Skip to content

Swallowed Star 265

ตอนที่ 265 เครื่องราง

หลังจากที่หลัวเฟิงกลายเป็นสัตว์ประหลาดกลืนดารา พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ใช้ร่างใหม่นี้ จิตวิญญาณของหลัวเฟิงไม่

สามารถหลีกเลี่ยงนิสัยที่โหดเหี้ยมตามธรรมชาติของสัตว์ประหลาดกลืนดาราได้ ความโหดร้ายและความเย็นชา แพร่กระจายออกจากตัว

เขา เขาต้องใช้เวลาครึ่งปี อยู่กับความเหงา นั่นทำให้ร่างกายของเขาได้ซึมซับนิสัยที่โหดร้ายของมันเข้ามา…

ทำให้หลัวเฟิงเย็นชาและโหดเหี้ยมมากยิ่งขึ้น

แต่หลังจากที่เขาได้ยินข่าวการคลอดลูกของสวีซิน นั่นทำให้เขารู้สึก

ว่าเลือดที่ไหลในร่างกายของเขาอบอุ่นขึ้นอีกครั้ง

“ตอนนี้ฉันมีลูก ตอนนี้ฉันมีลูกแล้ว!” ความรู้สึกตื่นเต้นหล่อเลี้ยงชีวิตของเขา

“อีกไม่นาน อีกแค่ 8 เดือน การเพาะร่างกายของฉันจะสมบูรณ์ เมื่อ

ถึงเวลา ฉันจะสามารถกลับไปได้”

ไกลออกไปที่ก้นมหาสมุทรแปซิฟิก หลัวเฟิง ผู้ครอบครองร่างของ สัตว์ประหลาดกลืนดารา กำลังดีใจ

ในเวลานั้นสื่อทั้งโลกกำลังรายงานเรื่องราวของเด็กที่เกิดใหม่

หนึ่ง ครอบครัวของหลัวเฟิงมีลูกหลาน ซึ่งครอบครัวของเขามีความมั่งคั่งเทียบเท่ากับประเทศ

สอง เด็กทั้งสองคนมีรูปร่างที่ดีมาก แน่นอนว่าพวกเขาย่อมมี

ความสามารถที่ไร้ขีดจากัด

สาม ด้วยความเสียสละของวีรบุรุษทั้งแปด การเกิดของเด็กสองคน ทำให้มีบรรยากาศที่พิเศษมากขึ้น

……

เช้าวันที่ 22 พฤศจิกายน ปี 2060

“ปิงปิง ไฮ่น้อย เป็นเด็กดีนะลูก” สวีซินที่สวมชุดผ้าฝ้ายสีขาวค่อยๆ

จูบทารกทั้งสองที่อยู่ในอกของเธอ นัยน์ตาทั้งสองดวงสว่างไสว เมื่อ

พวกเขามองไปที่แม่ พวกเขาหัวเราะ มือเล็กๆ ของพวกเขาโบกไปมา

หลัวหงกั๋วและกงซินหลานหัวเราะ ขณะที่พวกเขามองดูหลานทั้งสองคน

“สวีซิน เราจะพาปิงปิงและไฮ่น้อยไปเดินเล่น แถวๆ นี้” กงซินหลาน

หัวเราะ

“ดีเลยค่ะแม่” สวีซินพยักหน้า

เมื่อเธอเฝ้าดูปู่ย่าพาพวกเขาออกไป สวีซินก็ปิดประตูห้อง เดินไปที่

ระเบียงของห้องพัก บนระเบียงมีโต๊ะที่ตั้งโน้ตบุ๊คไว้ สวีซินนั่งอยู่บน

เก้าอี้ แสงแดดฤดูหนาวที่อบอุ่นส่องลงบนร่างกายของเธอ คล้ายกับว่ากำลังปลอบโยนเธอ สวีซินนั่งลงที่เก้าอี้ข้างโต๊ะ

