Skip to content

Swallowed Star 19

ตอนที่ 19 แตกตื่น

วัยรุ่นร่างผอมเป็นคนมีชื่อของเขตอี๋อันนามว่า ‘คอบร้า’ เขา สร้างชื่อจากเทคนิคการปามีดแบบมือเดียว ตอนที่คนอื่นๆ เริ่มเข้า ก่อกวนหลัวเฟิง คอบร้าก็มองหาโอกาสเหมาะๆ โจมตี ทันทีที่ หลัวเฟิงกางแขนออก เขาก็โจมตี!

มีดที่ปาออกมานั้นร้ายกาจมาก แต่ขณะที่พุ่งออกไป ก็ถูกกั้น ไว้โดยร่างของนักโทษคนอื่นๆ ดังนั้นหลัวเฟิงจึงไม่รู้สึกถึงมีดที่ กำลังพุ่งเข้ามาเลย

“ฟิ้ว…” มีดนั้นพุ่งลอดหว่างขาของนักโทษคนที่ถูกหลัวเฟิงโยน ขึ้นไปในอากาศ เมื่อหลัวเฟิงมองไปเห็นมีด ก็อยู่ห่างจากเขาแค่ 2 เมตรเท่านั้น!

“แย่แล้ว!

ไม่ทันแน่” ปฏิกิริยาโต้ตอบของหลัวเฟิงเร็วมาก แต่ก็ไม่เร็ว พอที่เขาจะเบี่ยงตัวหลบให้พ้นได้

มีดไม่ได้พุ่งเป้าไปที่อวัยวะสำคัญแต่อย่างใด แต่เป็นไหล่ขวา ของหลัวเฟิงแทน

“ไม่!” หลัวเฟิงเหลือบไปมอง สำหรับนักสู้แล้ว แขนเป็นส่วนที่ สำคัญมาก หลัวเฟิงใช้มีดได้และเขาก็ถนัดขวา ถ้ามีดเล่มนั้นทำลาย ข้อต่อและกระดูกของเขา เขาก็จะไม่สามารถใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อ ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดได้อีกหลายเดือน

หากจะพูดให้เข้าใจ ถ้าเขาบาดเจ็บ เขาจะไม่สามารถเข้าร่วมการทดสอบการต่อสู้จริงได้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ เขาจะต้องรอไปอีกจนกระทั่ง วันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีหน้า

“ไม่! หลบเร็ว!!!”

ด้วยความเร็วของมีดและระยะทาง 2 เมตร หลัวเฟิงไม่คิดเรื่อง ผลกระทบที่ตามมาอีกต่อไปแล้ว ณ วินาทีเป็นตาย ณ ช่วงเวลาสำคัญ จิตของหลัวเฟิงตั้งมั่นและกล้ามเนื้อของเขาก็ผลักดันอย่างสุดขั้ว เขาจ้องเขม็งไปที่มีดด้วยเป้าหมายเพียงอย่างเดียวในจิตใจ…

หลบมีดนั่น..อย่าให้มันถูกไหล่ได้! “ฟิ้ว!”

มีดซึ่งพุ่งตรงมาที่หลัวเฟิง กลับเปลี่ยนทิศทางไปเล็กน้อยอย่าง น่าประหลาด มันพุ่งตรงมาที่ไหล่ของหลัวเฟิง แต่ตอนนี้กลับพุ่ง เฉียดไปและบาดเพียงผิวหนังชั้นแรกของหลัวเฟิงเท่านั้น เลือดค่อยๆ ย้อมชุดของหลัวเฟิงตรงบริเวณหัวไหล่

“ทุกคนคุกเข่าลง…ทุกคนคุกเข่าลง!”

