ตอนที่ 1476 : วิเศษเพราะการต่อสู้ สดใสเพราะเจ้า
หลัวเฟิง กลับไปที่จักรวาลดั้งเดิมและมุ่งหน้าไปที่ดินแดนทางช้างเผือก
การต่อสู้สุดท้ายกำลังจะมาถึงและจากเส้นตายที่ โมโลซ่า บอกมาแล้ว หลัวเฟิง รู้ว่าเขาไม่ได้เหลือเวลามาก เขาไม่ได้คิดเรื่องอื่นนอกจากพบกับครอบครัวของเขา
ฮัวะ!
หลัวเฟิง ลงไปที่ห้องโถงที่ทำจากหินเขียว มันคือลานและตรงหน้าลานแห่งนี้ก็มีผู้หญิงสวมผ้าคลุมขาวคนหนึ่ง หลัวเฟิง ยิ้มให้กับเธอ เธอคือภรรยาของเขา สวีซิน!
เธอคอยสนับสนุนเขาโดยไม่บ่นอะไรออกมา เธอไม่ขัดขวางเขาและไม่ได้ขอเวลาจากเขาเพิ่ม นั่นเพราะว่าเธอไม่ชอบเขางั้นรึ?
ตอนที่ หลัวเฟิง สู้กับอสูรกลืนดารา จนตายและทุกคนคิดว่าเขาตายแล้วรวมถึง สวีซินด้วย เธอกลับเลือกที่จะตายไปกับเขาหลังจากที่ให้กำเนิดลูกมา รักนั้นไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ มันควรจะเป็นการห่วงใยและการสนับสนุน
“หลัวเฟิง” สวีซิน ยิ้ม รอยยิ้มของเธอเหมือนกับดวงจันทร์ในท้องฟ้าที่ปลอบประโลมวิญญาณของ หลัวเฟิง
ภรรยาของเขาคือจิตใจ เขายื่นมือออกไปจับมือเธอไว้ “ ไปหาพ่อกับแม่กันเถอะ”
“ได้” สวีซิน พูดขึ้น เธอไม่ได้ถามอะไรออกมา เธอรอคอยเขาที่นี่มานานและพ่อแม่ก็พักอาศัยอยู่ในบ้าน
พวกเขาเข้าไปในบ้าน ไม่นานพวกเขาก็พบกับ พ่อ และแม่ ซึ่งกำลังพูดคุยกันอยู่
หลังจากผ่านมาล้านล้านยุคทั้งสองก็ยังดูเหมือนเดิมดังเช่นแต่ก่อน
“อ่ะ เฟิง” ทั้งสองต่างก็ลุกขึ้นยืน
“พ่อ แม่!” หลัวเฟิง ตะโกนออกมา ตอนที่เขาเห็นพ่อแม่เขาก็ยังทำตัวเหมือนตอนที่อยู่ในโรงฝึกที่โลก
ทั้งสองคนมองหน้ากัน ทั้งสองต่างก็รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติกับ หลัวเฟิง เขาคือจุดสูงสุดของเผ่านับพันล้านและเขาก็มั่นคงและน่าเชื่อถือได้สำหรับพ่อแม่ แต่ หลัวเฟิง กลับทำตัวเหมือนเด็ก เด็กที่อยากได้รับความสนใจจากพ่อแม่
มันไม่ปกติ ทั้งสองเห็นเรื่องนี้แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“มานั่งสิ สวีซิน” กงซินหลาน จับมือลูกชาย พวกเขาพากันไปนั่งรวมถึง สวีซินด้วย
****
หลัวเฟิง พูดคุยกับพ่อแม่และภรรยาเหมือนกับคนทั่วไปและไม่นานลูกของเขาสองคนกับน้องชายก็มาถึง ทุกคนในครอบครัวได้มารวมตัวกันและพูดคุยกัน แต่พวกเขาอยู่ด้วยกันมานาน ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับ หลัวเฟิง
มันดูเหมือนปกติซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงได้ดูผิดปกติ มันเป็นช่วงเวลาที่ไม่ปกติ!
พวกเขาเผชิญหน้ากับ อสูรทลายมิติ อยู่!
และ หลัวเฟิง ก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบเอาไว้ เขาจะมีเวลาและแรงมาคุยกับครอบครัวได้ยังไง?