เธอดึงปากกาออกจากลิ้นชัก

“ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันต้องทำตามคำแนะนำของตระกูลตลอดมา พวกเขาคาดหวังในตัวฉันสูงมาก ในท้ายที่สุดฉันก็มีความสุขกับการเปิดธุรกิจของตัวเอง มีความสุขในการทำงานร่วมกับคนงานของฉัน และฉันอยู่ในโลกธุรกิจได้ด้วยตัวเอง”

“อย่างไรก็ตาม การบริหารบริษัท ด้วยตัวเองก็เหนื่อยมาก”

“โชคดีที่ฉันมีหลัวเฟิง”

“เมื่ออยู่ข้างๆ หลัวเฟิง ฉันไม่รู้สึกเครียดใดๆ เขาช่วยปกป้องฉันจาก

องค์ประกอบต่างๆ ทำให้ฉันสามารถทำธุรกิจได้ทั้งหมด ฉันมีความสุขมากๆ ในวันนี้ฉันอยากให้เรายังมีชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป และตลอดไป…เพียงเท่านั้น ฉันไม่เคยหวังอย่างอื่นเลย…ฉันไม่โทษใครเลย อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ฉันไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ต่อไป”

“เหตุผลที่ทำให้ฉันมีชีวิตอยู่?”

“ความรัก? ครอบครัว? อาชีพ?”

“ฉันไม่รู้!”

“ถ้าปราศจากหลัวเฟิง มันก็เหมือนความรักได้จากฉันไป…ตลอดไป ธุรกิจ? เมื่อฉันประสบความสำเร็จ แล้วใครจะมามีความสุขร่วมกับฉัน ใครจะร่วมยินดีกับฉัน”

“เมื่อใดก็ตามที่ฉันฝัน ฉันยังคงร้องไห้ในความฝันเสมอ!”

“ฉันคิดถึงเธอ หลัวเฟิง”

“ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจได้แล้ว”

“ตอนนี้ ฉันรู้สึกผ่อนคลาย ฉันรู้สึกถึงความรู้สึกสงบที่ฉันไม่เคยรู้สึก

มาก่อน”

“พ่อ แม่ พี่ชาย พวกเขาจะไม่เสียใจ เพราะฉันทำไปด้วยความสุข”

ขณะที่เธอเขียนเสร็จเธอ เธอวางปากกา และมองผ่านหน้าต่างลงไป

บริเวณพื้นที่เล็กๆ พ่อและแม่ของหลัวเฟิงกำลังกอดเด็กทารก และเด็กทารกก็หัวเราะอย่างมีความสุข

“ไฮ่น้อย ปิงปิง” สวีซินกล่าวอย่างนุ่มนวลว่า “ลูกอายุแค่สอง

เดือน ลูกยังไม่รู้เรื่องอะไรมาก แม่เชื่อว่า เมื่อโตขึ้น ลูกจะลืมแม่คนนี้

ไป”

สวีซินเปิดโน้ตบุ๊คและเลือกเปิดเพลง

เป็นเพลงเก่าในยุคก่อนหายนะ

“…หัวใจฉัน ต้องทนอ้างว้าง

ผ่านวินาที ผ่านนาที ช่างยาวนาน

ดวงตาของฉันแวววาวไปด้วยคราบน้ำตา

แม้หัวใจของฉัน มันยังคงเคลื่อนไหว

ฉันเฝ้าคิดถึงคุณเสมอ…สุดที่รัก…”

เสียงเพลงที่ผ่อนคลาย ดังก้องอยู่ภายในห้อง นี่เป็นเพลงที่มียอดขาย

มากที่สุดก่อนเข้าสู่ยุคหายนะ…“ฉันจะแต่งงานกับคุณในวันพรุ่งนี้”

“ฉันจะแต่งงานกับคุณในวันพรุ่งนี้…”

“ฉันจะแต่งงานกับคุณในวันพรุ่งนี้…”

