ตอนที่ 266 ครึ่งปี…ต่อมา

“จักรวาลมีความยุติธรรม”

“การให้พวกเขามีร่างกายนิรันดร์ แต่ยังทำให้พวกเขาไม่สามารถ

ฝึกฝนได้ หากพวกเขาต้องการที่จะฝึกฝน พวกเขามีวิธีเดียว นั่นคือ

พวกเขาคือการออกร่างเดิม และขโมยร่างของคนอื่น!” บาบาต้ากล่าว “ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะฝึกได้ แต่พวกเขาก็มีชีวิตนิรันดร์ หลัวเฟิง คุณจะเข้าใจหรือไม่ เช่นเดียวกับบางเผ่าพันธุ์ ลูกๆ ของพวกเขาเกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งในระดับจักรวาล แต่ช่วงชีวิตของพวกเขากลับมีเพียงสิบปี แน่นอนว่าพวกเขาเต็มใจที่จะนำจิตวิญญาณของลูกหลานเข้าไปอยู่ในร่างกายนิรันดร์”

หลัวเฟิงพยักหน้า

หากไม่มีทางเพิ่มพลัง พวกเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 1,000 ยุค ซึ่ง

เท่ากับ 10,081,000 ปี มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก

“สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีวันสิ้นสุดในจักรวาล หรือแม้กระทั่งบางเผ่าพันธุ์ใน

จักรวาลที่แข็งแกร่ง พวกเขาได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับร่างกายนิรันดร์ จนกระทั่งสามารถรวบรวมเป็นสิ่งพิเศษบางอย่าง หลังจากเก็บสิ่งเหล่านี้แช่แข็งไว้เป็นระยะเวลานาน พวกมันจะค่อยๆ รวมตัวกลายเป็นเครื่องรางเล็กๆ ซึ่งกลายเป็นที่รู้จักในจักรวาลว่า ความรักนิรันดร์ มันต้องใช้เวลานานนับอนันต์ กว่าจะรวมกันเป็นเครื่องรางสักชิ้นหนึ่ง” บาบาต้ากล่าว

หลัวเฟิงเข้าใจทันที…

การวิจัยที่เกิดกับร่างกายนิรันดร์เป็นเรื่องจริงที่น่าสงสารมากในจักรวาล

“ในจักรวาล มีคนที่มีอำนาจและตำแหน่งเป็นจำนวนมาก”

“คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างไล่ตามช่วงชีวิตที่ยาวนานขึ้น”

“การถอดวิญญาณเป็นหนึ่งในเทคนิคพิเศษ มันเป็นเทคนิคที่นิยมใช้กันมากแต่มันก็ฝึกได้ยากมากเช่นกัน หลัวเฟิง คุณอาศัยตราประทับจิตวิญญาณของอาจารย์เท่านั้นที่ช่วยให้คุณสามารถใช้ทักษะย้ายจิต

วิญญาณได้” บาบาต้ากล่าว “เป็นเรื่องจริงที่ว่าการได้รับคู่มือและ

เทคนิคทำได้ยากกว่าการหาซื้อเครื่องราง ‘รักนิรันดร์’ ต้องมีร่างกายอีกหนึ่งร่างกายที่เป็นปกติ แต่จิตวิญญาณจะต้องอ่อนแอลงกว่าเดิม” บาบาต้ากล่าว “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการครอบครอง มันมีความเสี่ยง อาจทำให้เกิดการทำลายตนเองได้”

“คนที่มีเครื่องรางรักนิรันดร์ จะได้รับการช่วยเหลือเพียง 1 ครั้ง และ

ร่างกายของคุณจะเปลี่ยนไปเป็นร่างกายนิรันดร์ แน่นอนว่าหลังจากที่กลายเป็นร่างกายนิรันดร์แล้วจะไม่สามารถฝึกซ้อมอีกต่อไปได้” บา

บาต้ากล่าวว่า “ถ้าใครอยากฝึก เขาจะต้องออกจากร่างกายนิรันดร์และหาร่างอื่นต่อไป”

“สิ่งของที่เป็นเอกลักษณ์เหล่านี้ สามารถหาได้จากคนที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายนิรันดร์ มนุษย์ธรรมดาเช่นสวีซินที่ร่างกายของเธอเปลี่ยนแปลงเป็นร่างกายนิรันดร์ จะไม่สามารถใช้เครื่องรางชิ้นต่อไปได้อีก” บาบาต้ากล่าว

