Skip to content

Swallowed Star 1471

ตอนที่ 1471 : ปกป้อง

เขาเลือกได้อย่างเดียว

สายตาของ หลัวเฟิง ได้สะท้อนตัวเลือกออกมาทันที “ข้าไม่มีทางเลือก!”

สำหรับทุกอย่างที่เขาอยากปกป้อง แม้ว่ามันจะหมายถึงการสละตัวเองแต่มันก็คุ้มค่า นอกจากนี้มันก็แค่จักรวาลย่อยของเขา การทำลายจักรวาลย่อยนั้นหมายความว่าเขาแค่ไม่อาจจะเกิดใหม่เหนือกว่าได้ มันก็แค่นั้น

****

ในจักรวาลเสมือนมีวังเทพลอยอยู่ เทพแท้จริงของจักรวาลหลักได้มารวมตัวกัน แผนที่แทนทุกอย่างภายในทะเลจักรวาลลอยอยู่เหนือพวกเขา

เก้ากว้างไกล, บรรพบุรุษอสูรเทพ, ผู้นำเกาะชีฮัวและเทพแท้จริงคนอื่นๆ ต่างก็มองไปที่แผนที่ที่เต็มไปด้วยจุดแสง ทุกคนต่างก็พากันกังวล

“อสูรทลายมิติ แบ่งเป็นสองกลุ่มงั้นรึ?”

เทพแท้จริงต่างก็หงุดหงิด หลัวเฟิง ที่นั่งอยู่ด้านบนมองลงมา เขาไม่ได้ปิดบังอะไรพวกนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เป็นตาย มันไม่มีอะไรที่คู่ควรต้องปิดบัง

“ฟัง” หลัวเฟิง ประกาศออกมา “ตอนนี้ อสูรทลายมิติ แบ่งกันเป็นสองทีม ทีมหนึ่ง 450,000 ตัวล้อมรอบจักรวาลย่อยของข้าเตรียมที่จะกิน อีกทีมอยู่ที่เขตของยุคแรก ตอนนี้พวกมันกำลังจับคู่สู้กันและกินกันเอง ตัวที่ชนะจะทำการจับคู่แล้วสู้ต่อ…ถ้าการต่อสู้ยังดำเนินต่อไป การพัฒนาจะเกิดขึ้นในหมู่ 450,000 ตัวนี้ ตัวตนที่น่ากลัวจะกำเนิดขึ้นมา ถ้ามันขึ้นถึงระดับ 6 แม้แต่คนอย่างข้าก็ยังต้องหมดหวัง”

อสูรทลายมิติ ระดับ 6 แบ่งร่างได้ 10 ล้านร่าง ไม่ว่าคนหนึ่งจะแข็งแกร่งเพียงใดแต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังแบบนั้นแล้ว มากที่สุดก็ฆ่าได้แค่เพียงร่างเดียว ภายใต้ขีดจำกัดของกฎมองไม่เห็น โมโลซ่า ต้องถูกบังคับให้ไปสู้กับ อสูรทลายมิติ ระดับ 6 และโดนฆ่าในการต่อสู้นั้น ตอนที่ อสูรทลายมิติ ระดับ 6 จัดการตัวอื่นๆ และกลายเป็นราชาแล้ว มันจะให้กำเนิดนักรบมากมาย นักรบเหล่านั้นน่ากลัวยิ่งกว่าอสูรทลายมิติ ระดับ 6 กองทัพแบบนั้นสามารถกำจัดทุกอย่างได้

“จับคู่แล้วสู้กัน?”

