Skip to content

Swallowed Star 50

ตอนที่ 50 มีดบินกระหายเลือด

เดิมทีรู้สึกว่าต้องตายกันหมดแน่คราวนี้ การแยกย้ายและวิ่ง หนีเป็นเพียงความหวังเล็กๆ เท่านั้น แต่ทว่า พอเกาเฟิงและคนอื่นๆ เห็นมีดบิน 6 เล่มนั้นกำลังบินฉวัดเฉวียนอยู่รอบๆ หลัวเฟิงแล้ว ทุก คนก็ตะลึงงันอย่างสมบูรณ์

เฉินกู่กระทั่งขยี้ตาถึง 2 ครั้งเพื่อความแน่ใจ…มีดบินพวกนั้น ลอยอยู่จริงๆ ไม่มีอะไรผูกติดแต่อย่างใด!

“นักอ่านจิต!”

“แยกอากาศควบคุมสิ่งของ!”

“หลัวเฟิงเป็นนักอ่านจิตเหรอ?”

ความคิดเหล่านี้ตีกันอยู่ในหัวของพวกเกาเฟิง แล้วพวกเขาก็ พากันฮือฮาขึ้นมาด้วยสีหน้าแดงก่ำ เกาเฟิงตะโกนสั่ง “ฟังหลัวเฟิง ทำตามเขา!”

“ครืนน…” ฝูงสัตว์ประหลาดอันบ้าคลั่งกำลังพุ่งตรงมายังพวกเขา พื้นคอนกรีตสะเทือนเลื่อนลั่นจนแยกออกจากกัน ตึกที่อยู่ข้างๆ ถนนก็พลอยสะเทือนไปตามๆ กัน เหมือนดั่งสุภาษิตโบราณ ที่กล่าวไว้ว่า ‘หมื่นม้าวิ่งห้อ’ แต่ทว่าสัตว์ประหลาดทุกตัวที่นี่ทั้ง แข็งแรงและใหญ่ยักษ์มากกว่าม้าศึกสักสิบเท่าร้อยเท่าก็ไม่ปาน พวกมันนับพันตัวที่กำลังห้อตะบึงน่ากลัวยิ่งกว่าม้าศึกนับหมื่นตัว มากมายนัก

“ไปทางซ้าย!” หลัวเฟิงตะโกน

ทุกคนรีบเลี้ยวซ้ายตามหลัวเฟิงไปทันที เว่ยชิงยังคงแบกจาง เคอตามมาด้วยอย่างทรหด

“โฮก…”

“โฮ่ว์…”

กลิ่นสาบของสัตว์ประหลาดโชยมาอย่างช้าๆ เพราะว่าพวก เขาเลี้ยวซ้ายแทนที่จะวิ่งหนีเตลิดไป หลัวเฟิงแสะทีมของเขาวิ่งเข้าไปในฝูงของสัตว์ประหลาดที่วิ่งไล่กวดมา กลิ่นสาบของพวกมันเหม็นติดจมูก ในตอนนั้น หลัวเฟิงขบกรามแน่นแสะมองอย่างเยือกเย็น จากนั้นมีดบินทั้ง 6 เล่มที่กำลังบินวนรอบตัวเขาในรัศมี 10 เมตรก็เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว!

วูบๆๆๆ!

มีดบินทั้ง 6 เล่มเคลื่อนที่ราวกับภาพลวงตา

“ฟิ้ว!”

มีดบินพุ่งตรงไปยังหมาสิงโตตัวหนึ่งที่กำลังพุ่งตรงเข้ามา มันพุ่งตรงหะลุหัวของสัตว์ประหลาด มันสมองพุ่งกระฉูดออกมาตามแรงมีด มีดบินที่อยู่ภายใต้อำนาจพลังจิตพุ่งใส่กะโหลกตัวอื่นๆ ต่อไปอีกด้วย ความเร็วอันน่าอัศจรรย์!

มีดบิน 6 เล่ม! ชั่วพริบตาเดียว สัตว์ประหลาด 30 กว่าตัวที่อยู่ ใกล้หลัวเฟิงที่สุดล้มตายลงอย่างรวดเร็ว!