เสียงเพลงดังกังวานในห้อง สวีซินค่อยๆ ร้องตามเสียงดนตรี เธอเดิน

ไปที่ตู้ด้านข้างและหยิบชุดแต่งงาน

แต่งหน้า

สวมชุดแต่งงาน

สวีซินร้องเพลงเบาๆ เสียงหัวเราะของเธอสดใสและบริสุทธิ์

ตั้งแต่เล็กเธอเติบโตขึ้นมาในตระกูลใหญ่ที่มีการแข่งขันสูง เธอได้รับ

แรงกดดันอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเธอได้พบกับหลัวเฟิง เขาทำให้เธอรู้สึกโล่งใจจากแรงกดดันในการแข่งขัน หลัวเฟิงเป็นเหมือนภูเขา ต้นไม้ใหญ่คอยปกป้องเธอจากสิ่งต่างๆ สวีซินไม่ชอบบ้านของเธอตั้งแต่เด็ก มันเต็มไปด้วยความต้องการทางวัตถุ อำนาจ ความมั่งคั่งและการแข่งขัน

เธอชอบอยู่กับหลัวเฟิง… ทำธุรกิจของตัวเองและสนุกกับมัน กับคนที่เธอรัก

ร่วมแบ่งปันความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมานกับคนที่เธอรัก

แบ่งปันความสุขกับคนที่เธอรัก

วันนี้เป็นวันที่ดี…และตอนนี้หลัวเฟิงจากเธอไปแล้ว เธอรู้สึกว่าโลกเหลือเพียงแค่สีดำ และขาว ไม่มีสีอื่นๆ เธอยังต้องการอะไร? เธอจะทำงานหนักไปเพื่ออะไร? ชัยชนะที่ไม่มีใครร่วมเฉลิมฉลอง มันคือความเจ็บปวด

……

เธอสวมชุดเจ้าสาว เธอแต่งหน้า จากนั้นสวีซินนั่งยิ้มบนเตียง

“……….”

“คุณคือความฝันทั้งหมดของฉัน”

“ฉันจะแต่งงานกับคุณในวันพรุ่งนี้”

“ฉันจะแต่งงานกับคุณในวันพรุ่งนี้”

……

เพลงหวานที่ซึมซับเข้าไปในจิตวิญญาณของคนหนึ่ง สวีซินหยิบขวด

ยาออกมาจากด้านข้าง แล้วหยิบยากลืนเข้าไป เธอยิ้มขณะที่เธอกินมันช้าๆ เธอดื่มน้ำเพื่อกลืน

สวีซินนอนหลับตา

สวีซินนอนในชุดเจ้าสาว เธอใช้มือลูบบนแหวนแต่งงานที่ไม่มีชื่อบน

นิ้วของเธอ…แหวนเหล็ก

“ฉันจะแต่งงานกับคุณในวันพรุ่งนี้”

“ฉันจะแต่งงานกับคุณในวันพรุ่งนี้”

“……”

เพลงยังคงดังก้องอยู่ในห้อง

ที่คอของเธอ เธอสวมเครื่องรางสีเงินที่หลัวเฟิงให้ไว้ รอยแกะสลักบน

เครื่องรางเริ่มเรืองแสงขึ้นทีละนิด และค่อยๆ ส่องสว่างขึ้น เครื่องรางสีเงินเริ่มค่อยๆ ลอยขึ้นมา มันเปล่งแสงสีขาวออกมาห่อหุ้มร่างกายของเธอ

สวีซินสวมชุดแต่งงานสีขาว ขณะที่มีแสงสีขาวห่อหุ้มตัวเธอไว้ทั้งหมดทำให้สวีซิน ดูคล้ายนางฟ้า

ทันใดนั้น…

เครื่องรางสีเงินเริ่มค่อยๆ แตกหัก เพียงครู่หนึ่ง แสงสีขาวเริ่มหนาขึ้น

โดยไม่มีเสียงหรือร่องรอยใดๆ ขณะที่แสงสีขาวที่หนาทึบแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของสวีซิน ผิวของเธอเปล่งประกายและเงางามมากขึ้น

กว่าเดิม เธอดูสวยงามและมีเสน่ห์

ผิวของเธอสวยงามกว่าเดิมมาก

ภาพที่เกิดขึ้นนี้ใช้เวลา 26 นาที

เมื่อแสงถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของเธอและทุกอย่างก็กลับสู่สภาพปกติ!

