ตอนที่ 182 : ห้ามถอย

ภายในห้องโถงที่มีเสียงพูดคุย เงียบลงในทันที ทุกคนหันศีรษะไปและเห็นชายวัยกลางคนที่ผอมเล็กน้อยอยู่ในชุดสูท เขามีสายตาเหมือนสายฟ้า ตอนนี้เขากำลังยิ้มเล็กน้อย ขณะที่มองไปรอบๆ เขาตะโกนว่า “หลัวเฟิง ผู้ตรวจสอบหลัว อยู่ที่ไหนกัน? ผมอยากจะพบกับผู้ตรวจสอบหลัว และอยากรู้ว่าเขาแข็งแกร่งเพียงใด?”

“พ่อ” เหลยยูฟางเดินไปที่ด้านข้างของพ่อของเขา

ผู้ชายคนนี้…เขาคือผู้ตรวจสอบของ สำนักสายฟ้า แห่งเมืองเจียงหนาน…เหลยเมิง!

เพื่อให้สามารถเข้ารับตำแหน่งผู้ตรวจสอบของสำนักงานใหญ่ในเมือง

เหลยเมิงเพิ่งจะเลื่อนขึ้นมาอยู่ในระดับเทพสงครามขั้นสูง ในแง่ของ

พลัง เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าอีแร้ง หลีเย่า แต่ว่าเขายังอ่อนแอกว่าหน้ากากปีศาจ คาตาลัน

หน้ากากปีศาจ คาตาลัน มีระดับการออกกำลังกายถึงระดับเทพสงครามขั้นสูงสุด และเขามีพลังทางจิตวิญญาณ

และเหลยเมิงก็มีระดับการออกกำลังกายที่จุดสูงสุด

“เหลยเมิงมาถึงแล้ว กำลังจะเกิดเรื่องสิ่งที่น่าสนใจ”

“ใครจะรู้ว่าเขาจะพูดอะไร”

เหล่าคนที่มีชื่อเสียงจากทั่วทุกมุมโลกต่างมุ่งความสนใจไปที่พวกเขา

เขาพร้อมที่จะชมการแสดง บางครั้งพวกเขาจะมองไปทางเหลยเมิง และบางครั้งพวกเขาก็จะมองไปที่หลัวเฟิง!

ทั่วทั้งโลกต่างรู้ว่า สำนักสายฟ้าและ สำนักขีดสุด มักจะแข่งขันกัน

เสมอ! คนอื่นกลัวที่จะยุ่งกับ สำนักขีดสุด แต่ไม่ใช่สำนักสายฟ้า!

ขณะที่ ‘หง’ และ ‘เทพสายฟ้า ‘ ยังคงนิ่งเฉย เมื่อเห็นคนของพวกเขา

แข่งขันกัน

…..

หลัวเฟิงกำลังยืนอยู่ข้างหน้าตัวแทนกองกำลังพิเศษของจีนที่มีอำนาจมากที่สุด หลังจากฟังคำพูดของเหลยเมิง หลัวเฟิงไม่ได้สนใจ เขากลับยิ้มให้กับตัวแทนของกองกำลังพิเศษของกองทัพและยื่นมือออกไป “สวัสดี ผมคือหลัวเฟิง ผมได้ยินชื่อเสียงของคุณจิวมานานแล้ว และเฝ้าชื่นชมเขาอยู่เสมอ ผมดีใจที่ได้พบกับลูกศิษย์ของคุณจิว”

“ผม เจียงหลง ผมดีใจที่ได้พบผู้ที่มีพรสวรรค์เช่นผู้ตรวจสอบหลัว”

ความรู้สึกของเจียงหลงที่มีต่อหลัวเฟิงสูงกว่าเดิมมาก!

และคนที่หงุดหงิดมากที่สุดคือคนที่อยู่บริเวณทางเข้าอย่างเหลยเมิง เขามองมาที่เจียงหลง!