“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่นานก็คงมีสุดยอด อสูรทลายมิติ ขึ้นมา”

“มีแค่ ทางช้างเผือก ที่อาจจะหยุดพวกมันไว้ได้แต่ถ้าเขาไปที่นั่น อสูรทลายมิติ 450,000 ตัวรอบจักรวาลย่อยของเขาก็จะเริ่มทำการกินทันที”

เทพแท้จริงต่างก็บอกความคิดของตัวเองออกมาด้วยความกังวล

อสูรทลายมิติ เกิดมาหยิ่งทะนง ทุกตัวอยากที่จะเป็นราชาและตอนนี้พวกมันกำลังจับคู่เพื่อสู้กันเอง อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่ระบบที่ยุติธรรม เอา อสูรทลายมิติ ระดับ 2 เป็นตัวอย่าง ปกติแล้วมันจะสู้กับพวกระดับ 2 กันเอง ด้วยวิธีนี้มันจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและพัฒนา แต่ตอนนี้ระบบจับคู่นั้นมันบังคับให้ระดับต่างๆ มาสู้กัน แม้ว่ามันจะรู้ว่าตัวเองต้องตายแต่มันก็ไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้

อสูรทลายมิติ 450,000 ตัวคืองานของ หลัวเฟิง ที่ต้องไปจัดการและลดโอกาสที่จะมีระดับ 6 ขึ้นมา

ถ้าภัยไม่ได้ใหญ่โต อสูรทลายมิติ คงไม่เลือกวิธีแบบนี้มาตัดสินราชา!

แต่ หลัวเฟิง นั้นน่าหวั่นเกรง พวกมันถูกบังคับตอนที่เผชิญหน้ากับเขา ดังนั้นพวกมันจึงเลือกวิธีที่โหดร้ายที่สุดในการเลือกราชา

ถึงมันจะโหดร้ายแต่ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ หลัวเฟิง และเผ่าอื่นๆ ในทะเลจักรวาลต้องตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง

****

หลัวเฟิง มองลงไปยังเทพแท้จริงนับไม่ถ้วนที่กำลังถกเถียงกัน

“หลัวเฟิง” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ส่งเสียงออกมา “ไม่จำเป็นต้องถามว่าพวกเขาคิดยังไง พวกเขาหวังไว้กับเจ้า หลัวเฟิง ให้ไปสู้แทนพวกเขา…แม้ว่ามันอาจจะทำให้เจ้าเสียจักรวาลย่อยของตัวเอง แต่ไม่ว่าจักรวาลย่อยของเจ้าจะถูกทำลายหรือไม่ เผ่าอื่นๆ ก็ไม่ได้สนใจมากมายนัก มันแค่พวกเขาไม่กล้าจะพูดมันออกมาเพราะจะทำให้เจ้าโกรธเคือง”

หลัวเฟิง พยักหน้า เขาเข้าใจจุดนี้ เขาได้ส่งคำตอบไปหาอาจารย์ทันที “ข้าไม่มีตัวเลือกเลยแม้แต่น้อย”

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ถอนหายใจออกมา มันจริงที่ไม่มีตัวเลือก

หลัวเฟิง มองลงไปยังเทพแท้จริงทุกคนและเปิดปากพูด “ทุกคน”

เทพแท้จริงต่างก็เงยหน้าและตั้งใจฟัง

“ภัย อสูรทลายมิติ นี้สำคัญอย่างมาก…” หลัวเฟิง ประกาศ “ข้าจะมุ่งหน้าไปยังเขตยุคแรกโดยไม่รีรอและข้าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อจัดการกับภัย อสูรทลายมิติ นี้”

“อาจารย์!”

“ทางช้างเผือก”

“หลัวเฟิง!”

ตอนนั้นเองเทพแท้จริงมนุษย์ต่างก็พากันตะโกนออกมา โดมไฟ และ หง กังวลมากกว่าคนอื่น ถ้า หลัวเฟิง เลือกที่จะเดินทางออกไป งั้นจักรวาลย่อยของเขาที่มีขนาดใหญ่นั้นก็ยากที่จะปกป้องไว้ได้แม้ว่าจะมีเทพแท้จริงคนอื่นคอยช่วยก็ตาม มันแทบบอกได้ว่าจักรวาลย่อยของเขาต้องโดนกิน มันจะเสียหายต่ออนาคตของ หลัวเฟิง อย่างมาก และเขาก็ไม่อาจจะยกระดับต่อไปได้

“ไม่จำเป็นต้องพูดมันออกมา” หลัวเฟิง พูดขึ้น “จักรวาลย่อยของข้าใหญ่พอ บางทีมันอาจจะกินเวลานาน”

“แต่มันคือ อสูรทลายมิติ ถึง 450,000 ตัว…” โดมไฟ กังวล

หลัวเฟิง ส่ายหน้า “ข้าไม่มีทางเลือก!”