“เร็วเข้า คุกเข่าลง”

ในตอนนั้นเอง พวกผู้คุมติดอาวุธจำนวนมากก็ไหลเข้ามาในล็ อบบี้อย่างรวดเร็ว พวกนักโทษทั้งหมดที่ก่อนหน้านี้บ้าคลั่งต่างพา กันคุกเข่าลงอย่างเชื่อฟัง แม้แต่คอบร้าร่างผอมนั่นก็ยังคุกเข่าลง เขามองมาที่หลัวเฟิงด้วยใบหน้าตกใจ “เป็นไปได้ย้งไง ฉันพลาด ไปได้ยังไง?”

พอเห็นตำรวจยกขบวนเข้ามา แม้แต่หลัวเฟิงก็ต้องรีบคุกเข่าลงทันที

“มีดนั่นเปลี่ยนทิศได้ยังไงกัน?” หลัวเฟิงซึ่งคุกเข่าอยู่รู้สึกงุนงง และตอนนั้นเอง อาการปวดหัวอย่างรุนแรงโดยปราศจากการเตือน ล่วงหน้าก็บังเกิดขึ้น ความเจ็บปวดเหมือนมีคนเอาเข็มมาทิ่มที่ สมองของหลัวเฟิง ความเจ็บปวดทำให้เขาเป็นตะคริวไปทั้งร่างและ เขาก็ทิ้งตัวลงที่พื้น

“เกิดอะไรขึ้น?”

“เฮ้ พวกมาดูนี่สิ”

ตำรวจซึ่งเข้าควบคุมสถานการณ์ได้แล้วมองมาที่หลัวเฟิง อย่างประหลาดใจ หลัวเฟิงตัวแดงเถือกและเหงื่อท่วมตัว เลือดส่วน หนึ่งไหลออกมาแทนเหงื่อ เป็นเหตุให้ชุดของหลัวเฟิงเกือบจะ กลายเป็นสีแดง เส้นเลือดของเขาปูดโปนจนราวกับงูสีนํ้าเงินพันรัด ไปมาอยู่ทั่วร่างเขา ทำให้เขาดูน่าเกลียดน่ากลัวอย่างที่สุด

“แย่แล้ว เขาไม่ไหวแน่”

“เร็วเข้า เร็ว รีบส่งเขาไปห้องพยาบาล”

ถึงแม้ว่าหลัวเฟิงจะหมดสติไป แต่ร่างกายของเขาก็ยังคงแดงเถือก

ภายในใจของหลัวเฟิง…

พลังลึกลับจำนวนมหาศาลยังคงพรั่งพรูออกจากสมองของเขา และผสานเข้ากับทุกจุดบนร่างกายของเขาในแทบจะทันที ภายใต้ การเข้าครอบงำของพลังลึกลับนี้ ทั้งกระดูก อวัยวะ เลือด กล้ามเนื้อ และหนังของหลัวเฟิงก็กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขีด แม้แต่เซลล์ในร่างกายก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว อัตราการ เปลี่ยนแปลงนี้เปลี่ยนจากร้อยเท่าเป็นพันเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับความเร็วของการเปลี่ยนแปลงการฝึกพลังพันธุกรรมของหลัวเฟิง ตามทฤษฎีแล้ว การเปลี่ยนแปลงสุดขีดแบบนี้น่าจะทำให้ร่างกายฉีกขาดกระจายได้เลย

อย่างไรก็ตาม ขณะที่พลังลึกลับกำลังผสานเข้ากับร่างกาย ใน กายของหลัวเฟิงกลับไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด แม้ว่าเขาจะทั้ง เป็นตะคริว ทั้งเสียเลือด…และอื่นๆ

“เร็วเข้า ระวังด้วย ส่งเขาไปที่ห้องพยาบาล” ตำรวจพาหลัวเฟิง ไปที่ห้องพยาบาลทันที

ความยุ่งเหยิงจากการต่อสู้ของพวกนักโทษก็ถูกจัดการไป อย่างรวดเร็ว

………..