เลือดสดๆ แสะมันสมองพุ่งกระจายเต็มไปหมด

“โฮ่ว์…”

ครืนน.. ภายใต้เสียงร้องโหยหวนของพวกสัตว์ประหลาด เห็นเพียงสัตว์ประหลาด 30 กว่าตัวที่วิ่งไล่กวดมาล้มลงไปทันที จากนั้นมันก็ไถลไปตามพื้นอีกนับสิบเมตร เบื้องหลังของทีมค้อน อัคคีมีซากสัตว์ประหลาดกองเป็นพะเนินเทินทึก

เกาเฟิง เฉินกู่ สองพี่น้องเว่ยและจางเคอที่ใบหน้าซีดขาวต่างก็ ตะลึงงันกันไป

พวกเขารู้ว่านักอ่านจิตแข็งแกร่งมาก…แต่นี่มันวิปริตเกินไปแล้วมั้ง!

ฟิ้วๆๆ

มีดบินทั้ง 6 เล่มโฉบบินราวกับภาพลวงตา มันพุ่งทะลุหัว กะโหลกพวกสัตว์ประหลาดในรัศมี 20 เมตรอย่างแม่นยำ พลัง ควบคุมนั้นแม่นยำมากจนน่าตกใจมาก!

“เรากำลังใช้พลังจิตสิ้นเปลืองมาก” หลัวเฟิงแอบตกใจ ทุกครั้ง ที่มีดบินพุ่งทะลุหัวกะโหลกของพวกสัตว์ประหลาด เขาก็สิ้นเปลือง พลังไปเล็กน้อยทุกครั้ง หัวกะโหลกของพวกสัตว์ประหลาดแข็งยิ่ง กว่าหินทั่วๆ ไป ตอนนี้เขาฆ่าสัตว์ประหลาดไปแล้วราวๆ 50 ตัว ภายในอึดใจเดียว ดังนั้น พลังจิตของเขาจึงสิ้นเปลืองไปแล้วอย่าง มหาศาล

เฉินกู่ซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของหลัวเฟิงตะโกนออกมาอย่างไม่ เชื่อสายตา “บ้าไปแล้ว นักอ่านจิตนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ต่อให้สัตว์ ประหลาดเป็นพันเขาก็คงฆ่าจนเกลี้ยงแน่!”

“อย่ามัวเสียเวลา สถานการณ์แบบนี้จะดึงดูดสัตว์ประหลาดมา เพิ่มอีก! ตอนนี้มันอาจจะมีเป็นพัน แต่เดี๋ยวก็มาเป็นห้าพัน เดี๋ยวก็เป็นหมื่น และอาจจะมีพวกระดับบัญชาการปะปนมาด้วย! นายคิด ว่านักอ่านจิตจะฆ่าพวกมันได้ยังไง? หรือนายคิดว่านักอ่านจิตไม่ จำเป็นต้องเสียพลังจิตในการฆ่าสัตว์ประหลาด?” เกาเฟิงหัวเราะ พลางตำหนิ

ทีมต้อนอัคคียังมีอารมณ์คุยกันทั้งๆ ที่กำลังถูกโจมตีจากฝูง สัตว์ประหลาด

สามารถจินตนาการได้ว่า….เกาเฟิงและคนอื่นๆ ไม่มีความ กดดันอีกต่อไปแล้ว เพราะพวกสัตว์ประหลาดที่พากันหลั่งไหลเข้า มาต่างก็ถูกจัดการโดยมีดบินที่กำลังเต้นระบำอยู่นั่น

“ข้ามกำแพง” หลัวเฟิงสั่งการ

ทีมค้อนอัคคีรุดมาถึงกำแพงที่อยู่ด้านหน้า และทุกคนก็พากันโดดข้ามไปทีละคน แม้ว่าพวกสัตว์ประหลาดจะล้มตายกันไปจำนวนหนึ่งแล้ว พวกตัวที่เหลือก็ไม่ได้หวาดกลัวแต่อย่างใด พวก มันยังคงดาหน้าเข้ามาไม่หยุดหย่อน แต่อย่างไรก็ตามพวกที่เข้ามา ในรัศมีต่างก็โดนมีดบินของหลัวเฟิงเสียบหัวหะลุทุกตัวไป!