แต่เพราะหลัวเฟิงมีสิทธิ์ที่จะพูดคุยกับเขา การปรากฏตัวอย่างฉับพลันของเหลยเมิง ถ้าหลัวเฟิงหันศีรษะและไปพูดคุยกับเหลยเมิง ขณะที่เขาไม่สนใจเจียงหลง…จะไม่น่าอายเท่าไร? ตอนนี้การกระทำของหลัวเฟิง คือ…ไม่สนใจเหลยเมิง และคิดว่าเขาเป็นอากาศธาตุ แกล้งทำเป็นว่าเขาไม่เห็น

หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดคุยกับเจียงหลง

แน่นอนว่า นั่นทำให้เจียงหลงรู้สึกดีมาก! อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องโถงรู้ว่า เหลยเมิงเริ่มที่จะโกรธ

“ผู้ตรวจสอบ ตัวแทนกองกำลังพิเศษเจียงหลงเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ที่มี

พลังมากที่สุดของจิวหยี” ประธานโจวแนะนำและยิ้ม “นับแต่ตอนนี้

เขาอยู่ในระดับสูง และเป็นหนึ่งในผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในกองกำลังฮว๋าซาน”

“เมื่อเทียบกับผู้ตรวจสอบหลัว ยังคงมีความแตกต่างกันมาก” เจียงหลงยิ้ม

“ในแง่ของประสบการณ์ พันตรีเจียงย่อมมีมากกว่าผม” หลัวเฟิงยิ้มตอบ

ถ้าหลัวเฟิงเคารพต่อเจียงหลง เจียงหลงจะเคารพหลัวเฟิงด้วยเช่นกัน

“ผมต้องขออภัย” หลัวเฟิงกล่าว

“เชิญผู้ตรวจสอบหลัว” เจียงหลงยิ้ม “เราจะคุยกันในภายหลัง”

หลังจากพูดคุยกับผู้บัญชาการกองบินจากกองกำลังพิเศษที่มีอำนาจมากที่สุดของจีน ‘ฮว๋าซาน’ ประธานโจวได้นำทางหลัวเฟิง เขายิ้มขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังผู้ตรวจการเหลยเมิง

“ผู้ตรวจสอบหลัว พ่อของผมรีบมาที่นี่ เพื่อแสดงความยินดีกับคุณ และอยากจะทำความรู้จักกับผู้ตรวจสอบหลัวอย่างจริงใจ แต่ดูเหมือนผู้ตรวจสอบหลัวแกล้งทำเป็นไม่เห็นพ่อของผม” เหลยยูฟางกล่าวด้วยความไม่พอใจ “นี่เป็นเรื่องที่จริงจัง…”

“ยูฟาง”

เหลยเมิงโบกมือให้ลูกชายหยุดพูด

หลัวเฟิงหัวเราะในใจเมื่อเห็นฉากนี้ ถ้าเหลยเมิงต้องการที่จะหยุดไม่ให้ลูกชายของเขาพูด เขาจะหยุดนานแล้ว… เมื่อเขาได้รับจดหมายแนะนำเกี่ยวกับความรับผิดชอบของผู้ตรวจสอบจากสำนักงานใหญ่ ได้กล่าวถึง…การปกป้องเกียรติของ สำนักขีดสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการแข่งขันกับ สำนักสายฟ้า คุณห้ามพ่ายแพ้พวกเขา!

การแข่งขันกับ สำนักสายฟ้าได้กลายเป็นประเพณีขึ้นมาแล้ว! ตั้งแต่

หลัวเฟิงเข้ามารับตำแหน่ง เขาต้องมีการแสดงออกที่หนักแน่น

“ผมเสียใจจริงๆ ผมกำลังคุยกับคุณเจียงหลง ในตอนที่คุณเหลยเมิงเข้าประตูมา ดังนั้น ผมจึงไม่สามารถทิ้งคุณเจียงหลงออกมาได้ คุณ ผู้ตรวจสอบเหลย ใช่ไหม?” หลัวเฟิง ยิ้ม

เหลยเมิงขมวดคิ้วและไม่พูดอะไร

“ผมมีความสุขจริงๆ ที่คุณเหลยเมิงมาได้” มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นทั่ว

ใบหน้าของหลัวเฟิง “ไว้เราค่อยคุยกันในภายหลัง”

ขณะที่เขากล่าวจบหลัวเฟิงเหลือบไปที่ประธานโจวเซียงหยาง

โจวเซียงหยางพยักหน้าและมุ่งหน้าไปยังแท่นหน้าห้องโถง

…..

