Skip to content

Swallowed Star 23

ตอนที่ 23 ดาบปีศาจ

เวลาตี 5 ของวันรุ่งขึ้น ขณะกำลังรุ่งสาง หลัวเฟิงก็วิ่งไปที่สำนักฝึกเรียบร้อยแล้ว

เพราะเขายังไม่ได้รับใบประกาศเตรียมนักสู้ เขาจึงใช้ ‘บัตร สมาชิกระดับหัวกะทิ’ ใบเดิมของทางสำนักอยู่

“ศิษย์พี่”

“อรุณสวัสดิ์ครับศิษย์พี่”

ภายในสำนักฝึกขีดสุดมีสมาชิกอยู่จำนวนหนึ่งที่กำลังฝึกซ้อมอยู่ หลัวเฟิงยิ้มเล็กน้อยแล้วพยักหน้าให้ แล้วเขาก็พุ่งทะยานตรงไปที่ตึกของสมาชิกระดับหัวกะทิ เพราะเขายังไม่ได้รับใบประกาศเตรียมนักสู้ เขาจึงยังขึ้นไปบนตึกชั้น 3 ที่เป็นโรงฝึกของสมาชิกระดับหัวกะทิได้เท่านั้น เขาไม่มีสิทธิ์ขึ้นไปบนชั้นที่ 4 ที่เป็นส่วนของอาจารย์

“ฮ่า!” เสียงดังมาจากทางโรงฝึก

หลัวเฟิงมองดูก็เห็นวัยรุ่นในชุดคลุมสีขาวกำลังควงหอกเหล็กอยู่

“พี่เถี่ย” หลัวเฟิงเรียกเสียงดังลั่น “มาฝึกแต่เช้าเลยเหรอ? ขยันจัง”

“เจ้าบ้า” วัยรุ่นในชุดคลุมสีขาวหยุดและก็มองมาที่หลัวเฟิง ด้วยสีหน้ามีความสุข “มาที่นี่ได้ไงเนี่ย? ฮ่าๆ โอ้ ใช่สิ ฉันควรจะยินดีกับนายนี่นา สำหรับการผ่านการทดสอบเตรียมนักสู้”

“แล้วพี่รู้ได้ยังไงครับ?” หลัวเฟิงประหลาดใจ

น่าจะมีคนไม่มากนักที่รู้เรื่องการผ่านการทดสอบเตรียมนักสู้ของเขา

“เมื่อคืนนี้ ครูฝึกของเราบอกตอนที่กำลังสอนอยู่ เขาบอกว่า นายกับพี่หยางผ่านการทดสอบเตรียมนักสู้แล้ว” วัยรุ่นในชุดคลุมสีขาวยกมือขึ้นลูบหน้าผาก “การได้เห็นพวกนายสองคนผ่านการทดสอบ ฉันเองก็คงไม่มีเวลาผ่อนคลายแล้วล่ะ เพราะงั้นฉันเลยมา ที่นี่เพื่อฝึกซ้อมแต่เช้า”

หลัวเฟิงพยักหน้า

เหตุนี้เองครูฝึกถึงได้บอกพวกเขา แม้จะมีสมาชิกอยู่ถึง 3 หมื่นคนในสำนักฝึกก็ตาม แต่ก็มีครูฝึกอยู่เพียงแค่ 6 คน! และมีอาจารย์อยู่แค่ 1 คนเท่านั้น! เมื่อครูฝึกสอน พวกเขามักจะสอนในโรงฝึกขนาดใหญ่ที่สมาชิกนับพันสามารถเข้าร่วมฝึกได้ในเวลาเดียวกัน

แน่นอน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสอนสมาชิกระดับหัวกะทิ เพราะทั่วทั้งสำนักฝึกมีสมาชิกระดับหัวกะทิอยู่ไม่กี่คนนั่นเอง

“เจ้าบ้า นายผ่านการทดสอบเรียบร้อยแล้ว แล้วนายมาที่นี่ ทำไมแต่เช้า?” วัยรุ่นในชุดคลุมขาวเอ่ยถามกลั้วหัวเราะ

“วันที่ 1 สิงหาคม จะมีการทดสอบต่อสู้จริง ผมจำเป็นจะต้องฝึกฝนซักหน่อย” หลัวเฟิงหัวเราะและเดินตรงไปที่ห้องอาวุธที่อยู่ข้างๆ โรงฝึกซึ่งเปิดอ้าเอาไว้อยู่

