Skip to content

Swallowed Star 51

ตอนที่ 51 พักผ่อน

หลัวเฟิงรู้ว่าเขาได้เปิดเผยความลับเรื่องที่เขาเป็นนักอ่านจิต ไปเสียแล้วตอนที่เขาใช้มีดบินเพื่อช่วยชีวิตทุกคน!

“ทุกคนคงจะเดาได้แล้วล่ะ อย่ามองหน้าผมอย่างนั้นสิ เอาล่ะๆ ผมยอมรับก็ได้….” หลัวเฟิงยิ้มเจื่อนๆ “ผมเป็นนักอ่านจิต!”

“ฮ่าๆๆ” เฉินกู่หัวเราะเสียงดัง “หลัวเฟิง ฉันดูนายผิดไปจริงๆ ด้วย”

เว่ยชิงและเว่ยเถี่ยต่างก็หัวเราะออกมาเหมือนกัน

“นักอ่านจิต…ทีมค้อนอัคคีของเรามีนักอ่านจิตด้วย” เกาเฟิง ยิ้มพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ “ฉันว่าถ้าพวกทีมเขี้ยวพยัคฆ์มันรู้ว่าหลัวเฟิงมีพลังขนาดนี้ พวกมันคงจะไม่กล้ามาลอบกัดเราแบบนี้แน่ ถ้าพวกมันรู้ว่า…พวกมันเป็นศัตรูกับนักอ่านจิตล่ะก็ พวกมันจะต้อง เสียใจสุดขีดแน่ๆ!”

“พวกมันจะต้องเสียใจไปชั่วชีวิต” เว่ยเถี่ยหัวเราะ

จางเคอที่กำลังนอนอยู่ข้างๆ ก็อดจะพูดออกมาไม่ได้ “สมาชิก ที่แกร่งหี่สุดในทีมสวะนั่นอยู่แค่ระดับแม่ทัพขั้นกลางเท่านั้น! ด้วยระดับสมรรถภาพร่างกายของหลัวเฟิงในตอนนี้ น่าจะฝืนถึง ‘ระดับนักรบขั้นสูง’ ไปแล้ว ตามกฎแล้ว พลังจิตจะมีระดับสูงกว่าระดับ สมรรถภาพร่างกายปัจจุบันถึง 2 ขั้น เพราะงั้นเขาน่าจะก้าวเข้าสู่ ‘ระดับแม่ทัพขั้นกลาง’ ไปแล้วด้วย อย่างไรก็ตาม…นักอ่านจิตระดับ แม่ทัพขั้นกลางจะอยู่เหนือแม่ทัพระดับเดียวกันอยู่แล้ว สามารถเทียบกับนักสู้ระดับที่สูงกว่าหนึ่งขั้นได้อีก!”

บรรดานักสู้ต่างก็พากันเข้าใจความน่ากลัวของนักอ่านจิตเป็นอย่างดี!

ถ้าเป็นในระดับเดียวกัน พวกเขาสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ อย่างสบาย!

ไม่ว่าคุณจะมีเทคนิคดาบ เทคนิคโล่ หรือเทคนิคการเคลื่อนที่ ดีแค่ไหน นักอ่านจิตก็จะสามารถโจมตีได้โดยการใช้มีดบินโจมตี จากระยะไกลอยู่ดี มีดบินสามารถเปลี่ยนทิศทางอย่างอิสระและ เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือเสียง นักสู้ระดับเดียวกันจะต่อกรกับสิ่ง นี้ได้อย่างไร

“แค่หลัวเฟิงเพียงคนเดียวก็สามารถทำลายทีมเขี้ยวพยัคฆ์ได้ ทั้งทีม!” เฉินกู่ยิ้มกระหยิ่มพร้อมกับหัวเราะ “การที่กล้ามาแหยมกับ ทีมค้อนอัคคีครั้งนี้เป็นสิ่งที่โง่ที่สุดที่พวกมันกล้าทำ!”

“ตอนนี้ โชคเข้าข้างพวกเราแล้ว” เกาเฟิงทอดถอนใจ

ระดับสมรรถภาพร่างกายของเกาเฟิงฝืนถึง ‘ระดับแม่ทัพขั้นกลาง’ แล้ว แต่ต่อหน้าฝูงสัตว์ประหสาด เขาทำอะไรไม่ได้เลย นี่คือ ความต่างของนักสู้ทั่วไปกับนักอ่านจิต!

“พี่จาง”

หลัวเฟิงนั่งลงต่อหน้าจางเคอและกล่าวเบาๆ ขณะที่มองไปยัง ใบหน้าอันซีดเซียวของจางเคอ “ทีมเขี้ยวพยัคฆ์อาจจะทำแบบนี้ก็ เพราะสิ่งที่ผมทำกับจางเจ๋อหู่….เลยทำให้แขนของพี่…ขอโทษ ครับ!”

