Skip to content

Swallowed Star 1469

ตอนที่ 1469 : ปลดปล่อยอาจารย์ต้นกำเนิด

อสูรทลายมิติ ตัวหนึ่งมองไปยังร่างโครงกระดูกตรงหน้า “เจ้าแห่งดาวกระดูก? หยุด!”

อสูรทลายมิติ หลายพันตัวสื่อสารผ่านจิตได้และพวกมันก็หยุดกินทันที

“ตามแผนของเราแล้ว เราควรจะรับทาสคนหนึ่ง เจินเจี๋ย กับ มังกรหิน ไม่รู้ข้อมูลใหม่ๆ เลย”

“รับ เจ้าแห่งดาวกระดูก นี้ไว้ซะ”

“รับเขา”

อสูรทลายมิติ ทั้ง 900,000 ตัวสื่อสารกับผ่านจิตและได้รับข้อสรุป

“ถ้าเจ้าเต็มใจจะเข้าฝั่งเรา” อสูรทลายมิติ สีดำตัวหนึ่งพูดขึ้น “ข้าจะให้โอกาสเจ้า”

เจ้าแห่งดาวกระดูก แสดงท่าทีขมขื่นออกมาแต่ก็ยังแสดงท่าทีขอบคุณ

“ได้” เขาตอบกลับด้วยความเคารพ

ทันใดนั้นภาพสีเลือดก็ปรากฏขึ้นมาในตาสองข้างของ อสูรทลายมิติ ภาพทั้งสองหมุนวน เจ้าแห่งดาวกระดูก มองภาพทั้งสองในตาของ อสูรทลายมิติ และวิญญาณของเขาก็จดจำมันเอาไว้

****

“ไม่!”

“อ๊า!”

“พ่อ!”

มิติในจักรวาลย่อยแห่งหนึ่งเริ่มพินาศลงไป จุดกำเนิดเกือบจะหายไปแล้ว เป็นธรรมดาที่มิติภายในจะเริ่มแยกออกจากกันและถูกกำจัด ไม่นานจุดกำเนิดก็หายไปหมดและมิติทั้งหมดก็แตกออกราวกับแก้ว ทุกชีวิตในจักรวาลย่อยนั้นต่างก็พินาศ

“อสูรทลายมิติ อสูรทลายมิติ!” ชายปีกดำ 3 คู่ซ่อนอยู่ในมิติไกลออกไปโกรธแค้น จักรวาลย่อยของเขาเพิ่งจะโดนทำลายรวมถึงเผ่าของเขาด้วย

****

“เจ้ามันไร้ประโยชน์ ทางช้างเผือก!” เทพแท้จริงเกราะทอง จากยุคสองคำรามออกมา “เราเชื่อใจเจ้า เผ่าเราจะหายไปก่อนและเผ่ามนุษย์เองก็ต้องสูญสิ้นไปด้วย!”

เขาไม่ได้หนี เขาเลือกที่จะอยู่ในจักรวาลย่อยของตัวเองเพื่อร่วมชะตากับคนในเผ่า เผ่าของเขากำลังจะหายไปและจักรวาลย่อยเองก็ด้วย มันไม่มีโอกาสที่เขาจะเกิดใหม่เหนือกว่าได้ หลังจากผ่านจักรวาลยุคนี้ไป เขาก็ยังต้องตายอยู่ดี มันดีกว่าที่เขาจะตายตอนนี้ดีกว่าตายเพียงลำพังในอนาคต

****

“ข้า ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งในแปดตัวตนยิ่งใหญ่ของทะเลจักรวาลและเคยเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลจักรวาล ข้า มีข้อมูลมากมายและข้ายอมเข้ากับพวกเจ้า” ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ได้ยื่นคำร้องต่อ อสูรทลายมิติ

เลือกเข้ากับเรา?