เวลา 2 ทุ่ม

เรื่องที่น่าประหลาดในคุกก็คือ มีภาพยนตร์ฉายบนจอขนาด 200 นี้วในล็อบบี้ชั้นแรก

“หยุด”

ชายวัยกลางคนกล่าวขณะที่เขานั่งลงบนโซฟาในชุดเตรียมนอน ทันใดนั้น ภาพยนตร์ที่กำลังฉายอยู่ก็หยุดลง ตอนนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก

“เข้ามา” ประตูเปิดออกและชายในเครื่องแบบทหารก็เดินเข้า มาพร้อมกล่าวทักทาย “ท่านครับ สอบสวนทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่มีการต่อสู้กันวุ่นวายเสร็จแล้วครับ โจวฮว๋าหยางก่อเหตุขึ้นเพื่อจัดการกับเด็กหนุ่มที่ชื่อหลัวเฟิงครับ อย่างไรก็ตาม ผลก็คือมี นักโทษจำนวนมากบาดเจ็บจากการต่อสู้กับหลัวเฟิง และมีบางคน ถึงกับบาดเจ็บสาหัสด้วยครับ”

“เจ้าหนูโจวฮว๋าหยางนั่นน่ะเหรอ? ด้วยอิทธิพลตระกูลโจว เขา ค่อนข้างจะอวดดีทีเดียว” ชายวัยกลางคนในชุดนอนกล่าวอย่างใคร่ครวญ

“ถึงโจวฮว๋าหยางจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ก็จริง แต่เราคาดว่าเด็กหนุ่มที่ชื่อจางฮ่าวไป๋คือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ครับ” ชายใน เครื่องแบบกล่าวอย่างเคารพ “เราพลิกดูข้อมูลของเด็กหนุ่มหลัวเฟิงดูแล้ว เหตุที่ทำให้เขาต้องมาถูกคุมขังเกี่ยวกับจางฮ่าวไป๋ ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงทีเดียวที่จางฮ่าวไป๋จะขอให้โจวฮว๋าหยางช่วย จัดการเรื่องนี้ให้ครับ”

ปัจจุบันนี้มี 6 นครใหญ่ในประเทศจีน

เพราะว่ามวลมนุษย์ไม่เคยเข้ามาอยู่รวมตัวกันแบบนี้มาก่อน ดังนั้นการควบคุมพลเมืองจึงต้องเข้มงวดมากขึ้น

“อย่างไรก็ตาม ท่านครับ จากการสอบสวนถึงเหตุการณ์การต่อสู้ สภาพของม้านั่งเหล็กและโต๊ะแสดงให้เห็นว่าระดับ สมรรถภาพร่างกายของหลัวเฟิงเข้าถึงระดับของนักสู้แล้วอย่างไม่ ต้องสงสัย” ชายในเครื่องแบบกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจและโน้มน้าวให้สนใจ ทั้งม้านั่งและโต๊ะในคุกนี้ล้วนทำมาจากเหล็กทั้งนั้น

หมัดของหลัวเฟิงพังโต๊ะกระจุยกระจายและสันมือของเขายังฟันม้านั่งขาดเป็น 2 ท่อน

อะไรจะน่ากลัวอย่างนี้!

“ระดับของนักสู้?” ชายวัยกลางคนพอคิดได้เขาก็ลุกพรวด พราดขึ้นทันที ขมวดคิ้วขณะจ้องไปที่ชายในเครื่องแบบ “นายแน่ใจนะ?”

“แน่ใจ 100 เปอร์เซ็นต์ครับท่าน!” ชายในเครื่องแบบตอบ “ผม เพิ่งจะโทรไปที่สำนักสายฟ้า และทางสำนักขีดสุดก็ยืนยันเรื่องนี้แล้ว หลัวเฟิงผ่านการทดสอบเตรียมนักสู้แล้วครับ! เพียงแค่ข้อมูล ยังไม่ถูกอัปเดตเท่านั่นเอง และผมก็มั่นใจว่าจะอัปเดตในอีกไม่กี่วันนี้แน่”

“เตรียมนักสู้? แล้วเขามาเข้าคุกอยู่ได้ยังไงถ้าเขาเป็นเตรียมนักสู้?” ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว “ถ้าเรื่องแดงขึ้นมา เรามีปัญหาใหญ่แน่”