ในตอนนั้น สมาชิกคนอื่นๆ ต่างก็นั่งลงมองดูหน้าทั้งหลัวเฟิง และจางเคอ

“หลัวเฟิง” จางเคอยิ้มออกมา “อย่าโทษตัวเองเลย ในตอนนี้ ความจริงที่แย้งไม่ได้คือนายช่วยพวกเราเอาไว้ทั้งทีม สำหรับฉัน…” จางเคอก้มมองดูแขนขวาของเขาที่ขาดหายไปท่ามกลางฝูงสัตว์ ประหลาดก่อนหน้านี้

“ชีวิตในฐานะนักสู้อิสระของฉันคงจะจบลงจริงๆ แล้วล่ะ” จาง เคอถอนหายใจ

เกาเฟิง เฉินกู่ และคนอื่นๆ ต่างก็เงียบไป

“แต่ก็เอาเถอะ” จางเคอยิ้มออกมา “ที่จริงนี่ก็ดีที่สุดแล้วเท่าที่ ฉันคาดหวังไว้ ฉันยังจำได้ ตอนที่ฉันเป็นเด็กในช่วงยุคมหานิพพาน ระหว่างยุคนั้น ฉันเห็นผู้คนจำนวนมากมายถูกสัตว์ประหลาดฆ่าตาย ในตอนนั้น ฉันสัญญากับตัวเองว่า…ถ้าฉันโตขึ้น ฉันจะฆ่าสัตว์ประหลาดด้วยมือของฉันเองและกลายเป็นฮีโร่ให้ได้!

ฉันฝึกหนักมาตลอด

และสุดท้าย ฉันก็ได้เป็นนักสู้ นักสู้อิสระ! ฉันบุกตะลุยแดน เถื่อนแสะเติมเต็มความฝันของฉัน ในที่สุดฉันก็ได้กลายเป็นฮีโร่ใน สายตาของผู้คน ภรรยาของฉันยกย่องฉันและสุดท้ายก็แต่งงานกับฉัน ลูกสาวฉันก็ภูมิใจในตัวพ่อที่เป็นนักสู้ผู้ทรงพลังเสมอมา

เวลาล่วงเลยไปและฉันก็ฆ่าสัตว์ประหลาดตัวแล้วตัวเล่า…ฉัน เริ่มค่อยๆ เหนื่อยกับมัน ทุกครั้งที่ฉันเข้าตะลุยแดนเถื่อน ภรรยา กับลูกต่างก็พากันเป็นห่วงฉันเอามากๆ ฉันเองก็เป็นห่วงว่าจะไม่ได้ พบหน้าพวกเขาอีกแล้ว แต่ฉันเองก็ไม่กล้าจะถอนตัว” จางเคอกล่าวอย่างช้าๆ “มันเป็นเช่นนั้นตลอดสิบปีที่ผ่านมา จนฉันเองก็ชินกับมันเสียแล้ว”

ในตอนนั้นเอง หลัวเฟิงเองก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเช่นกัน

ครอบครัว?

เขาเองก็มีน้องชายและพ่อแม่ที่คอยเป็นห่วงเขาอยู่

“ในที่สุดแผลนี้ก็เป็นเหตุผลให้ฉันได้ถอนตัว” จางเคอยิ้มน้อยๆ “ฉันเหน็ดเหนื่อยมาตลอดสิบปี ดังนั้น ในอนาคต ฉันสามารถใช้บันทึกการต่อสู้เข้าเป็นอาจารย์สอนในสำนักขีดสุดได้ เมื่อมีเวลามากขึ้น ฉันก็จะอยู่กับภรรยาแสะลูกได้มากขึ้น! ส่วนข้างหลังฉัน ยังมีพวกนายอยู่ แถมยังได้เป็นพี่น้องกับนักอ่านจิตก่อนจะออกจากทีมเสียอีก ฮ่าๆ ฉันว่ามันก็คุ้มค่าอยู่นะ”

หลัวเฟิงเค้นรอยยิ้มออกมา

“พวก พักผ่อนกับชีวิตอันเรียบง่ายเถอะนะ” เกาเฟิงพูดให้กำลังใจ “วันข้างหน้า หากมีปัญหาอะไรก็เรียกหาเรา! เราอยู่ ด้วยกันมาเจ็ดแปดปีแล้ว เพราะงั้น เราคือเพื่อนตาย!”

“อืม” จางเคอยิ้มพยักหน้า “ฉันจะไม่ถ่อมตัวเลย หากมีปัญหา ฉันจะต้องเรียกหาพวกนายแน่ โดยเฉพาะหลัวเฟิง ฉันรู้ว่านักอ่าน จิตจะเติบโตอย่างรวดเร็วมาก ความแข็งแกร่งของนายจะพุ่งทะยาน ในอนาคต นายจะกลายเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ นายคงไม่ปฏิเสธคำ ขอร้องของฉันนะ!”