หลัวเฟิงพยักหน้า

มิฉะนั้นคนที่ได้รับร่างกายนิรันดร์ และอาศัยอยู่เป็นเวลา 10 ล้านปี ก็

สามารถมอบสิ่งของจากร่างกายของเขาได้อีกหรือไม่? นั่นเป็นเพียงแค่ความฝัน

“คุณพูดว่า สวีซิน ตอนนี้จะมีอายุถึง 1,000 ปี?” หลัวเฟิงไม่สามารถช่วยอะไรได้

“ใช่แล้ว ร่างกายของเธอจะไม่ตาย การที่จะฆ่าเธอ คุณจะต้องทำลายจิตวิญญาณของเธอ” บาบาต้ากล่าว “ในขณะที่ความรักนิรันดร์เป็นสิ่งที่มีค่ามาก แต่ด้วยสถานะของอาจารย์ของคุณ การหาเครื่องรางเช่นนี้มาถือเป็นเรื่องที่ง่ายมาก และสำหรับคนที่จะสวมเครื่องรางรักนิรันดร์ ก็เป็นสิ่งที่เขาได้คาดการณ์ไว้มาก่อนแล้ว”

“ถึงแม้ว่าร่างกายจะถูกทำลายไป ด้วยเครื่องรางรักนิรันดร มันจะสร้างร่างกายของคุณขึ้นใหม่ นี่คือชีวิตที่ดีที่สุดของคนที่กล้าที่จะเสี่ยง”

“อย่างไรก็ตาม ฉันกังวลว่าหากคุณสวมใส่เครื่องรางรักนิรันดร์ คุณจะ

ไม่รู้สึกถึงอันตรายใดๆ และไม่ตั้งใจฝึกหนักพอ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉัน

ไม่ได้บอกคุณถึงผลกระทบ”

“ฉันไม่เคยคิดว่าคุณจะยอมเสียสละร่างกายของคุณเอง และใช้ชีวิตของคุณเพื่อโจมตี! แม้แต่ความรักนิรันดร์ก็ไม่สามารถช่วยคุณได้”

หลัวเฟิงหัวเราะและผ่อนคลาย

นี่ถือว่าเป็นเรื่องดี ที่เกิดขึ้นหลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ หลังจากนั้น หลัวเฟิงก็รู้เป็นอย่างดีว่า

สวีซินไม่ได้เป็นนักสู้ แม้จะใช้จิตวิญญาณของธรรมชาติ มูย่า

คริสตัล ฯลฯ ที่เป็นสมบัติล้ำค่า พวกมันยังไม่อาจช่วยให้เธอแข็งแกร่งจนกระทั่งถึงระดับดวงดาวได้

และตอนนี้ถึงแม้ว่าเธอจะไม่สามารถฝึกได้ แต่เธอก็มีร่างกายนิรันดร์

สวีซินนั่งอยู่ที่โต๊ะ เธอตกใจ

“มีอะไรผิดพลาด?” ความรู้สึกของสวีซินยังคงสับสนเกี่ยวกับความ

ตาย

ทันใดนั้นหน้าจอโน๊ตบุ๊ค เปิดขึ้นมีการแจ้งเตือนข้อความใหม่ สิ่งที่

แปลกคือ…ข้อความถูกเปิดโดยอัตโนมัติ

“สวีซิน ฉัน หลัวเฟิง!”

เมื่อเธออ่านคำที่ด้านบนของข้อความ สวีซินตกใจมาก เธอขมวดคิ้ว

ของเธอ…เธอรู้เป็นอย่างดีว่าชนชั้นสูงของโลกจะมีระบบ AI แม้แต่

หลัวเฟิง ก็มีเช่นกัน! อีเมล์และข้อความพวกนี้ไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอเชื่อ นั่นเพราะพี่ชายของเธอ สวีกัง เคยทำสิ่งนี้เช่นกัน

“ผมรู้ว่าคุณกำลังสงสัย แต่เมื่อคุณเพียงแค่พยายามที่จะฆ่าตัวตาย

เครื่องรางที่ผมเคยให้คุณจะทำงานปกป้องคุณทันที นั้นคือคำอธิบายว่าทำไมตอนนี้คุณยังมีชีวิตอยู่ และตอนนี้เครื่องรางควรจะหายไป”

สวีซินรู้สึกตกใจ เธอลูบบริเวณหน้าอกของเธอและมองลงมาเพื่อดู…

เรื่องจริงที่เครื่องรางได้หายไป สิ่งที่เหลือก็คือโซ่ สิ่งนี้ทำให้สวีซิน

ตกใจและประหลาดใจอย่างมาก!