นักสู้ทุกคนไม่ว่าคนไหนก็จะใช่สิทธิ์ของพวกเขาอย่างจริงจัง

ถ้านักสู้ได้รับความเสียหายเพราะระบบของตำรวจ พวกนักสู้ จะไม่พอใจเป็นอย่างมาก และจะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้น เพราะตำรวจไม่มีสิทธิ์จับกุมนักสู้ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น

“แล้วตอนนี้เจ้าหลัวเฟิงที่ว่านี้อยู่ที่ไหน?” ชายวัยกลางคนกล่าว

“เขามีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงซึ่งเป็นโรคประจำตัวมาตั้งแต่เด็ก เกิดขึ้นระหว่างที่เขาสอบมัธยม และตอนนี้ก็กำลังเกิดขึ้นอีกครั้งครับ อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างอยู่ในความดูแลแล้ว เขายังคง อยู่ในอาการโคม่าในห้องพยาบาลครับ” ชายในเครื่องแบบตอบ

ชายวัยกลางคนคิดนิดนึงแล้าจึงออกคำสั่ง “นำตัวหลัวเฟิงเข้าไปพักพื้นในเขตพื้นที่ของกองทัพเดี๋ยวนี้! พอเขาตื่นขึ้นมา พาฉัน ไปขอโทษเขาเป็นการส่วนตัวด้วย พรุ่งนี้เช้า เราจะติดต่อไปทาง สำนักขีดสุดที่เขาสังกัดอยู่ และอธิบายทุกอย่าง เราต้องรักษา สถานการณ์เอาไว้ให้ได้! หลังจากนั้น เราจะส่งเขากลับบ้าน”

“ครับท่าน” ชายในเครื่องแบบออกไปปฏิบัติตามคำสั่งในทันที

………..

ดึกคืนนั้น

ดวงตาของหลัวเฟิงกะพริบเล็กน้อยแล้วเปิดขึ้น เขาพบว่าเขา นั่งอยู่คนเดียวในห้องมืดสลัว

“ที่นี่ที่ไหน?” หลัวเฟิงตื่นขึ้นทันทีและมองไปรอบๆ จุดหลาย จุดที่ด้านนอกหน้าต่างนั้นดูชัดเจนมากและเสียงทีวีที่ห้องข้างๆ ก็ดังมากด้วย หลัวเฟิงได้ยินแม้กระทั่งบทสนทนาที่อยู่ตรงทางเดินด้านนอก

“ไม่ มันไม่ได้เสียงดังอะไรหรอก แต่การได้ยินของเราต่างหาก ที่ดีขึ้นมาก”

หลัวเฟิงลุกออกจากเตียงแล้วยืนขึ้น ขณะที่เขาเดินไปรอบๆ ห้อง การมองเห็น การได้ยิน และแม้แต่การได้กลิ่นของเขาก็ พัฒนาขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

สายตาของหลัวเฟิงกวาดไปยังม้านั่งด้านข้างเขา ด้วยการเต้น ของหัวใจ เขารู้สึกถึงพลังงานที่ไร้รูปแบบเข้าควบคุมม้านั่งตัวนั้นในทันที พลังที่ไร้รูปแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจสัมผัสได้ แต่หลัวเฟิงรู้สึก ถึงมันได้อย่างชัดเจนด้วยตัวเอง พลังที่ไร้รูปแบบนี้มาจากใจเขานั่นเอง

“พลังอะไรกันนี่? แล้วเราได้พลังแบบนี้มาได้ยังไงกัน?” หลัวเฟิงรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นขณะที่เขารู้สึกได้ถึงพลัง เหนือธรรมชาติที่เหมือนมือไร้รูปร่างของเขา

“วืด…”

ค่ำคืนนั้นเอง ม้านั่งตัวนั้นค่อยๆ ลอยขึ้น

ด้วยการคิดแค่ครั้งเดียวของหลัวเฟิง เตียงนอนข้างๆ เขาก็เริ่ม ลอยขึ้น เขาหันไปหาทีวี และมันก็เริ่มลอยขึ้นเหมือนกัน ต่อมาก็ เป็นเก้าอี้ 3 ตัว เครื่องชงชา และตู้ด้านข้างเขา ทั้งหมดลอยขึ้นเหนือพื้น