หลังจากเข้าไปในห้องอาวุธ มีอาวุธประเภทต่างๆ จำนวนมาก อยู่บนชั้นวาง ดาบ หอก กระบี่ กระบอง แต่ละประเภทของอาวุธก็มี การแบ่งแยกย่อยออกไปอีกมากมายทีเดียว ตัวอย่างเช่น ดาบ ก็มี ทั้งดาบเดี่ยว ดาบคู่ และดาบเดี่ยวก็มีแยกย่อยออกไปอีก

“ชุดปีศาจ” หลัวเฟิงเปิดตู้ที่มีดาบที่เหมือนกันจำนวนมากออกมาดู แน่นอนมันถูก ‘ก็อปปี้’ กันมานั่นเอง ดังนั่นลักษณะนํ้าหนัก และแรงโน้มถ่วงของใบมีดดาบถึงเหมือนกัน มีเพียง คุณภาพของวัสดุที่ใช้เท่านั้นที่แตกต่างกัน ใบมีดจริงๆ ที่สามารถใช้ฆ่าสัตว์ประหลาดได้ราคาน่าจะราวๆ แสนเห็นจะได้ ขณะที่ของเลียนแบบพวกนี้ราคาน่าจะแค่สองสามร้อย ค่อนข้างถูกทีเดียว

หลัวเฟิงหยิบดาบออกมาเล่มหนึ่ง มันอยู่ในชุดปีศาจชุดที่สอง ใบมีดนี้ยาว 78 เซนติเมตรและความยาวโดยรวม 101 เซนติเมตร ใบมีดกว้าง 5.2 เซนติเมตรและใบมีดหนา ปลายของดาบแหลมคม เหมาะสำหรับการทิ่มแทง

“หืม?” หลัวเฟิงเหวี่ยงดาบไปมาแล้วขมวดคิ้ว “เราเองก็เคยใช้ ดาบนี้เมื่อนานมาแล้ว แต่ทว่า…มันรู้สึกเบามากเลย”

ดาบนั่นที่เขาเคยใช้มาก่อนตอนนี้ดูเหมือนไม่มีน้ำหนักเลย

“เราต้องการดาบที่หนักกว่านี้สมดุลกับพลังที่เพิ่มมากขึ้นของเรา” หลัวเฟิงหยิบดาบในชุดปีศาจชุดที่สองออกมาอีก และลองเหวี่ยงไปรอบๆ “ยัง..ยังเบาอยู่”

“อันนี้ยังไม่หนักพอ”

“เบา..เบามาก”

หลัวเฟิงหยิบดาบอันที่หนักที่สุดในชุดปีศาจชุดที่สองออก มาแล้วก็ต้องส่ายหัว “ดูเหมือนความแช็งแกร่งของเราจะเพิ่มขึ้นมากจริงๆ เราคงไม่สามารถหาดาบที่เหมาะกับเราได้ในห้องอาวุธสำหรับสมาชิกระดับหัวกะทินี้แน่” หลัวเฟิงออกจากชั้นที่ 3 และก็ขึ้นไปขึ้นที่ 4

“ชั้นที่ 4 เป็นที่ที่ครูฝึกและอาจารย์ขึ้นไปเป็นประจำ” หลัวเฟิงรู้ ว่ามีโรงฝึกและห้องเก็บอาวุธเหมือนๆ กัน “เตรียมนักสู้ก็มีสิทธิ์ที่จะ เข้าไปเหมือนกัน แต่เรายังไม่ได้ใบประกาศเตรียมนักสู้เลย ไม่ แน่ใจว่าเราจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาที่นี่หรือเปล่า”

ที่ด้านข้างบันได มีทหารผ่านศึกนั่งประจำอยู่ที่ห้องเล็กๆ ตรงนั่น

“ฮึ่ม..? นั่นจะทำอะไร นี่ไม่ใช่ที่สำหรับนักเรียน” ทหารผ่านศึก วัยเก๋าคนนั้นลุกขึ้นแล้วโผล่หน้าออกมาและก็หัวเราะ “โอ้ หลัวเฟิง เองเหรอ ฉันได้ยินจากอาจารย์เจียงว่านายผ่านการทดสอบเตรียมนักสู้แล้วนี่ ฮ่าๆ เข้ามาสิ”

“ขอบคุณครับ ลุงหลี” หลัวเฟิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ถ้าลุงหลี่คนนี้เข้มงวดและบังคับให้หลัวเฟิงแสดงใบประกาศเตรียมนักสู้ หลัวเฟิงคงไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ หากว่าตามกฎจริงๆ แล้ว หลัวเฟิงยังไม่ถือว่าเป็นเตรียมนักสู้