อสูรทลายมิติ คิด

อสูรทลายมิติ อีกหลายพันตัวกำลังกินจักรวาลย่อยนั้นอยู่ต่างก็พากันหยุด

“ได้” อสูรทลายมิติ พยักหน้า “ข้าจะให้โอกาสเจ้า”

ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ โล่งอก แสงสีดำระเบิดออกมาจากตัว อสูรทลายมิติ แทงเข้าร่างดวงตาศักดิ์สิทธิ์ เกราะและสมบัติอื่นๆ ในตัวไม่อาจจะหยุดมันได้และเขาก็ไม่คิดจะต้านทานด้วย

“กลืนกิน” อสูรทลายมิติ เริ่มดูดซับเขา

แม้ว่าเทพแท้จริงจะต่อต้านแต่มันก็ใช้เวลาไม่นานที่ อสูรทลายมิติ จะกินเขา นี่ไม่ต้องนับ ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ที่ไม่ต่อต้านเลยด้วย หลังจากนั้นไม่นานร่างอมตะกว่าครึ่งของ ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ก็หายไป

“นี่มัน…!” ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ช็อก

“อย่าสู้เลย” อสูรทลายมิติ พูดขึ้นมา “ข้ากินพลังอมตะเจ้าไปเกือบหมดแล้ว ก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนมันเป็นพลังของ อสูรทลายมิติ หลังจากนี้เจ้าจะกลายเป็นทาสของเรา”

ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ลังเลแต่ก็พร้อมที่จะเสี่ยง

ไม่นานพลังอมตะทั้งหมดเขาก็ถูกกินไป ก่อนที่เขาจะตาย ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขายิ้มออกมาอย่างขมขื่นและกระซิบออกมา “ภัยพิบัติ!”

จากนั้นเขาก็ถูกกำจัดและมีแค่สมบัติที่ลอยทิ้งไว้

“โง่เง่า” อสูรทลายมิติ ยิ้ม “ตัวตนยิ่งใหญ่ทั้งแปด? เรามี เจ้าแห่งดาวกระดูก ที่เป็นทาสแล้ว ไม่จำเป็นที่ต้องมีทาสคนอื่น”

จากนั้นมันก็อ้าปากกินสมบัติของ ดวงตาศักดิ์สิทธิ์

อสูรทลายมิติ ไม่อาจจะใช้อาวุธของเทพแท้จริงได้!

พลังของพวกมันตรงกันข้ามกับพลังของเทพแท้จริง ดังนั้นพวกมันจึงไม่อาจจะใช้สมบัติเหล่านี้ได้ แต่พวกมันก็ยังใช้ในการปลอมแปลงตัวอย่างการถือขวานได้แต่ไม่อาจะใช้มันเพิ่มพลังหรือรอยสลักในตัวอาวุธได้

****

ทุกคนในทะเลจักรวาลต่างก็สับสน

ด้านในดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพา ปีศาจตะวันออก ยืนอยู่ในต้นไม้และมองไปยังผู้คนด้านล่าง

“เราควรทำยังไงกันดี บรรพบุรุษ?”

“ไปข้างนอกกันเถอะ”

“ไปฆ่าเหล่า อสูรทลายมิติ”

จักรพรรดิส่ายหน้า “ไม่จำเป็นต้องดิ้นรน รอโชคชะตา”

ทุกคนต่างก็สิ้นหวังแต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้

“อ่ะ…” จักรพรรดิบูรพา ส่ายหน้า ที่ดีที่สุดที่เขาทำได้คือใช้จิตในการป้องกันจุดกำเนิดเพื่อช่วยต้านพลังการกินของ อสูรทลายมิติ จิตของเขาอยู่ระดับเทพแท้จริงนิรันดร์ขั้นสูงสุดแล้ว!

เมื่อเขาใช้มันคุ้มกันจุดกำเนิด มันจะลดความเร็วของ อสูรทลายมิติ ลง นอกจากนี้จุดกำเนิดของเขาก็ยังแข็งแกร่งกว่าของ จันทราม่วง

“หือ?” จักรพรรดิบูรพา ช็อก “พวกมันหยุด?”

เขาบอกได้ว่า อสูรทลายมิติ ด้านนอกหยุดกินจุดกำเนิดของเขา

****

“ข้าพบกับโอกาสครั้งใหญ่!” จันทราม่วง พูดขึ้น “และข้าก็ยังไม่แข็งแกร่งพอ! นี่คือจุดจบของข้างั้นรึ? ไม่! ไม่ได้!”