ทั้งห้อง!

เงียบมาก! สวีซิน นอนอยู่บนเตียงเงียบๆ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

ทันใดนั้น…

คิ้วเธอขยับ เธอค่อยๆ ลืมตา

ลึกลงไปใต้มหาสมุทรแปซิฟิก

โลหะขนาดใหญ่จำนวนมากถูกวางไว้ ใต้ทะเลมีสัตว์ประหลาดตัวสีดำ

ยาวประมาณ 280 เมตร นอนอยู่ข้างๆ กองโลหะนี้ ดวงตาสีทองขนาดใหญ่เต็มไปด้วยความโหดร้าย มันดูเย็นชา ขณะที่มันขยับกรงเล็บของมัน เกิดการบิดเบี้ยวของมิติที่ไร้รูปร่าง ทันใดนั้นกองโลหะขนาดใหญ่ก็หายไป

“หลัวเฟิง หลัวเฟิง” เสียงเรียกของบาบาต้าทำให้ดูเหมือนว่าเขากังวลมาก

“เกิดอะไรขึ้น?” หลัวเฟิง ถาม

“คือว่า…สวีซิน สวีซิน ได้ฆ่าตัวตาย!” บาบาต้าตะโกน

“อะไรนะ!” หลัวเฟิงรู้สึกว่าจิตใจของเขาว่างเปล่า เลือดในร่างกายพลุ่งพล่านทันที

ดวงตาสีทองของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความกังวล “นี่ไม่ใช่

เรื่องที่จะล้อเล่น!”

“ฉันไม่ได้พูดล้อเล่น มันเป็นเรื่องจริง” บาบาต้ากล่าว

“คุณ ไอ้ คุณบอกผมว่า สวีซินจะไม่ทำอะไรแบบนั้น? ตอนแรกผม

บอกว่าเราสามารถใช้อินเทอร์เน็ต ให้คุณเลียนเสียงของผมและพูดกับเธอ ทำให้เธอสบายใจขึ้น แล้วตอนนี้คุณพูดอะไร? คุณบอกว่า สวีซินจะไม่เชื่อและคิดว่าผมตั้งระบบ AI ไว้หลังจากที่ผมตาย หากเธอไม่เห็นผมด้วยตาตัวเอง เธอจะไม่เชื่อ ผมเคยยอมรับในสิ่งที่คุณพูดแต่!”

“อย่างไรก็ตาม คุณสัญญากับผมแล้ว ว่า สวีซินจะไม่ทำอะไรแบบนี้

ตอนนี้…” ใจของหลัวเฟิงรู้สึกราวกับกำลังจะระเบิดขึ้น ในขณะที่เขาพูด

“ไม่ต้องห่วงเลย” บาบาต้าพูดปลอบ หลังจากที่เห็นความโกรธของ

หลัวเฟิง เขารู้ว่าเรื่องตลกร้ายนี้ไปไกลเกินไป “ฉันยังพูดไม่จบ เธอยังไม่ตาย ยังไม่ตายจริงๆ”

หลัวเฟิงตกใจ

“เกิดอะไรขึ้น?” หลัวเฟิงกำลังโกรธมาก

“มันเป็นแบบนี้ สวีซินฆ่าตัวตายจริง เธอทำลายร่างกายของเธอลง

อย่างสิ้นเชิง จิตวิญญาณของเธอเกือบจะระเหยกลายเป็นไอ อย่างไรก็ตามเครื่องรางคู่ที่ฉันให้ไว้ก่อนหน้านี้ได้ช่วยเธอไว้ ฉันไม่รู้ว่าเธอจะ

ทำจริงๆ ไม่แน่ว่ามันจะเป็นโชคร้ายเสมอไป ชื่อของเครื่องรางคู่รักนี้คือ รักนิรันดร์” บาบาต้ากล่าว

