เขาโดนเราขังไว้แล้ว”
กลุ่ม อสูรทลายมิติ 50,000 ตัวได้ล้อมหอคอยดวงดาวเอาไว้
ภายในหอคอยดวงดาว หลัวเฟิง ส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาวางแผนเอาไว้แต่หากไม่มีมองไม่เห็นและไร้รูปร่าง เขานั้นมีทางเลือกเดียวคือติดวงล้อม มันไม่มีทางที่เขาจะหนีได้
“มันไม่ใช่ความผิดใคร” หลัวเฟิง พูดขึ้น “พวกนี้เกิดมาแข็งแกร่งและมีพรสวรรค์ จำนวนของพวกมันก็สร้างความตกใจให้กับทุกคนได้ ตอนที่เผชิญหน้ากับภัย พวกมันเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่แปลกใจเลยว่าแม้แต่จิตจักรวาลดั้งเดิมก็ต้องกลัวมัน”
หลัวเฟิง ส่ายหน้า
“โจมตี!”
“โจมตี!”
อสูรทลายมิติ กว่า 500,000 ตัวยังเว้นระยะห่างจาก หลัวเฟิง ไม่นานจากนั้นพวกมันก็ใช้การโจมตีพร้อมกัน
ทันใดนั้นการโจมตีที่เกิดจาก อสูรทลายมิติ 500,000 ตัวก็ได้เปลี่ยนเป็นลำแสงอันหนึ่งที่สามารถกำจัดทุกอย่างได้ ลำแสงนี้อัดเข้าใส่หอคอยดวงดาวและทำให้หอคอยดวงดาวกระเด็นออกไปด้วยความเร็วล้านเท่าของแสง ภายในหอคอยดวงดาวนั้น หลัวเฟิง รู้สึกได้ถึงการสั่นไหว พลังอมตะบางส่วนของเขาถูกใช้งานไป
“มันสมกับเป็นสมบติที่ถูกใช้โดยราชาเทพ”
หลัวเฟิง ยังปลอดภัยในหอคอยดวงดาว มันแค่ อสูรทลายมิติ 500,000 ตัว ถ้ามันมี 8 ล้านตัว สมบัติอย่างเรือสุสานก็คงพังลงเมื่อโดนโจมตี!
แต่หอคอยดวงดาวนั้นต่างไป แม้แต่การโจมตีจากราชาเทพก็ไม่อาจจะเป็นอันตรายต่อหอคอยนี้ได้มาก
“ทางช้างเผือก ซ่อนตัวอยู่ในหอคอยดวงดาว”
“หอคอยดวงดาวนั้นไม่อาจจะพังลง มันไม่อาจจะทำลายได้ง่ายๆ”
“เรามาถึงแล้ว”
อีกกลุ่มของ อสูรทลายมิติ ได้มาสมทบทำให้จำนวนพวก อสูรทลายมิติ ที่ล้อม หลัวเฟิงไว้มีมากเกือบล้านตัว
เวลาผ่านพ้นไป กลุ่ม อสูรทลายมิติ เข้ามาสมทบกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่กลุ่มใหม่มาถึง อสูรทลายมิติ จะลองโจมตีร่วมมือกันและทำให้หอคอยดวงดาวกระเด็นออกไปราวกับลูกบอล หอคอยดวงดาวกระเด็นไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่ว่าจำนวนพวกมันจะมากขึ้นแค่ไหนจากล้านเป็นสองล้านหรือแม้แต่สามล้านจนสุดท้ายห้าล้านแต่อสูรทลายมิติ ก็ไม่อาจจะทำอะไรหอคอยดวงดาวได้ จำนวนของ อสูรทลายมิติ ที่มารวมตัวกันเพิ่มขึ้นช้าๆ และมันก็มี อสูรทลายมิติ แห่กันมาที่นั่นจำนวนมาก
5.3 ล้าน, 5.6 ล้าน, 6 ล้าน…
“มันเยอะจริงๆ”
ด้านในหอคอยดวงดาว หลัวเฟิง มองไปยังโลกด้านอก อสูรทลายมิติ มีร่างขนาดใหญ่และด้วยการที่มีหลายล้านตัวมารวมตัวกันรอบๆ ทั้งมิติจึงถูกบดบังเอาไว้ พื้นที่ที่พวกนี้ยึดครองแทบถือว่าไร้ที่สิ้นสุด
“ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกมันก็ไม่อาจะทำลายหอคอยดวงดาวด้วยการโจมตีของพวกมันได้” หลัวเฟิง พูดกับตัวเอง “ข้าคิดว่าพวกมันก็แค่รอ รอจนกว่า อสูรทลายมิติทุกตัวจะมารวมตัวกันแล้วร่วมมือโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา นี่คือทางเดียวที่จะคาดหวังกับทุกอย่าง ถ้าการโจมตีนั้นยังทำอันตรายหอคอยดวงดาวไม่ได้ พวกมันก็อาจจะผลักหอคอยดวงดาวไปยังพื้นที่อันตรายอื่น”
เขตหลักของเขาเองมีพื้นที่อันตรายหลายแห่ง ยกตัวอย่างเช่น สามพื้นที่อันตราย ตอนที่หอคอยดวงดาวตกลงไป มันจะไม่อาจออกมาได้
อสูรทลายมิติ เผชิญหน้ากับปัญหาอยู่บ้าง อย่างแรกดินแดนอันตรายนั้นอยู่นอกดินแดนแห่งความมืดมิด ถ้าพวกมันตั้งใจจะส่งหอคอยดวงดาวออกจากที่นี่ มันต้องใช้เวลานานอย่างมาก บวกกับพื้นที่อันตรายนั้นอาจจะขัง หลัวเฟิง ไว้ไม่ได้ ดังนั้น อสูรทลายมิติ จึงไม่มั่นใจกับตัวเลือกนี้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกมันถึงเลือกที่จะไม่โยนหลัวเฟิง เข้าไปในพื้นที่อันตรายนอกซะจากว่าไม่ใช่ตัวเลือกสุดท้าย
*****
“นายท่าน จำนวน อสูรทลายมิติ มากถึง 7.6 ล้านตัวแล้ว” โมโลซ่า ตรวจจับทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้และใบหน้าของมันก็เต็มไปด้วยความกังวล “ก่อนหน้านี้มีทั้งหมดมากกว่า 8.3 ล้านตัว ไม่นานพวกมันก็มาที่นี่ นายท่าน ท่านมีแผนจะหนียังไงกันแน่?”
โมโลซ่า ลนลาน ถ้า หลัวเฟิง ตาย มันเองก็จะตายด้วย จากนั้นมันก็ไม่อาจะเป็นราชาได้
“7.6 ล้านแล้วรึ?” ร่างพลังอมตะหัวเราะ “ไม่นานมันจะถึงเวลาลากแหแล้ว”
****
ไม่ว่าเขาจะใจเย็นแค่ไหนแต่ หลัวเฟิง ที่อยู่ในหอคอยดวงดาวก็ยากจะยั้งอารมณ์ตัวเองไว้ได้ เมื่อมองไปด้านนอกพบกับทะเล อสูรทลายมิติ เขาก็เห็นว่าพวกมันมองมาที่หอคอยดวงดาว พวกมันล้อมและขังเขาเอาไว้ในวงล้อมของพวกมัน ทุกตัวต่างก็แสดงสีหน้ากลัวและโกรธออกมา
“8 ล้าน” หลัวเฟิง กระซิบ “8.1 ล้าน 8.2 ล้าน”
สุดท้ายตาของ หลัวเฟิง ก็เป็นประกายขึ้นมา สายตาของเขาสดใส “ทุกตัวมารวมตัวกันที่นี่”
อสูรทลายมิติ ที่ควรจะเข้าร่วมกับแผนครั้งนี้ได้มาถึง ไม่นานพวกมันก็ได้ทำการโจมตีครั้งใหญ่เข้าใส่หอคอยดวงดาว
ตอนนั้นเองสายตาของ หลัวเฟิง ได้แสดงความบ้าคลั่งออกมา เขารอ รอจนกว่า อสูรทลายมิติ จะรวมการโจมตีเสร็จ จากนั้นท่ามกลางคลื่นของการบีบอัดพลัง เขาจะใช้จุดกำเนิดของเขา
“มนุษย์ของข้า” หลัวเฟิง พูดขึ้น “คนในโลก ครอบครัว อาจารย์…ทุกคน ทุกสิ่งนั้นมีค่ามากกว่าตัวข้าเอง เดิมพันทุกอย่างไว้ในการต่อสู้สุดท้าย!”
ตาของ หลัวเฟิง แดงก่ำเพราะเลือด หลัวเฟิง ได้กางปีกด้านหลังออก จุดกำเนิดตอนนี้ได้หลอมรวมเข้ากับปีกซื่อหวู๋ด้านหลังของเขา