จันทราม่วง ยืนอยู่ในจุดกำเนิดและมองไปรอบๆ ก่อนจะตะโกนออกมา อยู่ๆ เขาก็แสดงสีหน้าอึ้งและดีใจขึ้นมา “พวกมันหยุด?”

****

อสูรทลายมิติ ยังคงเดินหน้าพร้อมกับส่งข้อความ

“มันยากที่จะกินจุดกำเนิดดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพานั้นมีการต้านทานที่แข็งแกร่ง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงมีการต้านทานที่อ่อนกว่าแต่ก็ยังแข็งแกร่งกว่าจักรวาลย่อยของเทพแท้จริง ถ้าเรายังกินต่อ มันจะกินเวลานานกว่าจะเสร็จ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สองแห่งนี้ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อเรา ปล่อยพวกนี้ไปก่อน เวลาคือสิ่งสำคัญและเราต้องใช้มันให้คุ้มค่า หลัวเฟิง คือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ของเราตอนนี้”

“ไปต่อ”

“ทำลายพวกยุคแรกและสองก่อน”

อสูรทลายมิติ ลงมือกันเป็นทีม จักรวาลย่อยแล้วจักรวาลย่อยเล่า ทุกเผ่าจากยุคแรกและสองต่างก็ถูกกำจัด มันมีการร้องขอความช่วยเหลือมากมาย มีคำด่ามากมายถูกส่งมายังจักรวาลดั้งเดิมแต่เผ่าในจักรวาลดั้งเดิมรวมไปถึง หลัวเฟิง ไม่ได้พูดอะไรเรื่องนี้

****

การขอความช่วยเหลือ, ความแค้นและคำด่า…ทุกข้อความต่างถูกส่งออกมา

ทุกคนในจักรวาลดั้งเดิมต่างก็กลัว เผ่าต่างๆ ถูกกำจัดไปทีละเผ่าๆ

“สำนักบรรพบุรุษอสูรเทพ”

หลัวเฟิง และ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ปรากฏตัวในเขตบรรพบุรุษอสูรเทพ พวกเขาคือผู้นำของจักรวาลดั้งเดิม หลังจากที่ อสูรทลายมิติ ได้ทำลายพวกยุคแรกและสองก่อนจะเดินหน้ามายังจักรวาลดั้งเดิม พวกเขาได้มายังสำนักบรรพบุรุษอสูรเทพ

ซู่! ซู่!

ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังวังเทพ บรรพบุรุษอสูรเทพทั้งสามรับรู้ได้ว่าพวกเขามาถึงแล้ว ดังนั้นทั้งสามจึงปลดผนึกออก

“บรรพบุรุษอสูรเทพ” หลัวเฟิง และ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้นมาเมื่อเข้ามาในวัง

เทพหนุ่ม, เทพอาวุโส และเทพสองหน้านั่งอยู่บนบัลลังก์ของตน

เทพอาวุโสได้พูดขึ้นมา “ทางช้างเผือก และ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล นี่คือช่วงวิกฤตที่สุด อสูรทลายมิติ อาจจะมาถึงในหนึ่งหรือสองวัน นี่คือเวลาสำคัญ ทำไมพวกเจ้าถึงได้มาที่นี่? ข้าจะให้คนจากสำนักไปยังดินแดนทางช้างเผือกในภายหลัง”

“อสูรทลายมิติ กำลังมา” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พูดขึ้นมา “และมันมีมากมาย พวกมันจะกินจุดกำเนิดอย่างรวดเร็ว ทางช้างเผือก กับข้ามาที่นี่เพราะเราหวังว่าจิตดั้งเดิมจะปล่อย อาจารย์ต้นกำเนิด มา! หาก อาจารย์ต้นกำเนิด ไม่มีจิตในการปกป้องจักรวาลย่อยของตัวเอง จักรวาลย่อยของเขาจะโดนกินทันที”

ปกติแล้วสำหรับจักรวาลย่อยของเทพแท้จริง มันจะใช้เวลาหลายนาทีกว่าที่ อสูรทลายมิติ หลายพันตัวจะกินเสร็จ แต่จักรวาลหลักไม่ได้มีจิตของเทพแท้จริงคอยปกป้อง ดังนั้นมันจะถูกกำจัดทันที