บนโพเดียม

โจวเซียงหยาง ยืนอยู่ด้านบนและมองไปที่บุคคลสำคัญต่างๆ ในขณะ

ที่เขายิ้ม “ในวันนี้ วันที่ 1 กันยายน สำนักขีดสุด ของเมืองเจียงหนานของเราได้ต้อนรับผู้ตรวจสอบคนใหม่! เขาคือใคร?”

“เขาเป็นผู้จัดการหน้ากากปีศาจคาตาลัน จอมพลังไคลต้า เงาเลือดอีธานและอีแร้งหลีเย่า เทพสงครามทั้งสี่ด้วยตัวคนเดียว” วลีเหล่านี้ทำให้ใบหน้าของเหลยเมิงเปลี่ยนเป็นย่ำแย่ เพราะเหลยเมิงนั้นไม่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับคาตาลันได้

แต่หลัวเฟิงถึงกับต่อสู้กับพวกเขาทั้งสี่คนพร้อมกัน หากหลัวเฟิงต่อสู้กับเหลยเมิงจริงๆ เหลยเมิงจะต้องแพ้แน่นอน!

“และสามในสี่คนมีชุดเกราะ เกราะเทพทมิฬ กระทั่งพวกเขาหลบหนีไปนอกจากนี้เขายังได้รับตำแหน่งสูงสุดของ สำนักขีดสุด เทพสงครามระดับอยู่ยงคงกระพันที่มีอายุน้อยที่สุด”

“แม้ว่าผมจะไม่บอกชื่อของเขา แต่พวกเราทุกคนก็รู้ว่าเขาคือใคร!”

“พวกเราขอต้อนรับ”

“ผู้ตรวจสอบใหม่ของ สำนักขีดสุด แห่งเมืองเจียงหนาน”

“เทพสงครามระดับอยู่ยงคงกระพัน…”

“หลัวเฟิง!!!”

เสียงที่ดังกึกก้องของประธานโจวเซียงหยาง สะท้อนไปรอบๆ ห้อง

โถง แขกที่มาด้านล่างยังยิ้มขณะที่พวกเขาตบมือ ในขณะเดียวกันเพลงเริ่มดังขึ้น ในขณะที่เพลงดังขึ้น หลัวเฟิงบอกสวีซินแล้วยิ้ม ขณะที่เขาเดินขึ้นไปบนเวที

โจวเซียงหยางเดินลงไป และหลัวเฟิงเดินขึ้นมาแทน

บนแท่น หลัวเฟิงมองไปที่แขกคนสำคัญ เมื่อเขามองไปรอบๆ ท่าทางของผู้ตรวจสอบเหลยไม่ได้เปลี่ยนไป เขายังคงยิ้มอยู่

“ทุกคน”

หลัวเฟิงมองไปทางทุกคน “เมืองเจียงหนานแห่งนี้คือบ้านของผม! ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่สามารถเป็นผู้ตรวจสอบของ สำนักขีดสุด แห่งเมืองเจียงหนาน ซึ่งเป็นเมืองที่ผมเติบโตมาได้! ผมจะไม่พูดมากเกินไป แต่ในฐานะผู้ตรวจสอบ ผมจะปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดชอบของผมเป็นอย่างดี! ผมจะไม่ทำให้ สำนักขีดสุด ต้องเสียศักดิ์ศรี!”

คำพูดเหล่านี้เรียกเสียงปรบมือจากคนของ สำนักขีดสุด ได้เป็นอย่างมาก

แต่เหลยเมิงและคนอื่นๆ เฝ้าดูอยู่เงียบๆ

“จีนเป็นประเทศแม่ของผม ถ้าประเทศบ้านเกิดของผมกำลังมีปัญหา

ผมจะไม่นิ่งดูดาย สงครามระหว่างสัตว์ประหลาดและมนุษยชาติ ผมจะไม่ยอมหันหลังหลบหนี และก่อนหน้านี้ผมได้ยอมรับคำเชิญของผู้

บัญชาการหลี” หลัวเฟิงมองไปที่ผู้บัญชาการหลีที่ด้านล่าง ขณะที่ผู้

บัญชาการหลียิ้มและพยักหน้า

“เอาล่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดในค่ำคืนนี้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุข ประธาน

เริ่มงานเลี้ยงได้” หลัวเฟิง กล่าวสั้นๆ

…..

