ตอนที่ 450 ผู้นำของปฐมนครแห่งความโกลาหล
“เวส เค้าเพิ่งเข้ามาในเมืองได้ไม่กี่วัน แต่เค้ากล้าลงมือกับลิโบจริงๆ?”
“การต่อสู้กันในเมือง สงสัยพวกนี้อยากจะตาย?”
ภายในเมืองเต็มไปด้วยพลังงานที่ปั่นป่วน บนระเบียงของอาคารหลายๆ แห่งมีนักสู้นั่งเข้าญาณอยู่ ขณะนี้พวกเขาทั้งหมดลืมตามองไปยังสองคนที่อยู่ห่างไกล
เสียงคำรามของวัวยักษ์ดังก้อง ดวงตาสีแดงเพลิง เขาโหมกระหน่ำโจมตีด้วยขวานขนาดใหญ่ที่น่าสะพรึง คู่ต่อสู้ของเขาพยายามหลบหนีพร้อมสะบัดทวนสายฟ้าเข้าป้องกัน
พื้นที่รอบๆ เริ่มแตกสลาย พลังงานความสับสนเริ่มกระจายเป็นระลอกคลื่น
ในหอคอย ที่พักอาศัยของเจ้าเมือง
หลัวเฟิงและกลุ่มของเขากำลังหน้าซีด พวกเขาเป็นเหมือนมด และทั้งสองคนที่กำลังต่อสู้อยู่ที่ห่างไกลเป็นดั่งเทพ
“ทั้งสองคนนั้น…” หลัวเฟิงฝืนลืมตากว้างขึ้น เขามองไปใน
ระยะไกล พื้นที่ระยะไกลนั้นกำลังแตกสลาย “พวกเขาแข็งแกร่ง
เกินไป ระดับอมตะนี้น่ากลัวจริงๆ”
ระดับอมตะส่วนใหญ่ที่เขาพบ อยู่ในจักรวาลเสมือน แม้แต่คนที่เขาพบในความเป็นจริงก็ควบคุมออร่าของพวกเขาตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นความโกรธเกรี้ยวและเหี้ยมโหดของระดับอมตะ เพียงแค่คลื่นก็ทำให้พื้นที่ในจักรวาลเริ่มแตกสลาย
“ด้วยกำลังเพียงอย่างเดียว เขาสามารถทำลายอวกาศได้?” หลัวเฟิงมองไปที่งูสายฟ้าที่พรั่งพรูออกมาในอากาศ “สายฟ้านั้นเจาะทะลุออกไปนับสิบล้านกิโลเมตร”
การทำลายดาวเคราะห์ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ สำหรับระดับอมตะ
ในที่สุด หลัวเฟิงก็เข้าใจ
เสียงคำรามของความโกรธดังสะท้อนภายในเมือง จู่ๆ แผ่นดินและ
ท้องฟ้าก็ปกคลุมด้วยความมืดอย่างสมบูรณ์
หลัวเฟิงรู้สึกตกใจ เขารับรู้ได้ว่ารอยแยกในอวกาศถูกปิดจากพลังงานกฎต้นกำเนิด แม้กระทั่งพลังงานแห่งความสับสน ทั้งหมดนี้หยุดนิ่งไปพร้อมกัน
นักสู้ทั้งสอง ในระยะไกลก็หยุดนิ่งไปด้วย
ด้านบนของพวกเขา พลังงานแห่งความสับสนกลายเป็นมือขนาดยักษ์เท่าภูเขา
พลังงานแห่งความสับสนนี้กระแทกลงมาเหมือนกับมือที่ทุบลงมาจาก
สวรรค์
ระดับอมตะทั้งสอง ต่างก็ตกใจและกลัวสิ่งที่เขาเห็น เวสและลิโบ ทั้ง