เธอรู้ว่าเธอเพิ่งจะฆ่าตัวตาย และตอนนี้เธอยังมีชีวิตอยู่ นี่เป็นเรื่องจริงไหม หลัวเฟิง? หลัวเฟิง ไม่ตาย?

“ผมรู้ว่าคุณยังคงสงสัย แต่ภายใน 6 เดือน ผมจะกลับบ้าน นานที่สุด

อาจจะเป็น 7 เดือน”

“เอาล่ะ จำไว้ อย่าทำอะไรโง่ๆ อีก”

“หลัวเฟิง”

เมื่อเสร็จสิ้นข้อความ สวีซินรู้สึกว่าหัวใจที่เหนื่อยล้าของเธอถูกเติมเต็มด้วยชีวิต สีดำ และสีขาวถูกเติมเต็มไปด้วยสีสันอีกครั้ง ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความหวัง!

“บางทีนี้อาจเป็นจริง นี่ต้องเป็นเรื่องจริง”

การฟื้นคืนชีวิตหลังจากที่ตายแล้ว สิ่งนี้ทำให้สวีซินเชื่อว่า “ภายใน 6-7 เดือน คุณจะกลับมา?”

“ฉัน ฉันต้องบอกกับพ่อและแม่ หลัวฮว๋า เกี่ยวกับข่าวดีนี้ด้วย” สวีซิน

รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

……

วันนั้นหลังจากที่ครอบครัวของหลัวเฟิงได้เห็นข้อความ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะตกใจเรื่องที่สวีซินพยายามฆ่าตัวตายและต่อว่าเธอ แต่…นี่ทำ ให้ทุกคนมีหวังอีกครั้ง ในขณะที่พวกเขาสงสัยว่าจะเป็นระบบ AI หรือไม่ แต่พวกเขาก็ยังอดทนรออีกครึ่งปี

9 มีนาคม 2061 กลางคืน!

ในคืนนี้ ครอบครัวหลัวเฟิงกำลังรับประทานอาหารค่ำที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

“พ่อ แม่ อย่าเพิ่งกดดัน มันยากมากที่ผมจะกลับบ้านและทานอาหาร

เย็นพร้อมกับทุกคน เอาล่ะผมจะบอกว่า วันหยุดฤดูร้อนนี้ เสี่ยวหนานและผมจะจดทะเบียนแต่งงานกัน” หลัวฮว๋าหัวเราะ

หลัวฮว๋าเพิ่งซื้อบ้านหลังใหม่ในเขตหมิงเยว่ หลังจากที่สวีซินและลูกๆ อาศัยอยู่ที่นี่ ทำให้ที่นี่ดูคับแคบเกินไป

ด้วยสถานะของเขา การซื้อบ้านเพิ่มเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการเป็นนักสู้

“ยอดเยี่ยม”

หลัวหงกั๋วและกงซินหลานหัวเราะ เด็กสองคนที่อยู่ข้างเตียงกำลังปี นขึ้นไปหัวเราะอย่างสนุกสนาน

“ทำไมสวีซินยังไม่กลับมา?” กงซินหลานอดที่จะถามไม่ได้ ขณะที่

เขามองไปข้างนอกอย่างใจจดใจจ่อ

“คืนนี้ สวีซินจะพักที่ทำงานของเธอ แล้วนี่ก็เป็นเรื่องที่ดีด้วย” กงซินหลาน หัวเราะ

…ถ้าเธอพยายามที่จะฆ่าตัวตายอีกครั้งจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก

ทันใดนั้น…

พ่อและแม่ส่ายหน้าช้าๆ การมองเห็นของพวกเขาเริ่มเบลอ

ทันที ตุบ! ตุบ!

กลุ่มผู้คุ้มกันที่อยู่ภายนอกทั้งหมดทรุดตัวลง รวมทั้งพี่เลี้ยงที่อยู่ในบ้านทั้งสองคนก็ ทรุดตัวลง หลัวหงกั๋วและกงซินหลานล้มลงบนโต๊ะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

ความเงียบ!