“ได้โปรด จิตดั้งเดิม ปล่อย อาจารย์ต้นกำเนิด” หลัวเฟิง พูดขึ้น

“ปล่อย อาจารย์ต้นกำเนิด?” เทพทั้งสามมองหน้ากัน

ปกติแล้วพวกเขาจะค้านคำขอของทั้งสองคน ยังไงซะ อาจารย์ต้นกำเนิด ก็คุกคามจิตดั้งเดิม และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้โดนขัง จิตดั้งเดิมไม่ปล่อยเขาออกมาง่ายๆ แต่นี่มันคือช่วงเวลาพิเศษ ตอนที่ตัดสินชะตาของทุกเผ่าในจักรวาลดั้งเดิม

“ให้เราติดต่อกับจิตดั้งเดิมก่อน” เทพอาวุโสพูดขึ้น

“ดี”

“รอไปก่อน”

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ตอบกลับแต่ชัดแล้วว่าเขายังกดดัน!

ถ้า อาจารย์ต้นกำเนิด ไม่ถูกปล่อยตัว จักรวาลหลักก็จะถูกกำจัด!

ฮ่ง!

แรงที่มองไม่เห็นแผ่ออกมา จิตดั้งเดิมได้มาถึงแล้ว เทพทั้งสามหลับตาลงและฟังที่จิตดั้งเดิมต้องการจะบอก หลังจากนั้นสักพักทั้งสามก็ลืมตามองไปที่ หลัวเฟิง และ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ด้วยท่าทีเสียใจ

สีหน้านั้นทำให้ หลัวเฟิง สับสน คำตอบน่าจะเป็นไม่!

“จิตดั้งเดิมยอมปล่อย อาจารย์ต้นกำเนิด รึเปล่า?” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ถามด้วยใบหน้าที่ซีด

ทั้งสามมองหน้ากัน จากนั้นเทพหนุ่มก็พูดขึ้น “จิตดั้งเดิมบอกเราทุกอย่าง มันไม่มีทางที่จะปล่อย อาจารย์ต้นกำเนิดได้ แต่จิตดั้งเดิมจะหยุดการยับยั้งจิตของเขา เขาอัดแน่นร่างพลังอมตะในจักรวาลหลักเพื่อที่จะคุ้มกันจักรวาลย่อยด้วยจิตของเขาได้”

“ทำไมถึงทำแบบนั้น?” หลัวเฟิง คิ้วขมวด “หากไม่โดนสยบจิตอีกต่อไป ทำไมไม่ปล่อยเขาออกมา?”

อาจารย์ต้นกำเนิด โดนขังไว้รวมถึงจิตด้วย เขาไม่อาจจะอัดแน่นร่างพลังอมตะขึ้นมา ไม่งั้นแล้วเขาคงไม่ให้ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ดูแลจักรวาลหลัก อาจารย์ต้นกำเนิดได้ใช้เทคนิคจักรวาลเสมือนซึ่งได้กระจายไปทั่วทุกที่ มันทำให้เขารับรู้ได้ถึงทุกอย่าง แต่ร่างหลักและจิตของเขายังโดนขังอยู่

“ทางช้างเผือก” เทพอาวุโส พูดพร้อมกับถอนหายใจ “เมื่อก่อน อาจารย์ต้นกำเนิด แข็งแกร่งอย่างมากและตอนนี้เขาก็ได้รับการสืบทอดจากสังคมโบราณมา เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม! ถ้าเขาออกมา เขาจะอยู่ระดับเดียวกับเจ้าเมื่อมีสมบัติเครื่องจักร ด้วยพลังของเขากับเจ้า จิตดั้งเดิมจะมีโอกาสมากกว่าเดิม จิตดั้งเดิมคงปล่อยเขาออกมาถ้าหากมันทำได้ เอาจริงๆ แล้ว อาจารย์ต้นกำเนิด ฝ่าฝืนกฎสูงสุดมาก่อน และเขาก็โดนยับยั้งโดยกฎสูงสุด ถ้าเจ้าแก้ปัญหา อสูรทลายมิติ ได้ เจ้าจะมีผลงานครั้งใหญ่และจากนั้นจะปล่อย อาจารย์ต้นกำเนิด ออกมาได้”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!