ตอนที่ 42 หมูป่าเขาเดียว
“หลัวเฟิง นี่คือการต่อสู้ครั้งแรกของนาย ฉะนั้น อย่าประมาทเด็ดขาด สัตว์ประหลาดพวกนี้มันโหดกว่าพวกที่กองทัพเอาไปให้นายทดสอบนะ” เฉินกู่เตือนอย่างจริงจัง หลัวเฟิงหัวเราะ เขารู้ว่าพี่เฉินเป็นห่วงเขา ในทีมค้อนอัคคีนี้ เขาสนิทกับเฉินกู่และจางเคอ ผู้อยู่ในเขตหมิงเยว่ด้วยกันมากที่สุด
สำหรับหัวหน้าเกาเฟิงและสองพี่น้องเว่ย…
เพราะเขาเป็นน้องใหม่และไม่ค่อยคุ้นเคยกับสามคนนี้ จึงยาก จะได้รับการยอมรับจากพวกเขา
“สู้ๆ หลัวเฟิง ความเร็วและปฏิกิริยาโต้ตอบของนายตอนนี้อยู่ในระดับ ‘นักรบขั้นสูง’ แล้ว พลังของนายก็อยู่ใกล้เคียงระดับนั้นเหมือนกัน เผชิญหน้ากับหมูป่าเขาเดียวตัวนี้คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหานะ” หอกพิฆาตจางเคอกล่าวให้กำลังใจ
ที่เหลืออีกสามคน หัวหน้าเกาเฟิงและสองพี่น้องเว่ยได้แต่มองดูหลัวเฟิงอย่างเงียบๆ
“ชิ้ง!”
หลัวเฟิงดึงดาบปีศาจออกมา เขาถือโล่ด้วยมือซ้ายและถือ ดาบปีศาจด้วยมือขวา เขายิ้ม “หัวหน้า พี่เฉิน คอยดูผมละกันนะครับ” ขณะที่กล่าว หลัวเฟิงก็พุ่งออกไปข้างหน้า
พวกเขามองดูหลัวเฟิง….
“นี่หัวหน้า นายไม่คิดว่าให้หลัวเฟิงซัดกับหมูป่าเขาเดียวระดับ F นั่น มันจะไม่เป็นการคาดหวังกับการต่อสู้ครั้งแรกของเขาไปหน่อยเหรอ?” เฉินกู่อดถามไม่ได้ “ถึงทีมค้อนอัคคีเราควรจะทดสอบเขา เราก็น่าจะล องไปทีละขั้น น่าจะดีกว่านะถ้าเราให้เขาเจอสัตวัประหลาดระดับ G ก่อน”
“ใช่…เราไม่น่าจะรีบเกินไป” จางเคอเอ่ยเช่นกัน
“หัวหน้าตัดสินใจแล้ว ไม่มีปัญหาหรอกน่า” เว่ยเถี่ยคนพี่กล่าวขึ้น “ระดับสมรรถภาพร่างกายของหลัวเฟิงไม่ได้ด้อยไปกว่าสัตว์ประหลาดนั่น แม้ว่าอาจจะยากหน่อย แต่เขาก็น่าจะชนะได้ ด้วยการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น”
“แต่นี่เป็นการตะลุยแดนเถื่อนครั้งแรกของเขานะ” จางเคอไม่ ค่อยมั่นใจ
“ครั้งแรกแล้วยังไง? อย่าทำให้เขาเป็นภาระไปหน่อยเลย อย่าง นี้แล้วเราจะพาเขาไปล่าสัตว์ประหลาดที่แกร่งกว่านี้ได้ยังไง?” เว่ ยชิงขมวดคิ้ว
ในตอนนี้….
บรรดาสมาชิก 5 คนของทีมค้อนอัคคี เฉินกู่กับจางเคอดูจะ เข้าข้างหลัวเฟิงอย่างชัดเจน ในขณะที่สองพี่น้องเว่ยดูจะยังคาใจหลัวเฟิงอยู่
“เลิกเถียงกันได้แล้ว”เกาเฟิงเอ็ดขึ้น
เฉินกู่และคนอื่นๆ เงียบลง
“ดู ดูเขาสู้กับเจ้านั่นก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เกาเฟิงกล่าวเนิบๆ
………
ราวกับเสือจารกัวร์ หลัวเฟิงพุ่งขึ้นไปเหยียบบนรถยนต์คันหนึ่ง ที่นอนหงายห้องอยู่บนถนน จากตรงนี้ เขามองไปที่หมูป่าเขาเดียว ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ขนทุกเส้นของมันเป็นสีดำขลับ แต่ละ เส้นก็ดูราวเข็มเหล็ก และเขาของมันก็ดูไม่ผิดกับใบดาบขนาดใหญ่!