เสียงที่ได้ยิน มีเพียงแค่เสียงของเด็กสองคน

“ใคร!” หลัวฮว๋ามองออกไปนอกบ้านอย่างเย็นเยือก

“คุณหลัวฮว๋า เป็นยังไงบ้าง”

ชายสองคนสวมสูททางตะวันตกสีดำ ยิ้ม ขณะเดินเข้ามาราวกับกำลัง

กลับบ้าน หนึ่งในนั้นเป็นคนผิวขาว ส่วนอีกคนคล้ายกับชาวอินเดียมาก

ชายชาวอินเดียยิ้ม “อย่าเครียดไป พวกเขาเพียงแค่นอนหลับ ผมไม่ได้ฆ่าพวกเขา”

“ตัวแทนทั้งสอง พวกคุณทำแบบนี้ ผมสงสัยว่าพวกคุณต้องการอะไร?” หลัวฮว๋ากล่าวอย่างเย็นชา

“ไม่มีอะไร เพียงแค่มาเอาสิ่งที่เป็นของนักสู้ระดับดวงดาว และสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถเก็บไว้ได้” ชายชาวอินเดียยิ้ม “อย่ากังวลไป ผมจะไม่ฆ่าใคร…อย่างไรก็ตามผมหวังว่าคุณจะอยู่เฉยๆ ขณะที่คุณสั่งหุ่นยนต์โลหะเหล่านี้ ผมจะจัดการคนเหล่านี้ทันที…”

“บูม!” เขาทำท่าทางที่โอ้อวดพลัง เขาระเบิดพลังจิตวิญญาณ

“สโกเนส ตอนนี้คุณเป็นผู้อ่านจิตวิญญาณคนเดียวในโลก คุณยังต้อง

ทำแบบนี้หรือ?” หลัวฮว๋ากล่าวอย่างเคร่งขรึม เขารู้ว่า ไม่ว่าความเร็วของหุ่นยนต์จะเร็วเท่าไหร่ก็ตาม ความคิดของผู้อ่านจิตวิญญาณย่อมเร็วกว่า

สโกเนส ผู้อ่านจิตวิญญาณอัจฉริยะของอินเดีย นับตั้งแต่หลัวเฟิงและอีสเบอร์นเสียชีวิตไป

สโกเนสซึ่งเพิ่งก้าวผ่านพ้นระดับ เขาเป็นเพียงผู้อ่านจิตวิญญาณระดับดวงดาว เท่านั้น

“มีความจำเป็นอยู่แล้ว” สโกเนสยิ้ม “คุณหลัวฮว๋า ผมเชื่อว่าคุณรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของโลกบ้าง คุณคิดว่า…สมบัติที่หลัวเฟิงทิ้งไว้ให้ครอบครัวของคุณ จะเป็นของพวกคุณเสมอหรือ? นอกจากนี้ เพียงแค่ทิ้งพวกมันไว้ในครอบครัวคุณ ก็นับว่าเสียของแล้ว”

“มูย่าคริสตัล?” สโกเนส ยิ้ม “เขาซ่อนพวกมันในห้องใต้ดินจริงๆ?”

“ว้าว มูย่า คริสตัล 18 ชิ้น? และจิตวิญญาณธรรมชาติ? อื่ม แล้วสิ่งที่มีขนาดใหญ่นั้น? อื่ม สมบัติของหลัวเฟิงมีมากจริงๆ” สโกเนสประหลาดใจมาก

หน้าตาของหลัวฮว๋าย่ำแย่มาก

เขาเข้าใจว่าศัตรูกำลังใช้พลังจิตวิญญาณในการค้นหา

“คุณควบคุมหุ่นยนต์โลหะเหล่านี้ได้อย่างไร?” สโกเนสมองไปที่หลัวฮว๋า

“ไม่มีใครสามารถควบคุมพวกเขาได้” หลัวฮว๋าส่ายหัว “แม้แต่ผมก็ไม่

สามารถทำได้ พี่ชายของผมได้ป้อนคำสั่งให้พวกเขาปกป้องครอบครัวของเรา พวกเขาจะทำตามคำสั่งของเขาเสมอ”

“โอ้!” สโกเนสพยักหน้า เขาเข้าใจ

ทันใดนั้น…

ประตูห้องใต้ดินเปิดโดยอัตโนมัติ กระเป๋าถือลอยขึ้นเขายื่น แขนของ

เขาเพื่อคว้ามัน

“ขอบคุณ!” สโกเนสยิ้มให้ “ผมจะให้คำแนะนำแก่คุณ เมื่อคุณมีพลังอันยิ่งใหญ่ คุณถึงจะสามารถเป็นเจ้าของสมบัติที่มีค่าเช่นนี้ได้ มิฉะนั้น…เช่นเดียวกับหุ่นยนต์พวกนั้น มีพลัง แต่พวกเขาเป็นหุ่นยนต์เพียงทั้งหมด โอ้ แม้ผมจะออกไปหลายร้อยเมตร แต่ผมยังสามารถทำลายชีวิตคนในครอบครัวของคุณได้ทันที”