แต่ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ออกมา แม้ว่าจะพูดคุยกันมานานก็ตาม อันที่จริง หลัวหงกั๋ว, กงซินหลาน, หลัวปิง และหลัวไฮ่ นั้นพูดมากที่สุด
“ได้เวลาแล้ว” หลัวเฟิง พูดขึ้นมา
ทุกคนต่างก็พากันเงียบ
หลัวเฟิง มองไปรอบๆ เขามองไปที่พ่อแม่ที่มักจะห่วงเขาเสมอ!
เขามองไปที่ลูกที่มักจะถือเขาเป็นต้นแบบ น้องชายที่เติบโตมากับเขา ภรรยาที่สนับสนุนเขามาตลอด
“ข้าคิดว่าทุกคนคงจะรู้” หลัวเฟิง พยักหน้า “มีเรื่องใหญ่กำลังเกิดขึ้นและข้าไม่ได้บอกมันกับทุกคนแต่ตอนนี้ได้เวลาที่จะบอกกับทุกคนแล้ว”
เขาไปที่รังของ อสูรทลายมิติ มาและเขาได้สู้กับ อสูรทลายมิติ 900,000 ตัวแต่เขาก็ไม่ได้บอกข้อมูลพวกนี้กับครอบครัว แม้ว่าพวกเขาจะรู้ถึงวิกฤตของ อสูรทลายมิติ แต่ถ้าครั้งนี้มันล้มเหลว ทุกเผ่าในทะเลจักรวาลคงถูกกำจัดรวมถึงเขาด้วย!
มันไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังทุกคน
“เกิดอะไรขึ้น?” หลัวฮว๋าถามขึ้นมา
“พ่อ”
“พ่อ?”
หลัวปิง และ หลัวไฮ่ มองไปที่ หลัวเฟิง ด้วยความกังวล พ่อแม่และภรรยาต่างก็มองมาที่เขาด้วยความกังวล
“นี่คือการต่อสู้สุดท้ายของวิกฤต อสูรทลายมิติ” หลัวเฟิง พูดขึ้น “มันมีแค่สองผลลัพธ์ของการต่อสู้นี้ ถ้าข้าชนะ ทุกเผ่ารวมถึงมนุษย์จะปลอดภัย แต่ถ้าข้าแพ้ ทุกเผ่าจะถูกกำจัดและมนุษย์ก็จะตายไปด้วย จักรวาลดั้งเดิมจะถูกทำลายรวมถึงข้าด้วย…ไม่มีใครจะรอดไปได้ มันจะเป็นการต่อสู้สุดท้าย”
พ่อแม่, ภรรยา, ลูกและพี่ต่างก็ช็อก มันคือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเผ่านับพันล้านในทะเลจักรวาลไม่ใช่รึไง?
“ข้าต้องไปแล้ว” หลัวเฟิง กระซิบ “ข้าต้องการมาพบทุกคนในช่วงสุดท้ายก่อนที่ข้าจะไป”
หลัวเฟิง มองไปรอบๆ พวกนี้คือครอบครัวของเขา!
“อาเฟิง” หลัวหงกั๋วจับไหล่ลูกเอาไว้ก่อนจะกอดลูกและยิ้มออกมา “จริงๆ แล้วข้าภูมิใจในตัวเจ้ามาก ข้าจำได้ว่าตอนข้างยังเด็ก ตอนที่เกิดเรื่องยุคล่มสลาย เรายากที่จะรอดไปได้ เรารอดมาจากสถานการณ์เป็นตายมาได้หลายครั้งจนในที่สุดเราก็มาอยู่ในเมืองหลักได้และให้กำเนิดเจ้ากับ อาฮว๋า”
กงซินหลาน เองก็กอดลูกของเธอ
“แม่เจ้ากับข้าภูมิใจในตัวเจ้า เราไม่คิดว่าเราจะสามารถท่องจักรวาลได้! เราไม่คิดว่าเราจะได้พบกับเกมจำลองหลายครั้งราวกับว่าพวกมันเป็นชีวิตจริง คนอื่นมีแค่ชีวิตเดียวแต่เรากลับมีชีวิตนับไม่ถ้วน”
“ชีวิตของเรานั้นวิเศษและมันก็เป็นเพราะเจ้า!”