ภายใต้แสงตะวันยามเย็น เขาของมันดูสะท้อนเป็นมันวาว
ถ้าหากหมูป่าขนเหล็กในการทดสอบการต่อสู้จริงครั้งนั้นเป็นเหมือนค้อนยักษ์มหาโหด หมูป่าเขาเดียวตัวนี้…ก็คงจะปราดเปรียวและคงกระพันยิ่งกว่า!
“นี่คือการต่อสู้ครั้งแรกของเรา เราจะต้องทำให้ดีที่สุด
ที่เราได้เข้าร่วมกับทีมค้อนอัคคีก็เพราะ 2 เหตุผล หนึ่งคือ หัวหน้าใหญ่จูเก่อแนะนำ แต่ที่สำคัญกว่านั้น พี่เฉินและพี่จางก็ช่วยด้วย” หลัวเฟิงเข้าใจเรื่องนี้ดี ยากมากที่จะให้เด็กใหม่เข้าร่วมกับทีมหัวกะทิ หัวหน้าเกาเฟิงและสองพี่น้องเว่ยยังข้องใจตนอยู่ ฉะนั้น จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการต่อสู้นี้!
หลัวเฟิงจ้องไปที่หมูป่าเขาเดียวซึ่งกำลังมองหาเหยื่ออยู่เช่นกัน
3 ระดับ H G F แบ่งเป็นสัตว์ประหลาดระดับ ทหารขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นสูง ตามลำดับ ชัดเจนทีเดียวว่าหมูป่าเขาเดียวที่อยู่ ต่อหน้าเขาอยู่เกือบระดับ F
“โฮ่วว…โฮ่วว…”
หมูป่าเขาเดียวคำรามลั่นแล้วมองไปรอบๆ ด้วยสายตาเพชฌฆาต
“มันเห็นเราแล้ว” หลัวเฟิงใจเต้นเร็วขึ้น เขาตื่นเต้นเล็กน้อย
“ตูม!” หมูป่าเขาเดียวพุ่งทะยานเข้ามาหาเขาราวกับรถถังประจันบาน มันพุ่งตรงเข้ามาปะทะ ‘รถฮัมเมอร์หงายท้อง’ ที่อยู่ด้านหน้าหลัวเฟิง หลัวเฟิงหลบอย่างรวดเร็ว ด้วยแรงปะทะ ฮัมเมอร์ คันนั้นกระเด็นกระดอนและม้วนกลิ้งไปหลายตลบบนถนนหลวง ฮัม เมอร์คันใหญ่ที่ตากแดดตากลมมาหลายทศวรรษคันนั้นแยกออกเป็นเสี่ยงๆ ล้อของมันหลุดออกและกลิ้งไปตามถนนอีกระยะหนึ่งจึงหยุดลง
ในจังหวะที่หลบหลีกนั้น หลัวเฟิงก็หันหน้าไปเผชิญกับหมูป่า เขาเดียวตัวมหึมานั่น
“ตายซะเถอะ!” หลัวเฟิงคำราม
ราวกับสายฟ้า เขาพุ่งตรงไปยังหมูป่าเขาเดียวและดาบปีศาจ ในมือของเขาก็ตวัดตรงไปที่คอของมันอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่า พอมันพุ่งปะทะกับฮัมเมอร์แล้วจะไม่มีจังหวะพอให้หลบหลีก แต่ขณะที่หลัวเฟิงจะเข้าประชิดตัวมัน….
“ฟิ้ว”
เงาดำๆ พุ่งตรงมายังหลังศีรษะของหลัวเฟิง
“เร็วมาก” หลัวเฟิงชะงัก ด้วยการก้าวเท้าเพียงนิดเดียว เขา หมุนตัวหลบเงาดำนั้นได้อย่างหวุดหวิด เงาดำนั้นคือหางของหมูป่า เขาเดียวตัวนั้นนั่นเอง ดูแล้วราวกับแส้เหล็ก!
“ฟุบๆ!”