แขกรับเชิญต่างรับประทานอาหารค่ำด้วยกัน พวกเขาส่วนใหญ่ต่างหามุมเพื่อพูดคุยกัน! เนื่องจากคนที่มาร่วมงานเลี้ยงนี้เป็นบุคคลสำคัญ พวกเขาแทบจะไม่มีโอกาสได้พบ ตัวอย่างเช่น ใครจะสามารถพบกับบุคคลสำคัญของกองกำลังพิเศษของประเทศได้ทุกเมื่อที่ต้องการ?

หลังจากที่งานเลี้ยงเริ่มขึ้น แขกหลายคนรับประทานผลไม้ขณะที่พวก

เขาคุยกันเป็นกลุ่ม

เสียงเพลงเบาๆ ก้องอยู่รอบๆ ห้องโถงและบรรยากาศสบายๆ

หลัวเฟิงกำลังคุยกับผู้บัญชาการฝูงบินเจียงและหลีดาเว่ย ขณะที่ทุกคนคุยกันในห้องโถง

“อะไรนะ!” เสียงคำรามดังขึ้นทั่วห้องโถงนั้น ทำให้ทุกคนหยุดพูดคุย

และมองไปข้างหน้า ผู้ที่ตะโกนนั้นคือผู้บัญชาการภาคตะวันออกเฉียง

ใต้ นายพลแห่งกองทัพบก…หลีดาเหว่ย ที่ขณะนี้กำลังโทรศัพท์อยู่

“ผมจะรีบกลับทันที!”

การแสดงออกของหลีดาเว่ยดูเคร่งเครียดมากขึ้น ในขณะที่เขาวางสาย

“ผู้บัญชาการหลีเกิดอะไรขึ้น?” นายกเทศมนตรีเมืองรีบเดินเข้ามา

สอบถาม

“ปัญหาใหญ่แล้ว ฝูงสัตว์ประหลาดจากทะเลกำลังรวมตัวกัน น่าจะเตรียมบุกเข้ามายังจุดสกัดกั้นแนวหน้าทางเขตใต้ของภาคตะวันออก” คำพูดของหลีดาเว่ยบ่งบอกว่าสถานการณ์ร้ายแรงมาก หลังจากพูดจบ ห้องโถงทั้งห้องก็ตกอยู่ในความโกลาหล

สัตว์ประหลาดในทะเลกำลังรวมฝูงกัน และเตรียมที่จะบุกเมือง?

นายนกเทศมนตรีถามต่อ

“ระดับความร้ายแรงถึงระดับ 1 หรือไม่”

ทุกคนในห้องโถงตะลึง แม้กระทั่งหลัวเฟิงก็ตะลึง โปรดจำไว้ว่า ‘ลู่กัง’ นักสู้ระดับเทพสงคราม เสียชีวิตไปในเหตุการณ์หนูน้ำระดับ 3! มีสัตว์ประหลาดหนูจำนวนมหาศาล เหนือจากระดับ 3 คือระดับ 2 และ ระดับ 1

นั้นแน่นอนว่าความร้ายแรงระดับ 1 จะเป็นหายนะระดับตำนาน!

อย่างไรก็ตามความหายนะเช่นนี้ ไม่ค่อยเกิดขึ้นบนโลก! แต่หากในฝูงสัตว์ประหลาดมีสัตว์ประหลาดระดับจักรพรรดิรวมด้วยแล้ว ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะเลวร้ายมาก!