เทพแท้จริงมนุษย์ที่ตอนแรกคิดจะคุยกับ หลัวเฟิง เรื่องการตัดสินใจของเขาต่างก็เงียบไป แม้แต่เทพแท้จริงเผ่าปีศาจ และเผ่าแมลงก็ยังแสดงสีหน้าสลด มันเป็นเรื่องจริงที่ไม่มีตัวทางเลือกเลยแม้แต่น้อย แม้แต่ หลัวเฟิง ก็ไม่มีทางเลือก พวกเขายิ่งแย่กว่านั้น พวกเขาทำได้แค่ภาวนาให้ หลัวเฟิง ทำสำเร็จ ถ้าไม่งั้นพวกเขาก็จะถูกกำจัด

“ครั้งนี้ข้าไม่ได้มั่นใจ 100%” หลัวเฟิง ส่ายหน้า “อสูรทลายมิติ 450,000 ตัวในยุคแรกกำลังสู้กันเองและมีหลายตัวที่โดนกำจัดไปแล้ว พวกมันกระจายตัวกัน ตอนที่ข้าไปถึงตัวมัน อย่างมากก็ฆ่ามันได้ไปสักสองตัวแรกก่อนจะโดนพบตัว ด้วยวิธีนี้แม้ว่าข้าจะฆ่าสักกี่ตัวแต่ก็ไม่อาจจะหยุดการเติบโตนี้ได้…”

เทพแท้จริงด้านล่างต่างก็รู้สึกเดียวกันในใจ

“ข้าจะทำให้ดีที่สุด” หลัวเฟิง พูดต่อ “สำหรับการปกป้องจักรวาลย่อยของข้า มันขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว ข้าไม่อาจจะไขว้เขวได้”

เงียบสนิท

เทพแท้จริงต่างก็มองหน้ากัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจยอมรับการตัดสินใจแบบนี้ แต่พวกเขาก็รู้ว่าหาก หลัวเฟิง ไม่อาจจะปกป้องจักรวาลย่อยตัวเองได้ มันยิ่งยากกว่าเดิมที่จะปกป้องจักรวาลย่อยของตัวพวกเขาเอง

“ทางช้างเผือก เจ้าไปได้เลย เจ้าได้เอาจักรวาลย่อยตัวเองมาเสี่ยง แม้ว่าเราจะเสียจักรวาลย่อยของตัวเองแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่”

“ใช่ ความเป็นไปได้ที่เราจะเกิดใหม่เหนือกว่าแต่เดิมก็น้อยอยู่แล้วจนถึงขั้นมองข้ามได้เลย ถึงมีหรือไม่มีจักรวาลย่อย มันก็ยากที่จะแยกความต่างได้”

“ทางช้างเผือก ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องทางนี้”

“การสู้กับวิกฤต อสูรทลายมิติ เรานั้นไร้พลังแต่เราจะไม่ส่งผลกระทบต่อเจ้าอย่างแน่นอน”

ตอนนั้นเทพแท้จริงจากเผ่าต่างๆ พากันตัดสินใจ การกำจัด อสูรทลายมิติ สำคัญกว่าทุกสิ่ง สิ่งอื่นนั้นสามารถสละไปได้โดยไม่สนใจว่าจะเต็มใจหรือไม่ แต่กองทัพของอสูรทลายมิติ กำลังเข้าล้อมและพุ่งเข้าหาพวกเขา จักรวาลย่อยของพวกเขาจะกันพวกมันอยู่ได้ยังไง?

พวกเขาต้องยอมรับเรื่องนี้และในเวลาเดียวกันพวกเขาก็ต้องภาวนาให้ หลัวเฟิง ทำสำเร็จ

นี่คือภัยพิบัติที่แท้จริง!