มีของประดับตกแต่งมากมายภายในโรงฝึกชั้น 4 นี้ ทั้งยังมีเครื่องทดสอบและอุปกรณ์คุณภาพสูงอยู่มากทีเดียว

ในตอนนี้ มีเพียงแค่หลัวเฟิงเท่านั้นที่อยู่ในโรงฝึก

“เสียของ..เสียของจริงๆ” หลัวเฟิงอดส่ายหัวไม่ได้ขณะที่ ทอดสายตาไปรอบๆ “ภายในสำนักฝึกนี้ มีครูฝึกเพียงแค่ 6 คนเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นพอพวกเขาไปสอน พวกเขาก็มักจะฝึกอยู่ที่ที่ว่า การสมาคมขีดสุดอีกด้วย แล้วที่ดีๆ แบบนี้กลับเกือบถูกทิ้งร้างซะอย่างงั้น”

หลัวเฟิงส่ายหัวขณะที่เข้าไปในห้องเก็บอาวุธที่อยู่ข้างๆ กัน

อาวุธที่นี่ก็เป็นอาวุธที่ถูกเลียนแบบมาเหมือนกัน แต่ดูแล้ว คุณภาพก็น่าจะดีกว่าที่อยู่ในชั้นที่ 3 แน่ๆ

“ชุดปีศาจชุดที่สอง อื้อ..ดาบนี้หนักกว่าแฮะ” หลัวเฟิงหยิบ ขึ้นมาเล่มหนึ่งแล้วก็ลองเหวี่ยงดูไปรอบๆ แล้วก็หยิบอีกเล่มขึ้นมา หลังจากลองดูอยู่ 5 ครั้ง ในที่สุดเขาก็ได้เล่มที่เหมาะมือ เขามองดู ที่ป้ายและเห็นมันเขียนเอาไว้ว่า….101 กิโลกรัม

“อะไรนะ 101 กิโลกรัม?” แม้แต่หลัวเฟิงเองก็ยังตกใจ “ดาบที่ หนักขนาดนี้ยังรู้สึกควบคุมง่ายเลยเหรอเนี่ย?”

ดาบปีศาจเป็นดาบชนิดที่ต้องอาศัยความเร็ว ดังนั้นจึงมักมี น้ำหนักเบา

ดาบนี้ต้องการน้ำหนักถึง 101 กิโลกรัม ความแข็งแกร่งของ เขาเพิ่มขึ้นจริงๆ เท่าไหร่กันแน่?

“ดูเหมือนว่าสมรรถภาพร่างกายของเราจะเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ เดี๋ยวเราคงต้องไปเช็คดูพลังหมัดและความเร็วซักหน่อยแล้ว” หลัวเฟิงตื่นเต้นเล็กน้อย “แต่ตอนนี้ เราจะฝึกพื้นฐานซะก่อน” หลังจากที่เลือกดาบที่เหมาะมือแล้ว เขาก็หยิบโล่หกเหลี่ยมขึ้นมา

……

ภายในโรงฝึก มือซ้ายของหลัวเฟิงถือโล่ในขณะที่มือขวากวัด แกว่งดาบปีศาจ

“ฮึ่ย!”

“ฮ่า!”

หลัวเฟิงฝึกฝนท่าพื้นฐานของการควงดาบ…การตวัดตัด ฟันขึ้น ฟันลง ฟันเร็วๆ…แต่ละท่าล้วนแม่นยำสุดๆ ทุกครั้งที่หลัวเฟิงตวัดดาบ จุดศูนย์ถ่วงของเขาไม่เสียสมดุลเลย เขาฝึกฝนต่อเนื่อง และพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

“พลังของเรามากเหลือเกินตอนนี้ เราเลยไม่สามารถควบคุม แรงเหวี่ยงได้ดีเท่าไหร่” หลัวเฟิงรู้ปัญหาของตนดี

“ความแข็งแกร่งของเราดีเยี่ยม แต่เราจะต้องใช้ประโยชน์จาก มันได้ด้วย” หลัวเฟิงรู้แน่ชัด

ถึงแม้ว่าสมรรถภาพร่างกายจะดีเยี่ยมกว่าคู่ต่อสู้ แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่าทักษะจะดีกว่า..