การโจมตีของสัตว์ประหลาดจากทะเล เป็นเหมือนคลื่นที่ไม่มีวันหมดสิ้น

“ตอนนี้มีฝูงสัตว์ประหลาดจำนวนหนึ่ง ผมต้องรีบกลับทันที ผมหวังว่าทุกท่านในที่นี้จะสามารถช่วยเราได้ เมื่อเราต้องการมากที่สุด!” หลีดาเว่ยมองไปที่แขกผู้มาร่วมงาน

“เราไม่สามารถหลบหนีได้ในเวลาเช่นนี้” ผู้ตรวจสอบของ สำนักสายฟ้า ‘เหลยเมิง’ กล่าวเสียงดัง ในเวลาเดียวกันเขามองไปที่หลัวเฟิง

“ผู้บัญชาการหลีไม่ต้องเสียเวลา รีบไปทันที” หลัวเฟิงเดินออกเข้าไปหาผู้บังคับบัญชาหลี

นั่นเพราะความแข็งแกร่งของเขา มีความสำคัญในเวลาเช่นนี้!

เหลยเมิงและหลัวเฟิงกำลังแข่งขันกัน ดังนั้นผู้ตรวจสอบทั้งสองอาจ

หลบหนีจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ แต่เกียรติยศของสำนัก ที่พวกเขาอยู่ล่ะ? เนื่องจากพวกเขาได้รับตำแหน่งผู้ตรวจสอบแล้ว พวกเขาจึงต้องรับภาระหน้าที่ที่มาพร้อมกับตำแหน่ง พวกเขาต้องให้เกียรติกับสำนักของพวกเขา

“หลัวเฟิง ระวังตัวด้วย” สวีซินกล่าวขณะที่เธอเดินเข้ามา

“อย่ากังวล” หลัวเฟิงยิ้มขณะที่บีบจมูกของเธอ

หลังจากนั้น…หลัวเฟิงเข้าเครื่องบินเจ็ทของเขา เหลยเมิงยังเข้าไปในเครื่องบินเจ็ทรูปแผ่นดิสก์ของเขา เหล่าเทพสงครามคนอื่นๆ ที่ต้องการช่วย ต่างเข้าไปในเครื่องบินรบของพวกเขา พวกเขาทั้งหมดทะยานขึ้นฟ้า และมุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้อย่างรวดเร็ว

…..

ในเครื่องบินรบของหลีดาเวย

ผู้บัญชาการหลีดาเว่ย และชายหนุ่ม ทั้งคู่กันบนเก้าอี้โดยสาร

“ท่านผู้บัญชาการ อาจมีบางคนคาดเดาถึงการโจมตีในครั้งนี้ได้” ชาย

หนุ่มที่อยู่ด้านข้างหัวเราะเบาๆ

การแสดงออกของหลีดาเว่ยจริงจังมาก “แล้วพวกเขาจะรู้ได้อย่างไร?

สัตว์ประหลาดทะเลกำลังรวมฝูง ปริมาณของสัตว์ประหลาดในทะเลภายในภูมิภาคแม่น้ำ เหอปิงเพิ่มมากขึ้นจนถึงระดับที่น่าตกใจ ถ้าเราไม่เลือกบุกโจมตีในวันนี้ ฝูงสัตว์ประหลาดอาจจะโจมตีหลังจากนี้อีกหนึ่งหรือสองเดือน! เราไม่สามารถรอให้ฝูงสัตว์ประหลาดเริ่มบุกโจมตีได้เสมอไป หากมีโอกาส เราจะต้องเป็นฝ่ายบุกโจมตี!”

“เราสามารถโจมตีก่อนที่สัตว์ประหลาดในทะเลเตรียมตัวทัน”

“และใช้ห้องจัดเลี้ยงในคืนนี้ ทำให้เราได้รับความร่วมมือจากเทพ

สงครามหลายๆ คน” หลีดาเว่ยยิ้ม “โดยเฉพาะหลัวเฟิงและเหลยเมิง หนึ่งในนั้นคือเทพสงครามที่สามารถพลิกโฉมการโจมตีในครั้งนี้ได้ด้วยชุดเกราะเทพทมิฬ ของเขา และถ้าทั้งสองคนร่วมมือกับกองทัพของพวกเขา พวกเขาจะสามารถเทียบได้กับจำนวนพลมากถึง 2 แสนคน!”

ชายหนุ่มพยักหน้า

“ลองทายดูว่าใครจะสามารถฆ่าสัตว์ประหลาดระดับผู้นำฝูงได้มากกว่ากัน หลัวเฟิงหรือ เหลยเมิง?” หลีดาเว่ยยิ้ม