คำขอร้อง?

มันเป็นสิ่งตอบแทนพี่จางที่ชักจูงเขาให้เข้ามาร่วมทีมค้อนอัคคี และสิ่งที่เกิดกับพี่จางก็อาจเป็นเพราะตัวเขาด้วย ทำไมเขาถึงจะไม่รับปากล่ะ?

“พี่จาง ปัญหาของพี่ก็คือของผม!” หลัวเฟิงกล่าว

จางเคอพยักหน้า และเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ “จริงสิ หลัวเฟิง ทำไมนายถึงปิดบังเรื่องที่นายเป็นนักอ่านจิตมาตลอดล่ะ?”

“หลักๆ ก็เพราะว่าผมไม่อยากมีปัญหามากไปน่ะครับ” หลัวเฟิงหัวเราะพร้อมกับส่ายหัว “ถ้าความจริงที่ว่าผมเป็นนักอ่าน จิตเผยแพร่ออกไป ผมอาจจะไม่ได้อยู่อย่างสงบสุข” หลังจากเพิ่ง กลายเป็นนักสู้ เขาเคยอ่านในบอร์ดของ ‘บ้านแห่งขีดสุด’ ว่าควร จะเก็บเรื่องที่เป็นนักอ่านจิตไว้เป็นความลับ

เพราะถ้าหากเปิดเผยเรื่องนั้น เขาจะตกเป็นเป้าหมายการฝึก ของสำนักขีดสุด อย่างแรก เขาจะถูกส่งไปที่สำนักงานใหญ่ และ เขาจะถูกฝึกอย่างหนัก และมีเงื่อนไขดีๆ มาเสนอให้ไม่หยุดหย่อน…

และเขาก็จะไม่สามารถใช้ชีวิตสงบได้อีกต่อไป ถึงแม้ว่าตอนนี้ เขาจะต้องเสี่ยงภัยในแดนเถื่อนก็ตาม แต่อย่างน้อยๆ เขาก็พอมี เวลาอยู่กับพ่อแม่บ้างหลังจบภารกิจ

“อืม”

เกาเพ่งพยักหน้า “ความคิดนายก็ไม่เลว ไม่ว่าจะเป็นกองทัพ สำนักฝึกต่างๆ หรือตระกูลที่ร่ำรวย พวกเขาต่างก็พยายามอย่าง หนักเพื่อเฟ้นหานักอ่านจิต เมื่อมีนักอ่านจิตรายใหม่ปรากฏขึ้น กลุ่มอิทธิพลต่างๆ ก็จะต่อสู้แย่งชิงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย! กองทัพก็จะใช้กลอุบายต่างๆ นานา ดังนั้น ทางสำนักจึงมักส่งนัก อ่านจิตของพวกเขาไปไว้ที่ชายแดนของประเทต จนกระทั่งเจรจา กับทางกองทัพได้ หลังจากนั้น พวกเขาจึงจะพานักอ่านจิตกลับมา”

นักอ่านจิตคือไพ่ตาย!

การมีนักอ่านจิตจะส่งผลกระทบมหาศาล ดังนั้น กลุ่ม มหาอำนาจจึงต่อสู้แย่งชิงกัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีสิทธิพิเศษมากมาย แต่พวกเขาก็จะสูญเสียชีวิตธรรมดาไปเลย

“หัวหน้าครับ ผมหวังว่าทุกคนจะช่วยกันเก็บเรื่องนี้เป็น ความลับนะครับ” หลัวเฟิงกล่าว

“ได้สิ แน่นอน พวกเรายินดีจะเก็บความลับนี้ไว้เพื่อนาย” เกา เฟิงหัวเราะเสียงดัง

เฉินกู่ก็พยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ใช่แล้ว..ทีมค้อนอัคคีของเรามี ‘นักอ่านจิต’ และทีมอื่นก็ไม่รู้ หึๆๆๆ… เราจะไม่โชว์พลัง เพราะงั้น เราจะต้องระมัดระวังข้อนี้ แต่ถ้าใครกล้ามาแหยมกับเรา พวกมันเจอดีแน่ แถมเราก็ยังมีวิธีที่จะจัดการกับสัตว์’ประหลาดได้อย่าง ง่ายดายอีกในอนาคต!”

ไพ่ตาย จะยังคงเป็นไพ่ตายถ้ายังเป็นความลับ!