หลังจากที่มันหดหางกลับไป หมูป่าเขาเดียวก็เพิ่มความเร็วขึ้น อีกและพุ่งหะยานตรงมาที่หลัวเฟิง กีบเท้าหยาบแข็งราวกับ เหล็กกล้าและเขาที่คมราวกับใบมีดของมันพุ่งตรงมายังเขาทันที
“บ้าจริง เร็วบรรลัยเลย” หลัวเฟิงก้าวถอยหลังแล้วก็ยกโล่ขึ้น
“ปึ้ง!”
โล่กับกีบเท้าของหมูป่าเขาเดียวปะทะกันอย่างรุนแรง ใน จังหวะที่ปะทะกัน หลัวเฟิงใช้แรงปะทะนั้นส่งตัวให้พุ่งออกไปอีกด้าน แล้วเขาก็กลิ้งต่อไปกับพื้น หมูป่าเขาเดียวหันกลับมารุกไล่เขาอีก หลัวเฟิงม้วนตัวไปทางซากรถบรรทุกที่จอดร้างอยู่ แล้วก็โผเข้าไป อยู่ด้านหลังรถบรรทุกคันนั้น
เพราะมีรถบรรทุกขวางอยู่ การพุ่งชนของหมูป่าเขาเดียวจึง ไม่ได้ส่งผลแต่อย่างใด
………
หลังจากที่ได้เห็นฉากนั้นจากระยะไกล สมาชิกทั้ง 5 คนของ ทีมค้อนอัคคีก็พากันพยักหน้า
“หัวหน้า หลัวเฟิงปฏิกิริยาตอบสนองใช้ใด้ทีเดียว” เฉินกู่พูด
ยิ้มๆ
หัวหน้าเกาเฟิงยิ้มพลางพยักหน้า “เขาใช้ได้ คิดว่าเขาต้อง เจองานหนักเพราะเจอเจ้านี่เป็นงานแรกซะอีก! ไม่คิดว่าปฏิกิริยา ของเขาจะดีขนาดนี้ ทักษะพื้นฐานของเขาดีมากทีเดียว การใช้โล่ ป้องกันก็ทำได้ดี และการเคลื่อนที่ก็พลิ้วไหวดั่งสายนํ้า เจ้าหนูหลัวเฟิงนั่นไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลยจากการเข้าปะทะกับหมูป่าเขาเดียวตัวนั้น! ดี!”
ในที่สุดสีหน้าอันเย็นชาของ 2 พี่น้องเว่ยก็เริ่มจะผ่อนคลายขึ้นบ้าง
“เว่ยเถี่ย เว่ยชิง หลัวเฟิงใช้ได้ใช่ไหม” จางเคอยิ้มให้
“การต่อสู้ยังไม่จบ เรายังบอกไม่ได้หรอก” เว่ยเถี่ยกล่าวเนิบๆ
สมาชิกทั้ง 5 คนของทีมค้อนอัคคียังคงพากันคอยจับตาดูการ ต่อสู้ระหว่างหลัวเฟิงกับหมูป่าเขาเดียวตัวนั้นต่อไป
……….
หลัวเฟิงกำลังเพ่งสมาธิอย่างมาก และคิดในใจว่า “หมูป่าเขา เดียวตัวนี้ร้ายไม่เบา มันตั้งใจทำให้เราคิดว่าเจอจุดอ่อนในตอนแรก แล้วมันก็ใช้หางฟาดโจมตีเราทันที หลังจากนั้นมันก็ยังหัน กลับมาพุ่งทะยานใส่เราด้วยกีบเท้าและเขาเหล็กของมัน ตามการ โผครั้งสุดท้าย เราเลยเอาตัวรอดมาได้โดยไม่บาดเจ็บอะไร โชคดีที่ฝึกวิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ มาเมื่อหลายวันก่อน ถึงควบคุมพลัง ได้เป็นอย่างดี!”
เขาได้ฝึกวิชาดาบสายฟ้า 9 ขั้นในเดือนที่ผ่านมา
ดูเหมือนว่าหลัวเฟิงจำเป็นต้องใช้พลังจิตของเขาช่วยบ้างจึงจะ สามารถจัดการกับหมูป่าเขาเดียวตัวนี้โดยไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ
“โฮ่ว์…” หมูป่าเขาเดียวคำราม มันไม่ได้พุ่งเข้าปะทะกับ รถบรรทุกแบบโง่ๆ แต่มันกลับกระโดดข้ามมาและก็พุ่งตรงเข้าใส่ หลัวเฟิงอย่างรวดเร็ว
“เวรเอ๊ย…นี่แหละเวลาตายของแก!”