ต้องรู้ไว้ว่า….

ระดับสมรรถภาพร่างกายของหลัวเฟิงในตอนนี้แตะถึงระดับ ‘นักสู้ขั้นสูง’ แล้ว เพราะพลังจิตจะยกระดับขึ้นอีก 2 ขั้น เพราะงั้น พลังจิตเขาจึงถึงระดับ ‘นักรบขั้นกลาง’ แล้ว นักอ่านจิตเป็น สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุดในบรรดาเหล่านักสู้ พวกเขาสามารถไต่ระดับสมรรถนะขึ้นไปได้อย่างง่ายดาย

ด้วยพลังจิต หลัวเฟิงสามารถสังหารพวกสัตว์ประหลาดได้จาก ระยะไกลด้วยมีดบินของเขา!

แต่เพื่อให้มีดบินใช้พลังได้อย่างเต็มที่ ตอนนี้หลัวเฟิงสามารถ ใช้มันได้เพียง 2 เล่มเท่านั้น! ถ้าเพิ่มจำนวนมีดบิน พลังของมันก็จะลดลง อันที่จริงในทางเทคนิคเขาสามารถใช้มีดบินได้ถึงคราวละร้อยเล่ม แต่ทว่าไม่เพียงแต่จะทำให้พลังมีดลดลง ความแม่นยำของมีดก็จะลดลงด้วย

มีดบิน 6 เล่ม หลัวเฟิงสามารถแน่ใจได้ว่าจะสามารถจัดการ กับสัตว์ประหลาดระดับ ‘บัญชาการขั้นต่ำ’ ได้ แสะความแม่นยำก็ พอวางใจได้ด้วย

มีดบิน 2 เล่ม หลัวเฟิงสามารถแน่ใจได้ว่าจะใช้พลังได้อย่างเต็มพิกัด แสะสามารถจัดการกับสัตว์ประหลาดระดับ ‘บัญชาการขั้นกลาง’ ได้

“ครืนนน…” เหล่าสัตว์ประหลาดที่บ้าคลั่งพากันดาหน้าเข้ามา ที่กำแพง

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

พวกสัตว์ประหลาดที่เข้าใกล้ทีมถูกฆ่าทันที เลือดและมันสมอง ของพวกมันกระจัดกระจาย ซากศพของพวกมันที่กองกันอยู่ทำให้ พวกที่วิ่งตามมาโกลาหลไปหมด ทีมค้อนอัคคีสลัดหลุดออกมา จากฝูงสัตว์ประหลาดได้เล็กน้อยแล้วก็เลี้ยวเข้าไปในตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่ง

……..

ในตอนนี้ พวกทีมเขี้ยวพยัคฆ์วิ่งหนีกันไปไกลแล้ว เนื่องจาก ทีมค้อนอัคคีดึงดูดฝูงสัตว์ส่วนใหญ่ไปแล้ว ในเส้นทางหนีของพวก เขาจึงแทบไม่มีสัตว์ประหลาดเลย พวกเขาสามารถหนีไปได้โดยไม่ มีอุปสรรค ขณะที่ล่วงเข้าสู่เขตพื้นที่ใหม่ที่มีสัตว์ประหลาดมากขึ้น ทีมเขี้ยวพยัคฆ์ก็ลดความเร็วลง และกลับมาเคลื่อนที่อย่าง ระมัดระวังกันอีกครั้งหนึ่ง

“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกมันไม่ตายเลยซักคนเดียว?” หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์ขมวดคิ้วถาม