เมื่อใดที่เปิดเผย มันก็จะไม่ส่งผลเหมือนเดิมอีกต่อไป

เว่ยเถี่ยโพล่งขึ้นเหมือนกัน “โช่แล้ว ต่อไปตอนหัวหน้ากำลัง เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาด หลัวเฟิงก็สามารถใช้มีดบินลอบสังหารสัตว์ประหลาดนั่นได้ภายในครั้งเดียว”

เว่ยชิงกล่าวเสริมขึ้นมาอีก “ใช้ๆ หลัวเฟิงใช้ดาบโจมตีก่อนได้ เมื่อสัตว์ประหลาดเข้าใจว่าเขาใช้ดาบโจมตีเป็นหลัก หลังจากนั้นหลัวเฟิงก็ใช้มีดบินโผล่มาเซอร์ไพรซ์มันได้ด้วย! สัตว์ประหลาด พวกนั้นไม่มีโอกาสแม้แต่จะร้องซักแอะแน่นอน!” การมีนักอ่านจิตอยู่ในทีมสามารถยกระดับทีมขึ้นได้นับ 10 เท่าทีเดียว

สมาชิกภายในทีมค้อนอัคคีต่างก็สนมนาเรื่องหลัวเฟิงกัน อย่างตื่นเต้นถึงสิ่งที่ทีมจะได้ประโยชน์อีกมากมาย

เป็นที่ชัดเจนว่า นักอ่านจิตเป็นประโยชน์อย่างมากมายกับทีม ค้อนอัคคี

หลังจากนั้น ทุกคนก็เริ่มพักผ่อนเอาแรง ห้องฟ้าค่อยๆ มืดสลัวลง และดวงดาวก็ค่อยๆ ทอแสงกระจ่างไปทั่วท้องฟ้า

ภายใต้ท้องฟ้าอันพร่างพราว หลัวเฟิงนั่งเงียบๆ อยู่ที่ขอบของ ดาดฟ้า หวนคิดไปถึงการต่อสู้ของเขา “วันนี้ เราไม่อยากจะเชื่อ เลยว่าเราจะดึงเอาวิชา ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ ออกมาใช้ตัดกระสุนเจาะเกราะ ได้” เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ หลัวเฟิงก็อดจะลุกขึ้นแล้วไป หยิบเอาดาบปีศาจออกมาดูไม่ได้

“วืด!”

ด้วยหนึ่งก้าว ‘ช่วงเอว’ แกนกลางลำตัวแทบจะระเบิดพลัง ออกมาในพริบตา แต่ในขณะเดียวกันเมื่อแรงกล้ามเนื้อส่งไปยังช่วงแขน ช่วงเอวก็จะระเบิดพลังอีกสายออกมาโดยอัตโนมัติ พลัง 2 ส่วนนี้จะเชื่อมต่อกันแสะส่งไปถึงช่วงแขน

“ฟิ้ว”

ดาบปีศาจวาดรัศมีไปในอากาศ

“อันที่จริง เราออกแรงอีกครั้งซ้ำเข้าไปแล้ว ด้วยพลังสองครั้งซ้อน 70+70 พลังจะเพิ่มเป็น 140%” หลัวเฟิงก็รู้สึกได้ ร่างกายของเขาไม่สามารถปล่อยพลังออกมาได้อีกหลังจากเข้าถึงขั้นแรก

แต่อย่างไรก็ตาม นี่ก็ถือว่าดีมากแล้ว

เป็นการยากมากที่จะเรียนรู้ ‘ดาบสายฟ้า 9 ขั้น’ แต่เขาก็สามารถเข้าถึงขั้นแรกได้ในจังหวะความเป็นความตายพอดี จึงดู เหมือนว่าเขายังมีหวังที่จะไต่ระดับขึ้นไปได้อีกในอนาคต

ทันใดนั้น….

“อู๊ววว…”

เสียงหมาป่าหอนเยือกเย็นโชยมาจากที่ไหนซักแห่งทางเบื้องล่าง สมาชิกทีมค้อนอัคคีซึ่งกำลังนอนพักกันอยู่พลอยตื่นขึ้นด้วยความตกใจ

“เสียงหมาป่าหอน!” เกาเฟิงกล่าวอย่างจริงจัง

“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีสัตว์ประหลาดประเภทหมาป่าอยู่ด้วย” เฉินกู่สูดหายใจเข้าลึก สัตว์ประหลาดประเภทหมาป่าแต่ละตัวทรงพลังมาก

ประเภทหมาป่า?

หลัวเฟิงตกใจเช่นกัน มีสัตว์ประหลาดประเภทหมาป่าจำนวน น้อยมากก่อนยุคมหานิพพาน แต่ความโหดร้ายของพวกมันหาที่ เปรียบไม่ได้ หลังจากยุคมหานิพพาน ใครก็ไม่รู้ว่าความดุร้ายป่าเถื่อนของพวกมันเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน และความแข็งแกร่งของพวก มันก็ยังคงหาที่เปรียบไม่ได้อีกด้วย

หลัวเฟิงหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาแล้วส่องตรงไปยังที่มาของเสียงร้องโหยหวนนั่น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!