ไม่นานนัก…

ของทุกอย่างภายในห้องลอยขึ้นจากพื้น เหมือนอยู่ในอวกาศ ที่ไร้แรงโน้มถ่วง

“เราสามารถทำสิ่งเหล่านี้ให้ลอยได้ยังไง แล้วยังไม่รู้สึกต่อต้าน หรือเหนื่อยอะไรเลย?” หลัวเฟิงเดินช้าๆ ไปที่ระเบียง เป็นช่วงดึก และเงียบสงัด สายตาของหลัวเฟิงทอดมองไปที่รั้วด้านนอก พร้อม กับความคิดอย่างหนึ่ง

“วืด…!”

แท่งเหล็กของรั้วกำลังเริ่มหมุนและแยกตัวเองออกจากรั้วนั่น และพวกแท่งเหล็กด้านหน้าที่หลัวเฟิงกำลังจ้องมองก็เริ่มหมุนเป็น เกลียวจนแหลมคม กลายเป็นเหมือนเข็มเหล็ก แล้วทั้งหมดก็ลอย ขึ้นไปในอากาศ

“ไป!” หลัวเฟิงคิด

แท่งเหล็กนั่นเคลื่อนที่ราวกับสายฟ้าและพุ่งตรงไปที่ภูเขา จำลองในอาณาเขตเล็กๆ ด้วยความเร็วอันน่าอัศจรรย์ แท่งเหล็ก นั่นพุ่งทะลุภูเขาหินจำลอง หลังจากพุ่งทะลุแล้ว ก็หมุนกลับมาแล้ว พุ่งตรงมายังรูเดิมที่มันพุ่งทะลุไป

“ฟิ้วๆๆ…!”

แท่งเหล็กพุ่งทะลุภูเขาหินจำลองนั่นเหมือนกับภูตผีปีศาจ จำนวนนับไม่ถ้วน มันดูราวกับห่ากระสุนที่พุ่งปะทะกับเสื้อเกราะ ภูเขาหินนั่นกลายเป็นธุลีอย่างรวดเร็ว

“ปัง!” มีเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างกะทันหัน

ภูเขาหินจำลองระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายสูงขึ้นไป 2 ถึง 3 เมตร ส่วนแท่งเหล็กนั่นหลัวเฟิงก็ควบคุมมันให้ระเบิด กลายเป็นผงไปเช่นเดียวกัน

“นั่นใครน่ะ?”

“วิ้วๆ…วิ้วๆ….” เสียงไซเรนในเขตพักฟื้นดังขึ้นทันที แสงไฟ ฉายจำนวนมากสว่างวูบวาบขึ้นและพวกการ์ดติดอาวุธก็พุ่งเข้ามา ในบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว

หลัวเฟิงถอยกลับเข้าไปในห้องในทันใด เขายังตกใจและหวาดกลัว “ก้อนหินหนาตั้ง 2 เมตรถูกเสียบทะลุอย่างรวดเร็ว! พลังของแท่งเหล็กนั่นรุนแรงอย่างกับไรเฟิลซุ่มยิงที่เจาะเกราะได้ แท่งเหล็กนั่นไม่ได้แข็งแกร่งพอมันถึงแตกละเอียดเมื่อทะลุภูเขาหิน จำลองนั่น

เราทะลวงได้ร้อยครั้งในชั่วาอึดใจเดียว จะไม่เหมือนกับการยิง กระสุนเจาะเกราะหนึ่งร้อยนัดเหรอ?” หลัวเฟิงสูดหายใจเข้าลึก “แล้ว…แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

พลังอันลึกลับน่ากลัวนั่น ทำให้เขตพื้นที่พักฟื้นของกองทัพ แตกตื่นกันไปหมด!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!