สองชื่อนี้มีชื่อเสียงมากในจักรวรรดิทั้ง 1,008 แห่ง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาถูกทำให้เป็นผงทันที เหมือนกระแทกใส่เต้าหู้ นักสู้ทรงพลังภายในเมืองลืมตาค้าง
พวกเขาทั้งคู่ไม่ใช่แค่เป็นผง แม้แต่วิญญาณก็กลายเป็นฝุ่น
ในอวกาศที่ห่างออกไป ฝุ่นละอองเริ่มรวมกันอีกครั้ง สร้างเป็นร่าง
มนุษย์ 2 คน หนึ่งเป็นวัวขนาดใหญ่ อีกหนึ่งกลายเป็นชายร่างผอม
ล้อมรอบด้วยสายฟ้า ใบหน้าของทั้งคู่จืดจาง ชายร่างผอมตะโกน
ออกไป “ท่านเจ้าเมือง มันเป็นเพราะเวสต้องการจะฆ่าผม ผมบริสุทธิ์”
“ถึงข้าจะเกลียด แต่ก็ไม่สามารถฆ่าเจ้าได้” มนุษย์หัววัวตาแดงจ้องไปที่คนรูปร่างผอม
“ไอ้โง่” ชายร่างผอมหัวเราะอย่างเย็นชา เหลีอบมองไปที่มนุษย์วัว
“อ๊า” มนุษย์วัวร้องด้วยความโกรธ
ด้วยการกระทำของเจ้าเมืองจากระยะห่างราว 1 แสนกิโลเมตร เขาสร้างพลังงานแห่งความสับสนเป็นมือ เข้าโจมตี ทำให้ระดับอมตะทั้งสองไม่อาจมีชีวิตรอด และไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้กลับ ระดับการควบคุมการโจมตีนี้…ช่างน่ากลัว
“ทีมบังคับ ใช้กฎที่ 3 เตะทั้งคู่ออกจากจักรวาลปฐมกาล เวสจะถูกขัง
อยู่ในคุกอาณาเขตดวงดาวที่ 9 ลิโบจะถูกขังอยู่ในคุกอาณาเขตดวงดาวที่ 2” เสียงต่ำเหมือนผสมเข้ากับโลหะบางอย่างดังก้องไปทั่วจักรวาลปฐมกาล
“ครับท่าน”
การตอบรับดังสะท้อนบนอากาศเหนือเมือง
5 แสงสีแดงเลือดพุ่งเข้ามาในทันที ทีมบังคับใช้กฎเข้ามาควบคุมระดับอมตะทั้งสอง โดยที่พวกเขาไม่ได้ต่อต้านเลยแม้แต่น้อย
และตามเข้ายานอวกาศสีแดงเลือด
ภายในยานอวกาศสีเลือด
“เวส ถือว่าเจ้าโชคดี เวลานี้เจ้ายังไม่ได้ฆ่าใคร ถ้าเจ้าฆ่าใครบางคน
ตาย เจ้าจะไม่ถูกขังคุก” ผู้บังคับใช้กฎระดับอมตะส่ายหัว
“ฮึ่ม” มนุษย์วัวคำรามเบาๆ เขาดิ้นรนจ้องมองชายร่างผอมที่อยู่ห่างออกไป “ข้าเกลียด แต่ข้าก็ยังไม่ได้ฆ่าลิโบ ดังนั้นถ้าเจ้าซ่อนอยู่ภายในปฐมนครแห่งความโกลาหล ข้าจะกลับมาฆ่าเจ้า”
“ไอ้โง่ แม้ว่าเจ้าจะเข้ามาก็ไม่สามารถฆ่าข้าได้ คราวนี้ข้าได้เข้าคุกที่ 2 และเจ้าเข้าคุกที่ 9 ฮ่า ฮ่า ข้าจะรอดูเจ้าตาย” ลิโบหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ตาย? ข้าจะตายก็ต่อเมื่อได้ฆ่าเจ้า” มนุษย์หัววัวดูเหมือนต้องการจะ
กลืนศัตรูของเขา
“เจ้าได้รับบาดเจ็บรุนแรง และเจ้าไม่สามารถฟื้นฟูพลังได้ภายใน 100 ปี ยังมีหน้ามาอาละวาดหรือคลุ้มคลั่ง”