หลัวเฟิงเตะยางรถยนต์ที่อยู่ข้างหน้าเขาเต็มแรง ราวกับถูกยิง ออกจากปืนใหญ่ มันพุ่งหะยานตรงเข้าใส่หมูป่าเขาเดียวตัวนั้น มัน ไม่ชะลอลงแต่อย่างใด เพียงแค่ก้มหัวลงเล็กน้อย เขาเหล็กบนหัว ของมันซึ่งคมอย่างไม่มีอะไรเทียบ ขวิดยางรถจนขาดครึ่ง ลอยละ ลิ่วแล้วก็ตกลงกับพื้น
หลัวเฟิงพุ่งตรงเข้าใส่หมูป่าเขาเดียวนั่นหลังจากที่เตะยางรถไปแล้ว
“โฮ่ว์…” พอขวิดยางรถแล้ว หมูป่าเขาเดียวก็หันหัวแล้วทะยาน พุ่งเข้าใส่หลัวเฟิงเช่นกัน
“ตาย!”
ในตอนนั่น หลัวเฟิงเคลื่อนที่พลิ้วไหวราวกับผีเสื้อและก็ขยับ หลบเขาเหล็กมฤตยูนั้นอย่างฉิวเฉียด ขณะที่หมุนตัว ดาบปีศาจ ในมือของหลัวเฟิงก็เฉือนในทันทีด้วยแรงส่งจากการหมุนตัว! ดาบ ปีศาจเพิ่มความเร็วขึ้นอีกในขณะที่เฉือน!
“ฉัวะ!”
ราวกับสายฟ้า ดาบนั้นเฉือนลงไปที่คอของหมูป่าเขาเดียว อย่างแม่นยำ หลัวเฟิงรู้สึกถึงความแข็งแกร่งทนทานของขนเหล็ก บนตัวมัน กระสุนธรรมดาไม่อาจทำอันตรายอะไรมันได้เลย
เลือดสดๆ พุ่งกระฉูดออกมา และหลังจากที่คมดาบของ หลัวเฟิงเฉือนลึกเข้าไปได้ราว 5 เซ็นติเมตรมันก็ไม่สามารถเข้าลึก ไปกว่านั้นได้อีก
“โฮ่ว์…” หมูป่าเขาเดียวคำรามอย่างบ้าคลั่ง แล้วก็หันหัวมา ขวิดเข้าใส่หลัวเฟิง อาการบาดเจ็บของมันยิ่งทำให้มันดุร้ายขึ้นไปอีก!
………
“อะไรกัน!”
“เทคนิคการเคลื่อนที่แบบนี้!”
สีหน้าของ 2 พี่น้องเว่ยตกใจสุดๆ
“หลบเขาของเจ้านั่นได้อย่างเนียนตา!” เว่ยเถี่ยคนพี่ถึงกับ อุทานออกมา “เหลือเชื่อ แล้วเขายังกล้าหมุนตัวแบบนั้นต่อหน้าเจ้านั่นอีก เขาไม่กลัวถูกเขามันขวิดเอาหรือยังไงกัน? เหลือเชื่อ… นี่เขาโชคดี หรือเก่งจริงๆ กันแน่?”
การหมุนตัวดูเหมือนง่าย แต่มันก็แสดงถึงเทคนิคที่น่าอัศจรรย์ ของหลัวเฟิง
“ดี!”
“สวยงาม!” เฉินกู่และจางเคออดชื่นชมออกมาไม่ได้
“เจ้าหนูนั่นเก่งจริงๆ” เกาเฟิงหัวเราะ “ในสถานการณ์ที่ อันตรายแบบนี้ เขากล้าทำแบบนั้นและก็ทำสำเร็จซะด้วย เทคนิค ของเขาไม่ธรรมดา! จังหวะก็ดีทีเดียว แต่ว่า….หมูตัวนั้นก็ตายยาก ไม่ใช่เล่น การฆ่าเจ้านั่นไม่ใช่งานง่ายๆ เลย”
สมาชิกในทีมค้อนอัคคีรวมถึงสองพี่น้องเว่ยด้วยต่างก็ยิ้มออกมา ทั้งหมดพากันจับตาดูการต่อสู้ระหว่างหลัวเฟิงกับหมูป่าตัวนั้นต่อไป!