“หัวหน้า ผมยิงใส่หัวหน้าเกาเฟิงไปแล้ว แต่เกาเฟิงนั่นกำลังนั่ง ถลกหนังซากสัตว์ประหลาดอยู่ ตัวของเขาเลยขยับไปมา กระสุนก็ เลยเฉี่ยวเขาไปถูกสมาชิกอีกคนแทน แขนของเจ้านั่นฉีกขาดกระจายทันที แต่ผมไม่แน่ใจว่าเขาตายหรือเปล่า” อาเสี่ยวร่างผอมกล่าว

“เกาเฟิงมันโชคดี”

จางเจ๋อหู่ขมวดคิ้วขณะที่มองไปยังคนอื่นๆ “ตงจื่อ ฉันบอกให้ นายฆ่าหลัวเฟิง ทำไมเขาถึงไม่ตาย?”

ด้วยระยะที่ไกลและความเร็วของกระสุน มีแต่มือสไนเปอร์เท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกับเป้าหมาย

“หลัวเฟิงนั่น….” มือสไนเปอร์นาม ‘ตงจื่อ’ ออกอาการลังเล แล้วก็เอ่ยขึ้นว่า “เขาก็โชคดีมากเหมือนกัน ตอนที่ฉันปล่อยกระสุนออกไป เขากำลังปาดหนังสัตว์ประหลาดอยู่ และจังหวะ นั้นเองดาบของเขาก็เหวี่ยงมาปะทะกับกระสุนที่กำลังพุ่งไปพอดี”

อาตงคนนี้สามารถบอกได้เท่านี้ เพราะเขาไม่คิดว่าปฏิกิริยา โต้ตอบของหลัวเฟิงจะเร็วพอที่จะเหวี่ยงดาบตัดกระสุนได้

ดังนั้น เขาเลยอธิบายว่าเป็นแค่เรื่องโชคดี!

เพราะว่าจำเป็นจะต้องควบคุมดาบได้อย่างบ้าคลั่งและมีสายตา ที่มหัศจรรย์มากถึงจะสามารถใช้ดาบตัดกระสุนเจาะเกราะได้

“เวรเอ๊ย หลัวเฟิงมันก็โชคดีเหรอเนี่ย” จางเจ๋อหู่สบถสาปแช่ง

“ไม่ต้องห่วงหรอก” มือสไนเปอร์ ‘ตงจื่อ’ หัวเราะ “พวกเราสาด กระสุน 4 นัดใส่ฝูงสัตว์ประหลาดก่อนหน้านี้ และก็มีคนแค่กลุ่มเดียวเท่านั้นที่พวกมันมองเห็นนั่นก็คือ ‘ทีมค้อนอัคคี’ สัตว์ประหลาดนับพันๆ ตัวล้อมพวกเขา ไม่ว่าพวกเขาจะเก่งซักแค่ไหน งานนี้ฉันว่าไม่รอดแน่!”

“ไม่!”

หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์ส่ายหน้า “ไม่แน่นัก ถ้าทีมค้อนอัคคีวิ่ง แยกย้ายกัน อาจมีซักคนหรือสองคนที่รอดไปได้!” ขณะที่กล่าว หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์ก็ยิ้มออกมา “แน่นอน คนที่เหลือคนสองคน นั่นมันจะไม่กล้ามาแหยมกับเราอีก”

“หัวหน้า พวกมันอาจไปพบกับนักรบระดับเทพสงครามที่สามารถช่วยพวกมันโดยบังเอิญก็ได้” ชาวยวัยกลางคนตาเดียวกล่าว

“ในเมืองแบบนี้ มีโอกาสน้อยมากที่จะพบกับเทพสงคราม… และโน้มน้าวให้พวกเขาช่วยเหลือได้ โอกาสแบบนั้นยากกว่าการ ถูกล็อตเตอรี่เสียอีก” หัวหน้าทีมเขี้ยวพยัคฆ์ยิ้มกริ่ม “เอาล่ะ ไปกัน

เถอะ เจ้าตัวนั้นมันยังเคลื่อนไหวอยู่ เพราะงั้น เราควรตามมันไปให้ ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้”

“ครับ”

ทีมเขี้ยวพยัคฆ์เคลื่อนที่ต่อไปอย่างรวดเร็ว

……..