“เงียบ”
5 ผู้บังคับกฎ คำรามพร้อมเพียงกัน มนุษย์หัววัวและชายร่างผอมเลิก
ทะเลาะกันทันที
ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างเร็ว ทำให้กลุ่มวัยรุ่นในหอคอยทั้งหมด
มึนงง หนึ่งหมื่นนักสู้ภายในเมืองก็กลับไปสู่ความสงบ มีเพียงไม่กี่คนที่ใกล้ชิดหรือสนิทกับเวสและลิโบ ต่างก็เริ่มพูดคุยกัน แล้วหลายคนก็เริ่มฝึกฝนต่อ
ระดับอมตะที่เข้ามาในตำแหน่งที่ว่างอยู่ก็ตกใจเป็นอันมาก
“พวกเขากลายเป็นฝุ่น แต่พวกเขาก็ยังมีชีวิตอยู่”
“ผมกล้ารับประกัน วิญญาณทั้งคู่ได้ตายไปแล้ว”
“คุณรู้อะไร ระดับอมตะทั้งสองถึงขั้นร่างกายไม่มีวันตาย ทุกเซลล์ใน
ร่างกายของเขาผสมเข้ากับความทรงจำและจิต แม้วิญญาณของพวกเขาถูกทำลายกลายเป็นขี้เถ้า ตราบเท่าหนึ่งเซลล์ยังคงอยู่พวกเขาสามารถดูดซับพลังงาน และฟื้นฟูร่างกายพวกเขา”
“ร่างที่ไม่มีวันตาย?”
“แม้ในหมู่ระดับอมตะ มีจำนวนน้อยมากที่จะก้าวไปถึงระดับนี้ได้”
“ระดับอมตะทั้งสองคนนี้ เจ้าเมืองลงมือเพียงครั้งเดียว…เขาช่างน่า
กลัวจริงๆ เขาไม่ได้ลงมือด้วยตัวเอง ใช้เพียงความคิดพื้นที่จักรวาล
ทั้งหมดก็หยุดเคลื่อนไหว แม้กระทั่งรอยแยกในอวกาศและกฎต้น
กำเนิดทั้งหมดก็หยุดนิ่ง”
กลุ่มอัจฉริยะกำลังพูดถึงการอาละวาดที่เกิดขึ้น
ทั้งกลุ่มกำลังตกใจและตื่นเต้น โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของเจ้าเมืองที่ควบคุมทั้งอวกาศแล้วทั้งเมืองโดยไม่เปิดเผยตัว
ตกลงแล้วมันใหญ่แค่ไหน?
ทั้งหมดของกฎจักรวาลและเมืองหยุดการเคลื่อนไหว ทุกการดำรงอยู่ถูกแช่แข็ง นี่มันระดับไหน? มันเป็นเหมือนสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ
“เจ้าเมือง ปฐมนครแห่งความโกลาหล ต้องมีตำแหน่งสูงยิ่งกว่า
จักรวรรดิทั้งหมดในจักรวาล การดำรงอยู่ของเขาสมบูรณ์ เพียงแค่
ความคิดของเขา เขาสามารถควบคุมพื้นที่จักรวาล และหยุดการ
เคลื่อนไหวของมัน” หลัวเฟิงตะลึงอย่างมาก เขารู้สึกว่าเจ้าเมืองเป็น
เหมือนเจ้านายของจักรวาล
“ชิ ข้าเคยตามอาจารย์ของคุณมากกว่า 60 ล้านปี แต่ข้าไม่เคยเห็น
สิ่งมีชีวิตที่มีพลังและโหดเหี้ยมเช่นนี้เลย” เสียงของบาบาต้าดังขึ้นใน