ทั้ง หลัวหงกั๋ว และ กงซินหลาน ต่างก็มองไปที่ลูกของเธอ
“อย่าหนักใจเลย คำพูดของเราบอกว่าชีวิตยืนร้อยปี แต่เรากลับมีชีวิตมาหลายร้อยปีแล้ว แม้ว่าเราจตะตายแต่เราก็จะยิ้มตอนที่เราตาย” หลัวหงกั๋วยิ้มออกมา “ไปซะ อย่ารู้สึกกดดันไป…ไปสู้กับพวกมัน ถ้าเจ้าชนะ เราก็จะมีเกียรติ แต่ถ้าเจ้าแพ้ เราก็จะตายไปกับเจ้า”
ตาของ หลัวเฟิง เริ่มมีน้ำตา เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด เขากลับรู้สึกยินดี หลัวเฟิง มองไปที่ครอบครัวตัวเองที่ไม่ได้แสดงท่าทีกังวลออกมา
“จริงๆ แล้วข้านั้นเห็นแก่ตัว” เขาพูดขึ้น “ข้าไม่ได้ใช้เวลากับ สวีซิน, ลูกและพ่อแม่…ข้าใช้เวลาส่วนมากในการท่องจักรวาล ข้าเดินทางและต่อสู้ แม้ว่าข้าจะทำมันเพื่อการอยู่รอดของชาวโลก แต่จริงๆ แล้วข้านั้นชอบชีวิตแบบนี้ ข้าชอบผจญภัยและรักที่จะเห็นความลึกลับของจักรวาล ข้ารักการต่อสู้และตื่นเต้นกับสถานการณ์เป็นตาย หากไม่มีมัน ชีวิตข้าคงเรียบง่ายและน่าเบื่อ” หลัวเฟิง ส่ายหน้า “แม้ว่ามันจะดีกับการที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่ข้าก็ยินดีกับการต่อสู้ ข้าชินกับชีวิตแบบนี้”
หลัวเฟิง มองไปที่คอรบครัวตัวเอง “ชีวิตข้าสดใสเพราะการต่อสู้! และหากไม่มีการต่อสู้ มันก็คงน่าเบื่อ แต่สำหรับทุกคน”
เขามองไปที่พ่อแม่และจับมือภรรยาเอาไว้ ก่อนจะมองไปที่ลูกกับน้องชาย “ทุกคนคือสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตข้า! ทุกคนคือทุกอย่างของข้า ทุกคนนั้นสำคัญกว่าชีวิตตัวข้าเอง! หากไม่มีทุกคน โลกนี้ก็คงมืดมิดไปตลอดกาล”
ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของตัวเขาเอง เขาจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องครอบครัว!
หากไม่มีพวกนี้ เขาคงอยู่ในความมืดมิดไปตลอดกาล
“ชีวิตข้าวิเศษเพราะการต่อสู้แต่มันสดใสเพราะทุกคน!”
หลัวเฟิง มองไปที่ครอบครัวก่อนจะลุกขึ้นยืน
“ได้เวลาที่ข้าจะไปแล้ว”
****
การต่อสู้นี้เกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของทุกเผ่าในทะเลจักรวาล หลัวเฟิง ไม่ได้ปิดบังอะไร เทพแท้จริงทุกคนต่างก็รู้ถึงมัน เทพแท้จริงจากทุกเผ่าและแม้แต่ เจ้าแห่งจักรวาล มากมายได้มารวมตัวกันตรงหน้าวังที่ดินแดนทางช้างเผือก
หลัวเฟิง เดินออกมาพร้อมกับครอบครัวเขา ทุกคนต่างก็มองมาที่พวกเขา
“ทางช้างเผือก”
“ทางช้างเผือก เราหวังพึ่งเจ้า”
“ทางช้างเผือก…”
ทุกเผ่ารู้เรื่องนี้
หลัวเฟิง เดินออกมาผ่านเทพแท้จริง เขาเห็นอาจารย์ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล, ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ และ ทรูหยัน เขายังเห็นเพื่อน หง, เทพสายฟ้า, โหลจู, วูก้า, ยูฮันโบ และบาบาต้า ชาวโลกหลายคน…และเพื่อนของเขา เว่ยเหวิน ก็อยู่ที่นั่นด้วย ตัวตนยิ่งใหญ่จากทะเลห่างไกลต่างก็มาที่นั่นรวมถึงศิษย์ของเขาด้วย
“อาจารย์”
“อาเฟิง”
“ทางช้างเผือก”
ทุกคนต่างก็พากันเรียกเขา
หลัวเฟิง อยู่กับอาจารย์นานที่สุด ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล พยักหน้าและพูดขึ้น “เจ้าไม่เคยทำให้ข้าผิดหวัง”
ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ ยิ้ม “ข้าใช้พลังมากมายในการบ่มเพาะเจ้าและเจ้าก็ดีกว่าที่ข้าคิดไว้…แต่เจ้ายังไม่ได้ตอบแทนข้า ดังนั้นอย่าแพ้ให้กับ อสูรทลายมิติ เจ้าต้องชนะ”
ทรูหยัน แตะไหล่ หลัวเฟิง “เจ้าจะเป็นศิษย์ที่ดีที่สุดของข้าเสมอ”
****
หลัวเฟิง เดินมาตรงหน้า เขาหันกลับมาและมองไปที่คนในลาน ซึ่งมีเทพแท้จริงของเผ่าปีศาจและแมลงที่เขาเคยสู้ด้วยมาก่อนรวมถึงเผ่าย่อยที่ทำตามคำสั่งเขา บางคนเป็นเพื่อนและคนที่เขาห่วงใย…
ทุกอย่าง…
ตอนนั้น หลัวเฟิง รู้สึกได้ถึงภาระที่เขาต้องปกป้องเอาไว้
ข้าจะไม่ยอม!