หลัวเฟิงกับคนอื่นๆ ในทีมวิ่งหน้าตั้งกันขึ้นไปบนดาดฟ้าของอ พาร์ทเมนต์ขนาด 6 ชั้นแห่งหนึ่ง

“ปึง!” ประตูเชื่อมระหว่างดาดฟ้ากับบันไดถูกปิดอย่างแน่น

สนิท

“เร็วเข้า เอาสหายจางนอนลง” เฉินกู่สั่ง

“เอายามา” เกาเฟิงสั่งลิ้นพันกัน

ด้วยอาการบาดเจ็บของจางเคอ เขาสามารถตายได้จากการ เสียเสือด โชคดีที่พวกเขาหยุดเลือดเอาไว้ได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บขนาดนี้จำเป็นจะต้องได้รับการปฐมพยาบาลก่อน… เพราะว่าจากเมืองหมายเลข 0201 นี้ต้องใช้เวลาเดินถึง 3 วันกว่า จะถึงฐานเติมเสบียง

และการวิ่งไปบนถนนเป็นเวลาถึง 3 วัน! ด้วยสภาพของจาง เคอขณะนี้ ไม่มีทางที่เขาจะรับมือไหวแน่

“สหายจาง อมนี่ไว้มันจะช่วยฟื้นพลัง” เฉินกู่หยิบเม็ดยาใส่ ปากจางเคอ

“เว่ยเถี่ย ตรวจแผลเขาให้ละเอียดที” เกาเฟิงสั่งการทันที

ทุกขณะที่ทีมค้อนอัคคีกำลังรักษาอาการบาดเจ็บของจางเคอ สีหน้าอันซีดเผือดของจางเคอก็ดูจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ การรักษาดำเนินไป สมาชิกทั้งหมดก็เริ่มผ่อนคลายขึ้นได้บ้าง

“ค่อยยังชั่ว…” หลัวเฟิงลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ขณะที่ มองดูสีหน้าอันซีดเซียวของจางเคอ โดยเฉพาะแขนขวาที่ขาดด้วนของเขาก็ทำให้หลัวเฟิงอดรู้สึกผิดไม่ได้ “จางเคอคงใช้หอกคู่ใจไม่ได้อีกแล้ว อาชีพนักสู้ของเขาคงต้องจบลงแค่นี้!” หลัวเฟิงรู้สึกว่ามีโอกาสถึง 80-90% ที่ทีมเขี้ยวพยัคฆ์ทำแบบนี้ก็เพราะเขาเป็นต้นเหตุ

ขณะที่ยิ่งมองดูจางเคอ ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นไปอีก

“ทีมเขี้ยวพยัคฆ์! จางเจ๋อหู่!” หัวใจของหลัวเฟิงเต้นราวกับไฟเผา “ฉัน หลัวเฟิง ขอสาบานว่าจะแหวกอกพวกแกเพื่อให้สาสมกับ สิ่งที่พวกแกทำ!!!”

“ทีมเขี้ยวพยัคฆ์ไอ้พวกสวะ พวกมันต้องการทำลายพวกเราทั้งทีม” เฉินกู่สบถอย่างเคียดแค้น

“พวกทีมเวรนั่น พวกเราจะต้องเอาคืน!” เว่ยเถี่ยคำรามออกมา เหมือนกัน

“พวกสารเลว ฉันเกาเฟิงจะทำให้พวกมันเสียใจ” เกาเฟิงกำ หมัดแน่น แล้วมองมาที่หลัวเฟิง “โชคดีที่ครั้งนี้มีหลัวเฟิง ถ้าไม่มี นายพวกเราคง…. โอ้ใช่ นายควบคุมมีดได้ยังไงโดยไม่แตะต้องพวก มันเลย?”

ทันใดนั้นเอง สมาชิกทุกคนของทีมไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่กำลังนอน บาดเจ็บหนักอยู่อย่างจางเคอต่างพากันมองมาที่หลัวเฟิงเป็นตาเดียว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!