ใจ “ข้าเคยเห็นผู้นำ จักรวรรดิมาแล้ว ข้าคิดว่าพวกเขาน่ากลัวมาก พวกเขาสามารถควบคุมพลังโจมตีในพื้นที่ที่ถูกทำลาย หรือสามารถทำให้บาดเจ็บได้ แต่มันยังคงอ่อนแอเกินไป ถ้าเทียบกับการโจมตีของเจ้าเมืองปฐมนครแห่งความโกลาหล เจ้าเมืองคนนี้ต้องเป็นจุดสูงสุดของการดำรงอยู่ ข้ารู้สึกเหมือนกันว่าเจ้านายแห่งจักรวาลนี้ต้องเป็นเขา”
“อืม” หลัวเฟิงพยักหน้า
ความรู้สึกที่ได้รับจากเจ้าเมืองนี้ เหมือนเขาเป็นผู้นำ จักรวาล
“จักรวาลปฐมกาล มีเพียงปฐมนครแห่งความโกลาหลเท่านั้น”
“มันเก่าแก่กว่าจักรวรรดิทั้งหลาย เจ้าเมืองนี้เป็นจุดสุดยอดที่แท้จริง
ของจักรวาลอันกว้างใหญ่” หลัวเฟิงกลั้นลมหายใจ เขามีความมั่นใจที่จะกลายเป็นระดับอมตะหรือแม้กระทั่งผู้นำ จักรวรรดิได้ไม่ว่าอะไรจะ
เกิดขึ้น เขาเห็นและรู้สึกถึงความฝันของเขาได้
เปิดจักรวรรดิ แล้วเป็นผู้นำ จักรวรรดิในจักรวาล ปกครองไปอีกนับล้านๆ ปี
นั่นเป็นเป้าหมายที่สูงดังสวรรค์แล้ว
ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ในจักรวาล ต้องใช้เวลานับล้านล้านปี ที่จะมีผู้นำ จักรวรรดิปรากฎ
“ผู้นำ จักรวรรดิ มีอายุนับล้านล้านปี พวกเขาทั้งหมดเป็นการดำรงอยู่ที่ไม่น่าเชื่อ แม้ช่วงชีวิตอาจารย์ของคุณ ยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับผู้นำ
จักรวรรดิเกิดใหม่เลย”
“กระทั่งแข็งแกร่งกว่าผู้นำ จักรวรรดิ? โอ้พระเจ้า” บาบาต้าพยายามคิด
กลุ่มหลัวเฟิงยืนอยู่ในหอคอย เฝ้ามองรอยแยกในอวกาศบนท้องฟ้า รอยแยกเหล่านี้มีเส้นใยกฎต้นกำเนิดระหว่างกัน การเฝ้าดูพวกมันทำให้พวกเขารู้สึกถึงกฎต้นกำเนิด พวกมันเป็นคลื่นพลังประหลาดที่ผสมเข้าด้วยกัน
พวกเขาเป็นอัจฉริยะที่ก้าวผ่านกฎต้นกำเนิด นับเป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาสามารถดูดซับได้ ถ้าเป็นนักสู้หรือผู้อ่านจิตวิญญาณที่ไม่ได้เข้าใจกฎต้นกำเนิด พวกเขาเพียงแต่ตกตะลึงกับฉากตรงหน้าพวกเขา
พวกเขาได้รับการกระตุ้น
“…หลัวเฟิง… พวกคุณทั้ง 12 คนตามผมมา เข้าห้องจารึก 9 จักรวาล” ผู้ต้อนรับมาที่ปราสาทและเรียกชื่อทั้ง 12 คน
หลัวเฟิงกำลังยืนอยู่ หลับตาและฝังตัวเองในการฝึกฝน หลัวเฟิงถูกปลุกให้ตื่นโดยบาบาต้า
จากนั้นเขาก็ตามอัจฉริยะอีก 11 คน ที่เลือกจารึก 9 จักรวาล พวกเขาทั้งหมดเดินตามผู้ต้อนรับชุดดา เพื่อไปเข้าห้องฝึกฝน