คนบางคนสามารถปล่อยพลังมาได้แค่ 30% ของพลังของ ตนเองเท่านั้น

บางคนสามารถปล่อยออกได้ 50% หรือ 60% และแม้แต่ 100% ก็มี ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้ดาบจริงๆ สามารถใช้พลัง เล็กน้อยเพื่อจะจัดการกับสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งกว่าเขาเป็น 10 เท่าได้ นี่คือความสำคัญของทักษะและประสบการณ์

แน่นอน….

ถ้ามีความแตกต่างระหว่างสมรรถภาพทางร่างกายค่อนข้างมาก แม้แต่ทักษะก็อาจจะไม่ส่งผลอะไร จะว่าไปยังไงก็ต้อง ฝึกฝนเพื่อนำพลังออกมาใช้อย่างเต็มที่

………..

“ท่านอาจารย์” ลุงหลี่กล่าวทักทายเสียงดังตามหน้าที่ตรงชั้น 4

“ใครอยู่ข้างใน?” อาจารย์เจียงเหนียนถามขึ้น เขาได้ยินเสียงแว่วดังมาจากโรงฝึก เป็นเสียงของคลื่นกระแทกจากดาบที่ตัด อากาศด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ เพียงแค่เสียงนี้อย่างเดียวก็ เพียงพอจะทำให้รู้ว่าบุคคลที่กำลังฝึกดาบนั้นเป็นนักสู้

“หลัวเฟิงครับอาจารย์” ลุงหลี่หัวเราะ

“หลัวเฟิง?” อาจารย์เจียงเหนียนหัวเราะและเดินตรงเข้าไปที่โรงฝึก

ขณะที่เขายืนอยู่ตรงทางเข้าของโรงฝึก เขาก็เห็นการ เคลื่อนที่ของหลัวเฟิง ซึ่งเป็นการเคลื่อนแบบพื้นฐานตามตำรา บางครั้งก็ฟันตรงหน้า พุ่งไปข้างหน้า หลบหลีก ถอยหลัง… การ เคลื่อนที่มีความราบรื่นและต่อเนื่องเป็นอย่างมาก

“อืม พื้นฐานดีจริงๆ” อาจารย์เจียงเหนียนพยักหน้าและนึกชมอยู่ในใจ “การเรียนรู้เท่านั้นที่ทำให้เธอดีขึ้น แทบไม่เห็นจุดอ่อนเลย เยี่ยม”

ยิ่งได้เห็นเขาก็ยิ่งยินดี

“เอ้า..อาจารย์'” หลัวเฟิงหันมาแล้วก็รู้ตัวว่าอาจารย์เจียง เหนียนอยู่ตรงนั้นเขาจึงหยุดลง

อาจารย์เจียงเหนียนหัวเราะและเดินเข้ามา “หลัวเฟิง ทักษะดีมาก เธอเคยฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กแล้วใช่ไหม?”

“ครับอาจารย์ก่อนที่จะเข้ามาฝึกกับทางสำนัก ผมเคยฝึกฝน คนเดียวอยู่ที่บ้านมาก่อนครับ” หลัวเฟิงหัวเราะ อาจารย์เจียง เหนียนพยักหน้าด้วยความพอใจ แต่เขาก็ต้องตัวเย็นเฉียบไปทันที ที่เห็นดาบปีศาจที่หลัวเฟิงกำลังถืออยู่ ตาของเขาเบิกกว้างและ กว้างเข้าไปอีก

“อาจารย์ครับ อาจารย์ครับ?” หลัวเฟิงตกใจสีหน้าท่าทางของ อาจารย์เจียงเหนียน

“เธอ..เธอ…” อาจารย์เจียงเหนียนมองดูหลัวเฟิงอย่างประหลาดใจ “เธอเพิ่งจะกวัดแกว่งดาบปีศาจนํ้าหนัก 101 กิโลกรัม?”

“คระ..ครับ..” หลัวเฟิงเย็นวาบ

อาจารย์เจียงเหนียนส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้…เป็นไปไม่ได้..ไม่ มีทาง” แต่หลังจากนั้น อาจารย์เจียงเหนียนก็ตาเป็นประกายและ เขาก็จ้องเขม็งมาที่หลัวเฟิงราวกับหลัวเฟิงเป็นอัญมณีลํ้าค่า “หลัวเฟิง เร็วเข้า ไปที่เครื่องทดสอบพลังหมัดตรงโน้น ลองทดสอบดูเร็ว! ฉันอยากเห็นว่าเธอแข็งแกร่งเท่าไหร่แล้วกันแน่ตอนนี้”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!