“รักนิรันดร์?” หลัวเฟิงได้รับความทรงจำที่สืบทอดมาไม่มากนัก แต่

เขาไม่รู้ว่ารักนิรันดร์นี้เป็นอย่างไร

“คุณไม่รู้หรอกว่า ความรักนิรันดร์คืออะไร แต่อย่างน้อยคุณก็รู้เรื่อง

ของร่างกายนิรันดร์ใช่ไหม?” บาบาต้ากล่าว

“ใช่” หลัวเฟิง กล่าว

ชีวิตของมนุษย์ช่วงอายุของนักสู้ระดับดวงดาว มีอายุน้อยกว่า 1,000 ยุค

ช่วงระดับจักรวาลจะมีระยะเวลาเพิ่มขึ้น 10 ยุค ช่วงระดับเหนือ

จักรวาล จะมีเวลาเพิ่มขึ้น 100 ยุค

ระดับห้วงมิติ จะมีเวลาเพิ่มขึ้น 1,000 ยุค และระดับอมตะเท่านั้นที่ไม่มีวันตาย

จากระดับนักเรียนขั้น 9 ถึงระดับดวงดาว มีช่วงชีวิตที่เพิ่มขึ้น

จากระดับดวงดาว สู่ระดับจักรวาลจะมีการกระโดดอีกขั้น

ทุกจุดที่สำคัญจะมีการกระโดดในช่วงชีวิต

และอยู่ในระดับเดียวกันเช่นดวงดาวขั้น 1 ถึงดวงดาว ขั้น 9 อาจมีความแตกต่างของพลังงานหลายร้อยเท่า แต่ระดับชีวิตและช่วงเวลาของพวกเขาก็เท่ากัน

ในช่วงชีวิตที่ก้าวผ่าน…ร่างกายทั้งหมดจะผ่านการพัฒนาทั้งหมด

นี่คือวิวัฒนาการของร่างกาย!

วิญญาณของมนุษย์ทำให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานมากโดยปกติพวกเขาสามารถอยู่ได้ 1,000 ยุค ในทางกลับกันร่างกายของพวกเขามีขีดจำกัด

แม้จะมีการดูแลรักษาแต่เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งพวกเขายังคงตายในวัยชรา

จนกว่าระดับห้วงมิติ พวกเขาจะมีโลกภายในของตัวเอง ด้วยการที่พวกเขาสามารถดูดซับแหล่งพลังงานภายนอกอย่างต่อเนื่อง ช่วยคงสภาพร่างกายของพวกเขา ร่างกายจะไม่เกิดริ้วรอย เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้นทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับจิตวิญญาณ

ขีดจำกัดของจิตวิญญาณคือ 1,000 ยุค

นั่นเป็นเหตุผลที่…

ช่วงชีวิตของนักสู้ระดับห่วงมิติจะมีระยะเวลาอีก 1,000 ยุค

หลังจากผ่านระดับห้วงมิติไป จะเหมือนการก้าวกระโดดสำหรับ

วิญญาณ! คนหนึ่งๆ จะมีชีวิตนิรันดร์!

นักสู้ระดับดวงดาว ระดับจักรวาล ระดับเหนือจักรวาล ระดับห้วงมิติ

การก้าวกระโดดระดับชีวิต แต่ละระดับเป็นจุดสำคัญ

สำหรับระดับห้วงมิติ ไปสู่ระดับอมตะ

เป็นช่วงเวลาการกระโดดเป็นสำหรับจิตวิญญาณ!

……

ในอวกาศอันกว้างใหญ่มีบางเผ่าพันธุ์ที่พิเศษ พวกเขาเกิดมาตาม

ธรรมชาติโดยมี “ร่างกายนิรันดร์” ร่างกายของพวกเขาไม่เคยมี

อายุ ร่างกายของพวกเขาเป็นที่รู้จักกันในนามของร่างกายนิรันดร์

[TL 1 ยุค = 10,081 ปี]

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!