ถ้าพวกเขารอดไปได้ พวกเขาก็ถือว่าเป็นผู้ชนะ

****

ตอนนั้น ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ที่นั่งอยู่ที่มุมนั้นได้สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เงียบๆ เขาได้เผยรอยยิ้มออกมา “สมกับเป็นศิษย์ข้า ไม่มีใครทำให้เขาลังเลได้! เมื่อรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าบอกได้ว่าเขานั้นหวั่นใจ เขาลงมือตามใจตัวเอง เขาอยากที่จะช่วย…แม้ว่าเขาจะเป็นอันดับหนึ่งของทะเลจักรวาล แต่จิตใจเขาชัดเจนกว่าแต่ก่อนไม่สั่นไหวแม้มีอันตรายรอบตัว”

ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ รู้ดี ตอนที่คนที่อ่อนแอเริ่มเติบโตทีละขั้นๆ มันเป็นไปได้ที่ความกังวลอื่นๆ จะเข้ามารบกวนจิตใจ จากนั้นมันก็เป็นไปได้ที่จะรู้ความตั้งใจดั้งเดิมของพวกเขาและตัดสิ่งยั่วยุอื่นๆ แต่เมื่อเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด…ตอนนั้นพวกเขาจะมีคำเรียกร้องมากมากกว่าเดิม นั่นคือตอนที่ใจมนุษย์จะเกิดความโลภมากขึ้น นี่คือตอนที่การมีจิตใจที่หนักแน่นนั้นเป็นเรื่องที่ยาก

“หลัวเฟิง” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ส่งเสียงเข้ามา

หลัวเฟิง หันกลับไปมอง ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่

“อาจารย์” หลัวเฟิง ตอบกลับ

“เจ้าไปได้แล้ว” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ พูดขึ้น “ไปจัดการกับภัย อสูรทลายมิติ สำหรับจักรวาลย่อยของเจ้านั้น…เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าจะไปที่จักรวาลย่อยของเจ้าทันที ข้ามีสมบัติกับตัวและข้าจะพยายามปกป้องจักรวาลย่อยของเจ้าเพื่อกันไม่ให้มันโดนกิน”

“อะไรนะ?” จากที่นั่งของเขา หลัวเฟิง ช็อก ข้างๆ เขาแม้แต่ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ก็รู้สึกได้ว่า หลัวเฟิง เหมือนจะมีท่าทีเปลี่ยนไป ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล อดไม่ได้ที่จะหันกลับมามอง หลัวเฟิง

“อาจารย์” หลัวเฟิง ช็อกเกินคาดหมาย “ท่านบอกว่าท่านจะปกป้องจักรวาลย่อยของข้ารึ?”

“อืม” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ตอบกลับด้วยการส่งข้อความ “ถูกต้อง”

“อาจารย์ แล้วจักรวาลย่อยของท่านล่ะ?” หลัวเฟิง รีบถามขึ้นมา

“ข้าปกป้องได้เพียงแห่งเดียว” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ตอบกลับทันที

ความหมายที่แท้จริงที่เขาเพิ่งจะพูดไปคือตอนที่ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ เข้าไปในจักรวาลย่อยของ หลัวเฟิง เพื่อปกป้องมัน จักรวาลย่อยของเขาจะไร้การป้องกัน เขาไม่อาจะแบ่งความสนใจไปสองจักรวาลย่อยได้

หลัวเฟิง เริ่มกังวลอย่างมาก “อาจารย์ จักรวาลย่อยของท่าน ตอนที่มันโดนกิน จักรวาลย่อยของข้า…”

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ พูดขึ้น “มันไร้ประโยชน์ แม้ว่าข้าจะเกิดใหม่เหนือกว่าแต่การรอดของเจ้านั้นสำคัญกว่า! ข้าทุ่มเทในการบ่มเพาะเจ้าขึ้นมาและเจ้าก็แข็งแกร่งกว่าที่ข้าคาดเอาไว้ พรสวรรค์ของเจ้าไร้ขอบเขต อนาคตที่สดใสแบบนี้จะดับวูบลงได้ยังไง? จากนั้นความคาดหวังและความพยายามนับไม่ถ้วนของข้าที่ทำมาตลอดหลายปีก็คงสูญเปล่า”

หลัวเฟิง ผงะ

จริง เขานั้นยอมแลกความก้าวหน้าในอนาคตแต่เขาไม่เคยคิดถึง ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ เลยรึ?

ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ รับเขาไปบ่มเพะ ถ้า หลัวเฟิง ไม่อาจก้าวหน้าได้ มันเท่ากับการทำลายความหวังของ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่

“ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว” ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ พูดขึ้น “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหากข้าไม่อาจจะเข้าถึงระดับมิติได้ เจ้าต้องเกิดใหม่เหนือกว่า มันคือเรื่องที่สำคัญที่สุดในอนาคตเจ้าจะเรียนรู้ทุกความลับและจากนั้นเจ้าจะเข้าใจเองว่าทำไมข้าที่เป็นอาจารย์เจ้าถึงได้ทำแบบนี้ ไปซะ พยายามจัดการกับ อสูรทลายมิติ จักรวาลย่อยของเจ้า…อาจารย์จะปกป้องมันไว้เอง แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม”

หลัวเฟิง ที่นั่งบนบัลลังก์มองมาที่ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ที่นั่งอยู่ที่มุมไกลออกไป เขาหลับตาลงแต่ใจก็ยังเต้นรัว

บางที ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ อาจจะใช้เขาหรือบางทีอาจารย์อาจจะมีแผนในใจแต่สำหรับล้านล้านยุคที่ผ่านมา หลัวเฟิง ได้เติบโตขึ้นมา ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ไม่เคยขอความช่วยเหลือจากเขามาก่อน ในทางกลับกันแล้ว ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ มักจะเป็นฝ่ายที่ช่วยเขาอยู่เสมอ!

จนถึงตอนนี้ ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ก็ยังคอยช่วยเขา…ความเมตตาแบบนี้เกินกว่าความช่วยเหลือที่ ทรูหยัน และ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล เคยให้มา

หลัวเฟิง มักจะรู้สึกว่า ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ มีแผนบางอย่างซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมกำแพงในใจเขาจึงไม่อาจจะพังลงไป แต่หากไม่นับเรื่องนี้แล้ว ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเขา แม้ว่าต้องทิ้งจักรวาลย่อยของตัวเองแต่ก็ยังยืนกรานว่าจะช่วย หลัวเฟิง!

“อาจารย์!” หลัวเฟิง พูดกับตัวเองเงียบๆ “ตอนที่ อสูรทลายมิติ จบสิ้นและทุกอย่างที่ข้าต้องการปกป้องนั้นปลอดภัย ข้า หลัวเฟิง จะชดใช้ในความเมตตาของท่าน แม้ว่าข้าจะต้องตายหากทำแบบนั้นแต่ข้าก็เต็มใจ!”

****

ซู่!

ที่ชั้นหุ้มของจักรวาลหลักมีร่างหนึ่งบินออกมา เขาใส่เกราะสีเงินและมีปีก 5 คู่ที่หลัง

“อสูรทลายมิติ…” สายตาเขาแสดงความดุดันออกมา จากนั้นเขาก็บินออกไปก่อนจะหายตัวไปในอากาศปั่นป่วน

****

ในเวลาเดียวกันที่ หลัวเฟิง ได้ออกจากจักรวาลหลักไป ด้านนอกประตูที่นำไปสู่จักรวาลย่อยของ หลัวเฟิง จากดินแดนทางช้างเผือก ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ที่นั่งอยู่บนยอดเขาได้ลอยเข้ามา สายตาเขาสงบนิ่งไม่มีวี่แววความยินดีหรือเศร้า ยามได้รับคำสั่งเรื่องการมาถึงของเขาแล้วจึงเป็นธรรมดาที่จะไม่มีใครกล้าขวางทางเขา ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ได้บินเข้าประตูไปได้อย่างราบรื่น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!