หลัวเฟิง คิด ข้าจะไม่ยอมให้สิ่งที่ข้าปกป้องต้องถูกทำลาย ข้าจะปกป้องทุกอย่างด้วยชีวิต!
ข้าจะไม่ยอม!
ข้าจะไม่ยอมให้มันถูกทำลาย!
คนจากทุกเผ่ามองไปที่ หลัวเฟิง เขามองกลับมาที่พวกนั้นแล้วยิ้มออกมา
“ข้าจะกลับมา!” เขาพูดขึ้น
ซู่!
หลัวเฟิง บินออกไป ถ้าเขากลับมา มันจะหมายความว่าเขาทำสำเร็จ ถ้าเขาไม่กลับมา ทุกอย่างก็จะสูญสิ้น ตัวตนยิ่งใหญ่ในจักรวาลยุคนี้จะเหลืออยู่แค่ในสามดินแดนอันตราย
****
หลัวเฟิง ได้รับพลังทั้งหมด!
รวมถึงพลังในใจ!
เพราะครอบครัว, อาจารย์และเพื่อน!
เขาต้องปกป้องพวกนี้!
มันงดงาม และเขาจะไม่ยอมให้มันต้องถูกทำลาย!
เขาจะยอมสละทุกอย่างเพื่อปกป้องมัน!
ฮ่ง!
อสูรทลายมิติ ตัวหนึ่งได้โผล่มาจากชั้นหุ้มและบินมายังพื้นที่ที่มีชายเกราะเงินยืนอยู่
“นายท่าน” โมโลซ่า พูดขึ้นด้วยความเคารพ
หลัวเฟิง มองไปที่ โมโลซ่า ที่เข้าถึงระดับ 5 ปกติแล้วตอนที่เข้าถึงระดับ 3, 4, 5 แต่ละระดับนั้นใช้เวลามาก แต่ภายใต้ผลของกฎสูงสุด โมโลซ่า ก็พัฒนาโดยไม่พบกับอุปสรรค
และตอนนี้ก็มีทาส อสูรทลายมิติ เพียงตัวเดียวที่เหลือรอด มันมี อสูรทลายมิติ ที่เป็นอิสระเพียงตัวเดียวเช่นกัน
“นายท่าน โมฮี กำลังมา” โมโลซ่า พูดขึ้นด้วยความกังวล “โมฮี นั้นรวดเร็วอย่างมาก การเทเลพอร์ทของมันชัดแล้วว่ามากกว่าข้ามาก ท่านมั่นใจรึว่าจะเอาชนะการต่อสู้นี้ได้ นายท่าน?”
โมโลซ่า การันตีว่าจะชนะไม่ได้
“ข้าจะชนะการต่อสู้นี้!” หลัวเฟิง กระซิบ “ข้าต้องทำให้ได้!”
เสียงของเขามั่นคง เขาต้องชนะการต่อสู้นี้ เขาต้องปกป้องทุกอย่างที่เขาแบกรับ!
“ไป!” หลัวเฟิง มองไปที่ โมโลซ่า และเทเลพอร์ทออกไป ทั้งสองก็หายไปและมุ่งหน้าเข้าหา โมฮี