“ดังนั้นอย่าทา อะไรโง่ๆ”

“เหว่ยนู ไปกันเถอะ” สโกเนส หันหลังเดินออกไป ขณะที่ตัวแทน

เหว่ยนูเดินตามหลัง

หลัวฮว๋าจ้องขณะที่พวกเขาออกไป เขาไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหว

หากเครื่องบินรูปร่างแผ่นดีสบินห่างออกไปอย่างน้อย 300 เมตร แม้เขาจะอยู่บนเครื่องบิน เขาก็ยังสามารถฆ่าครอบครัวหลัวได้ทั้งหมดอย่างง่ายดาย

“ไอ้!”

หลัวฮว๋ายืนอยู่ที่หน้าต่าง ขณะที่มองเครื่องบินบินจากไป สีหน้าของหลัวฮว๋าดูโกรธแค้นมาก

โชคดีที่เขาได้แยก มูย่า คริสตัส จำนวน 60 ชิ้น ออกเป็นหลายส่วนเก็บไว้ในที่ต่างๆ กัน ผลึกทั้ง 18 ชิ้นนี้ ทำให้ตัวแทนทั้งสองตกตะลึง

เนื่องจาก หง และเทพสายฟ้า พวกเขายังมีเพียงคนละ 10 ชิ้นเท่านั้น

“เกิดอะไรขึ้น เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น?”

“มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับผม?”

บอดี้การ์ด พี่เลี้ยง พ่อ แม่ และคนอื่นๆ เริ่มตื่นขึ้นมา หลัวฮว๋า ได้ช่วยพวกเขาและคนอื่นๆ โดยที่เขาไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้น

ไม่มีทางเลย…

หลัวฮว๋ารู้ดีว่า หากเป็นนักสู้ หุ่นยนต์โลหะย่อมสามารถต้านทานพวกเขาได้ในทันที อย่างไรก็ตาม แต่หากเป็นผู้อ่านจิตวิญญาณ และการโจมตีทางจิตวิญญาณของพวกเขา หุ่นยนต์โลหะไม่มีทางที่จะปกป้องได้

เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น บทสนทนาทั้งหมดถูกได้ยินโดยหุ่นยนต์โลหะ

และถูกส่งไปยัง บาบาต้า เป็นเรื่องธรรมดาที่หลัวเฟิงก็รู้เรื่องนี้ด้วย!

“เหว่ยนู? สโกเนส?”

สัตว์ประหลาดกลืนดาราซึ่งยาวกว่า 300 เมตร กำลังนอนอยู่ก้นทะเลลึกลงไปในมหาสมุทร ดวงตาสีทองเข้มเต็มไปด้วยความโกรธแค้น “บาบาต้า คุณบอกว่า ขณะนี้พวกเขากำลังทำงานร่วมกับประธานคนที่ห้าแอทคิน ซึ่งเป็นเต่าขี้ขลาด ในช่วงเหตุการณ์สัตว์ประหลาดกลืนดาราบุก เขาไม่ยอมแสดงตัวออกมาช่วยเหลือ ตอนนี้เขาแสดงความทะเยอทะยานของเขาแล้ว! ผมดูถูกเขามาเกินไป…”

“แอทคิน! สโกเนส!” หลัวเฟิงโกรธมาก

เขาไม่สามารถไปเยี่ยมเยียนคนที่เขารักได้ เขาก็เสียใจมากพออยู่แล้ว

ใครจะคิดว่าแอทคินและพวกอีกสองสามคน เพียงเพราะความโลภของพวกเขา พวกเขากล้าที่จะเอาชีวิตเข้ามาเสี่ยง พวกเขากล้าที่จะรังแกครอบครัวของเขา

ไม่ว่าหลัวเฟิง จะโกรธมากแค่ไหน เขาก็ต้องอดทน! ขณะที่เขารู้สึกว่า

แต่ละวันผ่านไปเหมือนจะใช้เวลาเป็นปี

สุดท้าย…

การเพาะเลี้ยงครั้งแรกประสบความสำเร็จในวันที่ 2 มิถุนายน นั่นคือ

วันที่ร่างกายของ หลัวเฟิง จะฟักตัวออกมา!